ถามกันให้แซด! ว่า สตรีชั้นสูง 2 คน  กับ 1 บุรุษ ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์  เปิดประเด็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งมาเจรจาให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย คือใคร?

แมงเมาธ์จึงโฟกัสไปที่ ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล กรรมการมูลนิธิสายใจไทย ซึ่งมีความสนิทสนมกับ ทักษิณ ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธทันทีว่า ถึงแม้จะเคยเดินทางไปพบทักษิณที่ดูไบหลายครั้ง แต่ไม่เคยรับงานอดีตนายกฯ มาเจรจา ส่วนอีกคนว่ากันว่าเป็น "ม.ล." เคยแสดงหนังฟอร์มใหญ่ ส่วนบุรุษอีกคนนั้นชื่อตัวย่อ "ส." อดีต รมต.ยุคทักษิณ ที่ใกล้ชิดชนชั้นสูง...๐

    ว่ากันว่าการเจรจาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยมีเงื่อนไขบางประการที่จะเปิดทางให้ทักษิณกลับประเทศ แต่พอหลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลาย ทักษิณก็เล่นแง่บิดพลิ้ว คิดว่าตัวเองมีอำนาจแล้วจะเอาทุกอย่างทั้งพ้นผิดและได้เงินคืนทั้งหมด พอช่วงจะดันร่าง  พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภาฯ แต่ถูกขัดขวางจากกลุ่มพันธมิตรฯ จึงเจรจาอีกครั้ง โดยสตรีชั้นสูง ก็หวังว่าคนของตัวเองจะได้ดีมีตำแหน่งในรัฐบาล ขณะที่ 1 บุรุษ  ก็ฝันไกลถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนกลาง แต่ทั้งหลายทั้งปวงเป็นการ "แอบอ้างข้างบน" ทั้งสิ้น โดยเฉพาะสตรีทั้ง 2 คน ก็ไม่มีเครดิตเหมือนแต่ก่อนแล้ว?...๐

    ในสมรภูมิรบหรือในเกมการเมืองฝ่ายใดขอเปิดโต๊ะเจรจาก่อน ถือว่าฝ่ายนั้นเพลี่ยงพล้ำ การที่ทักษิณเปิดเจรจาก่อนก็ย่อมถือว่าตัวเองกำลังจนตรอก แม้พรรคของตัวเองจะชนะเลือกตั้งมีน้องสาวเป็นนายกรัฐมนตรีกุมอำนาจรัฐ แต่ก็ไม่สามารถเนรมิตทุกอย่างได้ดังใจ

ส่วนที่บรรดาลูกสมุนทั้ง พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์, นพดล ปัทมะ, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, เฉลิม อยู่บำรุง ที่ดิ้นพล่านๆ ดาหน้าออกมาตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง ก็เพราะ "นายใหญ่" ไม่ได้ให้ราคาลิ่วล้อเหล่านี้ตามสไตล์ ซีอีโอ-ทุนสามานย์ ยึดเป้าหมายไม่สนใจวิธีการ แม้จะขู่ว่าสูตรนี้จะทำให้พรรคแตก เสี่ยแม้วก็ไม่ได้แคร์ ไม่งั้นคงไม่กล้าประกาศทิ้งเสื้อแดงให้เสียสละเพื่อตัวเองจะขับรถขึ้นเขา ทำเอามวลชนมึนตึ้บมาแล้ว...๐

    แต่สถานการณ์เวลานี้ไม่ว่า เสี่ยแม้ว จะเสนอสูตรไหนกับอำมาตย์ ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะธาตุแท้ของเสี่ยแม้วที่เอาแต่ได้โดยไม่สนใจความถูกต้องของบ้านเมือง เกินกว่าที่ใครจะปรองดองด้วย

แม้แต่ ส.ส.ในพรรคตัวเองก็ใช่ว่าอยากจะให้ พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภาฯ เพราะรู้ดีว่าจะเกิดการเผชิญหน้า หากเกิดอุบัติเหตุไม่มีสภาฯ แล้วตกงานไปก็ลำบาก ขุนค้อน-สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์  ประธานรัฐสภา คงเริ่มเข้าใจจึงรับเป็นเจ้าภาพประสานงานกับทุกฝ่ายเคลียร์ปม พ.ร.บ.ปรองดอง ก่อนเปิดสภาฯ เดือน ส.ค.นี้ หวังจะลดอุณหภูมิลงได้

แต่ใช่ว่าจะทำเพื่อทักษิณ แว่วว่าขุนค้อนสบถเสียงดัง "ทักษิณไม่ใช่พ่อผม พ่อผมชื่อสงวน"!!! นี่แหละสัจธรรมนักการเมืองที่ทักษิณยังรู้ฤทธ์น้อยไป...๐

ทั่นไม่แข็งในที่รโหฐาน(ในสภา)...แต่ลับหลัง(ทักษิณ)ทั่นก็แข็งนะคร้าาา...^_^

ขอบคุณข้อมูลจากไทยโพสต์