*/
<< | ธันวาคม 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |
ความเดิม ฟ้าหม่น ใจหมอง คิดถึงแดดสีทองที่อียิปต์ บทนำ http://www.oknation.net/blog/March/2012/11/15/entry-1
ฟ้าหม่น ใจหมอง คิดถึงแดดสีทองที่อียิปต์ 1 อรุณรางสว่างแล้วที่ Luxor http://www.oknation.net/blog/March/2012/11/21/entry-1
ฟ้าหม่น ใจหมอง คิดถึงแดดสีทองที่อียิปต์ 2 น้ำจรดทรายที่Aswan http://www.oknation.net/blog/March/2012/11/29/entry-1
ฟ้าหม่น ใจหมอง คิดถึงแดดสีทองที่อียิปต์ 3 ข้าแต่ปวงเทวา จากวิหาร Abu Simbel ถึง ตลาดคนยาก http://www.oknation.net/blog/March/2012/12/11/entry-1
ฟ้าหม่น ใจหมอง คิดถึงแดดสีทองที่อียิปต์ 4 ฟ้าไม่เคยใสที่ Cairo http://www.oknation.net/blog/March/2012/12/17/entry-1
ทัวร์เยอรมันที่เน้นเนื้อหาทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมักจะปิดท้ายด้วยการพาลูกทัวร์ที่มีอาการหัวโต หูตูบด้วยข้อมูลและตัวเลขสารพัด ไปพักผ่อนนอนเล่นที่ริมทะเลแก้เครียดก่อนจะพากลับบ้าน ทัวร์ประเภทนี้มักจะมีระยะเวลาท่องเที่ยว 10-15 วันโดยประมาณ แม่มดอ่านรายการทัวร์เยอรมันที่มาเมืองไทยบ่อยๆ รายการมักจะคล้ายๆกันคือ เริ่มที่กรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว ล่องเรือในแม่น้ำลำคลอง แล้วเริ่มขึ้นเหนือ ไปอยุธยา สุโขทัย ลำปาง เชียงใหม่ กลับลงใต้ ผ่านกรุงเทพฯไปแวะตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่ราชบุรี ก่อนจะพาลูกทัวร์ไปปล่อยไว้ที่ชายหาดชะอำหรือหัวหินสัก 4-5 วันแล้วจึงพากันบินกลับเยอรมนี
ทัวร์อียิปต์ยาว 15 วันของเราก็มีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน หลังจากที่เราอิ่มเอมหรือหนักอึ้งกับข้อมูลทางด้านโบราณคดีของอียิปต์แล้วระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาพักผ่อนก่อนจะกลับไปสู้กับอากาศหนาวและงานหนักที่เยอรมนีต่อไป
จึงมีวันหนึ่ง หลังจากวันเวลาในไคโรที่เรานั่งรถบัสคันโตฝ่าทะเลทรายอาหรับของคาบสมุทรซีนาย (Sinai Peninsula) ไปยังเมืองตากอากาศฮูร์กาดา (Hurghada) ที่อยู่บนฝั่งทะเลแดง (The Red Sea Coast)
ในยุคที่ฟาโรห์เป็นผู้ปกครอง คาบสมุทรซีนายคือแหล่งแร่ทองคำ ทองแดงและ turquoise (ภาษาไทยเรียกว่าอะไรคะ ใครรู้ ช่วยบอกแม่มดที) ในปัจจุบัน ที่นี่คือแม่เหล็กทรงพลังที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลให้ไปเยือนอียิปต์ คนที่รักการผจญภัยต้องการไปลิ้มลองรสชาติของการท่องทะเลทรายและสัมผัสกับชีวิตเร่ร่อนของชนเผ่า Bedouin นักแสวงบุญชาวยิวและชาวคริสต์ต้องการไปเยี่ยมชมและคารวะสถานที่สำคัญทางศาสนาหลายแห่งซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในคัมภีร์ Bible แต่เราสองคนแม่ลูกเพียงแต่ต้องการไปหาแดดใสๆอุ่นๆที่ทะเลแดงซึ่งได้ชื่อว่ามีโลกใต้ทะเลที่งดงาม
อากาศที่แห้งแล้งและแสงแดดที่แผดกล้าตลอดทั้งปีทำให้ท้องฟ้าเหนือทะเลแดงใสกระจ่าง น้ำในทะเลแดงเป็นสีน้ำเงินสด พืชและสัตว์น้ำใต้ทะเลจึงมีโทนสีอบอุ่น แนวปะการังรูปทรงแปลกตาของที่นี่มีสีชมพูอ่อน เหลือง และแดง ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีเยียมทั้งสำหรับการดำน้ำลึก (Scuba) และระดับผิวน้ำ (Snorkel) เขาจึงเรียกที่นี่ว่าทะเลแดงไงคะ
ฮูร์กาดานั้นเดิมเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆที่เพิ่งจะเติบโตขึ้นมาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วง 20 ปีที่แล้วนี่เอง มองไปทางไหนในเวลานี้ เราจึงเห็นแต่โรงแรม โรงแรมและโรงแรมเป็นระยะทางยาวเหยียดไปตามฝั่งทะเลแดงไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร แต่เขาก็มีสิ่งที่ทำให้แม่มดต้องชื่นชม โรงแรมต่างๆในฮูร์กาดาล้วนแล้วแต่ได้รับการก่อสร้างให้มีความสูงเพียงไม่กี่ชั้นและส่วนใหญ่เน้นรูปแบบที่บ่งบอกถึงศิลปะและวัฒนธรรมของท้องถิ่น แม่มดคิดถึงเสียมราฐ เมื่อครั้งที่ไปเที่ยวนครวัดกับลูกเมื่อหลายปีก่อน เราพักโรงแรมในเครือของประเทศฝรั่งเศสที่สวยงามและให้การบริการเป็นเลิศ โรงแรมของเราสูงเพียง 2 ชั้น พนักงานเล่าให้ฟังว่ามีกฎหมายที่ห้ามมิให้โรงแรมมีความสูงเกินศาสนสถาน และเขาก็ปฏิบัติตามกฎหมายกัน ฟังแล้วแม่มดก็มีอาการรำลึกถึงความหลังครั้งที่ตัวเองเคยเป็นคนตัวเล็กๆในคณะทำงานเพื่อการศึกษาและวางแผนพัฒนาเมืองชายทะเลที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย แผนพัฒนาของเราชี้แนะว่า อาคารต่างๆที่อยู่ริมทะเลไม่ควรมีความสูงเกินระดับความสูงของยอดไม้ สิทธิและหน้าที่ของเราจำกัดอยู่แค่การเสนอแนะ เราไม่มีอำนาจควบคุมบังคับในทางปฏิบัติ แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ..... ไม่เอา ไม่เอา เราจะมาพักผ่อนที่ทะเลแดงกันนี่นา แม่มดเล่าเรื่องทะเลแดงต่อดีกว่านะคะ
ผู้คนที่นี่ไม่ได้ละเลยต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเลยค่ะ หรืออย่างน้อย เขาก็ฉลาดพอที่จะคิดเป็นว่า ทำไม ใครๆจึงพากันมาเที่ยวบ้านเมืองของเขา
องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อม Hurghada Environmental Protection and Conservation Association (HEPCA) ได้รับการก่อตั้งขึ้นมาในปี ค.ศ.1992 คือตั้งแต่เมื่อชุมชนแห่งนี้เริ่มพัฒนาตนเองเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชาวอียิปต์เขารู้จักล้อมคอกโดยไม่ต้องรอให้วัวหายเสียก่อน นี่แม่มดไม่ได้ว่าใครเลยนะคะ
โรงแรมริมฝั่งทะเลแดงที่เราพักมีความสูงเพียง 2 ชั้นและมีมาตรฐานเดียวกับรีสอร์ทชั้นดีในยุโรป พนักงานซึ่งมีหน้าที่ต้องพบปะกับแขกที่มาพักใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว แม่มดลองสัมภาษณ์ (ด้วยความอยากรู้อยากเห็น) ดูแล้ว ไม่มีใครเป็นชาวฮูร์กาดาเลย เกือบทุกคนมาจากไคโร (Cairo) และได้รับการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย พนักงานฝ่ายนันทนาการซึ่งมีหน้าที่จัดและดำเนินรายการด้านกีฬาและบันเทิงต่างๆ รวมทั้งดูแลผู้เข้าพักรุ่นเยาว์เป็นชาวยุโรปเสียด้วยซ้ำ อาหารในโรงแรมก็เป็นอาหารฝรั่งล้วนๆ ดังนั้น ถ้าจำกัดตัวเองอยู่แต่ภายในโรงแรมและทำเป็นลืมอากาศอุ่นสบายในฤดูหนาวกับท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มแบบที่ยุโรปมีให้เห็นเพียงปีละไม่กี่วันเสีย เราก็แทบจะไม่รู้สึกเลยว่ากำลังอยู่ในประเทศอียิปต์ สิ่งที่บ่งบอกความเป็นประเทศมุสลิมที่แม่มดพอจะมองเห็นได้คือ ชาวพื้นเมืองทุกคนที่ทำงานในโรงแรมเป็นผู้ชายและโรงแรมไม่เสิร์ฟอาหารใดๆที่มีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบ
ฮูร์กาดาเป็นสวรรค์ของกีฬาทางน้ำ (และทางอากาศ) เช่น gliding, windsurfing, parasailing, parachuting, water skiing แต่เราสองคนขี้เกียจจนตัวเป็นขน ใน 2 วันแรกที่ริมทะเลแดง แม่มดได้แต่นั่งๆนอนๆอ่านหนังสืออยู่ริมหาด แน่ะ ใครนินทาแม่มดเสียงดังเชียวว่า แน่ล่ะซิ ก็หล่อนว่ายน้ำไม่เป็นนี่ยะ ลูกชายว่ายน้ำเป็นค่ะ แต่เขาก็ไม่สนใจสระว่ายน้ำอันกว้างใหญ่ของโรงแรม ได้แต่ลงไปว่ายน้ำในทะเลอยู่บ้าง ทุกครั้งเขาจะต้องเดินลุยน้ำที่นิ่งสนิทออกไปจากชายหาดเป็นระยะทางหลายร้อยเมตรทีเดียว เพราะพื้นทะเลแดงเป็นที่เกือบราบที่ลาดลดระดับลงไปอย่างช้า....ช้ามาก จนเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับพวกวัยรุ่นใจร้อนเพราะเดินจนเหนื่อยแล้ว น้ำก็ยังสูงไม่ถึงเอวเสียที แต่แม่มดว่าชายหาดที่นี่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆนะคะ
ตอนบ่ายๆ คนหนุ่มสาวฝ่ายนันทนาการของโรงแรม (ซึ่งมีสิทธิ์ตื่นสาย เพราะต้องจัดรายการบันเทิงบนเวทีเพื่อให้ความสนุกสนานแก่แขกจนดึกดื่น) มาช่วยกันขึงตาข่ายบนชายหาดและจัดทีม valley ball ให้แขกได้แข่งขันกันเอาสนุก ขณะที่ผู้มาพักบางคนหลบร้อนไปเล่นบิลเลียดอยู่ภายในอาคาร แม่มดมักจะใช้เวลาช่วงนี้ที่แดดจัดมากไปขอใช้บริการ internet ฟรีของโรงแรมตรวจดู email และอ่านข่าวสารบ้านเมืองเพื่อติดตามว่าระหว่างที่เรามานอนตีพุงอยู่ริมทะเลแดงนี่ โลกภายนอกเขาได้เคลื่อนคล้อยไปถึงไหนกันแล้ว
2 วันสุดท้ายพอหายเหนื่อยแล้ว เราก็เริ่มหาอะไรสนุกๆทำ ลูกมดกับเด็กๆที่เป็นเพื่อนใหม่ซื้อทัวร์ออกทะเลไปดูปะการัง (snorkel diving) ส่วนแม่มดใช้บริการรถฟรีของโรงแรมเข้าเมืองเพื่อไปชมตลาด
พ่อลูกคู่นี้น่ารักจัง ไม่ทราบว่ายายหนูคนนี้กำลังต่อรองอะไรอยู่นะคะ แต่ดูหน้าคนเป็นพ่อซิ นางฟ้าตัวเล็กต้องได้สิ่งที่เธอต้องการแน่นอน แม่มดเคยเป็นลูกรักของพ่อมาก่อน รู้ดีเลย พ่อจะมาดื้อกับลูกสาวได้อย่างไร
ที่ Sindbad Village ทางตอนเหนือของตัวเมือง มีกิจกรรมสนุกๆให้คนรักทะเลที่ว่ายน้ำไม่เป็นทำมากมาย เช่น การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Aquarium) และพิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Marine Museum) มีเรือท้องกระจกให้ผู้คนได้ชมแนวปะการังโดยที่เท้าไม่ต้องแตะน้ำซึ่งน่าสนใจกว่าเรือท้องกระจกที่แม่มดเคยเห็นมาก่อน เพราะเป็นเรือสองชั้นที่ให้โอกาสลูกทัวร์ได้นั่งรับลมชมวิวทะเลไปจนถึงแนวปะการัง แล้วลูกทัวร์จึงจะย้ายที่นั่งลงไปชั้นล่างเพื่อชมฝูงปลาผ่านใต้ท้องเรือที่เป็นกระจกซึ่งอยู่ใต้น้ำลึกหลายเมตร แต่คนที่ถอดใจไม่ยอมเรียนว่ายน้ำอีกแล้วหลังจากที่เคยเรียนกับครูมาหลายคน และทุกคนล้มเหลวหมด (ก็ต้องเป็นคุณครูซิคะที่ล้มเหลว....เนอะ) อยากจะทำอะไรที่สะใจกว่านั้น จึงต้องตัดใจยอมกระเป๋าฉีก ซื้อตั๋วโดยสารเรือดำน้ำ(submarine tour) เพื่อไปท่องโลกใต้ทะเลลึกระดับ 25 เมตร แม่มดจะไปดำน้ำแล้วนะ แบบไม่ยอมให้เท้าเปียกด้วย เพื่อนๆไปกับเราไหมคะ ด้วยความที่ราคาค่าตั๋วทัวร์นี้ไม่ย่อมเยา บริษัททัวร์จึงส่งรถมารับเราถึงโรงแรม การจัดคนลงเรือเป็นไปอย่างเข้มงวดและรัดกุม และเพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่แนวปะการัง เราจึงต้องนั่งเรือออกไปไกลถึงโป๊ะขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางทะเลซึ่งเป็นจุดที่เราจะต้องเข้าคิวอีกครั้งเพื่อรอลงเรือดำน้ำ
ตอนที่ Submarines (ซึ่งไม่ yellow ไปทั้งลำเหมือนของหนุ่มเต่าทอง) ที่อยู่ใต้ทะเลทยอยกันลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำทีละลำนั้น แม่มดตื่นเต้นมากจนลูกชายหัวเราะ ยิ่งตอนที่นักประดาน้ำปีนขึ้นมายืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนเรือแถมโบกมือหยอยๆให้แฟนๆด้วยแล้ว แม่มดแทบจะรู้สึกว่าตัวเองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่งเลย
เรือดำน้ำอีกลำหนึ่งซึ่งดำลงลงไปใต้น้ำในเวลาใกล้เคียงกับลำของเรา
เรือดำน้ำของเรามีที่นั่งสองแถว ผู้โดยสารทุกคนต้องนั่งประจำที่ให้เรียบร้อยตรงที่นั่งและหน้าต่างของตน ห้ามลุกเดินวุ่นวายเป็นอันขาด ตอนเรือค่อยๆจมลงไปใต้ทะเลทีละนิดๆนั้น หัวใจของแม่มดเต้นตูมตามเชียวค่ะเพราะตรงหน้าที่นั่งคือหน้าปัดซึ่งมีตัวเลขบอกระดับความลึกที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาจนไปหยุดอยู่ที่ระดับ 25 เมตร ในการดำลงไปกับเรือดำน้ำแบบนี้ เราไม่มีโอกาสเห็นแนวปะการังเลยแต่บริษัททัวร์ก็มีวิธีเอาใจผู้โดยสารแบบที่ไม่ต้องทำลายสิ่งแวดล้อมโดยการให้นักประดาน้ำนำอาหารปลาไปโรยตรงหน้าต่างรอบๆเรือ ปลาเป็นฝูงๆก็พากันว่ายน้ำมากินอาหารให้เราได้ชื่นชม แค่นี้ คนที่ไม่มีปัญญาว่ายน้ำอย่างแม่มดก็พอใจแล้วค่ะ
เราใช้เวลาวันสุดท้ายเดินไปเที่ยวศูนย์การค้าทันสมัยใกล้ๆโรงแรมโดยไม่ได้ตั้งใจจะซื้อหาอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถือเป็นการเดินเล่นและชมเมืองเสียมากกว่า เพราะทางไปศูนย์การค้านั้นผ่านโรงแรมและสุเหร่าสวยๆมากมาย
แล้วพอถึงตอนค่ำๆเมื่อเดือนเต็มดวงลอยเลื่อนขึ้นมาเหนือขอบฟ้า เราก็เอ่ยลาทะเลแดงพร้อมทั้งพกพาความอิ่มเอมใจจากฟ้าใสและแสงแดดอุ่นกลับไปหุบเขาเทานุส.........ที่ซึ่งฟ้าสีหม่นและความหนาวเย็นยังคงรอคอยเราอยู่อย่างจงรักภักดี
Sail Away - Enya- Orinoco Flow
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |