เก่าๆเป็นสนิม ใหม่ๆหน้าตาจุ๋มจิ๋ม !?!

แม่มดหมายถึงปีเก่ากับปีใหม่น่ะค่ะ

พอเข้าเดือนธันวาฯ  ใครๆก็พากันใจจดใจจ่อรอปีใหม่  เออแน่ะ ไม่เกรงใจปีเก่าที่ยังนั่งหัวโด่อยู่บ้างเลย

แล้วปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงน่ะ รู้ตัวบ้างไหมว่าพอเวลาผ่านไปเพียง ๓๖๕ วัน คนเขาก็จะจุดประทัด จุดดอกไม้ไฟไล่ตัวเองไปเหมือนกัน

เวลาใกล้ปีใหม่ เห็นใครๆฉลองกัน แม่มดคิดอย่างขำๆแบบนี้ทุกที

สำหรับแม่มด เป็นเราต่างหากที่จะทำให้วันเวลามีความหมายพิเศษ ไม่ใช่ปฎิทินที่บอกวันเดือนปีค่ะ

คริสต์มาสในบ้านเมืองที่แม่มดมาอาศัยอยู่ชั่วคราวนี้เป็นขนบธรรมเนียมที่เคร่งขรึมค่ะ

เย็นวันที่ ๒๔ ธันวาคมเป็นวันของครอบครัว เขาให้ของขวัญและทานอาหารเย็นด้วยกันในตอนค่ำของวันนี้

วันที่ ๒๕ อันเป็นวันคริสต์มาสที่ ๑ และวันที่ ๒๖ ซึ่งเป็นวันคริสต์มาสที่ ๒ นั้นเป็นวันหยุด

คนที่เคร่งศาสนาก็อาจจะไปโบสถ์กันในช่วงเช้า แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะนั่งๆนอนๆพักผ่อนเงียบๆอยู่กับบ้าน

ตอนค่ำวันที่ ๒๕ ประธานาธิบดีจะมาคุยกับผู้คนถึงเรื่องอะไรต่ออะไรที่นักการเมืองเขาชอบพูดกันในวันเวลาดีๆแบบนี้ ชาวเยอรมันสนใจฟังท่านสักเท่าไร แม่มดไม่เคยศึกษาสถิติไว้

ที่ฉลองคริสต์มาสกันครึกครื้นใหญ่โตแบบที่เราคนไทยนึกถึงนั้นเป็นวัฒนธรรมอเมริกัน

ชาวเยอรมันจะฉลองด้วยการดื่มกิน เต้นรำ จุดดอกไม้ไฟ หรือเมาจนหัวทิ่มในคืนสุดท้ายของปีที่เขาเรียกว่า Silvester

โรงเรียนทุกแห่งปิดเทอมในช่วงเวลาระหว่างคริสต์มาสไปจนถึงหลังปีใหม่ อาจจะเป็นเวลา ๑ หรือ ๒ สัปดาห์แล้วแต่รัฐ

ช่วงนี้ ผู้ใหญ่มักจะใช้เวลาสบายๆอ่านหนังสือหรือเล่านิทานให้เด็กๆฟัง

แม่มดนับถือศาสนาพุทธแต่ก็มีเรื่องเล่าเหมือนกัน เรื่องจริงด้วย อยากฟังไหมคะ

หลังจากการเกิดสึนามิที่ทะเลบ้านเราและที่ทะเลเพื่อนบ้านเมื่อ ๘ ปีก่อน  โทรทัศน์ช่องหนึ่งในประเทศเยอรมนีจัดรายการพิเศษขึ้นเพื่อขอบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ครั้งนั้น ชาวเยอรมันพากันบริจาคเงินมากมาย นักจิตวิทยาสังคมวิเคราะห์ปรากฏการณ์นี้ว่า เป็นเพราะภัยธรรมชาติมาเกิดในเวลาที่เหมาะสม คือมาเกิดเอาตอนเทศกาลคริสต์มาสพอดี

ผู้คนอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการกระทำสิ่งที่ดีงามด้วยคริสต์มาสเป็นเทศกาลของความรักระหว่างมวลมนุษย์ เป็นเวลาที่สังคมอยู่ในอารมณ์ของความสงบและสันติ  ในอารมณ์นี้ ไม่ยากที่จะเป็นผู้ให้

ฟังดูก็เข้าเค้านะคะ

ที่แน่ๆคือในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ของปีนั้น แม่มดรู้สึกประทับใจในคน ๒ คนอย่างไม่ลืมเลือน

คนหนึ่งคือ Michael Schumacher นักแข่งรถแชมเปี้ยนโลก ๗ สมัยที่ชาวเยอรมันภาคภูมิใจนักหนา คุณ Michael บริจาคเงินเจ็ดล้านยูโรเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งๆที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้คนที่โชคร้ายเหล่านั้นเลย

แม่มดซึ่งไม่เคยสนใจการแข่งรถ ไม่เคยดูแม้แต่ข่าวกีฬา ได้รู้จักและรักคนดังคนนี้ในวันนั้นนั่นเอง

และแม่มดก็หลงรักผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งแม่มดจำไม่ได้แล้วว่าหน้าตาเป็นอย่างไร

ได้เห็นหน้าคุณคนนั้นในข่าวโทรทัศน์เพียงครั้งเดียวและนานประมาณ ๑ นาทีเท่านั้น

แม่มดจำได้เพียงว่า คุณเป็นกรรมกรก่อสร้างที่นักข่าวไปสัมภาษณ์ว่าจะฉลองปีใหม่อย่างไร ใช้เงินมากน้อยเท่าใด

คุณตอบว่า ตั้งใจจะใช้เงินสัก ๒๐ ยูโรไปซื้อดอกไม้ไฟมาจุดเล่นกับครอบครัว ไม่มีเงินสำหรับการเฉลิมฉลองมากกว่านี้ แต่ได้บริจาคเงินนั้นให้ผู้ประสบภัยสึนามิไปแล้ว ถือว่านี่เป็นการฉลองปีใหม่เหมือนกัน

คุณ Michael Schumacher กับคุณกรรมกรก่อสร้างคนนี้มีหัวใจดวงโตและอบอุ่นเท่าเทียมกัน

เงิน ๒๐ ยูโรมีคุณค่าไม่ต่างจากเงิน ๗ ล้านยูโร

นี่เป็นเรื่องราวที่แม่มดรำลึกถึงทุกครั้งเมื่อเทศกาลคริสต์มาสและวันปีใหม่ใกล้เข้ามา

ความจริงจะเป็นปีเก่าหรือปีใหม่ โลกก็สดใสและชีวิตมีคุณค่าปานกัน

ถ้าเรามองดูดีๆ รอบๆตัวเรามีสิ่งที่งดงามมากมาย

อาจเป็นสิ่งเล็กๆเก่าๆที่ธรรมดาเสียจนเราลืมมองทั้งๆที่ตาเห็น

ดูความงดงามของฤดูหนาวซิคะ

แล้วพอถึงเดือนมีนาคม ดอกไม้ก็เริ่มบาน เป็นวันเวลาของฤดูใบไม้ผลิ

ปลายเดือนมิถุนายน อากาศอบอุ่นเข้าไปถึงหัวใจเพราะใกล้เวลาที่แม่มดจะได้กลับบ้านสักเดือนหนึ่งเหมือนที่เคยทำมาทุกปีในฤดูร้อน

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูโปรดของแม่มด เป็นฤดูที่ดวงตะวันบอกลาผืนฟ้าและแผ่นดินอย่างงดงามจนต้องคิดถึงคำว่า bitter-sweet

สำหรับบ้านเรา แม่มดชอบฤดูฝน อะไรล่ะคะจะน่าตื่นใจเท่ากับฝนที่ตกลงมาเป็นสายๆตรงขอบฟ้า อะไรล่ะคะจะน่าเอ็นดูเท่ากับใบไม้สีเขียวชอุ่มที่มีหยดน้ำเกาะพร่างพราว

วันที่ฟ้าหม่นจนใจหมองก็มีค่ะ แต่แม่มดไม่บันทึกภาพไว้ ไม่ลืมว่าความทุกข์มีตัวตนแต่จะหมกมุ่นคร่ำครวญถึงไปทำไมให้เนิ่นนาน

 ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เราล้มได้ก็ลุกได้ ใช่ไหมคะ

May lost love return,

May happiness remain,

May all your dreams come true.

ขอให้เพื่อนๆชาวบางโอเคมีความสุขทุกวันค่ะ

ชีวิตนี้...งดงามนัก -  La vida es bella - Miguel Bosé y Noa