*/
<< | ธันวาคม 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
แอ่วเจียงฮาย ๔ (จบ) วัดร่องขุ่น ...เพื่อแผ่นดินพ่อ.. อาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ กลับมานั่งเขียนต้นฉบับสุดท้ายให้จบ เพราะไม่อยากดองจนลืม แล้วก็จบไม่ลงนะครับ ความเดิมตอนที่แล้วคือ เราตื่นสายกันมาก ๆ เคยไปทัวร์ส่วนใหญ่ก็จะ ๖-๗-๘ หมายความว่า ตื่นหก กินเจ็ด ออกแปด ถ้าใครไปทัวร์แบบหลาย ๆ วันก็คงจะชินนะครับ แต่นี่เรามากึ่งทัวร์กึ่งเที่ยวกึ่งเชียร์ครับ เลยอะไรก็ได้ รถวิ่งออกจาโรงแรม มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ แต่ยังไม่ได้กลับกรุงเทพครับ เพราะเรายังไม่ได้เชียร์บอลเลย คือเราจะไปวัดร่องขุ่นครับ ซึ่งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเล็กน้อย พูดถึงเชียงรายไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ามีไฟแดงเยอะ ที่โคราชก็ไม่แพ้กันครับ แต่มีทางหลบหลีกได้ ที่เชียงรายน่าจะหลบหลีกไม่ค่อยได้ครับ แต่ไฟแดงตามแยกบ้านเรา ผมเคยเขียนไว้ในเรื่อง แดงไม่สามัคคี นานแล้ว ว่าที่ญี่ปุ่นไฟแดงจะเชื่อมต่อกัน คือถ้าแดงก็จะแดงทั้งถนนครับ เป็นไฟแดงออนไลน์ เพื่อสามารถควบคุมและระบายรถได้จริง ๆ ไม่ใช่เหมือนบ้านเรา อีกช่วงหนึ่งเขียว อีกช่วงหนึ่งแดง ก็ติดอยู่ดี ไม่สามารถควบคุมการจราจรภาพรวมได้ ดังนั้น เราจึงประสบปัญหา รถติดในเมืองเล็ก ๆ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการบริหารจัดการการจราจรได้แย่มาก ท่ามกลางรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น หากระบบการจราจรของไทย ไม่ทันสมัย คนในเมืองคงอึดอัดใจและเสียเวลาในการเดินทางมาก สิ้นเปลืองทรัพยากรเปล่า ว่าแล้วก็มีเรื่องราวของท่าขี้เหล็กของพม่า ผมถามคนขับรถชาวพม่าว่า ทำไมไม่ทำถนนให้ดี ได้รับคำตอบที่น่าคิดว่า เพราะถ้าถนนดี จะเกิดอุบัติเหตุมาก จึงจงใจทำถนนแบบขรุขระบ้าง ส่วนถนนต่างจังหวัดนั้น ดีมาก.. ผมละงงจริง แต่ท่านพูดแบบไม่ตลกอ่ะ คงจะจริงอย่างว่า วัดร่องขุ่นทำให้เชียงรายกลายเป็นดินแดนจุดหมายให้ผู้คนต้องเดินทางไปเพิ่มมากขึ้น ด้วยความงดงามและวิจิตรแปลกตา อีกทั้งยังซ่อนความหมายปริศนาธรรมไว้อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่จะไปชมแค่ความงามหรือถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว ถ้าอย่างนั้น พระอุโบสถที่ถูกสร้างขึ้นในหลังแรกที่ใช้เวลากว่า ๗ ปีนี้ คงไม่มีความหมายแม้แต่น้อย วัดร่องขุ่น มีพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก ๓ ไร่ เป็น ๑๑ ไร่ และมีโครงการที่จะสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นทั้งหมด ๙ หลัง โดยขณะนี้ หลังแรงยังเสร็จไม่สมบูรณ์ ประมาณว่า อีกหลายสิบปีถึงจะสร้างเสร็จทั้งหมด ผมเคยเจออาจารย์เฉลิมชัยมาแล้ว ๓ ครั้งก่อนหน้านี้ คือที่งานหนังสือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ที่งานแสดงภาพ ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ และที่สยามพารากอน งานจำหน่ายสลาก ธกส. ทั้ง ๓ ครั้งนับได้ว่าเป็นความบังเอิญและเป็นบุญวาสนาของผมที่ได้มีโอกาสพบกับอาจารย์โดยไม่ได้ตั้งใจ ในงานหนังสือนั้น ผมเองก็ไม่ทราบว่าอาจารย์จะมาตอนไหน และเวลาท่านมาท่านก็มาเพียงช่วงสั้น ๆ มาแจกลายเซ็นต์ ซึ่งผมก็ได้ให้ท่านเซ็นในหนังสือของท่าน ครั้งที่ผมเดินผ่านพารากอน เพื่อรอเวลาอะไรสักอย่าง เดินขึ้นไปเจองานแสดงภาพวาดของท่าน และการจำหน่ายสลาก ธกส. ผมเดินกลับลงมาแล้ว แต่จู่ ๆ ก็สวนกับอาจารย์ตรงทางขึ้นบันไดเลื่อน จึงได้มีโอกาสทักทาย ซึ่งท่านก็พูดคุยอย่างเป็นกันเองมาก ในการมาวัดร่องขุ่นครั้งนี้ ผมก็ไม่หวังว่าจะได้เจอกับอาจารย์ หลังจากใช้เวลาเดินไปเดินมาอยู่ในวัด ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงจากเครื่องขยายเสียง.... ..สวัสดีครับพี่น้อง...ผมอาจารย์เฉลิมชัย....เพิ่งกลับมาจากกรุงเทพ ไปดูบ้าน บ้านผมก็น้ำท่วมครับ..... ได้ยินแค่นี้ก็ดีใจว่า ท่านอยู่ที่นี่แล้ว ส่วนจะมีโอกาสได้เจอไหมก็เป็นอีกเรื่อง สุดแท้แต่บุญวาสนาของตัวผมเอง เมื่อผมถ่ายภาพเสร็จ ก็เดินกลับไปเพื่อจะซื้อของที่ระลึกและแวะเข้าห้องน้ำ บังเอิญเหลือเกินว่า ตรงข้าง ๆ ห้องน้ำ คือห้องประชาสัมพันธ์ อาจารย์เดินออกมาพอดี ผมดีใจมาก ที่ได้พบกับอาจารย์อีกครั้ง และได้พูดคุยกับอาจารย์ด้วย คำเมือง ..ผมมาเชียร์บอลครับอาจารย์...วันนี้แข่งกับทีมเจียงฮาย... ..อ๋อ ก๊ะ ...ยอกกันมะแลงนี้เลย... แล้วก็ได้ถ่ายรูปกับอาจารย์ นับเป็นบุญจริง ๆ ครับ อาจารย์พูดแปลว่า ฉะกันเย็นนี้เลยหรือ ประมาณนั้น เพราะคำว่า ยอก นับได้ว่าเป็นศัพท์แสลงของภาษาเหนือ ซึ่งจะแปลว่า...ตีต่อยกัน ก็ได้ แปลว่า ทำ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้พูดจะใช้ในโอกาสใด แต่ความหมายของภาษากลางไทยคือ ขัดยอก นั้น ก็พอใช้ได้บ้าง ถ้าเราพูดว่า ยอกเลย ก็แปลว่า เอาเลย หรือ ทำเลย วัดร่องขุ่น สร้างขึ้นด้วยปณิธานความมุ่งมั่นของอาจารย์เฉลิมชัยเอง โดยมีแรงบันดาลใจจากความเป็น ชาติ เพื่อสร้างศิลปะที่ยิ่งใหญ่ไว้เป็นสมบัติของชาติ ศาสนา ธรรมะได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากร้อนกลายเป็นเย็น
จึงอุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ จากการเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก
จากการพบเห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะและพระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
จึงปรารถนาที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ถวายเป็นงานศิลปะประจำรัชกาลพระองค์ท่าน (วิกิพีเดีย
วัดร่องขุ่น) และ (ธรรมะไทย) โบสถ์ เปรียบเหมือนบ้านของพระพุทธเจ้า
สีขาว แทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า กระจกขาว หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์
และจักรวาล สะพาน หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ
ก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู
หมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร
เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านขึ้นไปพบกับพระราหูอยู่เบื้องซ้าย และพญามัจจุราชอยู่เบื้องขวา
บนสันของสะพานจะประกอบไปด้วยอสูรกลืนกัน 16 ตน ข้างละ 8 ตน หมายถึง อุปกิเลส 16 จากนั้นก็จะถึงกึ่งกลางสะพานหมายถึง
เขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทวดา ด้านล่างเป็นสระน้ำหมายถึง สีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยกัน
6 ชั้นด้วยกัน ผ่านสวรรค์ 6 เดินลงไปสู่พรหม 16 ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 16 ดอกรอบพระอุโบสถ
ดอกที่ใหญ่สุด 4 ดอก ตรงทางขึ้นด้านข้างโบสถ์หมายถึง ซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์ ประกอบด้วยพระโสดาบัน
พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เป็นสงฆ์สาวกที่ควรกราบไหว้บูชา ก่อนขึ้นบันได ครึ่งวงกลมหมายถึง โลกุตตรปัญญา บันไดทางขึ้น
3 ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ผ่านแล้วจึ้งขึ้นไปสู่อรูปพรหม 4 แทนด้วยดอกบัวทิพย์
4 ดอกและบานประตู 4 บาน บานสุดท้ายเป็นกระจกสามเหลี่ยมแทนความว่าง ซึ่งหมายถึงความหลุดพ้น
แล้วจึงก้าวข้ามธรณีประตูเข้าสู่พุทธภูมิ ภายในโบสถ์ประกอบด้วยภาพเขียนโทนสีทองทั้งหมด
ผนัง 4 ด้าน เพดานและพื้นล้วนเป็นภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร มุ่งเข้าสู่โลกุตตรธรรม
ส่วนบนของหลังคาโบสถ์ ได้นำหลักการของการปฏิบัติจิต 3 ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นำไปสู่ความว่างคือความหลุดพ้นนั่นเอง (Thai-tour.com) อาจารย์เฉลิมชัย
นับเป็นแบบอย่างเกี่ยวกับเรื่อง พ่อ ที่ดีอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อของตน และ ยังเป็น พ่อ ที่ดีของลูก
ผมรู้สึกนับถือและศรัทธาท่านอาจารย์ในหลาย ๆ สิ่งหลายอย่างที่ควรนำมาเป็นแบบอย่างและประยุกต์ใช้ในชีวิตของตน
เรื่องของอาจารย์เฉลิมชัยยาวมากครับ
นี่ยังไม่ได้พูดถึง อีติ๊กแสนแปด กับ กาแฟส้นตีน เลยนะครับ ยาวจนผมจะเล่าเรื่องน้ำตกขุนกรณ์ในตอนนี้จะไม่ทัน
เราออกจากวัดร่องขุนราวบ่าย ๒ มุ่งหน้าไปน้ำตก ซึ่งเราจะต้องเดินไปราว ๑๔๐๐ เมตร
เมื่อรถไปถึง เราก็รีบรุดเดินขึ้นไปยังน้ำตก ซึ่งมีผู้คนกว่าครึ่งหนึ่ง ไม่สมัครใจที่จะเดินขึ้นไป
เราต้องรีบกลับลงมาให้ทันตอนบ่าย ๔ โมง จึงกึ่งวิ่งกึ่งเดิน ระหว่างทางเราเจอ
แหม่ม (ไม่ใช่คนชื่อแหม่มนะครับ หมายถึง มาดามครับ) ที่อายุมากแล้ว เดินไปน้ำตกด้วย
โห ..เห็นแล้วทึ่ง ที่ท่านเดินมาได้ เมื่อเราไปถึง จึงได้ถ่ายรูป น้ำตกสวยจริง ๆ
ครับ เสียดายที่เรารีบไปหน่อย เลยไม่มีเวลาลงเล่นน้ำ แต่มีน้อง ๆ บางคนลงไปเล่นน้ำ
แล้วเราก็รีบกลับลงมา ต้องรักษาเวลากันจนลิ้นห้อย เหงื่อย้อยกันละครับ
เพราะกลัวจะไปถึงสนามไม่ทันเวลาครับ สรุปแล้วบอลเสมอ
๒ ๒ ครับ ทริปนี้ ขอบคุณทุก ๆ คนที่ร่วมทางครับ ไว้เจอกันใหม่ครับ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |