*/
<< | กรกฎาคม 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |
การชุมนุมทั่วโลกที่ใช้หน้ากากขาวเป็นสัญลักษณ์ สื่อความหมายถึงการต่อต้านรัฐบาล Tyranny ‘เผด็จการ’ มีผลลัพธ์แตกต่างไปตามเหตุปัจจัยในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการประท้วง ไม่ใช่ ‘สัญลักษณ์’ ผลการเลือกตั้ง – นโยบายและการบริหารงานของรัฐบาล ล้วนเป็นเหตุส่งสู่ภาวะ Unrest ที่ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านผู้นำ ผลลัพธ์เฉพาะหน้าดูคล้ายเป็นความสำเร็จ แต่การต่อสู้ในวิธีนอกกติกาตามข้อกำหนดของประชาธิปไตย ไม่สามารถนำมาซึ่งชัยชนะที่แท้จริงเสมอไป
ที่บราซิล หลายเมืองดึงเรื่องเจ้าภาพฟุตบอลและโอลิมปิกที่ใช้งบประมาณมหาศาลเป็นเหตุประท้วง แต่จุดเริ่มต้นการประท้วงอื่นมาจากการขึ้นค่าโดยสารการเดินทาง การทุจริต ความย่ำแย่ของระบบสาธารณูปโภค และอีกหลายเหตุที่สัมพันธ์กับพื้นฐานความเป็นอยู่ ที่ Sao Paulo คนนับหมื่นประท้วงข้อเสนอเปลี่ยนกฎหมาย ที่ส่งผลให้ลดอำนาจตรวจสอบเรื่องการทุจริตและการใช้อำนาจในทางมิชอบ ที่ Santa Maria คนสามหมื่นประท้วงเรื่องความล่าช้าในการพิจารณาคดีเพลิงไหม้ที่มีผู้เสียชีวิตนับร้อย แม้การประท้วงจะซาไป และประธานาธิบดี Dilma Rousseff จะประกาศหาวิธีแก้ปัญหาการขนส่งมวลชน นำเงินจากน้ำมันมาบำรุงการศึกษา หางบจ้างแพทย์ต่างชาติมาเพิ่ม แต่นั่นคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คำถามคาใจเรื่อง – โอกาสทางการศึกษาที่ไม่ทั่วถึง การสาธารณสุขที่ล้าหลัง อาชญกรรมที่สูงขึ้น – ยังคงอยู่และรอเวลาประทุขึ้นใหม่
อียิปต์ การประท้วงขับไล่ President Hosni Mubarak ที่ครองอำนาจมา 30 ปีเมื่อสองปีก่อน ใช้เวลา 18 วัน เกิดการเลือกตั้งที่คนยอมรับว่าชัดเจนและยุติธรรมได้ Mohamed Morsi เป็นผู้นำด้วยผลลัพธ์ 51.7% เหนือ 48.3% ของ Ahmed Shafik เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 ประชาชนอียิปต์ใช้เวลาแค่ 4 วัน ขับไล่ประธานาธิบดีที่ ‘เลือกเอง’พ้นอำนาจ การเมืองอียิปต์มาจากขั้วที่แตกต่างกันทางศาสนา คือ Muslim Brotherhood และ Coptic Christian กับมุสลิมที่เป็นกลาง ในสมัยของ Mubarak กลุ่ม Muslim Brotherhood เป็นกลุ่มนอกกฎหมาย ถูกกดดันจากทั้งรัฐบาลและทหาร การประท้วงขับไล่ Mubarak จึงมีแรงหนุนจาก Muslim Brotherhood ร่วมกับกลุ่มต่อต้านเผด็จการทหาร ออกแรงขับศัตรูคนเดียวกัน แล้วเข็นกลุ่ม grassroots network รากหญ้า มาช่วยผลักดันจน Morsi ชนะเลือกตั้ง แต่ President Morsi ต้องระวังว่า กลุ่มต่อต้านเผด็จการทหารไม่ได้สนับสนุน Islamic Fundamentalism เสมอไป แปลว่าแรงขับไล่ที่มารวมกัน ไม่ได้มาจากพื้นฐานเดียวกัน คนอียิปต์ที่ทำงานและดำเนินธุรกิจทั่วไป กลัวการเปลี่ยนแปลงประเทศจาก Secular State เป็น Religious State ตามแนวทางของ Muslim Brotherhood ที่ Morsi ชี้นำสู่ประเทศ แล้วมอบอำนาจสูงสุดแก่ตัวเองและยุบสภาล่าง เมื่อ Morsi ถูกขับไล่ กลุ่มผู้สนับสนุน Muslim Brotherhood ซึ่งอยู่รอบนอกและมีปริมาณผู้ชุมนุมเทียบกันไม่ได้กับผู้ต่อต้านในเมืองหลวง ตระหนกกับเหตุการณ์ที่เห็นว่าละเมิดวิธีการทางประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ก็เมื่อ Morsi ชนะการเลือกตั้งขึ้นสู่อำนาจอย่างชอบธรรม ทำไมถูกขว้างทิ้ง ภายใต้ประชาธิปไตยเดียวกัน อะไรคือเกณฑ์ที่ต้องยึด ชัยชนะจากการเลือกตั้ง หรือจากการประท้วง สิ่งชัดเจนหลังทุกชัยชนะ คือ ความแตกแยกและไม่ไว้วางใจกันเองในแต่ละกลุ่ม
ซีเรีย ต้นปี พ.ศ. 2554 การประท้วงเริ่มจากการต่อต้านผู้นำประเทศ เมื่อพัวพันไปถึงเรื่องศาสนา ทั้งที่ศาสนาไม่ใช่สาเหตุ ก็กลายเป็นการแตะต้องความเชื่อถือศรัทธาในกลุ่มคน สู้กันไปก็ไม่มีใครชนะ เมื่อความเชื่อและผูกพันของแต่ละคนใหญ่กว่าประโยชน์ส่วนรวม ผลของความขัดแย้ง จึงลุกลามจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองเป็นวิกฤติการณ์ทางสังคม ความแตกแยกของประชาชนขยายวงกว้าง
กรณีประทุที่ อียิปต์ ซีเรีย บราซิล มีรากมาจากปัญหาพื้นฐานความเป็นอยู่ ปากท้อง ภายใต้หนึ่งปัจจัยคล้ายกัน คือ กฎหมายในชาติไม่ศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนไม่เคารพกฎหมาย ผู้มีอิทธิพลยิ่ง abuse หาประโยชน์จากกฎหมาย นำมาใช้ให้เข้าทางจนถึงขั้นเปลี่ยนแก้ รัฐประหาร คือ การเปลี่ยนขั้วอำนาจ โดยไม่ต้องคำนึงถึงกฎหมาย การประท้วงขับไล่รัฐบาล ก็เป็นวิธีเปลี่ยนผู้ครองอำนาจ โดยไม่สนใจกฎหมายเช่นกัน จะกี่ผู้นำที่ผลัดหน้ากันเข้ามา หากต้นตอของปัญหาไม่ถูกแตะต้อง ปัญหาเดิมย่อมคงอยู่ รอเวลาให้ผู้สนับสนุนฝ่ายที่ถูกโค่นอำนาจ กลับมาประท้วงขับไล่เอาคืน เป็นวงจรไม่สิ้นสุด
การขับไล่รัฐบาลที่ไม่เป็นที่พึงใจของประชาชนที่ประเทศไทย ข้อขัดแย้งในภาพรวมจะเป็นอย่างไร ปัญหาของประเทศไทยก็ไม่ต่างจากที่อื่นเรื่องความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข ซึ่งมีผลกับประชาชนทุกคนไม่เลือกรสนิยมทางการเมือง และเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล
ปัจจัยที่ทำให้การแก้ปัญหานี้ไม่ก้าวหน้า คือ แต่ละรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่พูดถึง-ไม่ให้ความสำคัญกับปัญหา เพราะการแก้ไขไม่เห็นผลทันตา ไม่ได้หน้าสำหรับการหาเสียงทันที การขาดความรับผิดชอบตามหน้าที่พลเมืองของประชาชนในทุกหน่วยสังคมไม่เลือกอาชีพ ทั้งประชาชนที่เอาตำแหน่งหน้าที่มาใช้อำนาจและกฎหมายในทางที่ผิด การทุจริต ประชาชนที่ไม่เคารพกฎหมาย ที่เลวที่สุด คือ การที่ทักษิณนำปัญหานี้มาหาประโยชน์ ทำทีว่าแก้ไขให้กับคนบางกลุ่ม โดยหว่านเงินเพื่อหวังผลระยะสั้นให้หลงเชื่อและชื่นชม แต่บั่นทอนเศรษฐกิจทั้งชาติในระยะยาว ทำลายคุณธรรมของประชาชนและสร้างความแตกแยกในชาติ
แต่การยกประเด็นต่อต้านไปที่ตัวบุคคลคือ ทักษิณ และกำหนด ‘กลุ่มเสื้อแดง’ เป็นฝ่ายตรงข้าม ก็ไม่ได้แก้ปัญหา การต่อต้านระบบทักษิณ ไม่ง่ายหรือจบเพียงแค่การขับไล่รัฐบาลที่มาจากสายทักษิณ หรือต่อต้านคนเสื้อแดง คนเสื้อแดง เกิดขึ้นจากผลของวิธีทักษิณ แต่เติบโตได้ก็ด้วยคน non-red ที่ผลักให้เร้ดรวมตัวกันแน่นหนา Red มี Commonality จุดร่วม ที่รักทักษิณ แต่ก็ยังมีความต่างกันอีกหลายอย่าง จึงทำให้มีเร้ดที่แค่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว - เหมือนคน non-red อีกมาก เร้ดที่เพียงแต่รักเงิน เร้ดที่รักเจ้า เร้ดคอมมิวนิสท์ เร้ดที่ระอากับสภาพอภิสิทธิ์ในสังคม เร้ดที่ได้ประโยชน์จากความแตกแยก และที่สำคัญ ... มีเร้ดที่ไม่ได้โง่
การจัดให้ทุกเร้ดเป็นหมวดเดียวกันหมด แล้วสรุปว่าโง่ คือ การต้อนคนหลายกลุ่มเข้ามุมเดียวกัน หลังชนกำแพง แรงต้านที่ส่งออกมาทิศเดียวย่อมรุนแรง การก่นด่าและต่อต้านทักษิณที่ตัวตนยิ่งทำให้มีคนปกป้อง เพราะนั่นคือ ‘การแตะต้องความเชื่อถือศรัทธาในกลุ่มคน’ มีประโยชน์อันใด ที่จะรวบไม้ไว้ทั้งกำ ให้ยากต่อการหัก ขณะเดียวกัน คน non-red ก็มีหลายกลุ่ม ทั้งเกลียดระบบและวิธีการของทักษิณเพราะรู้จริง เกลียดเพราะพวกพ้องทักษิณโกง‘มากกว่า’ กลุ่มอื่น เกลียดทักษิณแต่ก็ไม่ชอบฝ่ายค้าน เมื่อทักษิณจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ คน non-red จึงมีจุดร่วมรวมตัวกัน ซึ่งไม่ผิด แต่การปกป้องสถาบันต้องไม่ดึงสถาบันลงมาแปดเปื้อนไปกับการต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งอยู่ระดับต่ำกว่าสถาบันหลักของชาติมากนัก และต้องไม่มุทะลุเอาอารมณ์นำหน้า
ในโลกของประชาธิปไตย ประชาชนไม่ต้องเห็นพ้องตรงกันกับวิธีบริหารบ้านเมืองของนักการเมืองทุกเรื่อง นักการเมืองเป็นตัวแทนของประชาชนจากพื้นที่และพื้นเพซึ่งแตกต่าง มีหน้าที่รักษาผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนที่ตนเป็นตัวแทน แต่ต้องมีผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเป็นตัวครอบกำกับ – ไม่ใช่สร้างประโยชน์ให้กลุ่มของตนแต่ทำลายชาติโดยรวม เลวพอกับที่หาแต่ประโยชน์ส่วนตน ระบอบประชาธิปไตย เป็นข้อตกลงที่ให้ประชาชนมาเลือกตัวแทนของตนทุก 4 ปี เพื่อบริหารประเทศชาติภายใต้กฎเกณฑ์และมารยาทที่กำหนดไว้ การเลือกผู้แทนราษฎรจึงมีค่าเท่ากับการทำสัญญาโดยประชาชนว่าจ้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาทำงานแทนตน
การประท้วง เมื่อไม่พึงพอใจในนโยบาย เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับประชาธิปไตย ถ้าไม่ก่อให้เกิดความไม่สงบ การประท้วงขับไล่เป็นการละเมิดสัญญา ไม่ใช่สิ่งถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย และเป็นตัวทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย Magna Carta รัฐธรรมนูญฉบับแรกของโลก กำหนดไว้ชัดว่า กฎหมายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้ - ไม่ว่าเจ้า หรือบ่าว การได้รัฐบาลแบบไหน คือ ความรับผิดชอบของประชาชน ที่ต้องยอมรับผลของเสียงส่วนมาก การปฏิเสธรัฐบาลที่ได้มาตามกฎกติกา ก็ต้องทำตามกฎกติกา การบอกเลิกสัญญาระหว่างประชาชนกับผู้แทนราษฎรในรัฐบาล ด้วยการประท้วงขับไล่ ไม่ว่าเป็นชุมนุมเสื้อสีของกลุ่มพันธมิตร เสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ จนถึงหน้ากากสีขาว คือ การเริ่มต้นของวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีวันจบสิ้น เมื่อฝ่ายหนึ่งชนะ ฝ่ายแพ้ก็ย่อมหาทางกลับมา ผลักดันไปสู่ทางเดียว คือ สงครามกลางเมือง – ข้อยุติที่แลกกับความย่อยยับของชาติ
การประท้วงโดยไม่มีผู้นำไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การประท้วงที่ไม่มีกลยุทธและเป้าหมายชัดเจน ไม่นำมาซึ่งความสำเร็จ กรณี Occupy London หรือ Occupy Movement อื่นที่เงียบหายไป ถูกวิเคราะห์ว่าปราศจาก message หรือ เป้าหมายในการประท้วง ที่จับความรู้สึกร่วมของคนได้-ที่บอกชัดแจ้งว่าจะทำอะไร-เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ใด-วัตถุประสงค์นั้นเป็นไปได้หรือไม่-เกิดประโยชน์อะไรต่อตัวบุคคลหรือส่วนรวมอย่างไร การใช้หน้ากากขาวเพื่อแสดงความรู้สึก เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่หน้ากากอย่างเดียวไม่สามารถให้ผลลัพธ์เป็นรูปธรรม หน้ากากขาวเป็นได้แค่ Mean-วิธีการ ไม่ใช่ End-ผลลัพธ์
การประท้วงขับไล่รัฐบาล อย่างไรก็เป็นเรื่องผิดหลักประชาธิปไตย หากการประท้วงมีจำนวนคนไม่เกินครึ่งของประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็ยังเป็นเสียงส่วนน้อย และเป็นได้เพียงแค่การก่อความไม่สงบ
คู่สัญญาระหว่างประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครอบคลุมทั้งผู้แทนที่จัดตั้งรัฐบาล และที่กลายเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งมีบทบาทตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และ ‘ประท้วง’ แทนประชาชนเมื่อพบพิรุธที่สามารถลามสู่การล้มรัฐบาลได้ การทำ Petition ลงชื่อ เพื่อแสดงเจตจำนงคัดค้านต่อนโยบายรัฐบาล แสดงพลังของประชาชนได้ชัดเจน ทำได้ทันที... และไม่ต้องอาศัยหน้ากาก จนถึงการทำสงครามข้อมูล ข้อมูลที่เร้ดอีกหลายกลุ่มแค่ไม่เคยรู้ เร้ดอีกมากไม่ต้องการรู้-ไม่พร้อมเชื่อ เพื่อให้เร้ดที่ไม่รู้ ไม่คลอนแคลน และเร้ดอีกไม่น้อยที่รักทักษิณเพราะคิดว่าดีและให้ความช่วยเหลือ การตะเบ็งด่าว่าทักษิณเลวไม่ทำให้คนเชื่อ แต่ข้อมูลจะทำให้คนคิด โดยเฉพาะคนอีสานที่รักแรง ... และเกลียดแรง
กว่าเร้ดจะเกิดขึ้น ไม่ได้ใช้เวลาข้ามคืน และคงจะไม่แข็งแรงอย่างวันนี้ หากไม่ได้ปุ๋ยจากการเหยียดหยามของ non-red หากเรายังยึดติดกับความคิดว่าเร้ดโง่เหมือนกันหมด เราคงไม่สามารถแยกไม้ออกจากมัดใหญ่ การคลี่ไม้ทีละชิ้นออกจากมัด ย่อมหักง่ายกว่าการหักทั้งกำ การหักไม้ทีละชิ้นเปรียบเสมือนการทุบนโยบายทีละเรื่อง เป็น 2 ระดับทั้ง Macro และ Micro อย่างเดียวกับที่ทักษิณทำ แจกแจงผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวที่ทักษิณไม่ได้ทำ ชี้ให้ชัดว่าใครเดือดร้อน ใครได้ประโยชน์ ทั้งระดับรัฐบาล ภาพในสายตาโลกและประชาชน ใครได้ ใครเสีย การชนะอย่างถาวรตามกติกา ที่ผู้ชนะคือประชาชน ไม่สามารถใช้เวลาข้ามคืนเช่นกัน ตัวอย่างความพินาศของชาติอื่นก็มีให้เห็น การประท้วงที่ผลักดันสู่การประทะก็เกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้ว หากหน้ากากขาวไทยจะใช้แค่ใจมาสู้ ก็ควรหา Exit Strategy เป็นทางออก ให้ ‘พลังบริสุทธิ์’ ปลอดภัย และอย่าลืมกลับมากระทุ้งเรื่องแก้ปัญหาพื้นฐานของสังคม ไม่เช่นนั้น ในที่สุด ประชาชนทุกคนก็จะเป็นผู้แพ้ร่วมกัน
*********
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |