*/
<< | เมษายน 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
คนเราจะรู้จักตัวเองได้ดีแค่ไหนหนอ.....
กระทู้ คนเขียนหนังสือ ของคุณ Anacarika ที่อ่านมาเมื่อวานทำให้แม่มดต้องอมยิ้ม เธอไม่รู้ตัวมาก่อนว่าสามารถเขียนหนังสือให้ ผู้คนติดตามได้ .....ก็แน่ล่ะ ใครจะสามารถหยั่งรู้
ทั้งๆที่รสนิยมและพรสวรรค์เป็นสิ่งที่ธรรมชาติตั้งโปรแกรมล่วงหน้าไว้ในความเป็นเราตั้งแต่ก่อนเกิด....คุณหมอเด็กชาว เยอรมันที่เคยดูแลลูกชายในวัยเยาว์กล่าวไว้เช่นนั้น ความชอบ ความชังและความสามารถพิเศษจะปรากฏเป็นรูปธรรมหรือไม่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือสถานการณ์ที่เป็นตัวเร่งเร้าให้คนเรา แสดงตัวตนที่ซุกซ่อนอยู่ภายในออกมา
แม่มดเคยงุนงงกับนิสัยการกินของลูกชายและหลานที่ดูเหมือนจะยืนยันทฤษฎีของคุณหมอเด็กชาวเยอรมันที่ว่ารสนิยมนั้นเป็นเรื่อง pre-programmed
หลานชายที่เกิดก่อนลูกชายเพียง ๗ เดือนถือกำเนิดในครอบครัวไทยภาคกลางที่มีความเป็น”ไทยแท้แต่โบราณ” สูงลิ่ว หลานคุ้นเคย กับอาหารไทยแบบต้นตำรับมาตั้งแต่เกิดแต่ปฏิเสธรสชาติเข้มข้นของเครื่องแกงและกะทิในขณะที่หลงใหลอาหารตะวันตกทันทีที่ได้ ลองลิ้มในครั้งแรก
สิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวของแม่มดเมื่อเรายังอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนีและลูกชายเพิ่งมีอายุไม่ถึง ๓ ขวบนั้นตรงกันข้าม ในวัยนั้น แม่มดยังเตรียมอาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีรสอ่อนกลมกล่อมให้ลูกในขณะที่ผู้ใหญ่ทานอาหารไทยเกือบทุกมื้อ วันหนึ่ง ลูกชายมองดูแกงไก่ใส่หน่อไม้ตรงหน้าแม่แล้วถามด้วยความอยากรู้ว่าแม่ทานอะไร ขอชิมหน่อยได้ไหม แม่มดใช้ปลายช้อน แตะน้ำแกงเพียงไม่กี่หยดให้ลูกลอง ใจคิดว่าเพียงปลายลิ้นแตะรสแกง ลูกก็คงจะถอยหนี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา ลูกชายไม่ยอมทานอาหารเด็กรสชาติชืดชาอีกเลย
เด็กชายเล็กๆ ๒ คนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเพราะมีตาทวดยายทวดคนเดียวกันจึงมีเรื่องน่าพิศวงให้ผู้ใหญ่ได้เล่าขานกันในครอบครัว เพราะ ลูกผู้พี่ที่เกิดและเติบโตในเมืองไทยชอบอาหารรสอ่อนอย่างอาหารฝรั่งหรืออาหารญี่ปุ่นเป็นที่สุด ในขณะที่ลูกผู้น้องที่เกิดและเติบโต ในยุโรปตะวันตกทานเผ็ดยิ่งกว่าแม่ซึ่งเป็นไทยเสีย ๓ ส่วน ผสมจีน ๑ ส่วน ทุกวันนี้ หนุ่มน้อยทั้งสองมีประสบการณ์กับอาหารหลากหลายจนกลายเป็นคนทานง่าย คือทานได้เกือบทุกอย่างแต่นายลูกมดซึ่งเป็น Eurasian ยังคงชอบอาหารรสเข้มขณะที่ลูกผู้พี่ที่เป็นไทยแท้ๆยังเลือกทานอาหารรสจืดถ้าเลือกได้ งานนี้ สิ่งแวดล้อมที่เราคาดเดาว่าน่าจะมีอิทธิพลแทบจะไม่มีส่วนกำหนดเลย
ความสามารถพิเศษเป็นสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเรามาตั้งแต่ก่อนเกิดเช่นกันและเป็นสิ่งที่แม้แต่เจ้าตัวก็อาจจะไม่รู้ คุณหมอ เยอรมันท่านนี้ว่าไว้เช่นนั้น แต่การฝึกฝนด้วยวินัยและใจรักช่วยได้ระดับหนึ่งหากเรารู้จักตัวเองดีพอว่าเราต้องการสิ่งใด
แม่มดนึกถึงตัวเอง......แม่มดเป็นคนเขียนหนังสือไหมหนอ.....ก็เขียนล่ะนะ ถ้าผู้อ่านไม่คาดหวังสาระมากมาย การเล่นสนุกกับภาษาของแม่มดพัฒนามาได้อย่างไร เป็นอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมหรือแม่มดถูก pre-programmed
แม่มดเขียนกลอนแลกค่าขนมเล็กๆน้อยๆมาตั้งแต่เป็นนักเรียนปีแรกของชั้นมัธยมต้น นิตยสารชัยพฤกษ์ที่เริ่มพิมพ์จำหน่ายมาก่อน แม่มดเกิดเป็นแหล่งระบายความเพ้อฝันของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งหลายครั้ง หนังสือรุ่นของโรงเรียนตอนจบชั้นมัธยมปลายมี บทกลอนของแม่มดตีพิมพ์และแม่มดเป็นนักกลอนคนหนึ่งในทีมกลอนน้องใหม่ของคณะซึ่งเป็นทีมกลอนชนะเลิศของมหาวิทยาลัย ในปีนั้น
ใครจะคาดคิดว่าจากนั้น แม่มดจะทิ้งงานร้อยกรองโดยสิ้นเชิง จุดอิ่มตัวมาถึงตั้งแต่เมื่อไร ใครจะหยั่งรู้..... ก็แม่มดเองยังไม่เคยคิดมาก่อนเลย
การแข่งกลอนน้องใหม่เป็นครั้งสุดท้ายที่แม่มดเขียนร้อยกรอง ความสนใจในงานวรรณกรรมของแม่มดหันเหไปหางานร้อยแก้วอย่าง เฉียบพลันแต่ไม่ใช่ในฐานะผู้อ่านธรรมดา....ก็แม่มดอ่านนิยายในนิตยสารรายเดือน รายสัปดาห์มาตั้งแต่เป็นนักเรียนปีแรกๆของชั้น ประถมต้นแล้ว แม่มดพบความท้าทายในการอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์ วรรณกรรมวิจารณ์เป็นสาขาวิชาที่ แม่มดเลือกเรียนอย่างลงลึก
งานร้อยกรองกลายเป็นอดีตที่ผ่านเลย แม้จะทิ้งร่องรอยชัดเจนไว้ในงานเขียนทุกชิ้นตรงการเลือกสรรถ้อยคำที่แม่มดถูกฝึกมาจนเข้า ฝักเมื่อครั้งที่ยังสนุกอยู่กับการเขียนกลอน นอกจากการเขียนวิจารณ์หนังสือ บทละคร ภาพยนตร์และการทำงานแปลส่งอาจารย์แล้ว ในช่วงเวลานั้น แม่มดไม่เคยสนใจที่จะ เขียนงานประเภทใดจากความรู้สึกของตัวเองเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าอารมณ์ฝันเหือดหายไปไหนหมด
จนวันหนึ่ง มีเหตุที่ทำให้แม่มดต้องเขียนบทความเพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้เพื่อนคนหนึ่งโดยมีข้อแม้ว่า แม่มดจะ ต้องมีสิทธิ์เขียนอย่างที่ตัวเองอยากเขียน ทั้งๆที่ตอนนั้น แม่มดก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากเขียนอะไรและจะเขียนอย่างไร การเขียนในลักษณะของ story telling เกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ ดำเนินไปอย่างลื่นไหลและราบรื่นจนแม้แต่คนเขียนเองก็แปลก ใจ เหมือนมิใช่เพียงการสำรวจสถานที่แห่งหนึ่งในเชิงวัฒนธรรม งานชิ้นนั้นกลายเป็นการค้นพบและการทำความรู้จักกับบางแง่มุมในตัว ตนของตนเอง
บทความชิ้นนั้นได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารฉบับหนึ่งและได้รับเสียงสะท้อนกลับทั้งจากบรรณาธิการและผู้อ่านอย่างน่าชื่น ใจ......บทความ เรื่องเล่าและหนังสือเล่มอื่นๆจึงตามมา
บางสิ่งบางอย่างในตัวตน....เหมือนจะรู้แต่รางเลือน เหมือนจะใช่แต่มิใช่ บางสิ่งบางอย่างเหมือนความแปลกใหม่ กลับอยู่ในตัวตนแต่แรกมา
ERNESTO CORTAZAR - SECRETS OF MY HEART |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |