สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่

 “กฎหมายสายตรง”

กับชาญวิทย์ สีหตุลานนท์

เพื่อนแท้ของท่านครับ..

วันนี้ มาส่องกล้อง

สัญญาเช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัย

ตามประกาศคณะกรรมการ

ว่าด้วยสัญญา ฉบับวันที่

 12 กุมภาพันธ์ 2561

ที่กำหนดให้ธุรกิจให้เช่าอาคาร

เพื่ออยู่อาศัย

เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา

ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ

ซึ่งจะเริ่มใช้บังคับในวันที่

 1 พฤษภาคม 2561 นี้ครับ..

สาระสำคัญที่ต้องรู้  อย่างแรกเลย

สัญญาเช่าต้องมีข้อความเป็นภาษาไทย

ที่มองเห็น และอ่านได้อย่างชัดเจน

จะมีแต่ภาษาต่างด้าวล้วนๆ “ไม่ได้ครับ” !

และต้องทำสัญญาเช่า 2 ฉบับ

ผู้ให้เช่าและผู้เช่า ถือไว้ฝ่ายละฉบับ..

ถ้ามี “เงินประกัน”หรือ“ค่าเช่าล่วงหน้า”

ไม่ว่าจะเลี่ยงไปเรียกชื่อว่า เงินอะไรก็ตาม

ให้เรียกได้เพียง 1 เดือน !

และเมื่อสิ้นสุดสัญญาแล้ว "ต้องคืนทันที”

แต่ถ้าต้องตรวจสอบความเสียหายก่อน

ก็ให้คืนได้ภายใน 7 วันครับ..

งานนี้..

ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิริบเงินประกัน

หรือค่าเช่าล่วงหน้า “แม้แต่บาทเดียว” !

ผู้เช่าอาจบอกเลิกสัญญาเช่าได้ก่อนกำหนด

โดยมีหนังสือแจ้งล่วงหน้า 30 วัน..

แต่ผู้ให้เช่าจะยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดไม่ได้

ถึงแม้ผู้เช่ามีความประพฤติเกเร

หรือกระทำผิดสัญญา ”แบบเต็มใบ”ก็ตาม

ผู้ให้เช่าจะต้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้เช่า

ทำตามสัญญาภายใน 30 วันเสียก่อน

ถ้าผู้เช่าเพิกเฉย ไม่หือไม่อือ

ผู้ให้เช่าจึงจะยกเลิกสัญญาเช่าได้ครับ !

และเมื่ออยู่จนครบกำหนดสัญญาเช่าแล้ว

หากผู้เช่าคนเดิมขอเช่าต่ออีก

ผู้ให้เช่าจะฉวยโอกาสเรียก “เก๋าเจี๊ยะ”

“ค่าต่อสัญญา” จากผู้เช่าไม่ได้ครับ !

ถ้าประตู หน้าต่าง แอร์ มิเตอร์น้ำ-ไฟ

ชำรุด เสียหาย เสื่อมสภาพ ใช้ไม่ได้

ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้องซ่อมแซมให้ใช้ได้

หรือหามาเปลี่ยนให้ใหม่

เว้นแต่..ผู้เช่า หรือบริวารของผู้เช่า

มือไม้อยู่ไม่สุข

ทะลึ่งทำให้ทรัพย์สินเขาเสียหาย !

ส่วนค่าน้ำ,ค่าไฟ,ค่าเคเบิ้ลทีวี,ค่าบริการใดๆ

ผู้ให้เช่าเรียกเก็บจากผู้เช่าได้ตามจริงเท่านั้น

ไม่มีสิทธิใช้ลูกเขี้ยวบวกเพิ่ม “กินหัวคิว”

และก่อนจะเก็บเงินต้องแจ้งล่วงหน้า 7 วัน

ถ้าจะเข้าตรวจดูอาคารก็ต้องแจ้งก่อนทุกครั้ง !

แม้ผู้เช่าค้างค่าเช่า ค่าบริการ มากน้อยเพียงใด

ผู้ให้เช่าจะปิดกั้นไม่ให้ผู้เช่า เข้า-ออกอาคาร

ถือสิทธิความเป็นเจ้าของ เข้ายึดอาคารคืน

ยึดทรัพย์สิน หรือขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่า

ออกไปกองไว้ยังสถานที่อื่น โดยพลการไม่ได้

จะต้องใช้สิทธิทางศาล สถานเดียวครับ ! 

ข้อบ่งใช้ ที่ต้องจดจำ ! 

ประกาศคณะกรรมการฯฉบับนี้

ใช้เฉพาะกับผู้ประกอบธุรกิจ

ให้เช่าบ้าน ห้องพัก อาคารชุด

อพาร์ตเม้นท์หรือสถานที่พักอาศัย

ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างอื่นใดก็ตาม

ซึ่งมีจำนวนตั้งแต่ 5 ห้องขึ้นไป

ไม่ว่าจะอยู่ในอาคารเดียวกัน

หรือแยกอยู่หลายอาคารรวมกัน..

แต่ประกาศคณะกรรมการฯฉบับนี้

ไม่ใช้บังคับกับหอพัก

ตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก

และโรงแรม

ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมนะครับ..

”ผู้เช่า”ตามประกาศคณะกรรมการฯฉบับนี้

หมายถึงเฉพาะผู้เช่าบุคคลคนธรรมดา

ไม่รวมถึงบริษัทห้างร้านนิติบุคคลครับ !

ขอเตือนผู้ให้เช่าโปรดระวัง !

ถ้าผู้ให้เช่าฝ่าฝืนประกาศฉบับนี้

ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตาม ม.35 ทวิ,

ม.35 เบญจ, ม.35 อัฏฐ และม.57

พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522

มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี

หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

หรือทั้งจำทั้งปรับครับ !

สุดท้ายขออวยพรให้บรรดา

ผู้เช่า-ผู้ให้เช่าถ้อยทีถ้อยอาศัย

พึ่งพากันอย่างสุขสงบ

ด้วยความเป็นธรรม

ทุกห้อง ทุกอาคาร นะครับ !

 ***********************