*/
<< | เมษายน 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
การพบและการจากพราก....เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้โดยอะไรสักอย่างหรือโดยใครสักคนที่มีอำนาจเหนือชะตาของผู้คน หรือเป็นเพียงความบังเอิญโดยแท้ ไม่มีที่มาที่ไป.....แม่มดไม่อาจหยั่งรู้ แม่มดรู้แต่ว่าทุกอย่างมีเวลาของมันที่คนธรรมดาอย่างเราไม่อาจควบคุมบังคับ
วันหนึ่งญาติผู้พี่ชวนแม่มดไปงานชุมนุมศิษย์เก่าของโรงเรียนที่เธอเคยเป็นศิษย์ครั้งที่อยู่ชั้นประถมต้นด้วยเกรงว่าเธออาจจะไม่รู้จัก ใครในงานเลย แล้วแม่มดเป็นคนที่ไม่ขัดใจคนที่รักใคร่ใยดีหากพอจะตามใจกันได้ จึงตามไปเป็นเพื่อนเธอแต่โดยดี
ใครจะคิดว่า ของรักที่หายลับจะกลับคืน....อย่างง่ายดายอะไรเช่นนั้น
ในงานสังสรรค์ที่แม่มดควรจะเป็นคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง แม่มดได้พบเพื่อนที่เคยรักนักหนาตอนเรียนชั้นมัธยมต้นในโรงเรียนสตรี ประจำจังหวัดราชบุรี แม่มดเป็นนักเรียนที่เรียนดีมากและมีความประพฤติเรียบร้อย....นั่นเป็นข้อความที่ปรากฏในรายงานการเรียนจากคุณครูประจำชั้นที่เคย สอนแม่มดในทุกระดับ แต่คนใกล้ชิดรู้ว่าในวัยนั้น แม่มดเป็นเด็กใจร้อน ดื้อรั้น บ่อน้ำตาตื้นและเอาแต่ใจตัวเองเพียงใด เพื่อนคนหนึ่งรู้และยอมรับ ตัวตนของแม่มดเช่นนั้นแต่ไม่วายพยายามช่วยกล่อมเกลาให้ใจแม่มดเย็นลง
วันหนึ่งในชั่วโมงเรียนวิชาหัตกรรม แม่มดทำไหมไจหนึ่งพันกันยุ่งเหยิงจนดึงเส้นด้ายออกมาใช้งานไม่ได้ ด้วยความรู้สึกเหมือนถูก ขัดใจ แม่มดคว้ากรรไกรจะตัดด้ายปมใหญ่ให้ขาดลงเพียงเพื่อจะดึงไหมเส้นเดียวมาใช้งาน เพื่อนซึ่งเป็นคนพูดช้า เสียงเบาปราม แม่มดด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า อย่าเพิ่งตัด เราลองมาช่วยกันแก้ปมก่อน
จำได้ว่าเธอค่อยๆคลายปมของไหมไจนั้นด้วยกิริยาที่ไม่เร่งร้อน แม่มดนั่งดูเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย เพียงจับจ้องการเคลื่อนมือของเพื่อน ไม่วางตา อารมณ์โกรธเกรี้ยวค่อยๆจางลง เหมือนว่าการคลายตัวของปมด้ายจะสัมพัทธ์กับความรู้สึกผูกพันที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจของเด็กผู้หญิง ๒ คน เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดเวลาที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนั้น
แม่มดย้ายกลับกรุงเทพฯเพื่อเข้าเรียนชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนที่ตัวเองฝันใฝ่ เข้าเรียนต่อในคณะวิชาและมหาวิทยาลัยที่ตัวเองหมาย ปอง ทำงานแล้วกลับไปเรียนปริญญาโท ทำงานแล้วย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุผลทางครอบครัว เพื่อนรับทุนเป็นนักเรียนพยาบาล เรียนจบ แต่งงานกับหนุ่มพัทลุง ย้ายตามสามีลงไปอยู่สงขลาเป็นเวลา ๓๐ ปีจนสามีจากไป เพื่อน รู้จักและรักเมืองสงขลา.....น่าจะมากกว่าเมืองราด-รีและมีญาติมิตรฝ่ายสามีอยู่เต็มเมืองพัทลุง หลังจากเวลา ๒๔ ปี แม่มดย้ายกลับมาอยู่บ้านเกิด กลายเป็นปลา ๒ น้ำ คน ๒ ใจด้วยรักทั้งเมืองไทยและเยอรมนี ระหว่างเวลาหลายสิบปีที่ผ่านไป เราไม่เคยพบกันเลยและ....อย่างจริงใจ.....เราไม่เคยคิดถึงกันเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อเรามาพบกันอีกครั้งในงานคืนนั้น เหมือนว่าวันเวลาที่ผ่านไปเนิ่นนานจะไม่เคยมีตัวตน เรากลับไปเป็นเด็กผู้หญิง ๒ คนที่เคย ผูกพันและดูแลใส่ใจกันมา
ต้นเดือนเมษายน เพื่อนยืนคอยรับแม่มดอยู่ที่สถานีรถไฟของอำเภอหาดใหญ่ เพื่อนรับรู้แต่แรกว่าที่สงขลานั้น แม่มดต้องการไป ถ่าย (รูป) ซ่อมเพราะคราวที่คุณอ้วน ( BG KratenUan) พาเที่ยวเมื่อปีก่อน แม่มดไม่มีเวลาให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่เป็น คฤหาสน์จีนงดงาม แต่เป้าหมายหลัก นอกจากการนั่งคุยกับเพื่อนแบบต่อให้ไล่ ก็จะไม่เลิกแล้ว แม่มดต้องการไปถ่ายภาพยอ (ยักษ์) กับควายน้ำที่ทะเล น้อยซึ่งเพื่อนบอกว่าไม่ต้องกังวลใจ จะจัดโปรแกรมให้เอง
เพื่อนกลายเป็นสาวใต้ไปเต็มตัว ได้รับความรักมากมายจากญาติมิตรชาวสงขลากับพัทลุงและน้ำใจนั้นถูกส่งต่อมาให้แม่มด อย่างท่วมท้น ตลอดการเดินทางครั้งนี้ แม่มดเอ่ยคำว่า เกรงใจจัง บ่อยครั้งจนถูกเพื่อนดุ เธอว่าคนใต้เขาไม่ชอบฟังคำนี้นะ คุณครูหนูอุ๋มซึ่งสอนเด็กๆอยู่ในอำเภอระโนดเป็นเพื่อนสนิทของหนุ่มอ้น ลูกชายคนโตของเพื่อน เธอมาช่วยขับรถพา เพื่อนแม่ ท่องเที่ยวอยู่หลายวัน หนูอุ๋มเป็นสาวน้อยที่มีความคิดอ่านฉลาดเฉลียว แม่มดรู้สึกเอ็นดูเธอเกือบจะในทันทีที่ได้รู้จัก
เธอจะจอดรถทุกครั้งที่แม่มดมองออกไปเห็นอะไรแล้วอุทานว่า สวยจัง เพื่อนกับหนูอุ๋มมีความเห็นตรงกันว่าน้ำเสียงของแม่มดนั้นบ่ง บอกว่าความงดงามของสิ่งที่แม่มดเห็นด้วยตาได้รุกรานเข้าไปแล้วถึงหัวใจและใครจะเมินเฉยปล่อยให้แม่มดทำตาอาวรณ์อยู่ในรถได้ แต่มีแม่มดคนเดียวที่ฝ่าเปลวแดดออกไปเก็บภาพนกบ้าง ควายบ้าง คนอื่นๆนั่งคอยอยู่ในรถอย่างมีความสุขที่เห็นผู้มาเยือนสำราญใจ กับน้ำกับฟ้าอย่างไม่เกรงใจแดดลม เกาะหนูและเกาะแมวในวันฟ้าแจ่มเมื่อมองจากยอดเขาตังกวน ชาวสงขลา in trend มากมาย เห็นเพื่อนว่าเป็นอิทธิพลจากภาพยนตร์เกาหลีซึ่งแม่มดไม่เคยดู คุณอ้วนเคยพาแม่มดไปถ่ายภาพมังกรสงขลาริมลากูนในยามบ่ายมาแล้ว ครั้งนี้เพื่อนเลยพาแม่มดไปส่งมังกรเข้านอนในยามค่ำ แต่มังกรที่แม่มดบอก Goodnight เป็นหลานชายตัวจ้อยของเพื่อนที่มีชื่อเล่นว่านายมังกรเพราะเธอเกิดปีงูใหญ่ Little dragon คนนี้น่ารักขาดใจเหมือนนายลูกมดตอนอายุ ๒-๓ ขวบ ขนมอะไร แม่มดก็จำชื่อไม่ได้เสียแล้ว นุ่มๆ หวานอ่อนๆ แม่มดได้ชิมตอนเพื่อนพาไปเดินตลาด แล้วนี่ค่ะ ลูกหยีตอนที่ยังไม่ถูกคลุกกับน้ำตาลทรายและพริกกับเกลือ เปลือกสีม่วงหม่น สวยจัง แม่มดซื้อกลับมาราด-รีหนึ่งถุง คนขาย บอกว่าใช้แทนมะขามเปียกได้ แต่แม่มดเอาใส่ตะกร้าเล็กๆไว้แต่งบ้านซึ่งเป็นงานโปรด แล้วก็ใช้มะขามเปียกทำแกงส้มต่อไป ว่าวตัวเล็กๆล้อลมแรงที่ริมทะเล.....ด้านอ่าวไทยนะคะ เพื่อนๆคงจำได้ว่าสงขลาเป็นเมืองสองเล เรือกอแระกับหินเก้าเส้งที่หนูอุ๋มใจดีจอดรถให้แม่มดลงไปเก็บภาพ เธอรู้ค่ะว่าแม่มดจะเอามาฝากเพื่อนๆที่บางโอเค พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา สวยเหลือเกิน งามสง่าไม่แพ้ The Blue Mansion ของปีนังแต่เหมือนจะไม่ได้รับความสำคัญอย่าง เท่าเทียมกัน อาคารด้านในถูกทิ้งให้ทรุดโทรมน่าใจหาย พื้นกระดานบางส่วนผุพัง เจ้าหน้าที่เล่าว่าของบประมาณซ่อมแซมไปนาน แล้วแต่หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่ให้เงินมา เธอว่าถ้ามีนักท่องเที่ยวขาหักเพราะตกร่องกระดาน พิพิธภัณฑ์อาจจะได้รับเงินงบ ประมาณเร็วขึ้น.....งานนี้ แม่มดใจไม่ถึงค่ะ
แม่มดแปลกใจที่เห็นต้นตาลมากมายในจังหวัดสงขลา แถมยังได้ไปทานต้มส้มปลากระบอกตำรับพื้นเมืองที่ปรุงรสด้วยน้ำตาล โตนดเปรี้ยวซึ่งอร่อยมากที่อุทยานนกน้ำคูขุด เขาว่าของหวานตบท้ายมื้ออาหารรสชาติเผ็ดร้อนของชาวสงขลาก็ต้องเป็นลูกตาลลอย แก้วด้วยนะคะ แล้วเพื่อนก็พาไปกราบหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดที่วัดพะโคะ อำเภอสทิงพระ ท่านเคยบวชและเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่ วัดนี้ เพื่อนว่ามาเที่ยวใต้ต้องไปไหว้หลวงปู่ เมื่อแม่มดไม่มีโปรแกรมไปถึงวัดช้างไห้ ไปวัดพะโคะแทนก็แล้วกัน
หนูอุ๋มขับรถคล่องแคล่วแต่นุ่มนวลตามบุคลิกของเธอ แต่แม่มดสังเกตว่าชาวใต้มีสไตล์การขับรถที่เปรี้ยวจี๋ระดับที่มือพระกาฬของ เมืองราด-รีดูเชื่องไปเลยเชียว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงจะรู้มือกัน เราจึงได้เห็นป้ายเตือนเรื่องความเร็วแบบมันๆที่อ่านแล้วต้อง อมยิ้ม ป้ายประเภทนี้ที่ไหนๆ เขาก็จะเขียนตัวอักษรเรียบๆสีดำบนพื้นสีขาวว่า โปรดลดความเร็ว หรืออาจมีการให้เหตุผลประกอบทำนองว่า โค้งอันตราย ลดความเร็วแบบนั้นนะคะ แต่ที่สงขลาหรือที่พัทลุง แม่มดไม่แน่ใจ ป้ายเตือนอันหนึ่งมีขนาดใหญ่ สีแดงจ้า ประกาศคำสั่ง ด้วยอักษรตัวโต สั้นๆแต่เฉียบขาดได้ใจว่า ลดความเร็ว เดี๋ยวนี้ XD แต่ที่ธารน้ำแร่ร้อนมีป้ายติดไว้ตรงปากทางว่า แล้วมาหลาวนะ แม่มดถามหาคำแปล จึงรู้ว่าถึงคราวจะอ่อนหวาน คนใต้เขาก็ทำได้ ไม่เคอะเขิน แล้วมาหลาวนะ แปลว่า แล้วมาอีกนะ น้องปุกว่าคำตอบคือ ไม่พรื้อ หรือไม่เป็นไร แต่นั่นไม่ใช่คำตอบของแม่มด แบบที่ แม่มดอยากตอบ หนูอุ๋มว่า มาเล้ย มาหลาวค่ะ แปลเหมือนใจได้ความว่า มาค่ะ แล้วจะมาอีกนะคะ
น้องปุกเป็นน้องสาวของสามีเพื่อนมีลูกสาวชื่อหนูหยอยเป็นชาวพัทลุงแท้ๆ คุณครูหนูอุ๋มขับรถพาเราไปบ้านปากประเพื่อไปรับ น้องปุกซึ่งจะรับช่วงการพาแม่มดเที่ยวเมืองพัทลุงต่อ น้องปุกเริ่มงานมัคคุเทศก์จำเป็นที่วัดเขียนบางแก้วซึ่งน่าจะมีอายุเก่าแก่เกินกว่า ๑๐๐๐ ปี แล้วพาแม่มดไปเก็บภาพยอยักษ์ที่ไม่ใช่ ย ยักษ์เขี้ยวใหญ่แต่มีเส้นสายริ้วรอยน่าดู
บนสะพานเฉลิมพระเกียรติ์ ๘๐ พรรษายาว ๑๖ กิโลเมตรที่เชื่อมระหว่างอำเภอระโนดของจังหวัดสงขลากับอำเภอควนขนุนของจังหวัดพัทลุง หนูอุ๋มจอดรถให้แม่มดลงไปถ่ายภาพฝูงนกและควายน้ำที่หลายคนงงงวยว่าแม่มดเห็นงามที่ตรงไหน แต่เพื่อนว่าน้องปุกเตรียมโปรแกรมล่องเรือในทะเลน้อยไว้ให้แม่มดถ่ายภาพควายอีกหลายๆตัวตอนเช้าตรู่ :)
คืนนั้นเราพักที่อุทยานนกน้ำทะเลน้อยซึ่งมีบ้านอยู่สบายกลางบึงบัวไว้ให้คนเดินทางนอนฝันหวาน บรรยากาศโรแมนติกอย่างร้ายเลย นะคะ ขอบอก แม่มดดูนกน้ำเผื่อคุณโต้ง (BG สำรวจฟ้า )ที่ชวนเราไปทานข้าวมื้อบ่ายวันรุ่งขึ้น รู้สึกปลื้มมากมายที่สามารถถ่ายภาพนกกับใครๆเขา ได้เหมือนกัน
เรือที่น้องปุกจองไว้มารับเราล่องทะเลน้อยแต่เช้าตรู่ เพื่อนๆยกที่นั่งตรงหัวเรือให้แม่มดถ่ายภาพตะวันดวงโตที่ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจาก กลางน้ำ ความสงบยามเช้าที่อากาศสดเสียจนต้องถอนใจ สงสารคนเมืองที่คงไม่มีโอกาสหายใจได้เต็มปอดอย่างนี้บ่อยนัก ควายน้ำดำผุดดำว่ายอย่างเพลิดเพลินใจในแสงแดดอ่อน ชาวบ้านมาเก็บปลาที่ดักล่อไว้ในยามค่ำคืน
บึงบัวสายของทะเลน้อยให้อารมณ์ที่แตกต่างจากทะเลบัวแดงของเมืองอุดรฯโดยสิ้นเชิง เพื่อนๆหลายคนถามว่าที่ไหนสวยกว่า แม่มดว่าไม่ใช่สิ่งที่จะเปรียบเทียบกันได้ ทะเลบัวแดงที่อุดรธานีชวนให้คิดถึงภาพวาดสีน้ำ Water Lily ของ Monet แต่ทะเลน้อยให้ภาพของสรรพชีวิตในธรรมชาติอันดงามและอุดมสมบูรณ์ ปลาแดดเดียวจากปลาสดที่ชาวบ้านจับได้จากทะเลน้อย นมวัวของชาวพัทลุง แม่มดแปลกใจที่เห็นถังนมวัวของชาวบ้านวางอยู่ริมทาง รอให้รถของโรงงานมาเก็บนมไปบรรจุถุงจำหน่าย เป็นภาพที่เกือบจะเหมือน ที่เคยเห็นจากถนนชนบทในเทือกเขาแอลป์ แม่มดจึงขอเพื่อนลงไปถ่ายภาพ คุณคนขับรถเก็บนมก็สนใจใคร่รู้เหมือนกันว่าทำไม คนแปลกหน้าที่แล่งใต้ไม่ได้คนนี้สนใจถังนมนัก เธอทำหน้าเสียใจเมื่อรู้ว่าแม่มดอยู่ไกลถึงราชบุรีเพราะนมพัทลุงไปไม่ถึง แม่มดไม่ได้ บอกว่าเราก็มีฟาร์มโคนมหนองโพของเรา ได้แต่รู้สึกว่าเธอช่างมีน้ำใจ
วันก่อนกลับเป็นอีกหนึ่งวันสุดพิเศษ หนุ่มอ้น ลูกชายคนโตของเพื่อนหยุดงาน ๑ วัน มาขับรถพาสาวๆไปเที่ยวอุโมงค์เขา น้ำค้างในเขตอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาซึ่งเคยเป็นที่มั่นของกองกำลังที่เชื่อถือแนวทางสังคมนิยม สภาพที่อยู่อาศัยทั้งภายในและภายนอกอุโมงค์ทำให้ผู้มาเยือนสามารถจินตนาการถึงความยากเข็ญของคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ไม่ ยาก แต่แม่มดสะท้อนใจกับรอยสลักหินในส่วนลึกของอุโมงค์ที่บอกความในใจของใครคนหนึ่งด้วยภาษาง่ายๆเพียง ๒ คำ พันธนาการของชีวิตไม่สามารถทำลายความคิดฝันของผู้คน
แล้วหนุ่มอ้นก็ขับรถต่อไปอีก ๓๐ กิโลเมตรเพื่อพาเพื่อนแม่ไปทานข้าวหมกเจ้าอร่อย เมื่อรถเคลื่อนตัวอีกครั้ง ก่อนที่แม่มดจะรู้ตัว เราก็ไปถึงจังหวัดปัตตานี เพื่อนตั้งใจมั่นแต่ไม่เคยแพร่งพรายว่าจะพาแม่มดไปกราบหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ เธอเตรียมพระพิมพ์องค์เล็กๆกับคาถาสวดบูชาหลวง ปู่ทวดให้แม่มดเชิญกลับไปบูชาที่เมืองราชบุรี แม่มดได้สรงน้ำพระวันสงกรานต์ล่วงหน้าที่นี่
เพื่อน หนูอุ๋ม คุณอ้วนกับแม่มด พบกันที่เกาะยอเพื่อให้โอกาสแม่มดได้เลี้ยงอาหารค่ำเพื่อนสักมื้อก่อนแม่มดจะเดินทางกลับ ราชบุรี แม่มดขอให้คุณอ้วนเป็นคนสั่งอาหารให้ล่วงหน้า บอกไปด้วยว่าแม่มดชอบแกงเหลืองเพราะติดใจมาจากร้านแต้ที่คุณโต้งสั่งมา ให้ทานวันก่อน ลืมไปเสียสนิทว่าร้านโปรดของคุณโต้งเป็นร้านจีนและทำอาหารให้แขกของชาวสงขลาที่มาจากกรุงเทพฯเป็นส่วนใหญ่ รสชาติจึงถูกปรับให้ละมุนลงแล้วระดับหนึ่ง อาหารชาวเกาะยอนั้นเป็นรสใต้แท้ๆที่น้ำแกงเหลืองเพียงช้อนเดียวทำให้แม่มดถึงกับหลั่งน้ำตา ความคิดโยงไปหาการขับรถของคนใต้ แบบวัดใจผู้ร่วมใช้ถนนกับภาษาเฉียบขาดของป้ายจราจร ลดความเร็ว เดี๋ยวนี้ แต่บนฟ้ามีเดือนเต็มดวงแจ่มกระจ่าง สะท้อนเงาพราวพร่างบนผิวน้ำที่พลิ้วไหวไปตามแรงคลื่น สายลมเอื่อยอ่อนพัดมาบางเบา และ ตรงหน้าของแม่มดคือผู้คนที่เปี่ยมน้ำใจไมตรี
เหมือนว่าใครคนหนึ่งจะเอ่ยถ้อยวาจาอ่อนหวานแบบที่คนใต้ทำได้นวลละไม แล้วมาหลาวนะ แม่มดได้ยินเสียงตัวเองตอบกลับไปว่า ค่ะ มาเล้ยค่ะ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |