เจ็ดคต โป่งก่อนเส้า อีกสักครั้ง

ช่วงสงกรานต์ปีนี้ งดการเดินทางกลับเหนือ เลยมีเหตุได้เดินทางไปที่อื่น นั่นก็คือ สระบุรี เจ็ดคต โป่งก้อนเส้า ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เคยมาเยือนกันครั้งหนึ่งแล้วเมื่อราวสองปีก่อน

วันนี้มีนัดกับแก๊ง ๓ ตึงเช่นเคย เลยได้จองบ้านพักเป็นหลังราคาไม่แพง เป็นบ้านพักมี ๔ เตียง (พัดลม) แต่มีพื้นที่ด้านนอกสำหรับพักผ่อน หรือทำอาหารได้สบาย ๆ

สมาชิกเรามากันเยอะคราวนี้ ๑๐ กว่าชีวิต รวมถึง ครอบครัวของผมเองครบชุด น้องคิน (๘ ขวบ)  และน้องโท (๔ ขวบ) การเดินทางไม่ได้ยากเย็นอะไร จากถนนมิตรภาพ ไปกลับรถตรงเนินแถวโรงปูน แล้วจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวเข้าไปอีกราว ๑๗ กม. เรามาถึงก็เลยเที่ยง ต้องหาอาหารใส่ท้องกันแล้ว

ใช้รถจำนวน ๒ คัน เพื่อขนคนและสัมภาระ จึงมาจอดแวะซื้อส้มตำกันตรงทางขึ้นศูนย์ฯ แล้วเราก็ได้อาหารมาสำราญกัน ไปตัดใบตองมารอง จัดสำรับแบบว่า เข้าป่าก็ทำให้ธรรมชาติหน่อย

กิจกรรมยามบ่ายเราก็คือ ไปเดินท่องป่ากัน เขาเรียกว่า เดินศึกษาธรรมชาติ แต่ว่ากลุ่มของพี่อ้อยนั้น เห็นทีจะหันหลังให้กับการเดินศึกษาธรรมชาติเสียแล้ว คงทำกันได้แค่นั่งศึกษาวิชาคณิตศาสตร์เท่านั้นเอง ว่าแล้วผมและลูก ๆ และแม่เพียงหนึ่งเดียวของลูก ก็พากันมุ่งหน้าสู่ป่า เพื่อไปชมน้ำตกกัน มีบอยและผึ้งตามไปด้วย ผมเคยมาแล้วและเคยเดินไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้อยากไปถ่ายรูป ก็เลยไปอีก

ระยะทางของการเดินป่านั้น ถ้านับจากบ้านพักก็บวกอีกสัก ๑ กม. แต่จุดเริ่มต้นนั้นอยู่ตรงริมขอบอ่างเก็บน้ำด้านทิศตะวันออก ซึ่งแรก ๆ จะเป็นป่าไม้สัก และ ป่าหวาย เลยไปจะเป็นป่าไม่ไผ่ ก็ร่มรื่นดีครับ แต่ว่า มันก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา เพราะต้องบุกป่าฝ่าเขา เจ้าตัวเล็กของผมได้แต่ล้มลุกคลุกคลานหลายครั้งหลายครา แต่ก็ใจรัก เดินไปได้เรื่อย มีบางช่วงที่ขอขี่คอ อาบอยบ้าง ลำพัง บอย เขาก็จะเอาตัวเองไม่รอดแล้วลูกเอ้ย ...

แล้วเราก็ดั้นด้นมาถึงน้ำตกที่ไม่ค่อยจะมีน้ำตก เพราะนี่มันกลางเดือนเมษายน แต่ก็ยังพอมีน้ำไหลริน ๆ เด็ก ๆ เตรียมตัวกันมาเล่นน้ำกันเต็มที่ ไม่ผิดหวังครับ ได้เล่นน้ำแช่สมุนไพรใบไม้แถวนั้นแหละครับ สีออกจะเหลือง ๆ หน่อย เด็กก็คือเด็ก ได้สนุกสนานกันตามประสา ส่วนผมก็หาถ่ายรูปแถว ๆ นั้น แต่เสียดายไม่ได้เอาเลนส์เทเล มาด้วย

สักครู่ใหญ่เราก็กลับ ขากลับนี่จะลำบากกว่าขามา เพราะโทโทโร่ เริ่มเดินไม่ไหว ผมก็ต้องให้ขี่หลังไปบ้าง แต่ก็เป็นบางช่วง ระยะทางแค่ราว ๒ กิโลเมตรเท่านั้นเองครับ แค่จิ๊บ ๆ เรียกเหงื่อได้นิดหน่อย  กลับมาแล้วกระหายน้ำกันเต็มที่ ไปหาซื้อน้ำเย็นกินกันแบบสบายอุรา ส่วนเจ้าตัวเล็กของผมนี่น่าสงสารที่สุด เดินมาถึง ไปขูดเอาน้ำแข็งในตู้แช่ไอติมกิน ป๊าด ลูกพ่อ น้ำเย็นก็มีในตู้แช่เยอะแยะ มาทำเป็นพรรคกระยาจกไปได้

เสร็จแล้วก็เข้าสู่ช่วงเวลาอาหารเย็น ผมทำต้มยำปลากระป๋อง ไข่ทอดชะอม ผัดผักหวาน หน่อไม้ต้ม อาหารพวกนี้ผมถนัด แต่สงสัยไหมครับวเราเอาผักมาจากไหน ขอท้าวความไปในอดีตเมื่อยามสายของวันนี้ เนื่องจากว่า...

แก๊งค์ ๓ ตึงของเรา เจ้าเก่าจอมหลงก็ไม่พลาดโอกาสงาม ๆ นี้อีกครั้ง ขับรถตามหลังมาจากสระบุรี มุ่งหน้ามวกเหล็ก ผ่านโรงปูนแถวแก่งคอยไปอย่างชิล ๆ แล้วก็เลยขึ้นไปถึง ศูนย์ฝึกกีฬามวกเหล็กโน่นเลยทีเดียว ผมก็ว่าทำไมโทรมาระยะทางแค่นี้ ไม่ถึงสักที ความมาแตกเอาตอนที่เจอกันที่ศูนย์เนื่องจากมาถึงช้า คุณหญิงก็รีบนำเสนอว่า

“พี่เลยไปซื้อผักแถวมวกเหล็กมา มีเยอะมากเลย นี่ได้ผักหวานมาด้วยนะ ชะอม ผักกาดแล้วก็หน่อไม้” แหมคุณพี่..ทำไมไม่เลยไปถึงปากช่องโน่นเลยละครับ ที่แท้ กลับรถผิด ถนนมิตรภาพมันไม่ค่อยมีที่กลับรถนะครับพี่น้อง เลยไปกลับเอาเสียไกล แล้วเพื่อเป็นการกลบเกลื่อน เลยแวะซื้อผักมาเพียบเลย อย่างไรก็แล้วแต่ เย็นนั้นเราก็อิ่มหนำกันตามอัตภาพ

ขอเรียนให้ท่านนักเที่ยวมือใหม่ทราบว่า ที่เจ็ดคตแห่งนี้ ต้องเตรียมอาหารและเครื่องหุงต้มกันมาเองนะครับ เพราะที่นี่มีร้านอาหารให้บริการแต่ไม่ค่อยมีอะไรครับ

กลางคืนเราก็นั่งล้อมวงทำกิจกรรมกันตามประสา ผมได้นอนเพียงงีบเดียว เพราะตื่นเช้าตั้งใจว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ไปไม่ทันครับ พระอาทิตย์ขึ้นก่อน ผมเดินไปยังจุดชมวิว ห่างจากที่พักราว ๓ กม. ก็เลยไปไม่ทัน แต่ก็ได้ไปนั่งดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้าแต่เพียงลำพัง เจอไก่ป่าอยู่ตัวหนึ่ง ถ่ายรูปได้ไกล ๆ นอกนั้นจะมีนกชนิดต่าง ๆ แต่กล้องไปไม่ถึงครับ ขากลับเดินลัดป่าเข้าไป เจอกระรอกขาวตัวหนึ่ง ด้วยความนิ่งและเงียบ เลยได้ถ่ายรูปกระรอกตัวนี้อย่างถนัด ก่อนจะเดินกลับ

ทริปสงกรานต์ปีนี้ ก็สนุกสนานแบบไม่ต้องเสียงบประมาณมาก เพราะมาเที่ยวไม่ไกลนัก และขับรถแค่ราว ชั่วโมงเดียวเองครับ

ถ้าใครสนใจมาเที่ยว ติดต่อได้เลยครับที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า หมู่ที่ 5 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หรือสำนักงานป่าไม้เขตสระบุรี ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี โทร. 0 3634 7105-6 ต่อ 501, 400 ในเวลาราชการ