*/
<< | มกราคม 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ในนานาประเทศ เหตุการณ์ทางการเมืองพาดพิงถึงบทบาทของสื่ออย่างโจ่งแจ้ง ‘สื่อ’ ที่ทำหน้าที่ทั้งป้อนข้อมูลให้ประชาชนรู้ความเป็นไป และตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง ที่ประเทศไทย ภาวะการเมืองเต็มไปด้วยประเด็นแอบแฝง สิ่งชัดแจ้งกลับเป็นผลประโยชน์ที่ส่งถึงตัวบุคคลมากกว่าประเทศชาติและส่วนรวม สื่อที่ควรทำหน้าที่เยี่ยง ‘สื่อ’ กลับคลุมเครือ ไม่สามารถทำตัวให้ประชาชนพึ่งได้
เกิดคำถามว่า สื่อมวลชนไทยกำหนดทิศทางการทำหน้าที่ของตัวเองอย่างไร เมื่อขุ่นโคลนของการเมืองสร้างความสกปรกแก่บ้านเมือง สื่อไทยรู้และเข้าใจบทบาทของตน ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนและชาติได้แค่ไหน การตอบข้อสงสัยนี้ ยากจะหลีกเลี่ยงการพิจารณาตัวอย่างสื่อ ‘นอก’ ระดับนานาชาติ ยากที่จะยืนยันยึด ‘วิถีไทย’ หาทางแก้วิกฤติการณ์ทางการเมือง อย่างไม่ยี่หระกับเสียงสนับสนุนจากต่างประเทศ หรือละเว้นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสายตาโลก ในภาษาที่โลกเพ่งเล็ง หากอีกฝ่ายที่แฝงตัวในรัฐบาลไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องการสร้างภาพอย่างต่อเนื่อง มีกลยุทธ์
ในสังคมที่ประชาธิปไตยเติบโตแล้ว สื่อมวลชนมีอำนาจคะคานเพื่อให้ประชาธิปไตยยังประโยชน์สูงสุดแก่สังคม ด้วยบทบาทและอำนาจของ Free Press สื่อมวลชน เดิมทีหมายถึง ผู้เสนอข่าวสารสู่ประชาชนผ่านสื่อต่างประเภท เช่น สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ปัจจุบัน โลกสากลนิยมเรียกสื่อว่า Press โดยไม่จำกัดเฉพาะสิ่งพิมพ์
ปัญหาใหญ่สำหรับ Press วันนี้ ไม่ใช่วิธีเสพสื่อของประชาชนที่เปลี่ยนรูปแบบตามเทคโนโลยี่ ไม่ใช่การต่อสู้ให้อยู่รอดทางพาณิชย์ แต่เป็นการยืนหยัดให้สามารถทำหน้าที่เต็มประสิทธิภาพ ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง นั่นคือ คงศักดิ์และสิทธิ์ของ Free Press อย่างสมบูรณ์
ปัญหาใหญ่ที่น่าเป็นห่วงของ Press จึงมาจากประเทศที่ถูกขีดเส้นจำกัดการเสนอข้อมูล
โดยความหมาย Free Press คือ อิสรภาพในการเสนอข่าวและข้อมูลสู่สาธารณะ สามารถเลือกข้างรัก-ชัง ได้โจ่งแจ้ง ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง ห้ามเป็นความเท็จ โดยรัฐบาลไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ ชี้ผิดถูก ในทางปฏิบัติ ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะชอบหรือขัดใจ และนั่นคือกลไกบังคับ Press ให้ ‘ต้องทำงาน’ หาข้อมูลสนับสนุน หรือโต้แย้ง คะคาน แต่ละประเด็น ในทางปฏิบัติ Great Britain มีตัวอย่างอธิบายได้
UK Press มีจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุนพรรคการเมือง ประกาศชื่อพรรคที่เลือกสนับสนุนอย่างเปิดเผย สิ่งสำคัญ คือ การสนับสนุนใครเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง คงอยู่จนหลังการเลือกตั้ง ไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ ไม่ว่าพรรคที่สนับสนุนนั้นจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลหรือกลายเป็นฝ่ายค้าน เกณฑ์การสนับสนุน มาจากการวิเคราะห์นโยบายแต่ละส่วนของพรรค ด้านการบริหารประเทศ เศรษฐกิจ ความมั่นคงของชาติ หรือต่างประเทศ – ไม่กี่ประเด็นที่ประชาชนเพ่งมอง ซึ่งส่งผลต่อการนำพาประเทศไปข้างหน้า เมื่อเห็นด้วยจึงถ่ายทอดและโน้มน้าวประชาชนให้คล้อยตาม ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง
Press จึงต้องปฏิบัติตัวและทำหน้าที่ให้สมคุณค่า เพื่อได้มาซึ่งการยอมรับนับถือจากประชาชน
Press ของบริทิชแบ่งขั้วชัด ตาม 3 พรรคการเมืองหลัก คือ Conservative, Labour และ Liberal Democrat โดย Press บางฉบับประกาศตัวเป็นกลาง เมื่อต่างคนต่างพูดได้ กลไกที่ควบคุมระบบ คือ ความจริง ที่ห้ามปั้นแต่ง จึงเป็นเรื่องว่าใคร ‘ขุด’ มากกว่าใคร เรื่องเดียวกัน Press สามารถเลือกชูประเด็น พูดมาก น้อย หรือแตกต่าง ขึ้นอยู่กับว่าสนับสนุนใคร
หากอยากรู้เรื่องฉาวของ Conservative ต้องหาข่าวจากฝั่ง Labour ที่คนข่าวทำการบ้านมากขึ้น คุ้ยลงลึก ส่วนสื่อฝั่ง Conservative เพียงรายงานห้วนสั้นแบบ ‘ข่าว’ ละเว้นการขุดและวิเคราะห์ให้เข้าตัว หาก Conservative ตัดสินใจผิดพลาด สื่อที่เข้าข้าง แค่รายงานและยกเหตุผลแก้ต่างข้อบกพร่อง ขณะที่สื่อตรงข้ามขุดประเด็นจนเป็นเรื่อง เรียกร้องการแก้ไขและลงโทษผู้ทำผิด
Boris Johnson ผู้ว่ามหานครลอนดอน ใช้ The Daily Telegraph เป็นพื้นที่เขียนประจำ เล่นกับข่าวบ้าง สร้างข่าวบ้าง ก่อนโอลิมปิกต้องแก้ต่างความไม่พร้อมรายวัน กว่าจะมีโอกาสเรียกคะแนนคืนก็ตอนจบงาน
หากต้องการคำวิจารณ์เป็นกลาง ต้องฟังความจากคนที่ไม่เลือกข้าง หรือ BBC ข้อมูลทุกอย่าง เป็นเรื่องการนำเสนอให้ประชาชนพินิจพิจารณา และเป็นเรื่องที่ประชาชนมีสิทธิ์เสพ เลือกเสพ คิด และให้ความเห็น
เมื่อสื่อเปลี่ยนขั้วเลือกข้างพรรคการเมือง ยิ่งมีผลสูงลิ่วต่อประชาชน สร้างเครื่องหมายคำถามตัวโต เรียกหาเหตุผล และคำอธิบาย
Press และภาคธุรกิจ ยังเกี่ยวข้องกันเรื่องการเห็นด้วยหรือเห็นต่าง ในการทำงานของรัฐบาล ก่อน UK Election การเลือกตั้ง พ.ศ. 2553 รัฐบาลเลเบอร์ประกาศนโยบายขึ้นเงินสมทบประกันสังคมจากภาคธุรกิจ นักธุรกิจอาวุโสระดับ Chairman, CEO ของ 23 บริษัทชั้นนำ ทั้งน้ำมัน สายการบิน ยา ซูเปอร์มาร์เก็ต เครื่องดื่ม ค้าปลีก เสื้อผ้า เช่น Virgin Group, easyGroup, GlaxoSmithKline, Kingfisher, Marks and Spencer และNext ร่วมลงชื่อส่งจดหมายสู่ Press สนับสนุนการคัดค้านนโยบายดังกล่าวของ Conservative พรรคฝ่ายค้านขณะนั้น (ซึ่งเป็นรัฐบาลขณะนี้) เมื่อ ‘นายจ้าง’ ออกปาก ประชาชนก็ชะงัก หวนกลับดูทิศทางของรัฐบาลที่กระทบผู้ว่าจ้าง ต่อตลาดงาน ซึ่งย่อมส่งผลต่อโอกาสสร้างงานและเงินเพื่อความอยู่ดีกินดีของคน และเศรษฐกิจของชาติ เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจลงคะแนนเสียง
ที่สหรัฐอเมริกา กันยายน พ.ศ. 2554 Howard Schultz, Chairman & CEO ของ Starbucks ขยะแขยงเต็มทนกับการทำงานของสภาผู้แทนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่สะท้อนความล้มเหลวชัดเจน จึงประกาศบอยคอตการสนับสนุนเงินแก่ทั้งสองพรรคใหญ่ของชาติ ทำให้อีกกว่า 140 บริษัทใหญ่รวมทั้ง Pepsi, Disney, AOL, New York Stock Exchange และ Nasdaq ร่วมขบวนด้วยทันที ไม่นานนัก ประธานาธิบดี Barack Obama ขอนัดคุยกับ Schultz เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
นักธุรกิจไทยและ Press – Hello, สบายดีอยู่หรือ หยุดสร้างภาพด้วย Corporate campaign แล้วมาสร้างชาติกันดีไหม
พฤติกรรมของ Press ยังส่งให้ภาคธุรกิจ เลือกข้องเกี่ยว สนับสนุน ลงโฆษณา หรือตีตัวออกห่าง Press ที่ออกนอกลู่ มักสะดุ้งเมื่อภาคธุรกิจถอดโฆษณาถอยตัวหนีทันที ธุรกิจที่เกาะติดกับ Press ที่สับปลับ ย่อมเผชิญความเสี่ยงจากแรงต้านของประชาชน
อะไรคือเหตุที่ส่งผลให้ Press ทรงอิทธิพลมากมาย
11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 Winston Churchill กล่าวในรัฐสภาว่า ‘No one pretends that democracy is perfect or all-wise. Indeed, it has been said that democracy is the worst form of government except all those other forms that have been tried from time to time.’
สำนวนของ Churchill ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างความสับสนให้ชาติอื่น ด้วยรูปแบบ (turn of phrase) การใช้คำ ‘เลวที่สุด’ หักล้างกับ ‘การไม่นับแบบอื่นที่เคยลองกันมาแล้ว’ ให้เกิดความหมายว่า ‘ดีที่สุด’
แปลว่า Democracy ไม่ใช่ระบบการปกครองที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ก็ยังดีที่สุดเมื่อเทียบกับระบบอื่นที่เคยทดลองกันมา หมายความว่า การให้อิสระในการคิดและแสดงออกแก่ประชาชนอันเป็นจุดแข็ง ของระบอบประชาธิปไตย อาจกลายเป็นจุด ‘บกพร่อง’ ได้ หากขาดการตรวจสอบ คน หรือ องค์กร ที่สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบได้ ก็คือ Press
First Amendment พื้นฐานของรัฐธรรมนูญและการร่างกฎหมายของสหรัฐอเมริกา ระบุชัดเจนว่า Freedom of Speech เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และกำหนดว่า
‘… ห้ามการร่างข้อกฎหมายที่ริดรอน freedom of speech อิสรภาพในการสื่อสาร ห้ามละเมิด freedom of the press อิสรภาพในการเสนอข้อมูล … ’
หกสิบกว่าปี หลังคำพูดของ Churchill Press รุ่นใหม่* บอกว่า พื้นฐานแรกของประชาธิปไตย คือการที่ประชาชนได้รับข่าวสารข้อมูลโดยปราศจากการปิดบังและบิดเบือน เพื่อประโยชน์ในการพาชาติก้าวไปข้างหน้า ความสำคัญของข้อมูลจะส่งผลให้คนสามารถเลือกผู้นำที่ดีที่สุดในการบริหารประเทศ ที่มีผลต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน World Bank ให้ข้อมูลสนับสนุนว่า Free Press เป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติด้อยพัฒนา
ในระดับนานาชาติ ยอมรับบทบาทของสื่อมวลชนว่าสำคัญต่อพัฒนาการของการปกครองประเทศ ดัชนี Freedom of Press ที่ต่ำต้อยสะท้อนกลิ่นไอเผด็จการไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นที่ เกาหลีเหนือ จีน (PRC) คิวบา ที่ประเทศไทย ซึ่งติดอยู่ในกลุ่ม 25% ที่อิสรภาพต่ำสุด ดูน่าตระหนกปนสงสัยว่าสื่อมวลชนตระหนักในความสำคัญของตนเพียงไร จะใส่ใจในบทบาทของตนเองเมื่อไหร่ หรือจะปล่อยให้อำนาจจากระบบอุปถัมภ์ครอบความศักดิ์สิทธิ์ และสิทธิที่ได้มาจากรัฐธรรมนูญต่อไป
การขาดอิสรภาพในการสื่อสาร คือ การทำให้กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์ คือ การทำให้นักการเมืองแสวงประโยชน์ส่วนตนตามสะดวก คือ การทำให้ฝ่ายค้าน เกียจคร้าน ไร้สำนึกในหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ที่คงอยู่แม้ไม่ใช่ผู้จัดตั้งรัฐบาล คือ การทำให้ประเด็นสำคัญของบ้านเมือง หลุดจากการพิจารณาในที่แจ้งและวงกว้าง ถีบส่งสู่สงครามข้อมูลในมุมอับ ที่สาระถูกบิดเบือน ใช้หลอกคนบางกลุ่ม เพราะการไม่มี Free Press ทำให้ขาดผู้ขุดคุ้ย คะคาน และทิ่มเตือน
การเปิดเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเรื่องการป้ายสี เมื่อต่างคนต่างมีโอกาสพูดเท่าเทียมกัน และอย่าประเมินความกระหายใคร่รู้ข้อเท็จจริงของประชาชนต่ำเกินไป
เมื่อสื่อทำตัวไม่รู้จัก Free Press และไม่ทำหน้าที่ ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะบ่นว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย และถ้าประชาชนไม่สนใจถามหา คงต้องอาศัยความเคยชินช่วยให้การตกอยู่ในสภาพที่ถูกบงการโดยรัฐบาลเผด็จการไม่ว่าจะมาจากฝ่ายทหาร พลเรือน หรือ ตำรวจ ‘ต่อไป’ เป็นเรื่องง่ายขึ้น
*********
…อำนาจขนาดนี้ Press หลงระเริง และทำผิด ได้ไม่ยาก แต่ทำไม ‘จรรยาบรรณ’ คำเรียบง่าย จึงมีอำนาจเหนืออำนาจ Press เมื่อ Press กระทำตัวผิดนัก อะไรคือตัวดึงสามัญสำนึกกลับสู่สมอง…
Notes/References:
คน right wing ไม่จำเป็นต้องเป็นอนุรักษ์นิยม แม้ว่าคนอนุรักษ์นิยมจะเป็นคน right wing คน right wing รักชาติไม่ลืมหู ลืมตา เช่น นาซี หรือ BNP (British National Party ที่ตั้งงบจากเงินหาเสียงใช้ไล่คนที่ไม่ใช่เชื้อชาติบริทิชออกจากเกาะอย่างเดียว)
* Press Freedom Is Key to Development
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |