*/
<< | สิงหาคม 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |
วันหนึ่งเมื่อแม่มดรู้สึกอยากคิดถึงบ้านขึ้นมาบ้างสักนิดหนึ่ง แม่มดก็รู้ว่าถึงเวลาที่ควรจะจัดกระเป๋าเดินทาง และก้าวเดินออกไปจากความอบอุ่นและความมั่นคงของบ้านสักชั่วครู่ แม่มดยืนดูชั้นหนังสือในห้องทำงานอยู่อึดใจแล้วเลือกหยิบคู่มือท่องเที่ยวจังหวัดลำปางออกมาจากชั้น นำมาอ่านก่อนนอนอยู่ ๒ คืน ปรึกษาอากู๋ผู้รอบรู้อยู่หลายชั่วโมง แล้วก็ตัดสินใจจองที่พักในตัวเมืองลำปางที่อยู่ริมแม่น้ำวังไป ๓ คืน สั่งซื้อบัตรโดยสารจากสายการบินนกแอร์เพราะไม่ชอบวิธีจัดการกับค่าโดยสารแบบจุกจิก ซึ่งอาจจะทำให้ราคาตั๋วย่อมเยาลงสักบาทสองบาทแต่มีงานหยุมหยิมที่ต้องทำ และก่อให้เกิดความเครียดต่อไปอีก ๓ ชั่วโมงของสายการบินราคาประหยัดอีกเจ้าหนึ่ง
แม่มดส่งหลังไมค์ไปขอคำปรึกษาจากคุณทางแก้วถึงวิธีการเดินทางภายในตัวจังหวัด ด้วยเธอเขียนงานเกี่ยวกับวัดวาอารามในลำปางอยู่หลายบท คุณทางแก้วยืนยันว่าต้องใช้รถเพราะลำปางเป็นเมืองใหญ่และวัดต่างๆอยู่ห่างกันเกินกว่าจะเดินชมไหว แม่มดจึงเข้าไปดู website ของบริษัทรถเช่าเพื่อเปรียบเทียบราคาและบริการสำหรับเวลา ๔ วัน
แต่แม่มดจะเดินทางคนเดียวเพราะเบื่อผู้คนที่กลัวฟ้ากลัวฝนราวกับว่าเนื้อตัวทำด้วยหยดน้ำตาล ที่พร้อมจะหลอมละลายไปกับความเปียกความชื้น และด้วยนิสัยรอบคอบที่ฝึกตัวเองมาพร้อมกับความพึงพอใจในอิสรภาพแห่งการเดินทางตามลำพัง แม่มดก็หันซ้ายแลขวาหาคนที่น่าจะตอบคำถามสำคัญได้ นั่นคือ สำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวและไม่เคยเหยียบย่างไปเขลางค์นครมาก่อนเลย วิธีไหนน่าจะปลอดภัยกว่าระหว่างการเช่ารถขับเองคนเดียวกับการเช่ารถรับจ้างในท้องถิ่นที่มีคนขับให้ ในกรณีนี้มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลายอย่างตั้งแต่ความยากง่ายของเส้นทาง สภาพถนน นิสัยใจคอของผู้คน สิ่งอำนวยความสะดวกและความพร้อมของหน่วยงานที่คนต่างถิ่นอาจจะต้องพึ่งพาหากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น
แล้วคุณจิตราภรณ์ก็บังเอิ้นบังเอิญลุกขึ้นมาวางเรื่องเห็ดเผาะแบบไม่ดูฤกษ์ผานาทีว่ากำลังจะมีสัตว์ ๒ เท้าไปก่อกวน แม่มดนั้นเป็นแฟนคลับของบล็อกเธอแต่เธอไม่ได้แวะเวียนมาที่บล็อกแม่มดบ่อยนักและเราไม่เคยคุยกันเป็นส่วนตัวมาก่อนเลย แม่มดจึงส่งจดหมายน้อยไปหาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวโดยขออนุญาตถามข้อมูลเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น แม่มดย้ำไปว่าขอถามแค่นี้เพราะเธอเป็นผู้หญิงและเป็นคนในพื้นที่ แม่มดไม่ต้องการรบกวนเธอในเรื่องอื่นใดเลย
แต่คุณจุ๊บแจงซึ่งแม่มดเรียกขานในเวลาต่อมาว่าน้องแจงเป็นผู้มีเมตตา อาจจะด้วยความรู้สึกเวทนาแม่มดชราที่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหญิงมั่นอยู่ หลังจากที่เราพูดคุยจนรู้จักตัวตนของกันและกันแล้วระดับหนึ่ง แทนที่จะตอบคำถามของแม่มดอย่างสั้นๆง่ายๆ เธอได้ทำตัวให้ลำบากโดยการส่งเบอร์โทรศัพท์ทั้งของบริษัทรถเช่าที่น่าใช้ และของคุณบรรเจิด คนขับรถท้องถิ่นที่เพื่อนร่วมงานของเธอไว้วางใจมาให้ พร้อมทั้งอาสาที่จะรับส่งแม่มดระหว่างท่าอากาศยานลำปางและที่พักริมแม่น้ำวังที่แม่มดเลือกไว้ทั้งในวันที่แม่มดบินไปและบินกลับ แถมเธอยังลางานอีก ๑ วันเต็มเพื่อที่จะขับรถพาแม่มดไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆที่อยู่นอกเมืองด้วยตนเองอีกด้วย
พอลงจากเครื่องซึ่งดีเลย์ไปชั่วโมงกว่า น้องแจงก็พาแม่มดไปทานอาหารเช้ามื้อสายที่สถานีรถไฟลำปาง ก๋วยจั๊บน้ำข้นหน้าสถานีอร่อยมากนะคะ เกี๊ยวกุ้งในร้านใกล้ๆกันมีรสชาติใกล้เคียงกับพัวกี่ เจ้าโปรดของแม่มดที่ถนนพระอาทิตย์
ลำปางมีบ้านเรือนเก่าๆสวยๆมากมาย ย่านถนนรถไฟมีอาคารแถวหน้าตาชวนมองหลงเหลืออยู่หลายหลัง ตัวสถานีเองได้รับการออกแบบโดยวิศวกรชาวเยอรมันและเก่าแก่ถึง ๑๐๐ ปี ด้วยรถไฟสายเหนือเข้าเทียบชานชาลาแห่งนี้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๙
หลังจากอิ่มก๋วยจั๊บแล้ว น้องแจงก็พาแม่มดไปส่งยังที่พักแล้วเธอก็กลับไปทำงาน แต่ไม่ก่อนที่จะพาแม่มดไปชมสถานที่ใกล้ๆที่แม่มดน่าจะสนใจเดินถ่ายภาพ แม่มดเรียนรู้ภายหลังว่าน้องแจงเองเป็นช่างภาพที่มีสายตาเฉียบคมคนหนึ่ง
ที่พักของแม่มดตั้งอยู่ตรงปลายถนนตลาดเก่าหรือกาดกองต้าซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากของเมืองลำปาง แต่แม่มดเดินทางในวันธรรมดา ถนนตลาดเก่าจึงเงียบสงบ น่าเดินชมบ้านเรือนเก่าๆหลังโตๆที่ยังคงเค้าความงามอย่างชัดเจนแม้บางหลังจะค่อนข้างทรุดโทรม
วันที่ ๒ เป็นหัวใจสำหรับทริปลำปางของแม่มดเชียวค่ะ น้องแจงมารับแม่มดไปเยี่ยมศูนย์ฝึกลูกช้างขณะที่ฝนเริ่มโปรยปรายลงมา เที่ยวลำปางหนนี้ แม่มดเจอแต่ฝน ฝน ฝน ได้เห็นฟ้าลำปางแจ่มอยู่สัก ๓ ชั่วโมงในตลอดช่วงเวลา ๔ วันมังคะ วันแรก แม้ฝนจะไม่ตกแต่ฟ้าหม่นมัวทั้งวัน ภาพถ่ายเกือบทั้งหมดบ่งบอกว่าแม่มดเกือบจะไม่ได้วันเวลาที่ฟ้าโปร่งเลย แต่น่าแปลกที่ลำปางในความทรงจำของแม่มดช่างงดงามเหลือเกิน น้องแจงทักทายพลายโจโจ้ที่เธอรู้จักมาตั้งแต่อายุ ๓ ขวบอย่างรักใคร่ เด็กหญิงไข่หวาน น้องนุชสุดท้องอายุ ๔ ขวบถอนสายบัวทักทายผู้ชม น้องช้างเล่นบาสเก็ตบอลกับกับเด็กฝรั่ง ทำงาน ทำงาน ทำงาน สนใจภาพวาดสวยๆจากฝีงวงของน้องช้างไหมค้า เพื่อนๆสังเกตไหมคะว่าเขามีควาญช้างเป็นสว.ฝรั่ง ๓ คนด้วย คุณผู้หญิงทั้งสามเธอเป็นสว.ประเภท young at heart ค่ะ เธอมาเข้าศูนย์ฝึกเป็นควาญช้างเล่นสนุกๆ แม่มดชอบคนที่มีความสุขกับชีวิตแบบนี้จัง
เช้าวันที่ ๓ ฝนพรำเบาๆแต่เช้าตรู่ สักครู่ก็หยุดแล้วก็ตกอีกเหมือนจะล้อคนบ้านไกลเล่น คุณบรรเจิดขับรถคู่ใจมารับแม่มดก่อนสาย ข้อตกลงของเราคือแม่มดเช่ารถตั้งแต่ ๘ โมงเช้าถึง ๔ โมงเย็น คุณบรรเจิดจะพาไปวัดพระธาตุลำปางหลวงซึ่งน้องแจงพาไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันก่อนแต่ฝนตกหนักเสียจนแม่มดถ่ายภาพไม่ได้ จากนั้น เราจะไปวัดไหล่หินหลวงที่น้องแจงบอกว่าคนชอบวัดเก่าๆ ชอบงานปูนปั้น งานไม้แกะสลัก ไม่ชอบวัดฟรุ้งฟริ้งอย่างแม่มดต้องชอบแน่ๆ แล้วยังมีวัดในเมืองอีกมากมาย ฯลฯ ฯลฯ
รถสองแถวเล็กๆของคุณบรรเจิดเก่าจนกรอบ ประตูล็อคไม่ได้ ที่ปัดน้ำฝนก็หัก ต้องเอาเชือกผูกไว้ ถ้ารถแล่นไปตกหล่มแรงๆลึกๆสักครั้ง ตัวถังคงจะแยกเป็นชิ้นๆแต่แม่มดไม่พูดอะไร เจ้าของเขากล้าขับ แม่มดก็กล้านั่ง ยังไม่ทันเคลื่อนรถ คุณบรรเจิดตาไว มองเห็นแขนของแม่มดที่ลายไปด้วยรอยยุงกัด เธอทำท่ากังวล ถามว่าทายาหรือยัง ไม่ต้องค่ะ ที่บ้านพักต้นไม้เยอะ ยุงเลยชุม กัดเจ็บด้วย แต่ไม่กลัวค่ะ ไม่เคยแพ้ยุง เดี๋ยวก็หายคัน แม่มดคนหัวแข็งตอบไปอย่างนั้น ก่อนถึงวัดพระธาตุลำปางหลวง คุณบรรเจิดจอดรถแล้วเดินเข้าไปในร้านเล็กๆข้างทางถึง ๔ ครั้ง ใน ๓ ครั้งแรก แม่มดนิ่งเสีย พอครั้งที่ ๔ เมื่อคนขับกลับมาประจำที่ แม่มดอดไม่ได้จึงเอ่ยถามดีๆว่าหาอะไรอยู่หรือคะ คุณบรรเจิดส่งขวดยาหม่องที่ยังไม่แกะกล่องให้ บอกง่ายๆว่าทาแผลยุงกัดเสีย เดี๋ยวแผลอักเสบ จะเป็นโรคเบาหวาน งานนี้ แม่มดอึ้งกิมกี่ไปครู่หนึ่งเลย พอหายงง ก็รีบส่งสตางค์ค่ายาหม่องคืนให้ แล้วเลยลืมขอบคุณ
แม่มดคิดว่าคุณบรรเจิดมีความเข้าใจเรื่องบาดแผลกับโรคเบาหวานคลาดเคลื่อนจากข้อมูลทางการแพทย์ แต่ความอาทรของเธอทำให้แม่มดตัดสินใจไม่โต้แย้ง เกรงจะกลายเป็นการหักหาญน้ำใจกัน อีกอย่างหนึ่ง แม่มดเองก็ไม่รู้จักโรคนี้อย่างถ่องแท้ ไม่เคยศึกษาในรายละเอียดเพราะตัวเองยังไม่เป็น ข้อมูลไม่ชัดเจน จะพูดอะไรก็เลยไม่ถนัด วัดพระธาตุลำปางหลวงและวัดพระธาตุจอมปิง (ที่แม่มดได้ไปชมแบบเปียกๆ เลยถ่ายรูปไม่ได้) มีจุดขายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญมากคือภาพเงาพระธาตุกลับหัวในพระอุโบสถ แต่แม่มดไม่ได้เห็นเลยทั้ง ๒ แห่ง เพราะเมื่อไม่มีแสงแดด ก็ย่อมไม่มีเงา จริงไหมคะ
วัดไหล่หินหลวงเป็นวัดเล็กๆที่มีงานไม้แกะสลักและงานปูนปั้นงดงามสมดังที่น้องแจงแนะนำให้มาชม เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีเสาหงส์ซึ่งแม่มดอ่านมาว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัดพม่าเชื้อสายมอญ เรื่องข้อมูลด้านสถาปัตยกรรมนี่ แม่มดไม่ถนัด ถ้าอย่างไร คุณทางแก้วกรุณาแก้ไขเพิ่มเติมให้หน่อยนะคะ อย่างแม่มดน่ะ รู้แต่ว่าสวยหรือไม่สวยตามรสนิยมส่วนตัวเท่านั้น
ที่น่าปลาบปลื้มคือวัดเก่าๆที่แม่มดเคยไปเยี่ยมชมมา ไม่ว่าในภาคใด แท้จริงแล้วคือพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาสมบัติมีค่าของชาติไว้มากมาย วัดไหล่หินหลวงมีคัมภีร์โบราณที่ได้รับการชำระแล้วอยู่หลายตู้ ผู้นำชมบอกเล่าว่าผู้ที่มาดำเนินการชำระคัมภีร์ให้เป็นฝรั่ง คุยไปคุยมาได้ความว่าเป็นคณะทำงานด้านโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยโคโลญแห่งประเทศเยอรมนี เจ้าเดียวกับที่บูรณะปราสาทนครวัดให้กัมพูชาและกำลังซ่อมแซมวัดราชบูรณะที่อยุธยาให้กับบ้านเมืองของเรา
คุณบรรเจิดเป็นคนขับรถที่ใจดีมาก ไม่เคยทำหน้าเบื่อหน่ายเลยเวลาที่แม่มดขอให้จอดรถ ถอยรถ เลี้ยวรถ กลับรถ เพราะแม่มดต้องการจะถ่ายภาพอะไรสักอย่างที่ข้างทาง แต่ที่น่าเอ็นดูจริงจังคือชาวนากลุ่มหนึ่งที่กำลังทำงานอยู่แบบหันข้างบ้าง หันหลังบ้างให้หน้าถนน พอแม่มดชูกล้องขึ้นและร้องบอกว่าขอถ่ายภาพนะคะ ชาวนาทั้งกลุ่มพากันหันหน้าออกมาทางแม่มดทันที ซึ่งแม้ว่าจะผิดวัตถุประสงค์ แต่แม่มดก็อดอมยิ้มและขอบคุณดังๆไม่ได้
หลังอาหารกลางวันที่แม่มดทานคนเดียวเพราะคุณบรรเจิดขอกลับไปทำธุระที่บ้านครู่หนึ่ง เราแวะไปบ้านเสานัก เรือนไม้สักอายุเกิน ๑๐๐ ปีของท่านหม่องจันโอง เพราะฝนตกหนักเสียจนแม่มดต้องหาที่ที่ตัวเองจะสามารถถ่ายภาพภายในอาคารได้ บ้านเสานักได้รับการปลูกสร้างบนเสา ๑๑๖ ต้น ภาพแรกคือยุ้งข้าวโบราณบนเสาจำนวน ๒๔ ต้น
หลังจากนั้น แม่มดตัดสินใจขอให้คุณบรรเจิดขับรถไปส่งแม่มดกลับที่พักและอนุญาตให้เธอพักได้แม้จะเป็นเวลาเพียงบ่าย ๒ โมง ด้วยฝนตกหนักลงมาเป็นสายๆจนแม่มดสุดปัญญาจะถ่ายภาพได้ เลยไม่รู้ว่าจะเที่ยวต่อให้เป็นหวัดกันไปทั้งคนขับทั้งผู้โดยสารเพื่ออะไร แม่มดก็เลยมีเวลานั่งพัก ฟังเพลง อ่านหนังสือสบายๆกับเดินถ่ายภาพในบ้านพักไปพอเพลินๆ
จนเกือบ ๕ โมงเย็นฝนจึงซาเม็ด แม่มดรีบเดินไปชมสะพานรัษฎาภิเศกอายุ ๙๙ ปี และทันใดนั้น ฟ้าก็แจ้งจางปาง ท้องฟ้าเมืองเขลางค์นครก็มีสีฟ้าเป็นกับเขาเหมือนกัน เชื่อไหมคะ
วันสุดท้ายของแม่มดในเมืองลำปาง น้องแจงต้องทำงานแต่อุตส่าห์มารับแม่มดไปส่งที่วัดพระธาตุดอนเต้าสุชาดารามก่อน เธอว่าอากาศไม่ดีอย่างนี้ พี่อย่าเช่ารถเลย ไม่คุ้มหรอกค่ะ แล้วเธอก็อธิบายวิธีเดินชมวัดในเมืองให้แม่มดฟังอย่างละเอียดก่อนจะรีบไปทำงาน
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
แม่มดน่ะเดินเก่งอยู่แล้วแต่ไม่มีโอกาสเดินซิคะ เพราะพอน้องแจงคล้อยหลัง ฝนก็ตกลงมาเป็นจริงเป็นจัง เธอก็เป็นห่วง คอยโทรถามว่าพี่เป็นอย่างไรบ้างคะ แม่มดบอกว่าสบายๆค่า อย่ากังวล แต่เราอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน ฝนตกถึงกัน เธอจึงสาละวนกับการขับรถกลับมารับแม่มดไปส่งที่วัดต่อๆไปซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัดพม่า สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ วัดศรีชุมอายุกว่า ๑๐๐ ปีฝีมือช่างชาวมัณฑะเลย์เป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วัดจองคา แล้วฝนก็หยุดตก จริงๆนะคะ แม้ฟ้าจะยังไม่แจ่มแต่ดอกไม้ใบหญ้าข้างทางหลังฝนสวยเหลือเกิน
หลังจากนั้น แม่มดก็เดิน เดิน เดิน ผ่านบ้านเก่าที่ได้รับการชุบชีวิตใหม่ให้สวยละเมียดละไมอย่างบ้านบริบูรณ์ ซึ่งอยู่บนถนนชื่อเชยๆอย่างงดงามนามถนนทิพย์วรรณ บ้านบริบูรณ์
วัดปงสนุกเป็นวัดเดียวในลำปางที่แม่มดได้แลเห็นความงดงามเมื่ออยู่ในแสงอาทิตย์จัดจ้า วัดปงสนุกเป็นวัดที่นำเทคโนโลยี่มารับใช้โบราณสถานได้อย่างแนบเนียน ในอาคารต่างๆที่เป็นพิพิธภัณฑ์ของวัดปงสนุก ไม่มีผู้บรรยายแต่ทันทีที่ผู้มาเยือนก้าวเท้าเข้าไป ไฟจะเปิด พัดลมจะทำงาน การให้ข้อมูลต่างๆชัดเจนเป็นระบบ วัดลำปางแห่งนี้ได้รับรางวัลดีเด่นด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคจาก UNESCO เหมือนวัดขนอนที่อำเภอโพธารามของชาวราชบุรี วัดปงสนุก
แม่มดบินกลับกรุงเทพฯด้วยเที่ยวบินสุดท้ายของวัน จึงมีเวลาทานขนมกับน้องแจงอีกมื้อ แล้วเธอยังพาแม่มดไปถ่ายภาพวัดเจดีย์ซาวก่อนที่แสงสุดท้ายจะลับหายไปจากฟากฟ้าอีกด้วย วัดเจดีย์ซาว
วันรุ่งหลังจากที่แม่มดลาเมืองลำปาง ท้องฟ้าเมืองเขลางค์นครก็แจ่มกระจ่างเหมือนจะแกล้งกัน แต่น้ำใจของคนลำปางยังฉ่ำชื้น น้องแจงปั่นจักรยานไปถ่ายภาพนาข้าวสวยๆที่สายฝนไม่อนุญาตให้แม่มดเก็บภาพได้ กับเงาของพระธาตุลำปางหลวงในสระน้ำหน้าวัดที่เธออุตส่าห์พาแม่มดไปมองมุม แต่แม่มดทำอะไรในวันนั้นไม่ได้เลยเพราะฝนฟ้าไม่เป็นใจ เธอส่งภาพงามๆมาให้พี่สาวทางไลน์เหมือนจะบอกว่า พี่ต้องมาใหม่ในวันฟ้าใสที่เมืองลำปาง ขอบคุณจากหัวใจค่ะ น้องแจง
ดอกไม้เมือง ทำนอง ปั่นฝ้าย คำร้อง จรัล มโนเพ็ชร ศิลปิน พรรณรวี พจนสุนทร
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |