แรกทีเดียวนึกไม่ออกในทฤษฎีมะม่วงหล่นเพราะไม่เข้าใจมะม่วง

จะหล่นได้หมายถึงอะไร เดาไปต่างๆนานาว่าเป็นไปตามฤดูกาล พอติดลูกสักช่วงเวลา

ตามธรรมชาติผลก็จะแก่จัด สุก งอม แล้วก็จะร่วงไปเอง จะมาจากช่อไหน กิ่งไหน สูงลิ่ว

หรือเรี่ยพื้นก็ต้องร่วงฝืนไม่ได้ สู้แดด สู้ลมท่าไหนก็อย่าหวังจะค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น แต่น่า

จะเดาผิด ทฤษฎีนี้คงจะเอาไว้ให้คิดว่ามะม่วงก็มีข้อยกเว้นตามกฎที่ว่า..กฎทุกกฎย่อมต้อง

มีข้อยกเว้น..อย่าหวังลมๆแล้งๆว่าความคิดจิตใจคน หรือแม้การกระทำจิปาถะของมนุษย์

จะอ่อนไหว เข้าใจอะไรๆตามเป็นจริง ยินยอมเมื่อรู้ว่าดันทุรังไม่ไหว ฝ่าฝืนไปก็มีแต่อัปรา

ทุกวันนี้ก็เห็นๆว่ามะม่วงบางลูกยังแข็งเป็นหิน ติดบนก้านไม่หล่นไปไหนให้เมื่อยตุ้ม

                    จะว่าวัฒนธรรมการเมืองทำให้คนไม่ดีก็ว่าไม่ได้ถนัดนัก ก็เพราะวัฒนธรรม

การเมืองไทยสืบทอดกันมาให้คนไทยเหนียวแน่นคาก้าน อึด อดทน ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อย่า

หวังว่าขั้วจะขาดหลุดร่วงตามฤดูกาล เสียงนก เสียงกา หรือเสียงของความชอบธรรมเร้าระดม

อึงมีี่ขนาดไหน ก็ไม่อาจทำลายอุดมคติ ยอมตายคาสนามประชาธิปไตยไปได้ จะว่าไม่ใช่

วัฒนธรรมทางการเมืองก็คงจะผิด เพราะนี่ละคืออุดมการณ์ประชาธิปไตยของคนไทยแท้ๆ

การนำไปเปรียบเทียบกับการเมืองของญื่ปุ่น เกาหลี หรือประเทศอื่นที่นักการเมืองมีขั้วติดกิ่ง

อ่อนนุ่มพร้อมสละหลุดหล่นเมื่อฟ้าฝนขอร้อง โห่ไล่ ก็หมายถึงความไม่ลุ่มลึกในการเมืองแบบ

ไทยๆเป็นแน่.

                     นี่ก็ฟังมาว่าหนุ่มรูปหล่อจะเลียบเคียงขอให้มะม่วงหินยอมสุกเสียบ้าง เผื่อ

จะได้ปลูกมะม่วงสวนใหม่ไว้ให้แหงนคอสอยกันอีก...จะยอมหรือ.

                                                                                     KINGMAGIC.