*/
<< | ธันวาคม 2017 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า วัดคินคะคุจิ ( Kinkakuji Temple ) จะเรียกว่า "วัดอิกคิวซัง" อีกชื่อหนึ่ง ผมทราบเพียงว่าคนไทยเรียกวัดนี้ว่า "วัดพลับพลาทอง หรือ วัดทอง " เมื่อผมแจ้งเธอไปว่ากลางเดือน พฤศจิกายน ผมจะไปเกียวโต เธอรีบ Recommend โดยทันที ทั้งๆที่ผมเพิ่งบอกเธอว่าจะไปเกียวโต " วัดอิกคิวซััง คืออันดับหนึ่งของเกียวโตนะ ต้องไปก่อนที่อื่นเลยนะคะ " หากพลาดเหมือนกับมาไม่ถึงเกียวโต ผมได้แต่ครับๆ เธอหารู้ไม่ว่าผมไม่ทราบว่าวัดอิกคิวซังเป็นวัดอะไร ในใจผมจะไปหาหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นเจาะลึกเกียวโตมาอ่าน แต่มีเสียงกระซิบข้างหูของผมเบาๆ " กูเกิลซิ " เสียงกระซิบที่บอกมานั้นทำให้ผมได้คำตอบเร็วขึ้น คือ วัดคินคะคุจิ ยังไง ขอบคุณเธอที่อยู่แดนไกลมากๆที่ให้ข้อมูล และคำแนะนำก่อนการเดินทาง เธอท่องเที่ยวมามากแล้ว โลดแล่นไปมาระหว่างทวีปตั้งแต่เล็กๆ เธอจึงมีข้อมูลมากมาย วัดคินคะคุจิ ( Kinkakuji Temple )
เสียงโทรศัพท์พื้นฐานดังขึ้นเมื่อใกล้ๆเที่ยงคืน เสียงดังจนสะดุ้งตกใจตื่น หัวใจผมเต้นรัว เสียงปลายสายบอกว่ามีตั๋วโปรไปกลับ เคแอล-โอซาก้า เดือน พย.ราคาย่อมเยา จะจองไหม ผมรีบตอบทันทีจองเลยๆ ราคาเท่าไหร่ผมไม่ทราบแต่รับปากไว้ก่อน ตอบทั้งๆที่ยังงัวเงีย
ก่อนหน้านี้ราวๆแปดเก้าปีที่ผ่านมาเสียงโทรศัพท์บ้านเป็นเสียงที่ผมไม่พึงประสงค์ที่จะได้ยิน และจำเพาะเจาะจงจะต้องดังในช่วงดึกก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อยหรือราวๆที่หนึ่งตีสอง
นครโอซาก้าเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสามนครเคฮันชิง ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮอนชู ในเขตจังหวัดโอซะกะ เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่มีสถานะเป็นนครโดยข้อบัญญัติรัฐบาลญี่ปุ่น นครโอซาก้ามีประชากรทั้งหมดประมาณ 2.7 ล้านคน แต่ในช่วงเวลาทำงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.7 ล้านคน ซึ่งเป็นรองเพียงแต่โตเกียวเท่านั้น อัตราส่วนประชากรกลางวันต่อกลางคืนเท่ากับ 141 เปอร์เซ็นต์ นครตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำโยะโดะ อ่าวโอซะกะ และทะเลเซะโตะ โอซาก้าเป็นเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทั้งการค้าและวัฒนธรรมเมืองหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มีสมญาว่า ครัวของชาติ ( เท็งกะ โนะ ไดโดะโกะโระ ) เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวของ ญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอะโดะ และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเมืองหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
จากโอซาก้า เราสามารถไปเกียวโตด้วยรถไฟ JR Pass ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่งโมงเท่านั้น จากสถานีรถไฟเกียวโต เราต่อรถบัสประจำทางสาย 101 ไปลงที่ป้าย Kinkakuji Michi ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง เรื่องจะลงผิดป้ายคงไม่มี เพราะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ที่ร่วมกันมาทั้งคัน ส่วนใหญ่จะลงกันเกือบหมดคันรถ เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครเลยป้ายแน่นอน ลงจากรถแล้วเดินต่อไปอีก 3 นาทีก็เข้าเขตวัด ทางที่เดินเข้าไปจะพบใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม เต็มไปทั้งสองข้างทาง เมื่อเข้าถึงวัดพบกับตัวอาคารสีทองงดงามมาก ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่ชมไม่เบื่อ ตัวอาคารแบ่งเป็น 3 ชั้น สร้างด้วยสถาปัตยกรรมชินเด็น แบบเดียวกับการสร้างพระราชวังในยุคเฮอัน ช่างงดงามอะไรอย่างนี้ ทำให้ผมนึกถึงเธอที่เธอบอกไว้ว่าวัดอิกคิวซัง ถ้าไม่มาหมายถึงคุณไปไม่ถึงเกียวโต สวยงามจนอยากเก็บภาพไว้ทุกช่วงเวลา
ปุจฉา วิสัจฉนา ใช้หมอง นั่งสมาธิ เมื่อเห็นศาลาสีทองอร่ามปรากฎตรงหน้า อยู่ท่ามกลางบึงใสสงบราบเรียบราวกระจก ภาพเณรน้อยเจ้าปัญญาเมื่อนานมาแล้วผุดขึ้นในสมอง เป็นภาพที่เณรน้อยประลองความรู้กับโชกุนอาชิคางะ รอบๆบริเวณวัดจะเต็มไปด้วยความสวยงามของต้นไม้หลากหลายสายพันธ์ บริเวณวัดคินคะคุจิ สวยไปทุกมุมมอง
เมื่อเราออกจากวัดคินคะคุจิ เราตรงไปยังวัดกินคะคุจิ(Ginkauji) ชื่อพ้องกันกับวัดคินคะคุจิ จนสับสน วัดกินคะคุจิ หรือที่เรียกว่าวัดเงิน
วัดกินคะคุจิ(วัดเงิน) เป็นวัดในนิการเซนตั้งอยู่บนภูเขาทางภูเขาทางทิศตะวันออกของเกียวโต(ภูเขาฮิกาชิ) สร้างขึ้นในปี 1482 โดยโชกุนอาชิคางะ โยชิมาสะ โดยท่านใช้เวลาในปั้นปลายชีวิตหลังเกษียณ อายุอาศัยอยู่ที่นี่ และต้นแบบของวัดแห่งนี้ได้อิทธิพลมาจากวัดคินคะคุจิ(วัดทอง) ซึ่งเป็นที่พักของปู่ของเขาในช่วงเกษียณอายุเช่นเดียวกัน ตั้งอยู่ที่ฐานของภูเขาทางภาคเหนือของเกียวโต ภูเขาคิตะ) ต่อมาบ้านพักถูกดัดแลงให้เป็นวัดในนิกายเซนหลังจากการตายของ โยชิมาสะ ในปี 1490 ในฐานะที่เป็นบ้านพักหลังเกษียณทำให้จึงเป็นเป็นศิลปะสมัยโชกุน วัดกินคะคุจิ กลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมร่วมสมัยที่เรียกว่าวัฒนธรรม ฮิกาชิยามะ ซึ่งตรงข้ามกับวัฒนธรรม คิตะยามะ เมื่อสมัยของปู่เขา ซึ่งยังคงจำกัดอยู่แค่ในวงการชนชั้นสูงของเกียวโต วัฒนธรรม ฮิกาชิยามะ ส่งผลในวงกว้างทั่วทั้งประเทศ ทั้งศิลปะการพัฒนาและขัดเกลา ในระหว่างนี้ประกอบไปด้วย พิธีชงชา, การจัดดอกไม้, ละครโนห์, บทกวี,ออกแบบสวนและสถาปัตยกรรม วันนี้วัดกินคะคุจิ ประกอบไปด้วยศาลาสีเงิน 5-6 หลังจากอาคารในวัดทั้งหมด สวนตะไคร่น้ำที่สวยงามและสวนทรายแห้งที่ไม่ซ้ำกัน มันเป็นความสุขที่ได้เดินไปตามเส้นทาง วงกลมรอบๆบริเวณซึ่งมีทั้งสวนและอาคารที่น่าชม ( http://www.japan-expert.com ) เมื่อเข้ามาในบริเวณวัดจะเห็นสวนตะไคร่น้ำ ลานโล่งพื้นที่ว่างโดดเด่นไปด้วยอาคารที่อยู่รอบๆ เป็นทางเดินเข้าไปชมสวนสวยงาม ด้านขวามือคือศาลาสีเงิน ที่คนไทยเรียกวัดนี้ว่า วัดเงิน
เมื่อเดินไปรอบๆบริเวณัดจะพบเห็นการจัดสวนที่สวยงาม ต้นไม้บางต้นใบไม้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนสีสลัดใบทิ้งตัวลงสู่พื้น เมื่อเราเดินรอบๆสระ มองข้ามไปจะเห็นศาลาเงินตั้งอยู่อย่างสงบท่ามกลางแมกไม้ เดินเลี้ยวซ้ายมาจะพบกับความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองแดงสลับกันไป ราวกับอยู่ในทิพย์วิมาน เพลิดเพลินสวยงามจนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเช่าชุดยูกาตะสวมใส่ดูสวยงามเข้ากับบรรยากาศมาเดินชมสวน เขียวแดงเหลืองตัดกันจนเป็นความงดงาม พื้นหญ้านุ่มนวลดุจพรม อยากลงไปนอนหงายมองไปยังจุดหมายที่อยู่ไกลแสนไกล ชีวิตเราเหมือนดั่งต้องปีนบันไดเพื่อไต่เต้าสู่ความสำเร็จ จะมีใครบ้างหนอที่ไต่เต้าเพื่อความสุขสงบของจิตใจ แต่ความสำเร็จก็มิใช่จะโรยไปด้วยกลีบดอกกลีบใบที่พร่างพรมลงมา รากฐานที่มั่นคงนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จ ศาลาเงินในมุมสูงท่ามกลางแมกไม้สลับสี
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ( Fushimiinari Shrine ) ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ( Fushimiinari Shrine ) ตั้งอยู่ทางใต้สถานีเกียวโต สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งตวามอุดมสมบูรณ์ในด้านการเก็บเกี่ยวผลผลิต ความโดดเด่นของศาลเจ้าคือ เสาโทริอิสีแดง ที่ตั้งเรียงกันจำนวนมากกว่าสี่หมื่นต้น คิดเป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร เสาแต่ละต้นได้รับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา
รูปปั้นสุนัขจิ้งจอก ที่หน้าศาลเจ้า มีความเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้า เสาโทริอิแดงนับหมื่นๆต้นเรียงรายไปตามความศรัทธาที่เพิ่มขึ้นๆ หากเดินนับแต่ละต้นจนสุดทาง ต้องใช้สมาธิและความสงบ โทริอิแดงเรียงรายไปตามเนินสูง เสาแต่ละต้นมาจากความศรัทธาที่แก่กล้า คดเคี้ยวไปตามเนินสูงกว่าจะก้าวถึงจุดสูงสุดคงเหนื่อยล้า แล้วก็เวียนมาบรรจบที่จุดเริ่มต้น
ชีวิตที่เริ่มต้นจนกระทั่งจบลง มีทั้งสุขทั้งเศร้าคละเคล้ากันไป จะมีใครบ้างที่มีแต่ความสุขเพียงอย่างเดียว
ขอบคุณมากที่เข้ามาชม __________________________________ ติดตามชม>>>> Castle in Japan
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |