*/
<< | ตุลาคม 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ไปห้วยสะด่อง ทำโป่งดินเทียม กับ OK Nation 5 ตุลาคม 2556 ฤกษ์งามยามดี ที่ผมและครอบครัว ได้ไปร่วมกิจกรรม ทำโป่งช้าง ที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยสะด่อง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสลักพระ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ในเบื้องต้น เรามีความกังวลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง และสมาชิกที่จะไปด้วย ออกเดินทางประมาณ 9 นาฬิกาของวันเสาร์ที่ 5 ต.ค. พอไปถึงรังสิต รถติดสันตะโร ตั้งแต่บริเวณคลองหนึ่ง ไปจนถึงแยกรังสิต และรถนิ่งสนิทเลย ผมจึงต้องเลี้ยวขวาข้ามสะพานทางแยกมาทางธรรมศาสตร์ แล้วเลี้ยวซ้ายที่ถนนคลองหลวง แล้วเลี้ยงซ้ายเข้าถนนบางปะหัน ก่อนจะเลี้ยวกลับไปที่ ถนน 346 อีกที รวมเป็น 1 รอบใหญ่ ๆ เลยครับ เพื่อหลบจุดรถติด ซึ่งอาจจะเป็นขบวนแห่กินเจหรือเปล่า ไม่ได้ไปกาญจนบุรีนานแล้วครับ ถนนสาย 346 บางเลน บางแสน มีการพัฒนาไปเรียบร้อย จากแต่เดิมสร้างซ่องอยู่นาน ทำให้รถวิ่งได้สบาย ๆ แต่ระยะทางจากบ้านไปยังห้วยสะด่อง ก็ราว 207 กม. ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควร เพิ่งรู้ว่ามันไปทางน้ำตกไทยโยกน้อย พอไปถึงเขื่อนท่าทุ่งนา ก็ยังคงตรงไปตามถนน 3199 ไปทางเดียวกับอำเภอศรีสวัสดิ์ ขวามือ ราว กม. ที่ 50 ก็จะถึงจุดนัดพบ ซึ่งอาสาสมัครทุกคนมาถึงก่อนแล้ว เพราะเขานัด 10 โมง แต่เรามาถึง เที่ยงเศษ ๆ กินข้าวเที่ยงพอดี จุดนี้คือ หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยสะด่อง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสลักพระ ดังได้เกริ่นไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ มีอาสาสมัครมากันร่วม 50 กว่าชีวิตสำหรับการทำโป่งเทียมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แต่เดิม ทางผู้จัดกิจกรรมวางแผนว่าจะเดินทางเข้าไปอีก 9 กม. เพื่อทำโป่งเทียมด้านใน แต่เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้เป็นอุปสรรค์ต่อการดินทางเข้าไป และการเตรียมการต่าง ๆ จึงมีการเปลี่ยนแผนที่จะกระจายการทำโป่งออกเป็นจุดเล็ก ๆ ตามหน่วยพิทักษ์ป่าในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งผมก็ได้ไปร่วมที่หน่วยพิทักษ์ป่าแก่งแคบ ซึ่งหางออกไปอีกราว 15 กม.เราเดินทางกันด้วยรถของหน่วยพิทักษ์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เมื่อไปถึงหน่วยฯ แก่งแคบ บริเวณทางเข้าเป็นป่าไผ่รวก มีรอยช้างมาวนเวียนแถวนี้ ล้อมรอบที่ทำการและบ้านพักจะมีลวดหนามที่ปล่อยกระแสไฟ เพื่อไม่ให้ช้างเข้ามาในบริเวณนี้ได้ แต่คงจะเป็นเฉพาะช่วงกลางคืน กลุ่มของเรามีประมาณ 15-20 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วย ก็เปลี่ยนรถกันอีกครั้ง เราต้องเดินทางเข้าไปอีกราว 1 กม. เจ้าหน้าที่คงกลัวเราหมดแรง เลยเตรียมรถวิบากไว้ให้ 2 คัน ในถนนหนทางที่เรียกได้ว่า ยังไม่ใช่หนทางสำหรับรถยนต์ทั่วไป เมื่อเราขึ้นรถไปสักพักก็ถึงจุดที่เราจะทำโป่งเทียม ตลอดทางเราจะเห็นรอยช้างที่มาหากิน รอยตีนช้าง ขี้ช้าง มีครบเลยครับ แต่ที่เราไม่อยากเจอก็คือ ช้างป่าเป็น ๆ อันนี้ไม่พึงประสงค์ครับ เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมจอบ และอุปกรณ์ทำโป่งเทียมไว้ให้เราแล้ว จำนวน 5 หลุม แต่ละหลุมจะมีเกลือ 5 ถุง แคลเซี่ยม 20 ถุง (เปลือกหอย) วิธีทำเราก็แค่โรยเกลือลงไปในบ่อดิน ตามด้วยแคลเซี่ยม แล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน ไม่ต้องชิมนะครับ แค่เห็นว่ามันเข้ากันได้ก็พอแล้ว หลายคนสงสัยมากเลยว่า โป่ง คืออะไร ผมก็เลยแวะไปยกข้อความจาก วิคกิ มาให้อ่านกันครับ โป่ง (อังกฤษ: Salt licks) เป็นแหล่งดินที่มีรสเค็มและละเอียดซึ่งเกิดจากแร่ธาตุบางชนิด เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แร่ธาตุในโป่งประกอบไปด้วย โซเดียม แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส และ สังกะสี ซึ่งเป็นที่ต้องการของกระดูกและกล้ามเนื้อ แร่ธาตุเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งสัตว์สัตว์ป่าไม่สามารถหาทดแทนได้จากพืช ดังนั้นโป่งจึงเป็นแหล่งแร่ธาตุสำหรับสัตว์ป่าซึ่งกินพืชเป็นอาหาร ส่วนใหญ่พบโป่งได้มากในป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และ ป่าดงดิบ จากมากไปน้อยตามลำดับ ชนิดของโป่งที่มีในธรรมชาติ
โป่งดินหรือโป่งแห้ง (Dry lick) : เป็นบริเวณที่สัตว์ลงไปใช้ประโยชน์ มักเป็นเนินเตี้ยๆ หรือเป็นหย่อมดินโล่งอยู่กลางบริเวณที่มีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบ สังเกตเห็นได้จากการที่มีร่อยรอยการใช้ของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นรอยขุด รอยตีนย่ำ สัตว์มักจะใช้ปากขุดลงไป ปกติจะลึกไม่เกิน 1 เมตร เพื่อกินดินเหล่านั้น โดยเริ่มกินที่ผิวดินก่อนแล้วค่อย ๆ กินลึกลงไปเป็นบริเวณกว้างไม่เกิน 10 เมตร โป่งดินจะพบตามริมหรือในห้วยที่เป็นที่ราบ ในฤดูฝนที่มีน้ำท่วมขัง สัตว์ป่าจะไม่เลียกินดินแต่จะเลียกินน้ำแทน โป่งน้ำหรือโป่งเปียก (Wet licks) : ปกติเป็นแหล่งที่เป็นต้นน้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นน้ำซึมหรือน้ำซับหรือที่ไหลออกมาจากภูเขาหินปูน แอ่งหรือบ่อที่เป็นโป่งดินมาก่อนโดยจะมีน้ำขังตลอดปี มักพบโป่งน้ำตามภูเขา เสร็จจากการทำโป่งเราก็เดินทางกลับมายังหน่วย ห้วยสะด่อง งานนี้อาหารการกินเพียบครับ ทั้งแม่ครัวและกัปตัน แจ๊ค และบล๊อกเกอร์ด้านโภชนาการอีกหลายท่านช่วยกันจัดหามาให้ เรายังมีเวลาเหลือ เดินข้ามไปดูศูนย์อนุรักษ์และเพราะพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งอยู่ติดกัน แต่กั้นไว้ด้วยลำห้วยสะด่อง ที่นั่นเราจะเห็น หมา 1 ตัวชื่อไข่ตุ๋น ที่ต้อนรับเราไปตลอดทาง เห็นแมวและลูกมันอีก 2 ตัว เหล่านี้เป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าหน้าที่ครับ ไม่เกี่ยวกัน มีกรงสำหรับอนุบาลและดูแลสัตว์ต่าง ๆ เช่น เก้ง กวาง วัวแดง ซึ่งเราก็ได้เห็นตัวเป็น ๆ กันอย่างถ้วนหน้า ตกเย็นเราก็มีประชุมกันเรื่องสรุปการทำกิจกรรมโป่งช้าง และกิจกรรมต่อไปคือ การปลูกหญ้าให้พยูน ที่ตรัง ราววันที่ 15-18 พ.ย. ครับ ระหว่างนั้นลูกชายหันมาถามผมว่าเจ้าหน้าที่พูดภาษาอะไรกัน เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นคนใต้ครับ พูดภาษาใต้กัน เด็กเหนือ งง ครับพี่น้องครับ นอกจากนี้ลูกชายคนเล็กวัย 7 ขวบของผมไม่เข้าใจว่า พยูน คืออะไร ได้ยินลุงเต็งพ้งพูดบอกว่า "พยูนไม่ใช่ปลา" ลูกชายผมเลยถามต่อว่่า "เป็นจระเข้ใช่ไหม" ต่อจากนั้นลุง "ริมเล" ก็ได้เล่าเรื่องการปลูกหญ้าทะเลให้พยูน ลูกชายผมดูรูปแล้ว ตอบไปว่า "ไปปลูกตะไคร้ให้มันกินเหรอครับ" เห็นหญ้าทะเลเป็นตะไคร้ไปได้ นานเลยทีเดียวที่ไม่ได้มาร่วมกิจกรรมกับทาง โอเค ทั้ง OK Nation, OK Nature ซึ่งในครั้งนี้ก็นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ได้พบปะบล๊อกเกอร์หลาย ๆ ท่าน ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งนั้น และยังคงเป็นบรรยากาศที่อบอุ่น เอื้อเฟื้อ เป็นกันเองเสมอ ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ได้พบกับบล๊อกเกอร์ที่เคยไม่เคยเจอตัวเป็น ๆ หลายท่าน เราพักกันที่นี่ครับ มีทั้งบ้านพักและกางเต้นท์ เลือกเอาได้เลยครับ ส่วนผมก็ได้เรือนนอน 1 ห้อง แต่ลูกชายคนเล็กอยากนอนเต้นท์ เลยกางให้ที่ชานนอกห้อง แต่พี่กิ๊ เข้าไปนอนแทนครับ ดีเหมือนกัน เพราะขนาดพี่เขานอนนอกห้องเสียงกรนยังดังเข้ามาถึงในห้อง รุ่งขึ้นผมตื่นตั้งแต่ตี 4 นอนไม่หลับ แต่ก็ต้องนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นแหละครับ เพราะไก่ปลุก มันมีไก่ของเจ้าหน้าที่ทำงานได้ดีมาก ตี 4 ขันล่ะ ไม่เคยถามเลยว่าคนจะหลับจะนอนอยากให้ขันหรือเปล่า อาหารเช้ามีข้าวต้มและอื่น ๆ อีกตามอัธยาศัย ทริปนี้เรามีพระสงฆ์เดินทางมาด้วยครับ คือพระโจ้ ที่เป็นบล๊อกเกอร์ Worry about you แต่ก่อนผมเคยเจอครั้งเดียวที่ ปลูกป่าชายเลนบางขุนไทร แล้วหลังจากนั้นได้ข่าวว่าท่านออกบวช เพิ่งได้เจอท่านครั้งนี้ในภาพที่ไม่ใช่ฆารวาส กราบนมัสการมาด้วยความเคารพครับ เมื่อวานทีมของผมใส่เสื้อ บีจี แบรนด์ KRATAI (กระต่าย) นี่โฆษณาให้เต็มที่ฟรี ๆ เลยนะครับ บ่ายใส่เสื้อทีมของกิจกรรม เช้าวันอาทิตย์ใส่เสื้อต้าน EHIA เขื่อนแม่วงศ์ อ่านว่า อี เฮช ไอ เอ นะครับอย่าไปอ่าน “อีเฮีย” นะครับ หลาย ๆ คนพอเห็นผมใส่เสื้อนี้แล้วก็สอบถามกันมาว่าซื้อที่ไหน ตอบกันตรงนี้ครับ พี่บอย ตากล้องเนชั่น อนุเคราะห์มา น่าจะซื้อจากมูลนิธิสืบ นาคเสถียรครับ ตัวละ 200 บาท ถามไถ่กันมามากครับ ผมก็ต้องจัดหาให้ต่อไป และการบ้านอีกอย่างหนึ่งคือ มีคนอยากให้ผมช่วยเขียนบทความเรื่อง เขื่อนแม่วงศ์ กรุณารอสัก 2-3 วันนะครับ เดี๋ยวจะไปค้นข้อมูมาให จะได้ไม่ต้องอ่าน “อีเฮีย” กันอีกครับ วันนี้เรามีกิจกรรมไปดูซากดึกดำบรรพ์ที่ทับกระดาน ในเวลา 9 โมง ซึ่งต้องขึ้นเหนือไปอีกราว 20 กม. เมื่อไปถึง เราก็ลงใต้มาอีก ราว 22 กม. จะฮากันไปไหนครับพี่น้อง คือ จุดที่พบ ฟอสซิล 300 ล้านปีนั้นมันอยู่ใกล้ ๆ กับที่พักของเรานี่เอง แต่การประสานงานอาจจะสับสนเล็กน้อย เราเลยต้องขับรถย้อนกลับไปกลับมา สิ้นเปลืองพลังงานเป็นอย่างยิ่ง แต่เราก็ยังได้เห็นความตั้งใจของเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีนะครับ ที่แนะนำให้ความรู้เรา และได้เห็นฟอสซิล จริง ๆ ด้วย แต่เนื่องจากว่า เราต้องกลับไปรับประทานข้าวเที่ยวที่ทับกระดานอีก และเอารถข้ามแพขนานยนต์ไปยังน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งทำให้ผมต้องขอสละสิทธิ์การเดินทางดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะกลับมืดค่ำเกินไป จึงมุ่งหน้ากลับกาญจนบุรี และถึงบ้านราว บ่าย 2 โมง ทริปนี้ก็เป็นครั้งแรกที่พาเด็ก ๆ และครอบครัวไปด้วย สนุกสนานกันไปครับ เอาไว้คราวหน้าจะไปเที่ยวน้ำตกแถวนั้น เพราะสมาชิกในครอบครัวยังไม่เคยไปครับ ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ ขอบคุณอาสาสมัครทุก ๆ ท่าน เจ้าหน้าที่ทุก ๆ ท่าน มา ณ โอกาสนี้ครับ เสื้อนี้เป็นเสื้อ แบรนต์ KRATAI ของสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าสครับ จะเป็นเสื้อลำลอง ซึ่งเป็นสินค้าของสโมสร มีหลายอย่าง หลายแบบครับ เข้าไปดูได้ใน http://www.bangkokglassfc.com/ คลิกที่ Onlie Store นะครับ มีเนคไท ด้วยครับ หมายเลข 12 นี่เป็นภาษาของทางฟุตบอลเขาครับ มีความหมายว่า "แฟนคลับ" หรือ "กองเชียร์" นะครับ คือ ผู้เล่นมี 11 คนใช่ไหมครับ คนที่ 12 คือ กองเชียร์ครับ ไม่ได้ติดไว้ให้เท่ ๆ หรืองง ๆ กันไปนะครับ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |