*/
<< | เมษายน 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |
แม่มดเป็นคนที่ชอบเดินทางคนเดียว เพราะไม่ชอบความวุ่นวายและไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรบกวนใคร ในยุค IT นี้ ข้อมูลการเดินทางแสนจะหาง่าย ไม่ต้องมีใครคอยนำทาง ลูกชายเป็นเด็กเล่นตัว จะไปเที่ยวเฉพาะสถานที่ที่เขาสนใจ แม้นไม่ใช่ เวลาแม่ชวน ก็จะถามกลับแบบนักการทูตว่า แม่จะให้ผมไปเป็นเพื่อนเหรอครับ แค่นี้ เราก็รู้กันว่านี่คือการตอบปฎิเสธ เพราะเราต่างก็รู้ใจและสมรรถนะของกันและกัน ลูกชายรู้ว่าแม่ไม่เคยต้องมี “เพื่อน” เวลาเดินทาง “อยู่บ้านคนเดียวได้นะ แม่ไม่อยู่ จะทำอะไรกินล่ะ” นั่นเป็นความกังวลเดียวที่แม่มดมี ลูกชายเพียงแต่ลากเสียงยาวเรียก “แม่คร้าบบบ” ซึ่งแปลได้ว่า ผมไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะครับ แม่ หลายๆเดือน แม่มดก็จะเกิดความรู้สึกอยากขับรถไกลๆสักที ครั้งนี้แม่มดกะว่าจะไปเที่ยวทางใต้แต่จะไปทางรัฐบาเด็น วูร์เท็มแบร์ก ( Baden Württemberg) ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี มีเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในเขตป่าดำที่แม่มดสนใจมานานแต่ไปไม่เคยถึง เมืองนี้ชื่อโดเนาเอชชิงเง็น (Donaueschingen) ตาน้ำที่ผุดขึ้นมาจากดินเป็นต้นธารของแม่น้ำดานูบอยู่ในเมืองนี้ พอคิดปุ๊บ แม่มดก็เช็คข้อมูลที่พักในเมืองนี้จาก Internet ปั๊บ เมืองนี้อยู่ห่างจากบ้านตั้ง ๓๓๖ กิโลเมตร แล้วแม่มดก็ไม่ชอบขี่ม้าชมเมือง เลยกะว่าจะขับรถสบายๆ ไปค้างที่เมืองเล็กจ้อยนี้สักคืน วันรุ่งขึ้นก็ค่อยๆขับรถกลับ อาจจะแวะทานข้าวกลางวันที่ชทุ้ทการ์ท (Stuttgart) นครหลวงของรัฐชื่อยาวอออกเสียงยากที่อยู่บนเส้นทางกลับบ้านและเดินเล่นสักสองสามชั่วโมง ปรากฏว่างานนี้ แม่มดอกหักอย่างแรง เพราะทางลงไปสู่ตาน้ำต้นกำเนิดดานูบนั้นถูกปิดกั้นทุกด้านเนื่องจากเทศบาลเมืองกำลังทำการสร้างทางเข้าใหม่เพื่อให้คนชราหรือผู้พิการที่ต้องใช้รถเข็นสามารถเข้าถึงตาน้ำได้ เจตนาน่ะดีอยู่หรอก คนแก่คนเฒ่าหรือคนพิการก็มีสิทธิ์เดินทางท่องเที่ยวเหมือนกัน แม่มดเข้าใจและเห็นด้วยแต่ทำไมไม่แจ้งไว้ที่ website ของเมืองล่ะคะ คุณขา งานนี้แม่สายบัวมีเคืองจริงๆ รูปนี้คือตาน้ำที่เจ้าเมือง Donaueschingen สร้างรั้วล้อมไว้ให้อย่างสวยงาม แม่มดลักไก่ถ่ายมาจากรูปที่เขาติดไว้เหนือจุดบูรณะ ของจริงน่ะ แม่มดได้แต่ชะแง้แลหาอยู่บนถนนเพราะเข้าไม่ถึง สาวที่ร้านขายข้าวฝรั่งบอกว่า ไว้มาใหม่ซิคะ อีกไม่กี่เดือนก็เสร็จแล้ว แม่มดได้แต่ถอนใจ ชีวิตไม่ง่ายถึงเพียงนั้นหรอก หนูจ๋า แม่มดใช้เวลาอยู่ในเมืองนี้เพียง ๒ ชั่วโมง ไม่นอนค้างด้วยเพราะโกรธแล้วจริงๆ แต่ที่นั่งเล่นริมน้ำสำหรับเด็กๆรูปมันฝรั่ง ซูกินีกับพริกหวานก็น่ารักดีนะคะ แม่มดกางแผนที่วางแผนใหม่อย่างรวดเร็ว เห็นไหมคะ เดินทางคนเดียวนี่แสนจะดี ไม่ต้องถาม ไม่ต้องเถียง อยากจะเปลี่ยนใจปุ๊บปั๊บก็ไม่มีคนโวยวายให้เสียอารมณ์ แม่มดขับรถย้อนกลับไปชทุ้ทการ์ททันที Miss Daisy ไม่ขัดใจแม่มดอยู่แล้ว เพื่อนๆยังจำเธอได้ใช่ไหมคะ Navigator เสียงสาวอังกฤษในรถของแม่มดไง เธอเป็นเพื่อนเดินทางที่ดีที่สุด แม้ว่าบางครั้ง พอโดนแม่มดสั่งมากๆเข้า เธอก็อาจจะเพี้ยนและหลงทางได้บ้างเหมือนกัน แม่มดไม่ชอบ Stuttgart เท่าไร เป็นเมืองที่หน้าตาพอดูได้เท่านั้น รถราก็ติดมากมายจนแม่มดงงเพราะเป็นวันอาทิตย์แท้ๆ กว่าจะเข้าไปถึงตัวเมืองชั้นในได้ ทั้งๆที่มี Miss Daisy คอยช่วย แม่มดก็หลงทางเสียเหนื่อย แต่สำหรับคนที่ชอบรถหรูๆ ชทุ้ทการ์ทเป็นบ้านของ Mercedes Benz และ Porsche เหมือนที่ München เป็นบ้านของ BMW ผู้มาเยือนที่สนใจสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์และโรงงานได้นะคะ แต่แม่มดไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไร ตัวเองไม่ได้ขับรถเยอรมันเสียด้วยซ้ำ คืนนั้นแม่มดนอนที่ชทุ้ทการ์ททั้งๆที่จะขับรถกลับบ้านก็ยังทัน แต่แม่มดอยากไปเที่ยวเมืองอื่นๆแถวนั้นในวันรุ่งขึ้น แม่มดเป็นคนโบราณ ไม่ใช้โทรศัพท์ฉลาดๆแพงๆแต่เรื่องนี้เล่นง่ายค่ะ แค่ใส่ชื่อโรงแรมที่มีสาขาอยู่ในเกือบทุกเมืองลงไป Miss Daisy ก็พาแม่มดไปถึงที่นอนจนได้ การเดินทางในบ้านเมืองที่โครงสร้างพื้นฐานดีเป็นเรื่องไม่ยากนะคะ ขอเพียงให้ใช้ภาษาเยอรมันหรือภาษาอังกฤษได้เท่านั้น ก่อนเข้านอน แม่มดเปิดตำราการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเยอรมนีที่เอาติดรถไปด้วย ๒ เล่มดูควบไปกับแผนที่ แล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปขับรถเล่นในเขตป่าดำตอนล่างที่เรียกว่าป่าดำตอนเหนือ งงไหมคะ ก็อยู่ทางเหนือแล้วจะเป็นตอนล่างได้อย่างไรล่ะ คืออย่างนี้ค่ะ ทางใต้สุดของป่าดำนั้นเป็นที่สูง เขาเลยเรียกป่าดำตอนบน แต่พอเราขับรถขึ้นไปทางทิศเหนือ พื้นที่ป่าจะลาดต่ำลงไปเรื่อยๆ ก็เลยกลายเป็นป่าดำตอนล่างไงคะ แม่มดจะพาเพื่อนๆไปเยี่ยมคุณ Hermann Hesse ที่เมืองคาล์ฟ ( Calw) ค่ะ ตอนไปเที่ยวเมืองนี้ แม่มดคิดถึงท่านพันธุ์สังหยดกับคุณปิ๋ว (PewSuparak) เป็นพิเศษ นักอ่านทั้งสองท่านนี้ต้องคุ้นเคยกับงานของคุณแฮร์มันน์แน่นอน เพื่อนๆเคยอ่านเรื่องสิทธารถะ (Siddhartha) ไหมคะ นวนิยายเรื่องนี้น่าจะเป็นงานของคุณแฮร์มันน์ที่คนไทยรู้จักดีที่สุด
คุณแฮร์มันน์ เฮสเสเกิดที่เมืองคาล์ฟค่ะ ชาวเมืองภาคภูมิใจในลูกชายคนนี้มาก งานเขียนของเธอจัดเป็นงานของนักเขียนชาวยุโรปที่ได้รับการแปลและอ่านมากที่สุดในศตวรรษที่ ๒๐ คุณแฮร์มันน์ได้รับทั้งรางวัลเกอเธ่และรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในค.ศ.๑๙๔๖ ค่ะ ตอนที่แม่มดเดินเก้ๆกังๆอยู่ในเมืองนั้น มีชาวเมืองถึง ๓ คนเข้ามาถามว่าเป็นญี่ปุ่นหรือจีนล่ะ จะไปชมบ้านเกิดหรือพิพิธภัณฑ์บ้าน Hermann Hesse ใช่ไหม มาซิ จะพาไป ช่างน่ารักกันจริงๆ แม่มดคุยกับเจ้าของบ้านใจดีเหล่านั้นได้ความว่า เมืองคาล์ฟนี้มีแขกมาเยือนจากญี่ปุ่นและจีนมากมายในปีหนึ่งๆแต่ไม่มีใครเคยเห็นคนไทยเลย !!! ใจแม่มดนั้นคิดว่าไม่แปลก วัฒนธรรมการอ่านวรรณกรรมสากลของเรายังเยาว์นัก แต่ปากก็ตอบไปอย่างรักษาหน้าบ้านเกิดเต็มที่ว่า คุณแฮร์มันน์ก็มีแฟนอยู่ในเมืองไทยไม่น้อยนะคะ บลา บลา บลา...... เมืองสุดท้ายที่แม่มดได้ไปเดินเล่นครั้งนี้คือ Baden Baden ค่ะ เมืองนี้เป็นเมืองที่ผู้คนพากันมาอาบน้ำแร่ตั้งแต่ยุคโรมัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ และพระราชโอรสหลายพระองค์ก็เคยเสด็จเมืองนี้นะคะ ถ้าเดินทางมาจากทิศเหนือ บาเดน บาเดนคือปากทางเข้าสู่เขตป่าดำ แม่มดเคยไปเมืองนี้หลายครั้ง ที่ชอบมากคือเมืองตากอากาศเพื่อการรักษาสุขภาพเช่นนี้มักจะมี Park สวย เพื่อนๆเห็นบ้านนกทีหน้าต่างไหมคะ เจ้าของเขาเตรียมไว้ให้เป็นที่พักพิงของนกในฤดูหนาวค่ะ คนนี้ แม่มดเจอเดินย้ายพุงอยู่ในสวน
และเพราะสวนสวย ต้นไม้งามนี่เอง แม่มดก็เลยโทรบอกลูกชายว่าไม่ต้องคอยทานข้าวเย็น แม่จะออกจากบาเดน บาเดนหลัง ๖ โมงและคงจะไปถึงบ้านประมาณ ๒ ทุ่ม แต่เอาเข้าจริงๆ แม่มดกลับไปถึงบ้านเอาเกือบ ๕ ทุ่ม แม่มดเพิ่งพ้นเมืองบาเดน บาเดนไปได้ไม่ถึง ๑๐ กิโลเมตรกระมังคะ ยังจะต้องขับรถอีก ๒ ชั่วโมงจึงจะถึงบ้าน กำลังฟังเพลง If I Loved You ไปพลาง คิดอะไรไปพลางเพลินๆเชียว ก็ได้ยินเสียงประหลาดๆและรถก็มีอาการประหลาดๆด้วย ยางแตกค่ะ ยางระเบิดขณะที่แม่มดกำลังขับรถไปบนทางด่วนด้วยความเร็วประมาณ ๑๔๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงและกำลังอยู่ในเลนซ้ายสุดที่เป็นช่องทางสำหรับรถที่ใช้ความเร็วสูง แต่แม่มดไม่ยักตกใจ อาจจะเพราะเป็นคนคิดช้า รู้สึกช้ากระมังคะ กว่าจะคิดได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี่อันตรายมากนะ แม่มดก็ประคองรถมาถึงช่องทางฉุกเฉินทางขวาสุดได้แล้ว พอเห็นว่ารถยางแตก ไปไหนไม่ได้แน่แล้ว อาการวิตกจริตจึงเกิดขึ้นเพราะแม่มดเป็นประเภทขับได้อย่างเดียว นอกนั้นทำอะไรไม่เป็นเลย (คุณชาลีไม่ต้องยิ้มหรอกค่ะ แบบแม่มดนี่ คุณชาลีเรียกว่าพวกความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด แม่มดรู้นะ) แม่มดต้องโทรเรียก ADAC หน่วยกู้ภัยเมื่อยานยนต์มีปัญหาให้มาช่วย กฎหมายบังคับให้รถทุกคันมียางสำรอง แม่มดก็รีบเปิดท้ายรถดู โอเค เรื่องนี้ไม่มีปัญหา และรถจะจอดบนอาวโทบาห์นไม่ได้นอกจากจะมีเหตุสุดวิสัยซึ่งแม่มดก็มีอยู่นี่แล้วไงล่ะ แล้วกฎหมายก็กำหนดอีกว่า พอจอดปุ๊บ เราต้องเอาสามเหลี่ยมสะท้อนแสงไปวางไว้ด้านหลังห่างจากรถไปประมาณ ๑๐๐ เมตรเพื่อเป็นการเตือนรถเลนขวาว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างถนนทันที ที่นี้ล่ะ ได้เรื่องเลยเพราะแม่มดไม่รู้ว่าสามเหลี่ยมเจ้ากรรมนั่นอยู่ที่ไหน ที่หลังรถนั้น กฎหมายบังคับให้เราจัดเตรียมสิ่งจำเป็นสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้สารพัดเช่นชุดปฐมพยาบาลที่เราจะต้องคอยเช็คว่าไม่มีสิ่งใดเสื่อมคุณภาพหรือหมดอายุ เราต้องมีเสื้อกั๊กสะท้อนแสงที่จะต้องสวมเมื่อรถมีปัญหาซึ่งแม่มดหาเจอและหยิบมาสวมทันที แต่ในกระเป๋าใบนี้ซึ่งมีภาพของสามเหลี่ยมกำกับอยู่กลับไม่มีเจ้าสามเหลี่ยมสะท้อนแสงนั่น ความจริงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องมากับรถตอนที่เราซื้อแต่ถ้าเกิดมีอะไรหายไป คนขับก็ไม่มีสิทธิ์อ้างว่าสูญหายหรืออะไรทั้งสิ้น ยิ่งถ้าไปบอกตำรวจทางหลวงว่า “หนูไม่รู้” ว่ามันอยู่ที่ไหน งานนี้สาหัสแน่นอน กฎหมายเยอรมันเรียกร้องให้ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม อะไรที่เตรียมได้ ศึกษาได้และเป็นหน้าที่แต่เราละเลยแม้ว่าจะไม่มีเจตนาร้าย เขาจะถือว่าเราขาดความรับผิดชอบ ไม่มีการให้อภัย แล้วเรื่องจะใช้เส้นสายหรือจ่ายใต้โต๊ะให้ตัวเองพ้นผิดนั้น แม่มดไม่เคยคิดจะทำ และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ในประเทศเยอรมนีด้วย แม่มดโทรเรียกศูนย์บริการ แจ้งว่าต้องการให้ส่งช่างมาเปลี่ยนยางรถ คนรับสายขอทราบตำแหน่งรถ เลขทะเบียน ชื่อเจ้าของ ชื่อคนขับ ฯลฯ พร้อมทั้งบอกว่าค่าบริการเปลี่ยนยางนี่ ๑๒๐ ยูโรนะ แม่มดตอบว่า รู้แล้วๆ ส่งคนมาเร็วๆเถอะ แล้วแม่มดก็คอย คอย คอย ด้วยความเครียด ภาวนาว่าอย่าให้ตำรวจทางหลวงโผล่มาตอนนี้เลย ก็แม่มดหาสามเหลี่ยมสะท้อนแสงไม่เจอนี่นา รถที่แล่นผ่านไปด้วยความเร็วสูงพากันเตือนด้วยการบีบแตรบ้าง ส่งสัญญาณไฟให้บ้าง สัก ๑๐ คันกระมังคะ เขาคงคิดว่าแม่มดลืมเอาสามเหลี่ยมออกมาวาง เวลาผ่านไปสักชั่วโมงหนึ่งเห็นจะได้ มืดแล้วนะคะ ตาคนที่ควรจะมาช่วยแม่มดเพิ่งโทรมาเช็คตำแหน่งที่รถจอดอยู่อีกครั้งหนึ่งแล้วยังมีหน้ามาถามย้ำอีกว่า รู้ใช่ไหมว่าต้องจ่ายตังค์ ๑๒๐ ยูโร แม่มดเลยเกิดอาการฉุนขาด แหวออกไปเต็มเสียงว่า “ฉันรู้แล้วๆ เงินน่ะฉันจ่ายได้ เมื่อไรคุณจะมาเสียที” แทนที่ตาคนนั้นจะตอบว่า “นี่คุณ คนที่ทำเรื่องซุ่มซ่ามบนทางด่วนไม่ได้มีคุณคนเดียวหรอกนะ ผมก็ต้องช่วยคนอื่นด้วยเหมือนกัน” เธอกลับตอบมาอย่างสงบว่า “ครับ เดี๋ยวเดียวครับ” แล้วเธอก็มาเมื่อฟ้ามืดสนิทแล้ว แม่มดแทบจะมองไม่เห็นว่าคุณช่างหน้าตาเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าสุภาพและนิ่งมาก เธอช่วยหาสามเหลี่ยมเจ้ากรรมนั่นจนเจอเมื่อแม่มดยืนกรานว่าจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันซุกอยู่ตรงไหนทั้งๆที่เธอบอกว่าไม่ต้องใช้แล้วเพราะรถของเธอมีไฟกระพริบสีเหลืองช่วยเตือนรถคันอื่นๆให้แล้ว ที่นี้ถึงตอนเปลี่ยนยาง รถแม่มดก็แสนดี การถอดยางออกจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษซึ่งควรจะติดมากับรถตอนซื้อ ซึ่งความจริง มันก็คงจะติดมานั่นแหละ แต่แม่มดไม่รู้ (อีกแล้ว) ว่ามันอยู่ที่ไหน คุณช่างบอกว่าถ้าไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้ ผมก็ถอดยางเส้นที่แตกออกไม่ได้ รถของคุณมีระบบป้องกันการขโมยยางที่รัดกุมมาก ฟังแล้ว แม่มดแทบจะร้องไห้ คุณช่างไม่พูดอะไร หันไปค้นกล่องเครี่องมือกุกกัก ได้เหล็กบางๆเล็กๆมาชิ้นหนึ่ง แล้วเธอก็ค่อยๆแงะตัวน็อตนิรภัยที่ล้อรถทีละนิดๆ ปากก็อธิบายว่า ถ้าผมถอดน็อตตัวนี้ไม่ได้ เราต้องโทรให้ศูนย์ฯ ส่งรถปั้นจั่นมายกรถของคุณไปเก็บไว้ที่อู่ พรุ่งนี้ช่างของอู่คุณเขาก็จะจัดการเปลี่ยนยางให้ได้ แต่คืนนี้คุณคงต้องหาที่พักแถวนี้แล้วล่ะ แต่เธอถอดน็อตตัวนั้นได้ แม่มดเฝ้าดูเธอทำงานเงียบๆ อดถามไม่ได้ว่าเวลารถยางแตก ผู้หญิงคนอื่นเขาทำอย่างไร คุณช่างตอบด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆว่า ผู้หญิงที่เปลี่ยนยางรถเป็นก็มี ถ้าคุณหัด คุณก็จะทำได้เหมือนกัน แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เราไม่จำเป็นต้องทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างนี่นา ผมว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่คุณทำได้ดีแน่ๆ ใช่ไหมครับ เอ้อ.....แม่มดอึกอัก......ตอนคุณโทรมา ฉันหยาบคายกับคุณมาก ฉันเสียใจจริงๆ ขอโทษนะคะ Es tut mir sehr leid…..I am so sorry ! คุณช่างตอบด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆเหมือนเดิมว่า “คุณเพียงแต่เสียขวัญเท่านั้นเอง” เธอเขียนใบรับให้หลังจากที่แม่มดจ่ายเงิน ๑๒๐ ยูโร แต่เธอไม่ได้ขับรถกลับไปทันที เธออธิบายต่อว่า ยางฉุกเฉินไม่ใช่ยางที่คุณจะใช้ประจำนะครับ กับยางดอกนี้ คุณจะขับรถเร็วกว่า ๑๓๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงไม่ได้ และคุณจะต้องไปที่อู่ของคุณ ให้เขาใส่ยางคู่หน้าให้ใหม่ ยางฉุกเฉินจะต้องกลับไปอยู่ที่หลังรถตามเดิม คุณควรจะไปที่อู่พรุ่งนี้เลย จะได้ไม่ลืม ตอนนี้มืดแล้วและรถบรรทุกก็เยอะมาก คุณอาจจะเข้าไปที่ช่องทางรถปกติได้ยากสักหน่อย ทำใจดีๆไว้ คุณค่อยๆแล่นไปบนเลนฉุกเฉินช้าๆ ผมจะขับตามหลังเป็นพี่เลี้ยงให้ พอผมเปลี่ยนเข้าเลนปกติได้ คุณเปลี่ยนเลนตามทันทีนะครับ จากนั้น คุณช่างของ ADAC ก็ยังขับรถตามหลังเป็นกันชนให้แม่มดต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนใกล้จะถึงทางแยกออกจากอาวโทบาห์น แม่มดจึงยกมือขวาขึ้นซึ่งเป็นสัญญาณที่ชาวเยอรมันใช้สื่อสารกับคนขับรถคันหลังเพื่อจะบอกขอบคุณหรือขอโทษ สำหรับแม่มด สัญญาณมือครั้งนี้มีความหมายทั้งสองอย่างพร้อมกัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นมากมาย คล้ายๆ Guardian Angel ประจำตัวพยายามจะเตือนแม่มดว่า ชีวิตของเธออยู่ในช่วงของความเปลี่ยนแปลง หนักแน่นมั่นคงและรอบคอบกับชีวิตอีกสักนิดจะดีไหม
Melody Richard Rogers Lyrics Oscar Hammerstein Vocalist Julie Andrews |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |