คนโอเค ล่องเลตรัง...ปี 4 ตอน กอดถ้ำมรกต มหัศจรรย์อันซีนเลตรัง

           นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างปรารถนาอยากมาท่องทะเลอันดามัน จ. ตรัง สักครั้งหนึ่ง ซึ่งในทะเลตรังมีเกาะหลายเกาะ ได้แก่ เกาะไหง เกาะเชือก เกาะม้า เกาะมุกต์ เกาะกระดาน เกาะรอก เกาะสุกร เกาะลิบง เกาะเหลาเหลียง และเกาะเภตรา ที่ล้วนสวยงามตามธรรมชาติด้วยหาดทรายสีขาวนวลเนียนน้ำใสปิ๊ง ยิ่งโลกใต้ทะเลมีฝูงปลาสีสันสวยงามเช่น ปลาการ์ตูน แหวกว่ายท่ามกลางดงปะการังและดอกไม้ทะเลอันอุดมสมกับที่ชวนให้นักดำน้ำหลงใหล ระยะทางก็ไม่ไกลจากฝั่งไปยังแต่ละเกาะ (ยกเว้นเกาะรอกแสนสวยมากอยู่ไกลหน่อย)... แต่ยังมีอีกแห่งหนึ่งที่ ต้องห้าม...พลาด  นั่นคือ “ถ้ำมรกต” ซึ่งมีความงดงามแปลกตาจัดได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันซีนแห่งทะเลตรัง

           ใครที่เคยไปสัมผัสความงามของ “ถ้ำมรกต” จ. ตรัง มาแล้ว ก็คงจะทราบดีว่า มีความงดงามระดับโลกสมกับเป็นถ้ำมหัศจรรย์อันซีนอย่างไร สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป  ในเอ็นทรีนี้ฉันจะพาไปพร้อมกับพวกเรา ในทริปคนโอเค...ล่องเลตรัง ปี 4 นะคะ  (ต่อจาก..ไปกอด..เกาะกระดาน ในเอ็นทรีที่แล้ว คลิกอ่านย้อนหลังได้ที่http://oknation.nationtv.tv/blog/Chaoying/2020/04/21/entry-1

           ถ้ำมรกต เป็นส่วนหนึ่งของ “เกาะมุก” ตัวถ้ำเป็นเวิ้งหินภูเขาตั้งอยู่ในส่วนหลังทางทิศตะวันตกของเกาะมุก หันหน้าออกสู่ทะเลลึก เกาะมุกมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเกาะลิบง และเกาะสุกร (เกาะหมู) ในบรรดา 54 เกาะแห่งทะเลตรัง เกาะมุกมีชาวบ้านทำอาชีพประมงและสวนยางอาศัยอยู่มานาน แต่ปัจจุบันได้ข่าวว่า มีคนนอกโดยเฉพาะชาวต่างชาติมาอาศัยทำรีสอร์ตกันเยอะมาก

ไปเกาะมุกโดยเรือเช่าเหมาลำ ..วันนั้น

           ส่วนตัวฉันยังไม่เคยขึ้นไปเที่ยวบนเกาะมุกอย่างจริงจัง จึงยังไม่มีเรื่องเกี่ยวกับเกาะมุกมาเล่าให้ฟัง แม้ฉันเคยไปเกาะมุกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไปไม่ถึงย่านชุมชน แค่นั่งเรือหางยาวเช่าเหมาลำไปเลาะฝั่งขึ้นเหยียบแผ่นดินบนเกาะมุกเพื่อไปดูที่ดิน ตอนที่เพื่อนหนุ่มชาวกรุงมีตังค์มากอยากมาหาซื้อที่ดินบนเกาะทำรีสอร์ต ก็เลยมาชวนฉันไปเที่ยวเป็นเพื่อน ทั้งๆ ที่เขาก็มากับนายหน้า วันนั้น...แค่เห็นเพียงส่วนเสี้ยวของเกาะมุกที่เรือไปจอดเทียบ.. ที่ใต้ต้นไม้ ริมชายหาดที่มีน้ำจืดใสไหลเย็นออกมาจากแผ่นดินบนเกาะสู่ทะเล...ฉันก็รู้ได้เลยว่า “เกาะมุก สวย” (คิดไว้ว่าหลังวิกฤตโควิด เมื่อฟ้าใสแล้ว ฉันจะไปกอด เกาะมุก ให้ได้)

จอดเรือแล้วมาเดินเลียบเลาะขึ้นฝั่งตรงนี้ แค่เห็นแค่นี้ก็สวยแล้ว

น้ำทะเล ภายใต้ร่มไม้ใหญ่ ตรงนี้ น่าเล่นน้ำเหลือเกิน สวยมาก

ขอเล่นน้ำตรงนี้ได้ทั้งวัน ไม่ร้อนด้วย ที่ตรงนี้สวยจริงๆ

ตรงนี้ วิเศษมาก มีน้ำจืดไหลออกมาจากแผ่นดินบนเกาะมุกลงสู่ทะเล

ธรรมชาติรังสรรค์ ให้น้ำจืดไหลลงทะเล แบบนี้ หาไม่ได้ง่ายนัก เสียดายฉันไม่ใช่เศรษฐีพันล้านจะซื้อที่ตรงนี้ได้

ทะเลตรงนี้ สวยงามมาก แค่เลาะชายทะเล ระหว่างที่เพื่อนเดินขึ้นไปดูที่ดินบนฝั่งกับนายหน้าและเจ้าของที่ดิน

ดอกไม้สวย ที่ฉันไม่รู้จักชื่อ ขึ้นอยู่เต็มในสวนยางพารา นำมาฝาก

          กลับมาที่ “ถ้ำมรกต” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นถ้ำ ปกติถ้ำก็ต้องอยู่ในภูเขา เราเดินแล้วปีนป่ายภูเขาเข้าถ้ำได้ (เหมือนดังถ้ำเขาบาตูปูเต๊ะที่เกาะลิบง) แต่ถ้ำมรกตเป็นถ้ำอยู่ในทะเล ไม่มีทางเข้าทางบก แม้จะได้ชื่อว่าอยู่บนเกาะมุกก็ตาม นอกจากต้องไปทางเรือเท่านั้น และไม่ได้นั่งเรือจ้ำบึ้ดๆ เข้าไปในถ้ำ แต่ต้องจอดเรืออยู่นอกถ้ำแล้วตะเกียกตะกายว่ายน้ำเข้าไป (ไม่แน่อาจจะเข้าได้โดยโรยตัวจากโดรนลงในปล่องภูเขา จะได้หรือเปล่า)

         “ฮาๆ หากว่ายน้ำไม่เป็น จะเข้าไปชมถ้ำมรกตได้ไหมเนี่ย” บางคนอาจสงสัย

          “ได้สิ” ฉันบอกได้เลยเพราะไปเที่ยวถ้ำมรกตมาสี่ครั้งแล้ว ยิ่งไปกับทัวร์วันเดย์ทริป ไกด์จะช่วยคุณอย่างดี คุณไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำเป็น แค่คุณใส่เสื้อชูชีพลงจากเรือลอยคอในน้ำใช้มือสองข้างจับเสื้อชูชีพของคนที่อยู่ด้านหน้าให้มั่น (ห้ามจับส่วนอื่นๆ)  แล้วใช้ขาช่วยกันถีบจักรยานในน้ำตรงๆ ห้ามเตะขาคนข้างหน้า หรือถีบคนข้างหลังคุณ ไกด์ก็นำพาคุณและคณะร้อยเป็นพวงริ้วขบวนพาเหรดเข้าถ้ำมรกตได้อย่างปลอดภัย

ห้อยกันไปเป็นพวงแบบนี้ คนแรกจะจับห่วงยาง ลากโดยไกด์คนที่ 1 ส่วนไกด์อีกคนจะรั้งท้าย

           แต่ว่า... ไม่ใช่ว่านึกอยากจะเข้าถ้ำเวลาไหนก็จะเข้าได้เหมือนบ้านเอง ธรรมชาติของท้องทะเลย่อมมีกฏกติกา ต้องรอเวลาเข้าออกได้เมื่อน้ำทะเลลงถึงระดับที่ปากถ้ำเปิดเท่านั้น หากน้ำขึ้นปิดปากถ้ำก็เข้าไปไม่ได้ หรือเข้าไปแล้ว พอน้ำขึ้นเต็มปากถ้ำ ก็อาจจะออกมาไม่ได้ นอกจากจะดำน้ำออกมา (ฉันคิดเอาเองนะ)

           ทำไมถ้ำนี้ถึงได้ชื่อว่า “มรกต” อ๋อ ...เป็นเพราะเวลาใกล้เที่ยงถึงเที่ยงตรง เมื่อแสงแดดส่องกระทบทำมุมฉากกับพื้นผิวน้ำพอดี แสงอาทิตย์จะสะท้อนให้น้ำเป็นสีเขียวมรกตนั่นเอง  เวลาที่แสงสะท้อนน้ำเป็นสีมรกตสวยงามมาก โดยเฉพาะห้องโถงเวิ้งถ้ำแรกที่เข้าไปถึง (ฉันเคยไปตอนช่วงใกล้เที่ยงพอดี หากเวลาไม่พอดี ก็จะไม่เห็นน้ำเป็นสีมรกต บางครั้งไปตอนฝนตกไม่มีแสงแดดก็ไม่เห็นน้ำสีมรกต) แต่พอเข้าลึกไปจากห้องโถงถ้ำนั้น ก็จะเป็นช่องถ้ำมืดมิดไม่กว้างมาก มองอะไรไม่เห็น ไกด์ต้องใช้ไฟฉายส่อง นอกจากเสียงของเพื่อนๆ ที่กรีดร้องทำลายความเงียบ ด้วยระยะทาง 80 เมตรภายในถ้ำช่วงที่มืดมิดยาวพอที่จะทำให้คุณจินตนาการไปไกล ในขณะที่เท้าของคุณกำลังถีบจักรยานอยู่ ชวนให้คิดว่าใต้น้ำจะมีอะไรคอยดึงขาเราหรือไม่ คุณจะได้ยินเสียงคลื่นกระทบโตรกหินราวเสียงคำรามของอสุรกายอยู่อีกซอกหินหนึ่งไม่ไกล ใครที่ไปครั้งแรกอาจจะไม่ได้ยิน เพราะมัวแต่ตื่นเต้น...

เครดิตภาพจากอินเตอร์เน็ต

          และแล้วเราจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ การเดินทางด้วยเท้าถีบจักรยานในน้ำก็ค่อย ๆ สิ้นสุดลง เมื่อเท้าสัมผัสพื้นผิวทรายละเอียดที่ค่อยๆ ตื้นขึ้นๆ กระทั่งคุณเดินขึ้นมาบนหาดทราย ภายในถ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับปล่องภูเขาสูง ราวกับว่าได้เข้ามาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง แหงนหน้าคอตั้งบ่ามองขึ้นไปสูงเสียดฟ้า ด้านบนรอบ ๆ ปล่องหินปูน มีต้นไม้โบราณงอกขึ้นตามธรรมชาติ คล้ายๆ อยู่ในยุคจูราสสิคปาร์คก็มิปาน... ส่วนน้ำที่ในถ้ำนั้นเล่า สะท้อนแสงเป็นสีมรกต ด้วยเหตุนี้ “ถ้ำมรกต” จึงได้รับการร่ำลือกล่าวขานในระดับโลกว่าเป็นมหัศจรรย์อันซีนแห่งเลตรัง พรรณนามาตั้งนาน..ไปดูภาพของพวกเรากันดีกว่า...

         ต้องขอขอบคุณบล็อกเกอร์สำรวจฟ้าที่เป็นคนบันทึกภาพทริปถ้ำมรกตให้ นะคะ เนื่องจากฉันเอากล้องถ่ายรูปไว้บนเรือ ไม่ได้นำเข้าไปในถ้ำมรกต (เพราะกล้องถ่ายรูปหรือมือถือต้องใส่ถุงกันน้ำ) จึงไม่ได้ถ่ายภาพด้วยตัวเอง

ความเดิม จากตอนที่แล้ว...เราเล่นน้ำกันอยู่ที่เกาะกระดาน ได้เวลาเที่ยง เดินกลับไปขึ้นเรือที่จอดอยู่เบื้องหน้า

เราต้องเดินลุยน้ำไปขึ้นเรือ ขณะนี้มีเรือทัวร์อื่นมาจอดเทียบกับเรือของเรา มองไปเห็นพี่ใหญ่นั่งอยู่ แต่ไกล

พี่ใหญ่คนจัดทัวร์ให้พวกเราครั้งนี้ ฮั่นแน่..มานั่งปล่อยอารมณ์กินข้าวอยู่อย่างสบายใจ

ทัวร์นี้ พี่ใหญ่จัดเต็ม จัดดีมาก อาหารมื้อเที่ยงนี้ มีแกงส้มปลากะพง ใส่สับปะรด ปลาทอด และไข่ลูกเขย ตักเท่าไหร่ก็ไม่หมด

กินก่อน หิวแล้ว อร่อยมาก ไม่ดูแล้ว วิวทะเล เกาะกระดานอยู่เบื้องหลัง

ผม รอตักแกงส้ม ครับ 

 จานนี้ ของเจ้าหญิง ..กินน้อยไปหรือเปล่าเนี่ย..อร่อยมาก ต้องจัดหนัก กินข้าวอร่อยๆ บนเรือแบบนี้ ไม่ได้มีทุกวัน

เมื่อเรือแล่นมาจากเกาะกระดาน สักพักราวครึ่งชั่วโมงก็มาถึงเกาะมุกส่วนที่เป็นปากทางเข้าถ้ำมรกต เราสวมเสื้อชูชีพลงน้ำ

เกาะเสื้อชูชีพของคนข้างหน้า..ใครเป็นใคร ดูกันเอาเองนะคะ...ไปหละน้า เข้าถ้ำมรกตก่อนนะ ขอบคุณภาพโดยพี่ใหญ่ซึ่งอยู่บนเรือ

พวงพาเหรดซึ่งมี ..คนโอเค..ยูนีซัน..ชุมพรอาสา..ปัตตานีรักบ้านเกิด และทหารเรืออาสา และเด็กๆ จากทีมชุมพร

มาโผล่ในถ้ำมรกต..ราวกับอยู่ในหนังจูราสสิกปาร์ค ..มีนักท่องเที่ยวเยอะเหมือนกัน วันนี้

ต้องขอภาพเดี่ยวสักภาพนะคะ พี่โต้ง สำรวจฟ้า

บล็อกเกอร์ขอถ่ายคู่กับพี่เจ้าหญิงด้วยค่ะ

บล็อกเกอร์ชบาตานี กับ เพื่อนซี้ 

บล็อกเกอร์อะนาคาริก กับเจ้าหญิง ด้านหลังของเรา ..บนพื้นทรายด้านนี้ มีป่าไม้ขึ้นหนาแน่น

เราขอถ่ายด้วยนะคะ

มาถ่ายในน้ำมั่ง กับบล็อกเกอร์อะนาคาริค

รุ่นเล็กสุด จากทีมชุมพรอาสา..กำลังถ่ายรูปกับคุณแม่

ทีมชุมพรอาสา มาจากชุมพร

มีประวัติของถ้ำมรกตเขียนไว้ที่แผ่นไม้..ถ้ำมรกตอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม..เดิมเคยมีโจรสลัดเข้ามาแอบซ่อน

ด้านนี้ มีต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ 

หนูน้อย ทีมชุมพรอาสา กำลังมองดูอะไรกันคะ อีกคนกำลังบันทึกเทปอะไรเอ่ย

บล็อกเกอร์นรอง นั่นเอง ..คุณครูสอนโยคะ ..กำลังโชว์ โยคะ  ณ ถ้ำมรกต ว้าวๆ ทำที่ไหนก็ได้ ลองดูบนพื้นทรายสิว่า จะเฮดสแตนได้ไหม

สวยงามมากค่ะ นรอง

สวยงาม ...โยคะ เล่นได้ทุกที่ ที่สบายใจ

ขั้นต่อไป แยกเท้าเล็กน้อย

มาสู่ท่านี้ ก็สวย งดงามมาก 

เอ้า ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน พวกเรา ใครหายไป

ไชโย พี่โต้ง บล็อกเกอร์สำรวจฟ้า เข้ามาแล้ว

ได้เวลากลับออกมาแล้ว 

 ตอนเข้าไปก็ลากกันไปเป็นพวง พอออกมาก็ออกมาเป็นพวง แบบนี้ ครบทุกคนนะคะ จะเห็นอีกพวงของกรุ๊ปทัวร์อื่น

 เอ้าช่วยกันถีบจักรยาน อย่าเพิ่งแตกแถวนะคะ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยของหมู่คณะ

เอ้า..เด็กๆ เล็กสุด ขึ้นเรือก่อน คนข้างบนช่วยรับด้วยค่ะ

น้องก้อย (รัชนี จุลใส) ทีมชุมพร ตามมาด้วยเจ้าหญิง ถัดไปเป็นอะนาคาริคและนรอง

ผมเป็นทหารเรือ ขอแยกตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะไม่ได้ว่ายน้ำ จะหาว่าทหารเรือว่ายน้ำไม่เป็น

บล็อกเกอร์นรอง จากบริษัทยูนิซัน ขอรายงานตัวค่ะ มาถึงแล้ว

เมื่อเราขึ้นเรือเดินทางกลับเกาะลิบง เนื้อตัวเปียกมะล่อกมะแล่ก หนาวสั่นสะท้าน เราคงไม่พ้นฝนห่านี้แน่นอน

เรือลำน้อยของเราเพิ่งมาถึง ..อยู่ใต้ฟ้า..เพิ่งขึ้นจากน้ำทะเลมา จะกลัวอะไรกับฝน ฮ่าๆ 

เรือน้อยลอยโต้คลื่น ท่ามกลางสายฝน เรือสีสวย ลำนี้เป็นของเรา

กลางสายฝนแบบนี้ สนุกมากค่ะ

เมื่อกลับถึงที่พักอาบน้ำแต่งตัว  ฝนหยุดแล้ว มองเห็นแสงตะวันลับฟ้า น้ำทะเลลงแห้งเหือดจนมองเห็นก้อนหินโผล่ไปทั่วบริเวณหน้าหาดลิบงบีชรีสอร์ต หลายคนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาเดินเล่นริมหาด เป็นเวลาห้าโมงเย็นเอง ..ชมวิวกันดีกว่า

วันนี้ พวกเราศึกษาท้องทะเลตรังกันทั้งวัน..มาเดินดูสิว่า ทะเลเมื่อน้ำลง..ตามโขดหินมีอะไรบ้าง

อย่าลืม ติดตามตอนต่อไปนะคะ คืนนี้จะเป็นคืนที่สองที่ลิบง..อาหารมื้อค่ำ จะมีกิจกรรมอะไรเด็ดๆ..ต้องรออ่านตอนหน้าค่ะ

ขอบคุณพื้นที่ดีๆ แห่งโอเคเนชั่น ที่ทำให้ฉันได้เล่าเรื่อง ..กอด ถ้ำมรกต ในยามอยู่บ้าน ..หยุดเชื้อ..เพื่อชาติ รอวันฟ้าใส โควิดหายเมื่อไหร่ เราจะออกไปกอดเมืองไทยอีก และ ..ให้เกาะมุก ถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะลิบง เป็นหนึ่งในทางเลือกของคุณนะคะ ขอให้ทุกท่านปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง ค่ะ