เมื่อช่วงต้นปีผมได้มีโอกาสเข้าไปช่วย  SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในการฟื้นฟู โดยเข้าไปสำรวจ

ความเสียหาย ซึ่งมีงบประมาณภาครัฐเข้าไปช่วยในการซ่อมแซมเครื่องจักร หรือต้องการในการให้คำแนะนำ

ด้านการเงิน หรือการฝึกอบรม...ผมเข้าไปในโซน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เช่นกัน

ได้คุยกับผู้บริหารแล้วเข้าใจความรู้สึก บางบริษัทวัถุดิบที่ใช้ในการผลิต  เครื่องจักร เสียหายหมด แต่ก็ต้องเดินต่อ

แล้วมาเจอปรับค่าจ้าง  300 อีกเมื่อ 1 เม.ย.  55 ที่ผ่านมา  บางบริษัทก็ต้องปลดพนักงานออกส่วนหนึ่ง

เพราะแบกรับภาระไม่ไหว  ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก  40 %  ในส่วนของ  7 จังหวัด

           บริษัท SMEs ของไทยน่าเห็นใจครับ ต่างจังหวัดก็เพิ่งมีมติเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 55 ที่ผ่านมาว่าปรับขึ้น

ทั่วประเทศ ไม่ได้ฟังเสียงทัดทานจากหอการค้าแต่อย่างใด  ผลดีแน่นอนก็ตกกับลูกจ้างที่ได้  300 บาท

แต่แน่นอนผู้ประกอบการ SMEs ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะส่วนใหญ่ต่างจังหวัดค่าจ้างไม่สูงมีส่วนต่างจาก  

300 บาท เยอะ มี 29 จังหวัดที่ปรับแบบก้าวกระโดด ถึง  28.76% -35.14 % ได้แก่ชัยนาท , สุพรรณบุรี ,

กาฬสินธุ์ , ขอนแก่น ,นครสวรรค์ ,เพชรบูรณ์เชียงราย,บุรีรัมย์,ร้อยเอ็ด,ยโสธร,สกลนคร,ชัยภูมิ,

ลำปาง,หนองบัวลำภู,มุกดาหาร,สุโขทัย,นครพนม,อำนาจเจริญ ,มหาสารคาม,พิษณุโลก,แม่ฮ่องสอน

,อุตรดิตถ์, แพร่ , พิจิตร,ตาก ,สุรินทร์,น่าน ,ศรีสะเกษและพะเยา

          จังหวัดที่ไ้ด้รับผลกระทบ  5 อันดับมากที่สุดได้แก่  ได้แก่ จ.พะเยาอยู่ที่ 35.14%

รองลงมาจ.ศรีสะเกษอยู่ที่ 34.53% จ.น่านอยู่ที่ 33.33% จ.สุรินทร์อยู่ที่ 32.74%

และจ.ตากอยู่ที่ 32.74%

              ผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบการทั่วหน้า ถ้ามาในการบริหารงานบุคคลถือว่าเป็นการปรับฐานครั้งใหญ่

ใครทำงานห่วย หรือทำงานไม่โดดเด่น ก็ได้ปรับ  300 เหมือนกัน บริษัทปฏิเสธไม่ได้ ...

              ทว่าหากวิเคราะห์ให้ดีการปรับ  300 บาท พนักงานได้ค่าจ้าง  300 แต่ค่าครองชืพก็จะเพิ่มเป็น

เงาตามตัวเช่นกัน..

               ขอบคุณข้อมูลจาก  http://breakingnews.nationchannel.com