*/
<< | ธันวาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ภูกระดึง 4 เมเปิ้ลและเป้ากางเกงขายาวที่ขาดวิ่น เสาร์ 27 พฤศจิกายน 2553 บ่ายนี้เรายังคงวนเวียนอยู่ในป่าริมลำธาร มีน้ำเหลือไม่มาก ระหว่างที่กำลังจะเดินทางให้ทะลุไปยังน้ำตกถ้ำใหญ่นั้น เรามองเห็นต้นเมเปิ้ลที่ผลัดใบอยู่เป็นระยะ ตอนนั้นก็ตื่นเต้น ไปถ่ายรูปมาเยอะ แต่เมื่อเดินไปอีกสักพัก สังเกตเห็นใบเมเปิ้ลสีแดงลอยตามน้ำ มาติดที่เวิ้งน้ำหลังโขดหินบ้าง ตามหินผาบ้าง จึงกวาดสายตามองออกไปรอบ ๆ โอ้...พระเจ้า เหมือนแดนสวรรค์เลยทีเดียว นั่นต้นเมเปิ้ลที่กำลังสลัดใบ ทิ้งเกลื่อนกลาดลงดิน ประดุจว่าทั้งผืนแผ่นดินนั้น ปูด้วยพรมสีแดงลายใบไม้ ทับซ้อนจัดวางด้วยวิธีของธรรมชาติ แทบจะไม่อยากจะก้าวขาเข้าไปในบริเวณนั้น กลัวใบมันจะช้ำ แม้จะหล่นลงพื้นดิน แต่ว่าย่องไปย่องมา เริ่มลืมไปว่าเหยียบใบเมเปิ้ลอยู่ ข้าง ๆ มีขอนไม้เล็ก ๆอยู่ มีรอยอะไรก็ไม่รู้ขุดเดินเป็นขุยอยู่ตรงนั้น หรือจะเป็นหมูป่า ผมข้ามลำธารนั้นขึ้นไปยังฝั่งของต้นเมเปิ้ลต้นนั้นแต่เพียงลำพัง เห็นพี่ชาลีถ่ายรูปตรงลำธาร แต่ไม่ได้ขึ้นมา ผมก็เลยเมามันกับการถ่ายภาพใบเมเปิ้ลที่ร่วงหล่นลงพื้นใต้ต้นของมัน อีกด้านหนึ่ง ตรงริมลำธาร มีขอนไม้ใหญ่ที่ล้มพาดลำธารลงไป มันเริ่มผุบ้างแล้ว ผมอยากได้ภาพที่มองผ่านเลนส์ตามความยาวของขอนไม้นี้ มันอยู่ในระดับเกือบถึงเอว จึงก้าวขาเพื่อจะปีนขึ้นไป เสียงผ้าฉีกดังสยบความเงียบในบริเวณนั้น ไม่ต้องตรวจสอบก็รู้แน่แท้ว่าเป้ากางเกงขาด แต่ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความตั้งใจของผมได้ จึงยกขาปีนขึ้นไป และกางเกงก็ขาดยาวขึ้นอีก ผมถ่ายรูปบริเวณนั้นจนหนำใจแล้ว ก้ม ๆ เงย ๆ ถ่ายทุกท่า แต่เผลอนั่งลงถ่าย ทำให้กางเกงขาดออกไปอีก คิดว่าคงไม่เป็นไร กางเกงขาดก็ไม่มีใครเห็น มันอยู่ในป่า จะให้ทำอย่างไร ก็ปล่อยเลยตามเลย ทีแรกคิดว่าคงไม่มีคนเยอะ ไม่เป็นไร เสียงกุ้งอบเพลิงกับพี่ไก่ เรียกอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ว่าถ่ายเสร็จหรือยัง แหม...ทำยังกะผมมาถ่ายอุจจาระนะครับ มาถ่ายรูปจะรีบไปไหน ผมก็เดินกลับไปหากลุ่ม และพยายามเดินรั้งท้าย แต่วันนั้นนักท่องเที่ยวที่ขึ้นภูมากันเยอะ ก็หลงมาเดินป่าเดียวกันไม่น้อย ก็ยังมีคนเดินตามหลังผมมาบ้าง แม้ว่าผมจะรู้ว่ากางเกงขาด แต่ผมไม่รู้ว่า กางเกงขาดไปถึงไหน มากหรือน้อยเพียงใด เพราะด้านหลังมองไม่เห็นรอยขาด จึงพยายามทำเนียนเดินไปเรื่อย ๆ ในกลุ่มของคนเราเองคงไม่มีใครรู้ ว่าจะไปเฉลยกันที่เต้นท์เลยทีเดียว กลุ่มของ พร สิงห์มือซ้าย น้องแจน และพี่วันศุกร์รุดหน้าออกมาก่อน ตอนนั้นก็ราวบ่าย 2 โมงกว่าแล้ว เมื่อพ้นจากเขตน้ำตกมาก็จะเป็นป่าสน มีป้ายระวังช้างป่า อย่างที่เราเพิ่งเห็นขี้ช้างใหม่ ๆ ก็เลยขี้ตามช้าง เอ้ย ไม่ใช่ครับ ก็เลยถ่ายรูปไว้ ไม่ใช่ไม่เคยเห็นขี้ช้างหรอกครับ แต่ว่า..เอาน่า มีกล้องก็แค่กดชัตเตอร์ มานั่งรอกลุ่มของพร อยู่ตรงทางแยก และรอพี่ชาลีที่กลับไปตามหาเสียงนางอยู่ในป่า อ้อ..เสียงนก ผม พี่ไก่ และกุ้ง ก็นั่งพักเหนื่อยกันไปพลาง แล้วพี่ชาลีก็เข้ามาสมทบ แต่เราไม่รู้ว่า กลุ่มของพร ไปทางไหน เพราะถ้าเราจะเดินไปทางผาหล่มสักคงไม่ไหว กลับไม่ทันแน่ และระยะทางจากจุดนี้ไปอีกราว 8 กม. ไกลเกินไป อีกอย่างเมื่อวานผมปั่นจักรยานไปมาแล้ว ก็เลยไม่ค่อยจะอยากไปอีก สรุปแล้วเราได้แผนที่จากนักท่องเที่ยวมาดู จึงตัดสินใจเดินกลับที่พักที่อยู่ห่างไปเพียง 1 กม. ผมก็ยังคงเดินรั้งท้าย แต่ทางเดินนี้ มีคนเยอะจริง ๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กางเกงเจ้ากรรมก็ยังขาดวิ่นอยู่ เดินไปก็เย็นสบายขา วาบ ๆ เลยทีเดียว ตรงนั้นมีพระพุทธเมตตาอยู่ระหว่างทางที่เราจะเดินไปยังศูนย์วังกวาง มีนักเดินป่าพักกันเป็นกลุ่ม ๆ ผมเดินถ่ายรูปนกไปพลาง ผ่านกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งพัก หันมองกลับไปเห็นพวกเขามองผมแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เดินมานั่งไหว้พระแบบระมัดระวัง เพราะกางเกงขาดเยอะมาก พอดีตอนนั้นไม่มีคน แล้วก็เดินมุ่งไปทางกลับ ส่วนกุ้งและพี่ไก่ เดินนำไปก่อน จนมีกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว 2 คู่ เดินมาประชิด แล้วสาวนางหนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า ฉันอยากจะเป็นนักกีฬาเดินทนจัง เดี๋ยวฉันจะเดินให้ดูนะเธอ เขาต้องเดินแบบนี้ เดินบิด ๆ แล้วหนีบขาหน่อย เอ้อ เธอจะมาอยากเป็นอะไรกันตอนนี้ เพื่อนของเธอีกสามคนก็เดินตามมา หัวเราะกันคิกคัก ผมเดินมาทันกุ้งกับพี่ไก่พอดี ระหว่างนั้นพี่ชาลียังกังวลเกี่ยวกับกลุ่มของน้องแจน แต่แล้วสายตาอันเฉียบคมของกุ้งอบเพลิงก็ฉายแวว อุ้ย กางเกงพี่หนุ่ยขาด อืมก็ใช่สิ ปีนขอนไม้มาเมื่อกี้ แล้วทำไงล่ะ แหมจะให้ทำไง แก้ผ้าเดินหรือไง แค่นี้ก็เย็นสั่นหวั่นไหวพอแล้ว มองต่ำไปหน่อยนะเธอ เราก็คุยกันหัวเราะ ระยะห่างจากตรงนั้นเหลืออีกไม่ไกล พอดี พี่ชาลีได้รับโทรศัพท์จากพร ว่ารออยู่ตรงแยก พี่ชาลีเลยเดินกลับไปรับ โชคดีที่น้องแจนจำเบอร์ของคุณพ่อและคุณแม่ได้ จึงขอยืมโทรศัพท์ของคนที่เดินผ่านมา เก่งจริง ๆ ผมมาถึงเต้นก็ถอดกางเกงเปลี่ยนตัวใหม่ โอ้โห มันขาดเยอะเหมือนกันนิ มีน่าละ หนุ่มสาวสองคู่นั้นถึงแซวเรา เพราะเขาเห็นตั้งแต่ด้านหลังของเราแล้ว แป่ว ๆๆๆ ไม่เป็นไร ไม่ได้โป๊ แต่แค่โชว์แก้มก้น แล้วผมก็ไปอาบน้ำ ตอนนั้นราวบ่าย 3 โมงแล้ว อาบน้ำเสร็จเย็นสบายใจ เปลี่ยนเสื้อผ้า ชวนกุ้งไปกินส้มตำ อยากจะหาอะไรแซ่บ ๆ กระแทกปากในยามอากาศสบาย ๆ เช่นนี้ จึงไปสั่งส้มต้ำร้านหนึ่ง ซึ่งมีกลุ่มของพรนั่งทานข้าวอยู่ มาเร็วเหมือนกัน ส้มตำของป้าร้านนี้อร่อยมาก ๆขอบอก ทั้งตำปู และตำไทย แซ่บอีหลี ถ้ามีปุ่มถูกใจ ผมกดให้ไปนานแล้วครับ กลับมาเจอพี่อังศนาเลยชวนไปนั่งทานส้มตำด้วย แต่พี่อังบอกอิ่มแล้ว พี่อังเป็นกลุ่มที่ไม่เดินไกลในวันนี้ วนอยู่รอบ ๆ บริเวณ ได้ถ่ายนกและดอกไม้ใบหญ้ามากมาย และพี่อังเป็นคนที่กลัวทากมากที่สุด แต่วันนี้ เจอไปแล้ว 3 ตัว สด ๆ พี่อังบอกว่ายังไม่ทันกัด กรี๊ดอยู่คนเดียว จัดการกับทากอยู่คนเดียว กลัวก็กลัว และถ่ายรูปไว้ด้วย เก่งจริงๆ เลยครับพี่อัง แต่ปัญหาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น หลังจากสังหารส้มตำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินกลับไปที่พัก เจออาจารย์หน่อง สิริปตี แล้วไอ้ตี๋น้อยละ อาจารย์ถามถึงลูกชาย เปล่าไม่ได้ไปด้วยกัน ผมตอบ อ้าว... สงสัยไปกับกลุ่มพี่เต็งพ้ง และคุณชัยแมนยูมั้ง แน่นอน เนื่องจากกลุ่มนี้เดินเร็ว เดินไปทางไหนก็ไม่ทราบ ผมก็ไม่เห็นตั้งแต่จุดน้ำตกแห่งแรกแล้ว พอตอนสี่โมงเย็น ผมก็ตัดสินใจจะไปผาหมากดูก เพื่อดูพระอาทิตย์ตก มีกุ้งที่สนองนโยบายผม จะไปกันสองคน เพราะคนอื่นเขาบอกว่าเห็นอยู่ทุกวี่วัน ไม่จำเป็นต้องไปดู เราไปเช่ารถจักรยาน แต่น่าเสียดาย มีเหลือเพียงคันเดียว ปั่นไปผาหมากดูก สนนราคา 60 บาทไปกลับ ในระยะทาง 2 กม. แพงกว่ารถไฟฟ้า แต่ได้โอโซนเต็ม ๆ พร้อมอ๊อกซิเจนรอบทาง ผมจึงให้กุ้งปั่นไป ส่วนผมนั้นเดินจ้ำอ้าวไปอย่างรวดเร็ว เพราะจะต้องไปให้ทันก่อนตะวันตก โดยมีนักท่องเที่ยวเดินไปเป็นกลุ่ม ๆ และเยอะพอสมควร เนื่องจากที่ผาหมากดูก เป็นจุดที่ใกล้ที่พัก ผมเดินไปเร็วจนเกือบจะถึงแล้ว กุ้งโทรมาบอกว่าจะกลับไปที่เต้นท์ เพื่อเคลียร์งาน เธอจึงปั่นจักรยานมาทิ้งให้ผม แล้วก็เดินกลับ ช่างเป็นคนที่มีน้ำใจงามยิ่งนัก ผมจึงได้เครื่องทุ่นแรง ปั่นไปถึงหน้าผาอย่างทันใจ แล้วก็ไปตั้งกล้องเตรียมถ่ายอาทิตย์ตก ทั้งที่รายรอบไปด้วยผู้คนจำนวนมาก และแล้วภาระกิจของผมก็เสร็จสิ้นในค่ำนั้น แต่ผมอยู่จนค่ำ เพราะมีไฟฉายมาด้วย จึงไม่รีบ ก่อนจะปั่นจักรยานกลับมาตามทาง แล้วเอาไปคืน มาถึงที่เต้นท์ราว ทุ่มกว่า ๆ ไอ้ตี๋ละ อ้าว เจอคำถามเดิม จะรู้ไหมละครับว่าตี๋ไปไหน ไม่เจอเลยครับ ยังไม่มาอีกเหรอ นี่มันก็มืดค่ำแล้ว ผมไปหาอะไรกิน แล้วมานั่งล้อมวง สักพักอาจารย์หน่องจึงโล่งใจเพราะมีคนส่งข่าวมาว่าเจอแล้ว กำลังเดินทางกลับมา ราว 2 ทุ่ม กลุ่มของพี่เต็งพ้ง น้องคีน น้องภีม และคุณชัย ก็เดินทางมาถึง เป็นกลุ่มที่เดินทางไปไกลที่สุดในวันนี้ คือ ไปถึง ผาหล่มสัก เท่ากับ 1 รอบใหญ่ ราว 21 กม. เด็กวัย 8 ขวบ และ 11 ขวบ เดินทั้งวัน กับผู้ใหญ่ 2 คน เด็กไม่เท่าไหร่ ผู้ใหญ่จะหมดแรงให้ได้ น่าชมเชยจริง ๆ ครับ เก่งมาก ๆ นับถือ ๆ สำหรับกลุ่มนี้ เอ๊ะหรือว่าหลงทาง ค่ำนี้เรามีเสวนาเรื่องหลัก ๆ ที่เป็นประเด็นปัญหาสำหรับภูกระดึง รวมถึง กระเช้าไฟฟ้าด้วย แต่ผมจะเล่าต่อในตอนต่อไปนะครับ เรื่องที่เกี่ยวข้อง บล๊อกเพื่อนบ้าน....สำหรับเรื่องราวเดียวกัน ภูกระดึงเดินเองได้ บ่เอากระเช้า แต่เมื่อยหลาย (Nupong26) |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |