'ข่าวกับการบริหารให้เป็นคุณ'

--------------------------------------------

 คนปลายซอย เปลวสีเงิน I หนังสื่อพิมพ์ไทยโพสต์ 

๑๓ ตุลาคม พ.ศ ๒๕๕๙

 --------------------------------------------

ครับ...ก็เข้าใจแหละ...! ว่าขณะนี้ บนยอดอกคนไทยแต่ละคน เหมือนมี "ภูเขาไฟ" ทั้งลูกกดทับอยู่ ! ว้าวุ่น-สับสน-จดจ่อ-กระวนกระวาย และร้อนรุ่ม ใต้ลาวาไหลทะลัก กรณี "อาการประชวร" ของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" แต่อยู่ใกล้ ก็เหมือนอยู่ไกล เพราะยังไม่มีข่าวสารใดๆ จาก "ทางการ" ออกมาให้ยึดเป็นทิศนำใจ

ยุคนี้ เป็นยุคโลกาภิวัตน์ มีระบบไอทีเป็นเครื่องมือนำ "ผู้ใดครองสื่อ ผู้นั้นครองโลก"...นี่คือจุดสำคัญ !

รูปธรรมที่เห็นชัด ยุคก่อน ๆ อาวุธเป็นเครื่องมือควบคุมคน แต่ยุคนี้ สื่อสารไอที เป็นเครื่องมือควบคุม "ทั้งคน-ทั้งโลก" แต่กรณีนี้ ถ้าบอกว่า ไม่ใช่เรื่องประชาชนต้องรู้ไปทุกขั้น-ทุกตอน ดังนั้น จึงยังไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวเล่าสิบอะไร นั่นก็จริงอยู่ ว่าไม่ใช่เรื่องของประชาชน

แต่ผมขอยืนยัน...นี่คือเรื่อง "หัวใจ" ประชาชนโดยตรง ! จะมาก-จะน้อย ทางการน่าสื่อสารถึงประชาชนบ้าง "วันละครั้ง" ก็ยังดี พอเป็นน้ำหล่อใจมวลประชา มิให้ต้องร้อนรุ่ม กระวนกระวาย จน "ทำอะไรไม่ถูก" ในชีวิตประจำวัน

ผมเห็นว่า...การที่ภาครัฐ ไม่สื่อข่าวสารเป็นแกนหลักให้ประชาชนยึดบ้าง มีผลเสียมากกว่าผลดี

เพราะนั่น เท่ากับเปิดช่องให้ "ข่าวลือ-ข่าวลวง-ข่าวปล่อย" นานาชนิดทะลักเข้าตอบสนองความกระหายใคร่รู้ของประชาชน ดังเป็นอยู่ขณะนี้ ก็ทราบมิใช่หรือ.....?

สัญชาตญาณมนุษย์ เป็นสัตว์กระหายรู้ สนองตอบข่าวสารจาก "ความไว-ความเร็ว" มากกว่าจาก "ข้อเท็จจริง-ความถูกต้อง" !?

จึงเห็นว่า ในวันที่ผ่านมา...การเทขายหุ้นกันเป็นร้อยจุดก็ดี ข่าวลือทะลักท่วมประเทศผ่านโซเชียล มีเดียก็ดี ตามช่องทางสื่อสารร้อยแปด เช่น ไลน์-เฟซบุ๊ก ก็ดี

โทษใครไม่ได้เลย...เพราะ "ทางการ" ไม่สื่อสารใดๆ ให้เป็น "ธงนำทิศ" ในภาวะผู้คนลอยคอ ! คนบริสุทธิ์ใจ ก็อ้างแหล่งข้อมูลจากนั่น-จากนี่ ออกข่าวภายใน เตือนสติ-เตือนใจกัน ด้วยหวังดีเป็นทอด ๆ

ในขณะเดียวกัน คนไม่บริสุทธิ์ใจ ก็ฉกฉวยสถานการณ์กระพือข่าวลวงบ้าง จับแพะมาชนแกะแล้วสรุป เป็นอย่างนั้น-อย่างนี้ ในทางกระหน่ำซ้ำเติมบ้าง อย่าปล่อยให้คนไม่หวังดี ฉวยโอกาส "สร้างข่าว" เบี่ยงเส้นทางสู่อนาคตใหม่ของบ้านเมืองให้หักเหไปจากที่กำลังเดินกันไปขณะนี้เลย

อยากให้เข้าใจ ว่า...บ้านเมืองจะเกิดสุญญากาศทางอำนาจบริหารไม่ได้ ฉันใด ก็จะปล่อยให้บ้านเมืองเกิดสุญญากาศทางการสื่อสารจากภาครัฐถึงประชาชนไม่ได้ ฉันนั้น

เมื่อวาน (๑๒ ต.ค.๕๙) มีแต่คนถาม แต่ผมก็อยู่ในสภาพเดียวกับคนถาม ต้องรอตอน ๖ โมงเย็น หันไปพึ่งข่าว CNN จากอีกซีกโลก เออ...นั่นแหละ พอปะล่อม-ปะแล่ม "ข่าวเมืองไทย" เอาจาก CNN ที่นักข่าวเขามารายงานสดทั้งภาพ-ข่าวจากโรงพยาบาลศิริราช แล้วยิงข้ามดาวเทียมจากไทยไปสหรัฐฯ...สหรัฐฯ ก็ยิงกลับมาขายข่าวให้คนไทยดูในเมืองไทยอีกทอด !

โดยในเมืองไทยเอง...ข่าวอย่างที่ CNN รายงานไปทั่วโลก เราก็มี แต่ด้วยเคารพสูงสุด เมื่อไม่มีการชี้ทิศนำทางจากภาครัฐ ว่าควรปฏิบัติเช่นไร "สื่อกระแสหลัก" ทั้งวิทยุ-โทรทัศน์-หนังสือพิมพ์ ก็ต้องปล่อยการทำหน้าที่ข่าวสารสาธารณะ ให้สื่อกระแสลอย ใต้ดิน-บนดิน สร้างความสับสนอลหม่านไปทั่ว !

เอ้า นี่...พอดีมี "แถลงการณ์สำนักพระราชวัง" ออกมาแล้ว จะคัดลอกมาให้อ่านกันนะครับ

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช

ฉบับที่ ๓๘

-----------------------------------------------------

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ความดันพระโลหิตต่ำลงอีก พระชีพจรเร็วขึ้น ร่วมกับภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นอีก ผลของการถวายตรวจพระโลหิต บ่งชี้ว่า มีภาวะการติดเชื้อและการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปรกติ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถควบคุมความดันพระโลหิตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งถวายเครื่องช่วยหายพระทัย (Ventillator) และถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต (CRRT) พระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ต้องควบคุมด้วยพระโอสถ คณะแพทย์ฯ ได้เฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด

                                                    จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

                                                               สำนักพระราชวัง

                                                              ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๙

ครับ...เข้าใจว่า ต่อจากนี้ ทางฝ่ายรัฐบาล น่าจะมีการประสานกับทางสำนักพระราชวังและคณะแพทย์ ถึงความพอเหมาะ-พอควร "ด้านข่าวสาร" ที่เป็นไปได้ นำมารายงานให้ประชาชนได้ทราบบ้าง เพื่อซึมซับรับรู้เรื่องราวไปในทิศทางที่ถูกต้องเดียวกัน อย่างน้อย "วันละสักครั้ง" ก็ยังดี !

ฝาก "พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด" ผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พิจารณาด้วยเถิดครับ ที่พูดมาทั้งหมด โปรดเข้าใจ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์จริง ๆ ช่วยกันคิด-ช่วยกันทำ ไม่ได้มุ่งหวังในทางตำหนิผู้ใด-ฝ่ายใดทั้งสิ้น !

เพราะเมื่อสื่อสารด้วยข่าวสารให้ประชาชนทราบแล้ว การบริหารด้านอื่น ๆ ทางสาธารณชน ก็จะง่ายและราบรื่นด้วย เช่นการอำนวยความสะดวก ด้านจัดพื้นที่-จัดเวลา ให้ประชาชนมาสวดมนต์ถวายพระพร เป็นต้น

รวมถึงการดูแลด้านความปลอดภัยและด้านจราจร ! ต้องจำให้แม่นและอย่าสับสนนะครับ ประเทศชาติ "ประชาชนเป็นศูนย์กลาง" และ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" คือ "ศูนย์กลางของประชาชน" อีกทีหนึ่ง

ดังนั้น โปรดอย่าเห็นประชาชนของพระองค์ "เป็นคนนอก" ที่มีข่าวสารใดๆ แล้ว จะบอกสุดท้าย...รู้สุดท้ายเลย ! ตอนนี้ รัฐบาลเกรงประชาชนจะตระหนกจากข่าวปล่อย-ข่าวลือ แก้ไม่ยากครับ

"สติ" นำไปสู่ความรอบคอบ เมื่อรัฐบาลบริหารปัญหานี้ด้วยสติ ก็แทบไม่จำเป็นต้องออกมาเตือนชาวบ้านเรื่องตระหนกตกใจ เรื่องคนหวังดี-หวังร้าย เรื่องข่าวปล่อยต่าง ๆ นานา ที่ใครบางคน-บางพวกหวัง "สร้างสถานการณ์" ซ้ำเติม !

เพราะเมื่อรัฐบาลนำ "ด้วยสติ" ประชาชนผู้ตาม ก็จะตาม "ด้วยสติ"

แต่ถ้าขนาดข่าวบ้านเรา ชาวโลกรู้กันทั่วไปแล้ว แต่คนไทยในบ้านเราเอง กลับไม่ให้รู้อะไรเลย แบบนี้ ถือว่า "ขาดสติ" ในการบริหารปัญหาร่วมกัน ทั้งภาครัฐ-ภาคประชาชน แต่ยังไม่มีอะไรเสียหาย รีบ "ตั้งสติ" แล้วนำทิศทางข่าวสารสู่สังคมสาธารณะเสียแต่เดี๋ยวนี้ ก่อนที่ข่าวลือ-ข่าวลวงยุคไอทีจะเข้า "คุมพื้นที่ข่าว" แทน "ข่าวล่ามาเรือ" ของทางการ !

การเป็นไปของโลกและชีวิตนั้น เป็นเรื่องของฟ้า-ดิน แต่การบริหารปัญหา...เป็นเรื่องของมนุษย์ครับ!

--------------------------------------------

เห็นด้วยกับ เปลวสีเงิน ทุกประการสำหรับกรณีนี้