พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ธรรมคือสิ่งทั้งปวง เป็นอนัตตา อนัตตาและพระไตรลักษณ์ จึงเป็นธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงเพื่อให้พิจารณาหรือวิปัสสนาเพื่อให้เกิดสัมมาญาณ ความเข้าใจหยั่งรู้อย่างแจ่มแจ้งในสังขารทั้งปวงอย่างถึงที่สุด(ปรมัตถ์) เพื่อที่ผู้เห็นเข้าใจเกิดความรู้เแจ้งจนเกิดนิพพิทาญาณ กล่าวคือ เกิดปัญญาจากการไปรู้เห็นตามความเป็นจริง จึงเกิดความเบื่อหน่าย จึงย่อมเกิดความคลายกำหนัดไม่ไปอยากด้วยตัณหาในสังขารหรือสิ่งต่างๆ หรือไม่ไปยึดไว้ด้วยอุปาทานในสิ่งต่างๆ ว่าเป็นตัวตน หรือของตัวของตนอย่างยึดมั่นถือมั่นด้วยกิเลส หรือให้คลายจากการไปยึดไปอยากลงเสียบ้าง เมื่อเล็งเห็นว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงอันหมายถึงสังขาร ล้วนมีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา เป็นทุกข์เพราะความคงทนอยู่ไม่ได้จนดับไปเป็นที่สุด(ทุกขัง)เป็นธรรมดา ดังนั้นเมื่อไปอยากด้วยตัณหาหรือไปยึดด้วยอุปาทาน ย่อมเป็นทุกข์อุปาทานอันเร่าร้อนเผาลนทั้งกายและใจ และแม้จะสมหวังดังใจปรารถนาในบางครั้งก็ตามที ก็ยังให้เกิดทุกข์ขึ้นเป็นที่สุดอยู่นั่นเองเพราะอาสวะกิเลส จึงล้วนเกิดขึ้นเป็นไปตามปฏิจจสมุปบาทธรรมนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วยังไม่มีตัวไม่มีตนที่ถาวร เป็นแก่นแกนแท้จริงให้ควบคุมบังคับเป็นธรรมดา กล่าวคือ ถ้าในสภาวะมีตัวตนขณะนั้นก็ล้วนไม่เที่ยงคงทนอยู่ไม่ได้อย่างแท้จริง เพราะเกิดแต่เหตุปัจจัยมาประชุมปรุงแต่งกันระยะหนึ่งเท่านั้น เมื่อเหตุปัจจัยเหล่านั้นมีอาการแปรปรวนด้วยอาการใดๆ สังขารเหล่านั้นจึงย่อมต้องแปรปรวนดับไปตามเหตุปัจจัยเหล่านั้นเช่นกัน ยิ่งในอสังขตธรรมอันเป็นเพียงสภาวะหรือสภาวธรรมไม่มีตัวไม่มีตนอยู่แล้ว เมื่อไปอยาก ไปยึด ไปควบคุมในอสังขตธรรมเหล่านั้น ซึ่งไม่มีตัวไม่มีตนให้บังคับบัญชาได้ จึงย่อมไม่มีทางสมปรารถนา จึงยิ่งไม่สามารถไปควบคุมบังคับบัญชาให้เป็นไปตามปรารถนาได้ เมื่อไปยึดหรืออยากจึงเป็นทุกข์ในที่สุดอยู่รํ่าไป สังขารหรือสังขตธรรม จึงมีทั้งชนิดที่แสดงตัวตน และไม่แสดงหรือไม่มีตัวตน แต่ล้วนอนัตตาไม่ใช่ตัวใช่ตนแท้จริง จิต เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ฯ. เหล่านี้ก็ล้วนเป็นสังขตธรรมหรือสังขารชนิดที่ถูกเหตุปัจจัยต่างๆปรุงแต่งกันขึ้น และเป็นชนิดไม่มีตัวไม่มีตน ไม่เป็นแก่นแกนถาวรแท้จริง จึงควบคุมบังคับอย่างแท้จริงไม่ได้ ซึ่งล้วนเป็นนามธรรม ไม่มีตัวตนก็จริงอยู่ แต่เกิดขึ้นแต่เหตุปัจจัยมาปรุงแต่งกันล้วนสิ้น ดังแสดงในเรื่องขันธ์ ๕ อยู่เนืองๆ ส่วนกายหรือรูปขันธ์นั้นก็เป็นสังขตธรรม หรือสังขารชนิดที่เกิดแต่การถูกปัจจัยปรุงแต่งขึ้นเช่นกัน คือ เกิดแต่ ธาตุ ๔ จึงอิงหรือขึ้นอยู่กับธาตุ ๔ มีตัวตนก็จริงอยู่ แต่เป็นเพียงมวลหรือก้อนของธาตุ ๔ จึงไม่เป็นแก่นแกนอย่างถาวรแท้จริง และไม่ใช่ของตัวของตนที่หมายถึงเราหรือของเราอย่างแท้จริงนั่นเอง จึงมีสภาพที่ควบคุมบังคับบัญชาไม่ได้อย่างแท้จริง ไม่เที่ยง เป็นไปเพื่อแปรปรวน อาพาธ เจ็บป่วย ทุกข์เพราะสภาพที่คงทนอยู่ไม่ได้ จึงต้องดับไปเป็นที่สุด จึงเป็นอนัตตาเช่นกัน บางครั้งดุจดั่งควบคุมบังคับได้ ทำให้หายเจ็บ หายแก่ หายป่วยได้เป็นครั้งคราว จนเกิดมายาจิตหลงคิดหลงยึดว่าอยู่ภายใต้อำนาจของตัวตนเอง แต่ตามความเป็นจริงอย่างยิ่งนั้น เมื่อธาตุใดธาตุหนึ่งซึ่งก็ต่างล้วนมีอาการแปรปรวนเป็นธรรมดา ที่สุดคือแตกสลายดับไปเป็นธรรมดา จึงต้องกลับคืนสู่สภาพของธาตุทั้ง ๔ เป็นที่สุดเป็นธรรมดา ดังนั้นกายที่แม้มีอยู่ในบัดนี้ แต่ก็เป็นแค่ขณะหนึ่ง จึงกลับคืนสู่สภาพไม่มีตัวไม่มีตนตามตามความเป็นจริงอย่างที่สุดหรือปรมัตถ์ จึงกล่าวกันโดยปรมัตถ์ว่า ไม่มีตัวตนเช่นกัน อสังขตธรรม จึงเป็นเพียงธรรม หรือสภาวะ หรือสภาวธรรม หรือธรรมชาติ อสังขตธรรม หรือสภาวธรรม หรือธรรมชาติ นั้น จึงเป็นเพียงธรรมหรือสภาวะ จึงยังไม่เกิดปรากฏการณ์ของการปรุงแต่งขึ้น จึงย่อมยังไม่มีตัวไม่มีตนอย่างแน่นอน แล้วจะไปควบคุมบังคับบัญชาอย่างไร? ตรงไหน? จึงแสดงสภาวะที่ควบคุมบังคับไม่ได้อย่างแจ่มแจ้ง เป็นสภาวธรรม หรือธรรมชาติ ล้วนๆ ลองพิจารณาตามความเป็นจริง จะเห็นได้ว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือไปควบคุมบังคับบัญชาได้อย่างถาวรเลย เป็นจริงอยู่เยี่ยงนี้ คงสภาพของมันอยู่เยี่ยงนั้น กล่าวคือแม้เป็นอนัตตา แต่มีความเที่ยง และคงทน อยู่เยี่ยงนั้น หรือมันเป็นเช่นนั้นเอง หรือ เป็นธรรมดา (ตถตา) ดังเช่น สภาวธรรมการเกิดขึ้นและเป็นไปของฝน สภาวธรรมของเงาหรือธรรมชาติของเงา สภาวธรรมของชีวิตหรือธรรมชาติของชีวิต สภาวธรรมของความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่ชอบ การปรารถนาในสิ่งใดไม่ได้ในสิ่งนั้น ฯลฯ. มีผู้ใดไปควบคุมบังคับบัญชาอย่างแท้จริงได้บ้าง ยังคงเกิดขึ้นและ เป็นไปเยี่ยงนี้อย่างปรมัตถ์ มีสภาพที่เที่ยงแท้ และคงทนต่อทุกกาล ดังนั้นถึงจะกราบไหว้ อ้อนวอน สักการะบูชาด้วยลาภสักการะสักเท่าใดก็ตาม ก็ย่อมไม่มีวันที่จะควบคุมบังคับได้ตามปรารถนาตลอดไป เพียงแต่บางครั้งเมื่อกระทำลาภสักการะไปแล้วอาจบังเอิญได้ตามปรารถนา ทั้งที่ตามความเป็นจริงอย่างปรมัตถ์แล้ว กลับเกิดขึ้นและเป็นไปตามปรารถนาก็เพราะเป็นไปตามเหตุปัจจัย ที่ได้ทำเหตุไปเองต่างหาก แต่ด้วยอวิชชาความไม่รู้ จึงเกิดการคิดปรุงแต่ง ด้วยอวิชชา เข้าใจไปว่า การบนบานอ้อนวอนบูชายังให้สัมฤทธิ์ผล จึงเกิดความเชื่อความยึดในสิ่งนั้นๆว่า เป็นผู้กระทำ หรือผู้ส่งผลสำเร็จให้อย่างอธิโมกข์ คืองมงายด้วยอวิชชา ดังนั้นวิธีแก้ไขที่ถูกต้องจึงควรเป็นไปในการแก้ที่เหตุ หรือประกอบกรรมดีอันย่อมได้รับผลของกรรมดีนั้นในที่สุด เพราะมันต้องเป็นเช่นนั้นเอง (ตถตา) อันเป็นไปตามหลักปฏิจจสมุปบันธรรมนั่นเอง ดังนั้นเมื่อมีการกล่าวว่าเป็นธรรม สภาวธรรม ธรรมชาติ กระแสธรรม หรือนิพพาน จึงหมายถึง อสังขตธรรม และพึงเข้าใจด้วยว่าสิ่งเหล่านี้ ล้วนมี ความเที่ยง คงทนอยู่ได้ทุกกาล และเป็นอนัตตาไม่มีตัวตนที่เป็นแก่นแกนแท้จริง อนัตตา คำจำกัดความ พอจำแนกออกได้เป็น อนัตตา - ไม่ใช่ตัวใช่ตน หมายถึง ธรรมหรือสิ่งทั้งปวงล้วนไม่ใช่ตัวใช่ตน ตัวและตนนี้มีหมายถึงความเป็นเราหรือของเรา ดังเช่นรูปขันธ์หรือกายของท่านทั้งหลายทั้งปวง ในขณะนี้ ล้วนมีตัวตนแต่เป็นกลุ่มก้อนมวลรวมของธาตุ ๔ ที่มาเป็นเหตุปัจจัยประชุมปรุงแต่งกันขึ้นเป็นรูปกายเท่านั้น กายจึงขึ้นหรืออิงอยู่กับธาตุทั้ง ๔ จึงไม่ได้ขึ้นหรืออิงอยู่กับเราท่านทั้งหลาย เราท่านทั้งหลายจึงไม่ใช่เจ้าของกายอย่างแท้จริง กายเพียงแลดูประหนึ่งว่าเป็นเราหรือของเรา แต่ควบคุมบังคับบัญชาใดๆไม่ได้อย่างแท้จริงเลย ควบคุมบังคับบัญชาดังเช่นว่า เจ้าจงอย่าแก่ เจ้าจงอย่าเจ็บ เจ้าจงอย่าตาย ฯ. (ไม่ใช่การบังคับบัญชาแบบ ซ้ายหัน ขวาหัน อันแท้จริงเป็นเพียงสังขารขันธ์ชนิดกายสังขาร คือการกระทำทางกายอย่างหนึ่งเท่านั้น) อนัตตา - ไม่มีตัวมีตน หมายถึง ธรรมหรือสิ่งทั้งหลายล้วนไม่มีตัวตนอย่างแท้จริง ตัวตนทั้งหลายที่เห็นหรือผัสสะได้ด้วยอายตนะใดๆก็ตามที ล้วนเป็นเพียงมายาของกลุ่มก้อนหรือมวลรวมหรือแท่งหรือก้อน(ฆนะ) ของเหตุหรือสิ่งที่มาเป็นปัจจัยปรุงแต่งกันขึ้นทั้งสิ้น เพียงชั่วขณะระยะหนึ่งๆ เพราะย่อมต้องคืนสู่สภาวะเดิมๆก่อนการปรุงแต่งด้วยแรงเค้นอันเป็นธรรมชาตินั่นเอง คัดลอกมาจาก http://www.nkgen.com/735.htm ขอบพระคุณ ท่านผู้เขียน ท่านเจ้าของลิงค์ ท่านเจ้าของภาพทางอินเตอร์เนต ท่านเจ้าของคลิปเพลง ภาพ-คำ จากอาโป เวลาสวัสดิ์ ก้อนหินยิ้ม และ อาโป...ที่กรุณาส่งลิงค์นี้มาให้
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
บันทึกไว้ด้วยภาพ-๒ | ||
![]() |
||
วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๒ |
||
View All ![]() |
<< | มิถุนายน 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |