*/
<< | พฤษภาคม 2021 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |
ป่าสนสองใบ... นำฉันไป อุทยานแห่งชาติพุเตย......หนึ่งเดียวในสุพรรณ
ฉันและสามีชอบไปเที่ยวอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี โดยขับรถไปทางอำเภอดอนเจดีย์ ผ่านบ้านสระกระโจม ไปอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณ แล้วเข้าสู่อำเภอบ้านไร่ วันหนึ่งฉันแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันปตท. “หลักเมือง” ซึ่งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองสุพรรณ ที่หน้าห้องน้ำปั๊มนี้ฉันเห็นแผ่นป้ายแสดงแผนที่การท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณ ฉันชอบอ่านแผนที่จึงเห็นว่าสุพรรณมีอุทยานแห่งชาติด้วย ชื่อ “อุทยานแห่งชาติพุเตย” โดยจากแผนที่เห็นว่าทางเข้าอุทยานฯ อยู่ช่วงบ้านวังคัน เลยตัวอำเภอด่านช้างไป ซึ่งฉันเคยเห็นป้ายทางเข้าเวลาที่ขับรถผ่านไปบ้านไร่นั่นเอง สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก น่าไปสำรวจและเที่ยว แผนที่จาก อ. ด่านช้าง ไป บ้านไร่ ผ่านบ้านวังคัน ปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติพุเตย “ว้าว...สุพรรณมีอุทยานแห่งชาติด้วยเหรอนี่” ฉันรู้สึกแปลกใจ เพราะเคยเห็นสุพรรณบุรีมีแต่ท้องทุ่งนา ไม่คิดว่าจะมีอุทยานแห่งชาติ แสดงว่าต้องมีป่าและภูเขาน่ะสิ ฉันเป็นคนชอบป่าเสียด้วยซี ที่อำเภอบ้านไร่ แม้จะเป็นอำเภอเล็กๆ เงียบ ๆ แต่โอบอ้อมไปด้วยธรรมชาติของขุนเขาและป่าไม้ และมีสถานที่ให้เที่ยวหลายแห่ง เราไปแล้วไปอีกเพราะชอบที่นี่ เพราะเรารู้สึกเหมือนได้กลับมาอยู่บ้านนอกในบรรยากาศคล้ายกับบ้านของเราที่ต่างจังหวัด ครั้งหนึ่งเพื่อนที่อยู่บ้านไร่ถามฉันว่า “ไปเที่ยวพุเตยหรือยัง สวยมาก มีป่าสนสองใบด้วย” “ยังไม่เคยค่ะ อุทยานแห่งชาติพุเตย ตรงบ้านวังคันใช่ไหม” ฉันถาม จากวันนั้นที่ได้ยินเพื่อนบอกว่า “พุเตย มีสนสองใบด้วย” ยิ่งทำให้ฉันอยากเห็นสนสองใบเป็นอย่างไร แต่คิดว่าต้นสนสองใบต้องขึ้นอยู่บนเขาสูงที่อากาศเย็นแน่เลย ฉันคงไม่สามารถขับรถเก๋งขึ้นไปบนเขาสูงขนาดนั้นได้ แต่อย่างน้อยฉันขอแค่ไปเห็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตยก็ได้ ซึ่งดูแผนที่กูเกิลแล้ว อยู่ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปแค่ ๑๘ กม. เอง วันตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ฉัน สามี และหลานสาว เราเดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงสี่แยกหอนาฬิกาอำเภอด่านช้างราวเที่ยงกว่า ฉันขับรถต่อไปอีกราวห้ากิโลเมตรแล้วจอดเพื่อจะกินมื้อเที่ยงที่ “ร้านก๋วยเตี๋ยวกะลาห้อยขา”ที่ซึ่งมีบริการขี่ช้างด้วย วันนี้อากาศร้อนมากไม่มีใครสนใจขี่ช้าง ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวในวันตรุษจีนต่างแวะมากินอาหารเที่ยงที่ร้านนี้กันจนแน่นร้านทั้งด้านนอกที่นั่งกางร่ม และด้านในห้องแอร์ที่เป็นร้านกาแฟ เราเลือกนั่งในร้านกาแฟ วันนี้เราโชคดีมากที่ได้เห็นการแสดงของช้างให้ชมฟรีด้วย ช้างแสนรู้ทุกเชือกรวมทั้งเจ้าพลายมงคลที่ฉันเคยขี่ก็แสดงด้วย ฉันกับหลานสาวออกมาดูช้างแสดงระหว่างที่รออาหารที่สั่ง ช้างโชว์ความสามารถหลายอย่าง เช่น เต้นตามจังหวะเพลง เล่นห่วง และเป่าเมาท์ออแกน (harmonica) เราดูช้างแล้วก็ซื้อมันแกวให้ช้างกิน เสียงคนเลี้ยงช้างประกาศทางไมค์ว่า “คุณจะได้เห็นพลายมงคลแสดงที่นี่ แค่วันนี้เท่านั้น เพราะคืนนี้ช้างพลายมงคลจะต้องกลับไปยังจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว” ฉันถามคนที่ประกาศว่า “นำช้างพลายมงคลไปเมืองกาญจน์อย่างไร” เค้าบอกว่านำช้างขึ้นรถบรรทุกไป คนเลี้ยงช้างบอกต่อว่า “จะพาพลายมงคลกลับไปถ่ายหนัง” ฉันคิดในใจ...ครั้งต่อไปถ้าฉันมาแวะที่ร้านก๋วยเตี๋ยวกะลาห้อยขานี้อีก ฉันคงจะไม่ได้เห็นพลายมงคลแล้วสินะ ช้างพลายมงคลเป็นช้างที่มีงายาวสวยมาก โชคดีที่ฉันได้ขี่ช้างพลายมงคลเมื่อวันก่อนที่มาตอนช่วงปีใหม่ คลิกอ่านเรื่องย้อนหลังที่ http://oknation.nationtv.tv/blog/Chaoying/2021/01/10/entry-1 เมื่อออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวกะลาห้อยขา ขับรถไปราว ๑๐ ก.ม. ก็ถึงบ้านวังคัน มองเห็นป้าย “อุทยานแห่งชาติพุเตย” ที่ปากทางเข้า ฉันเลี้ยวรถเข้าไปตามถนนเล็กๆ ในหมู่บ้าน เป็นถนนลาดยางไม่มีหลุมไม่มีบ่อ เห็นบ้านเรือนชาวบ้านตั้งอยู่ห่างๆ กัน ระหว่างทางสองข้างทางเป็นไร่อ้อย เข้าไปประมาณ ๑๕ ก.ม. แต่เมื่อลึกเข้ามาเริ่มเป็นป่าแสดงว่าเราใกล้ถึงตัวอุทยานแล้ว แดดหน้าร้อนยามบ่ายทำให้อากาศร้อนอ้าว ต้นไม้สลัดใบสีเหลืองแกมน้ำตาลร่วงเต็มท้องถนนที่เราผ่าน มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งจอดรถถ่ายรูปกับใบไม้ร่วงที่พร่างพรมบนถนนราวปูด้วยพรม ฉันคิดว่าทั้งสองคงเข้าไปเที่ยวที่อุทยานแล้วกลับออกมาถ่ายรูปกับใบไม้ร่วงกลางทางตรงนี้
ในไม่ช้าเราก็มาถึงประตูทางเข้าอุทยาน แต่ทว่า มีเครื่องขวางกั้นปิดทางเข้า เนื่องจากเป็นนโยบายของทางจังหวัดสุพรรณที่ยังมีมาตรการปิดอุทยานเพื่อป้องกันการระบาดโควิดอยู่
ฉันจอดรถแล้วเดินผ่านที่กั้นรถเข้าไป เห็นมีเจ้าหน้าที่อุทยานปฏิบัติหน้าที่เฝ้าเวรนั่งอยู่คนหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปทักทาย เขาบอกว่า ช่วงนี้อุทยานปิด ช่วงที่อุทยานเปิดหากจะขึ้นไปด้านบนเขาต้องใช้รถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น รถเก๋งของเราขึ้นไม่ได้ เจ้าหน้าที่บอกให้เราเข้ามาเดินเล่นภายในบริเวณอุทยานใกล้ๆ ที่ทำการนั้นได้ เขาบอกว่าทางลาดยางมีแค่ห้าร้อยเมตร ไปต่อจากนั้นก็จะเป็นทางดินลูกรัง และเขายังบอกให้เราไปใช้ห้องน้ำในอุทยานได้ พร้อมกับชี้มือไปทางห้องน้ำ ฉันเดินไปเข้าห้องน้ำของอุทยานซึ่งกว้างขวางและมีหลายห้อง ฉันเห็นมีลานกางเต็นท์ แต่ตอนนี้มีแต่หญ้าแห้งบนพื้นดินที่แตกระแหง ในร่องลำน้ำรอบบริเวณลานกางเต็นท์ก็แห้งไม่มีน้ำเลย ฉันคิดว่าหากเป็นช่วงปลายฤดูฝนต้นหนาว เมื่อมีสายน้ำไหลรอบๆ บริเวณที่กางเต็นท์แล้ว ที่นี่คงจะน่าพักไม่น้อย นักเดินทางที่นิยมชมชอบการนอนกางเต็นท์ในป่าน่าจะมาพักกันเยอะ จึงไม่แปลกใจเลยที่เห็นมีจำนวนห้องน้ำและห้องอาบน้ำหลายห้อง แสดงว่าสร้างไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มากางเต็นท์นั่นเอง เมื่อฉันออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นหลานสาวเดินล่วงหน้าไปแล้ว ในขณะที่สามีหยุดยืนพักใต้ร่มไม้ก้ามปูใหญ่ท่ามกลางอากาศบ่ายสองที่ร้อนอบอ้าว ฉันรีบเดินตามหลานสาวไป เราเดินไปบนถนนลาดยางบาง ๆ จนแทบจะไม่เหลือยาง มีหลุมบ้าง แม้จะไม่ได้ขึ้นไปบนเขาเพื่อจะดูป่าสนสองใบ แต่เราก็มองหามุมสวยงามของป่าธรรมชาติได้เสมอ หลานสาวชอบเดินป่าเหมือนฉัน ทั้ง ๆ ที่ใจสองเราอยากจะเดินต่อไปอีก แต่ด้วยหนทางข้างหน้าเป็นดินลูกรังฝุ่นหนาท่วมรองเท้าและดูเปลี่ยวเพราะมีแต่เราสองคน อีกทั้งเรายังต้องเดินทางไปบ้านไร่ต่อ ฉันจึงบอกหลานสาวว่า "เราเดินไปจนสุดทางลาดยางแล้วค่อยเดินกลับกันเถอะ" เราเดินดูดอกไม้ใบไม้ข้างทาง แล้วเราก็พบลูกสนสองใบตกอยู่บนใบไม้แห้งสีน้ำตาล ตอนแรกฉันคิดว่า คงมีใครเอามาทิ้งไว้ แต่เมื่อแหงนหน้าคอตั้งบ่าขึ้นมองไปบนยอดต้นไม้ เราก็พบกับต้นสนสองใบ มีสนสองใบขึ้นบริเวณนี้สองสามต้นด้วย และมีลูกสนหล่นอยู่อีกสองสามลูก ฉันเห็นลูกสนสองใบแล้วทำให้หวนนึกถึงต้นคริสต์มาสที่เมืองนอก ที่มักประดับด้วยลูกสนแบบนี้ ส่วนต้นสนที่ฉันเห็นบ่อยๆ ทางปักษ์ใต้บ้านฉันก็เป็นสนทะเล ซึ่งลูกสนทะเลจะเป็นลูกกลม ๆ เล็กๆ มีหยักโดยรอบ แต่ลูกสนทะเลไม่น่าสนใจเท่าลูกสนสองใบ ฉันคิดว่า ลูกของต้นสนสองใบเป็นกลีบแข็งซ้อนกันเป็นชั้นๆ ลดหลั่นรวมกันเป็นรูปทรงกรวยที่สวยน่ารักดี เราหยิบลูกสนสองใบขึ้นมาถ่ายรูป แล้วก็วางไว้ที่ใต้ต้นสนคืนแก่ธรรมชาติเหมือนเดิม
แม้ว่าเราจะไม่ได้ขึ้นไปเที่ยวที่ป่าสนสองใบ ซึ่งอยู่ไกลไปอีกราว ๑๑ ก.ม. จากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตย (๑) แต่บริเวณป่าตรงนี้ที่มีทั้งต้นเต็ง รัง ไผ่ และ สัก เราก็สามารถชื่นชมธรรมชาติด้วยการมองหาความสวยงามจากป่าได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้แห้ง ดอกไม้ป่า ที่ชูช่อบานอยู่ตามพื้นดิน หรือแม้แต่เปลือกไม้สีดำหนาของต้นสนสองใบก็ตาม
เปลือกสนสองใบ หนา สีดำ แตกลาย ทั้งต้น สวยค่ะ มีโอกาส แวะมาเยือน อุทยานแห่งชาติพุเตย กันนะคะ เมืองไทยน่าเที่ยวค่ะ บ่ายสามโมงแล้ว เราขับออกจากอุทยานแห่งชาติพุเตยมาสู่ถนนใหญ่อีกครั้ง แล้วเดินทางต่อไปยังบ้านไร่ ฉันคิดว่า สักวันฉันจะกลับมาพุเตยอีกครั้ง ฉันอยากมาเห็นต้นไม้สีเขียวชอุ่มที่ราวป่าและเมื่อมีน้ำไหลในลำห้วยที่แห้งผากนั้น คงจะร่มรื่นกว่าวันนี้แน่นอน... ---------------
ข้อมูลเกี่ยวกับสนสองใบ (ขอบคุณข้อมูลและเครดิตภาพ จากอินเตอร์เน็ต) สนสองใบ หรือเกี๊ยะดำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Pinus merkusii ภาษากะเหรี่ยง เรียกโชซู ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ จัดเป็นไม้สนเขาที่พบได้เฉพาะในพื้นที่เขาสูง ลำต้นตรง เปลือกลำต้นหนาสีดำหรือน้ำตาลอมดำ เปลือกแตกเป็นร่องลึกตามความยาวของลำต้น และมีรอยทางขวางเป็นระยะ ๆ กระพี้สีเหลืองอ่อน มียางซึมออกมาจากแก่น เมื่อโตเต็มที่อายุ ๘๐ - ๙๐ ปี มีความสูงประมาณ ๒๐-๔๐ เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ ๕๐-๑๑๐ เซนติเมตร ลักษณะภูมิอากาศในพื้นที่ที่พบสนสองใบขึ้นอยู่ มักอยู่ในพื้นที่แบบมรสุมที่มีช่วงฤดูแล้งสั้น ประมาณ ๔-๕ เดือนต่อปี ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปีประมาณ ๑,๑๐๐ - ๔,๐๐๐ ม.ม. และอุณหภูมิประมาณ ๑๘-๓๐ องศาเซลเซียส สนสองใบตามปกติชอบขึ้นในที่มีอากาศร้อนและชื้น ส่วนในพื้นที่ที่ค่อนข้างเย็นและมีช่วงความเย็นยาวนานพอควรแต่ไม่ชื้นจัดเกินไป ใบสนสองใบ เป็นใบเดี่ยวเป็นกระจุก กระจุกละสองใบ เล็กเรียวยาวเป็นรูปเข็ม ออกเป็นช่อ ช่อละ ๒ ใบ ใบยาว ๑๒-๒๕ เซนติเมตร สีเขียวเข้ม ปลายใบแหลม ดอกสนสองใบ ออกดอกแยกเพศ แบ่งเป็นดอกตัวผู้ และดอกตัวเมีย แยกกันคนละช่อ จะออกดอกระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ดอกตัวเมียจะเจริญเป็นผล ผลสนสองใบ โคน (Cone) แยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน โคนตัวผู้ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง เป็นช่อสีเหลือง โคนตัวเมียใหญ่กว่าตัวผู้ มีเกล็ดโดยรอบ สีเหลืองอมเขียว ภายใต้เกล็ดมีโอวุล (ovule) หลายอัน เมล็ดมีปีกบางๆ ๒ ปีก ในหนึ่งปีจะให้ผลเพียงครั้งเดียว ผลจะแก่ในช่วงเดือนมีนาคม - มิถุนายน เนื้อไม้สนสองใบ สีเหลืองปนน้ำตาล มีลวดลายสีน้ำตาลเป็นเส้นสวยงาม ใช้ทำโครงสร้างต่างๆของบ้าน เช่น ฝา เสา หลังคา และใช้ทำฟืน ---------------------------------------- แผนที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย (ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและภาพจากแผ่นป้ายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตย ๑)
อุทยานแห่งชาติพุเตยตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี มีเนื้อที่ ๑๙๘,๔๒๒ ไร่ เป็นป่าหนึ่งเดียวที่สมบูรณ์ที่สุดของเมืองสุพรรณ เป็นชายป่าผืนสุดท้ายของป่าห้วยขาแข้ง ลักษณะภูมิประเทศ สภาพทั่วไปเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนติดต่อกัน จุดสูงสุดที่ยอดเขาเทวดา ระดับความสูง ๑,๑๒๓ เมตร เป็นต้นน้ำลำธาร ซึ่งไหลลงอ่างเก็บน้ำลำตะเพินตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีคลอง ลำห้วยต่างๆ เช่น ห้วยเหล็กไหล ห้วยวังน้ำเขียว ห้วยองค์พระ ห้วยท่าเดื่อ ห้วยขมิ้น ห้วยองคต ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของชาวสุพรรณบุรี และเป็นต้นกำเนิดของเขื่อนกระเสียว พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า มีสภาพเป็นป่าดิบชื้น เช่น ป่าสนสองใบ ป่าเต็ง รัง และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายหลายชนิด ได้แก่ เลียงผา นกเงือก ชะนี และลิงลม สภาพภูมิอากาศ มีลมมรสุมพัดผ่านตลอดปี มี ๓ ฤดู คือ ฤดูฝน ประมาณ เดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ฤดูหนาว ประมาณปลายเดือนตุลาคม ถึงเดือน กุมภาพันธ์ และฤดูร้อน ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยโดยทั่วไปประมาณ ๒๕-๓๐ องศาเซลเซียส แต่ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิประมาณ ๑๐-๑๕ องศาเซลเซียส และที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงตะเพินคี่นั้น มีอุณหภูมิประมาณ ๕-๖ องศาเซลเซียส จากแผนที่ข้างบน จะเห็นว่า อุทยานแห่งชาติพุเตย มีที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตย ๓ จุด และที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย ๑ จุด ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจโดยสังเขป ดังนี้ ๑. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตย ที่ ๑ เข้าทางด้านบ้านวังคัน - ป่าชี (ซึ่งฉันได้ไปถึงตรงจุดนี้ และเดินไปแค่สุดทางถนนลาดยาง) จากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตย ๑ ไปตามถนนดินลูกรัง มีที่ท่องเที่ยว ได้แก่ ศาลเลาดาห์ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย และป่าสนสองใบ ศาลเลาดาห์ อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ ๑ ไป อีก ๖ ก.ม.
เครดิตภาพจากอินเตอร์เน็ต "๒๖ พฤษภาคม ๒๕๓๔ เลาดาแอร์ ตกที่ป่าพุเตย คร่า ๒๒๓ ชีวิต" (จากหนังสือพิมพ์มติชน)
เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง ๗๖๗ ของสายการบินเลาดาแอร์ ประเทศออสเตรีย เส้นทางบิน ฮ่องกง-กรุงเทพฯ-เวียนนา บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม ๒๓๓ คน ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
หลังบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เพียง ๑๖ นาทีเศษ ก็เกิดเสียงระเบิดกึกก้องเหนือท้องฟ้าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ พุเตย หมู่ ๗ ตำบลห้วยขมิ้น อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา ๒๓.๒๐ น. ชาวบ้านแถวนั้นเห็นดวงไฟขนาดใหญ่ตกจากท้องฟ้าพุ่งลงสู่พื้นดิน ทั้ง ๒๒๓ คน เสียชีวิต เป็นชาวต่างชาติ ๑๘๔ คน ชาวไทย ๓๙ คน
-ที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตยอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ ๑ ไปอีก ๑๐ ก.ม. (สามารถขึ้นได้สองทาง จากด้านบ้านวังคันและจากด้านบ้านห้วยหินดำ) หากขึ้นทางหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตย ที่ ๓ (ห้วยหินดำ) โดยเส้นทาง มาจากกรุงเทพ ก่อนถึง อ. ด่านช้าง แยกซ้ายเข้าเส้นทาง หมายเลข ๓๐๘๖ ถึงสี่แยกบ้านปลักประดู่ เลี้ยวขวาผ่าน - ทุ่งมะกอก – ห้วยหินดำ ตามป้ายไปจนถึงที่ทำการฯ เป็นทางลาดยางตลอดเส้นทาง รถทุกชนิดสามารถเข้าไปได้ ระยะทาง กรุงเทพ - ที่ทำการอุทยานฯพุเตย (พุเตย-ห้วยหินดำ) ๒๔๐ ก.ม. ป่าสนสองใบธรรมชาติ อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ ๑ ไป อีก ๑๑ ก.ม. ป่าสนสองใบ ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติบนเทือกเขาพุเตย ประมาณกว่า ๑,๓๐๐ ต้น เป็นป่าแปลกมหัศจรรย์ เพราะป่าสนจะเจริญเติบโตในพื้นที่ภูเขาสูงชัน มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๐๐๐ เมตรขึ้นไป แต่ป่าสนแห่งนี้เจริญเติบโตบนพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง ๗๖๓ เมตรเท่านั้น สภาพป่าสมบูรณ์มาก จนได้รับเลือกให้เป็นศูนย์แม่พันธุ์ไม้สนสองใบในภาคกลาง บางต้นมีขนาดใหญ่วัดได้ถึง ๒-๓ คนโอบ การเดินทางไป หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 1 (ด้านวังคัน-ป่าชี) อยู่ห่างจากอำเภอด่านช้าง ประมาณ ๓๓ ก.ม. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ เดินทางจากอำเภอด่านช้างถึงบ้านวังคัน ประมาณ ๑๕ ก.ม. และเลี้ยวซ้ายที่สามแยกบ้านวังคัน ไปถึงบ้านป่าชี (เส้นทาง ๔๓๐๒) ระยะทางประมาณ ๑๕ กิโลเมตร แล้วเดินทางต่ออีก ๓ กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดเส้นทางรถทุกชนิดสามารถเข้าไปได้
๒. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตย ที่ ๒ มีแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ น้ำตกพุกระทิง น้ำตกพุกระทิง ๓. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตย ที่ ๓ (เข้าทางด้านปลักประดู่ -ตะเพินคี่) มีแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ ยอดเขาเทวดา น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ และน้ำตกตะเพินคี่น้อย การเดินทาง จากอำเภอด่านช้าง เดินทางไปบ้านบ้านปลักประดู่ (เส้นทาง ๓๐๘๖) - บ้านวังยาว ไปบ้านกล้วยป่าผาก (ทางลาดยาง) เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาอีกประมาณ ๑๔ ก.ม. (สภาพถนนเป็นทางลูกรังขรุขระ และเป็นทางขึ้นเขาสูงชัน ควรเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อในหน้าฝน และรถกระบะในหน้าแล้ง) ระยะทาง กรุงเทพ - หมู่บ้านกระเหรี่ยงตะเพินคี่ (หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ ๓) ๒๖๐ ก.ม. - ยอดเขาเทวดา ที่ความสูงกว่า ๑,๐๐๐ เมตร ในวันที่อากาศเหมาะสม นักท่องเที่ยวอาจจะได้ชมทะเลหมอกที่สวยงาม และไปยืนจุดที่เป็น ดินแดนรอยต่อของสามจังหวัด สุพรรณบุรี-อุทัยธานี-กาญจนบุรี การเดินทาง หน้าฝนควรเป็นรถขับเคลื่อน ๔ ล้อ ส่วนหน้าแล้งควรเป็นรถกระบะ น้ำตกตะเพินคี่น้อย น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ สถานที่กางเต็นท์มี ๓ จุดใหญ่ๆ ได้แก่ - หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ ๑ (ด้านวังคัน-ป่าชี)
อุทยานแห่งชาติพุเตย จะปิดการท่องเที่ยวและพักแรม ประจำปี ระหว่าง ๑ เมษายน -๓๑ พฤษภาคม ติดต่อสอบถามข้อมูล ที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตยโทร 035-960240, 081-9342240
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |