*/
<< | กรกฎาคม 2018 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |
ไต้หวันเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกเพราะมีเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อ พรรคชาตินิยม ได้เป็นใหญ่ แต่ไม่นานก็เสียทีให้แก่พรรคสังคมนิยม พรรคชาตินิยมโดยการนำของท่านนายพล เจียง ไคเช็ก ได้หนีมายังเกาะไต้หวัน แล้วสถาปนาสาธารณรัฐจีนขึ้นบนเกาะไต้หวันแยกต่างหากจากสาธารณรัฐประชาชนจีนบนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันได้พัฒนาประเทศเรื่อยมาจนเป็นหนึ่งในสี่เสือแห่งเอเซีย เมื่อท่านเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวไต้หวันเป็นครั้งแรก เมื่อถึงกรุงไทเป ไม่มีข้อยกเว้นใดๆที่จะไม่แวะไปเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานเจียงไคเชก เพราะเป็นหนึ่งสัญญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน และสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ต้องมาของเมืองไทเป อนุสรณ์สถานเจียง ไคเชก อีกมุมมองหนึ่งอนุสรณ์สถานเจียง ไคเชก รูปปั้นทำจากทองสัมฤทธิ์
ทหารรักษาการณ์ยืนนิ่งยังกับหุ่น ทหารเปลี่ยนเวรยาม ซุ้มประตูทางเข้าอนุสรณ์สถานเจียง ไคเชก ดูอลังการเมื่อเดินมาถึง ซุ้มทางเข้าเมือมองจากด้านใน National Theater National Concert Hall หลังคาสวยงามด้วยลวดลายของไม้ ภายใต้หลังคาที่สวยงามแฝงไปด้วยงานฝีมือ ความหมายคงดีงาม ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาจีนมาเฉลย แล้วเธอก็จากไป เหลือแต่ความว่างเปล่า..ทิ้งไว้แต่ความทรงจำแสนบางเบา มูลนิธิพุทธฉือจี้ เป็นอย่างไร หากว่าเป็นชาวพุทธที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับองค์กรการกุศลน้อยมากที่จะไม่รู้จักมูลนิธิพุทธฉือจี้ มูลนิธินี้ทำอะไร มีวัตถุประสงค์อย่างไร ดำเนินการด้วยวิธีไหน หากว่าท่านเคยติดตามรายการพุทธธรรมช่วงเวลาก่อนหกโมงเช้า ท่านคงจะได้รับทราบมาบ้าง ปฐมบทมูลนิธิพุทธฉือจี้ "เพื่อพุทธศาสนา เพื่อมวลชีวัน" พ.ศ.2509 ท่านธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยน อาศัยจิตวิญญาณ “ยับยั้งชั่งใจ อุตสาหะ มัธยัสถ์ ฟันฝ่าอุปสรรค” จนสามารถก่อตั้งมูลนิธิฉือจี้ขึ้น ณ เมือง ฮวาเหลียน ไต้หวัน ในยุคแรกลูกศิษย์ซึ่งเป็นภิกษุณี 6 รูป ต่างช่วยกันเย็บรองเท้าเด็กเพิ่มวันละหนึ่งคู่ และแม่บ้าน 30 คน ต่างช่วยกันออมเงินลงในกระบอกไม้ไผ่ออมบุญ วันละ 50 สตางค์ เพื่อดำเนินงานการกุศลของฉือจี้ ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ภารกิจของฉือจี้ได้ขยายเป็น การกุศล การรักษาพยาบาล การศึกษาและวัฒนธรรมอันดีงามของมนุษย์ จากดินแดนอันห่างไกล อย่างเมืองฮวาเหลียน ขยายไปยังห้าทวีปทั่วโลก ปัจจุบันมูลนิธิฉือจี้มีสำนักงานและจุดติดต่อรวมทั้งสิ้น 52 ประเทศ โดยให้การช่วยเหลือผู้คนทั่วโลกไปแล้ว 92 ประเทศ ชาวฉือจี้ใช้ใจที่เปี่ยมด้วยความสำนึกคุณ เสียสละโดยไม่หวังผลตอบแทน เพื่อดูแลและปลอบโยนผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้ยากด้วยความจริงใจ ก่อตั้งมูลนิธิพุทธฉือจี้ วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2509 (วันที่ 24 เดือน3 ปีพ.ศ.2509 ตามปฏิทินจันทรคติ) “มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน” ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ วัดผู่หมิง หมู่บ้านเจียหมิน ท่านธรรมาจารย์นำเหล่าลูกศิษย์ปฏิบัติธรรม ณ วัดผู่หมิง โดยทุกคนต่างดำเนินชีวิตด้วยการพึ่งพาตนเอง ยึดกฎที่ว่า “วันใดไม่ทำงาน วันนั้นไม่ขอฉันอาหาร” สำหรับมูลเหตุการก่อตั้งนั้น กล่าวคือ วันหนึ่งมีแม่ชีคาทอลิกจากโรงเรียนมัธยมไห่ซิง สามท่านได้เดินทางมาพบท่านธรรมาจารย์ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงศาสดา เป้าหมายและหลักธรรมคำสอนของศาสนาที่ตนเองนับถือ ก่อนที่แม่ชีทั้งสามจะเดินทางกลับ จึงได้กล่าวขึ้นว่า “ในที่สุดวันนี้ก็ได้เข้าใจแล้วว่า ความเมตตาของพระพุทธองค์นั้น ครอบคลุมไปถึงทุกสรรพชีวิตบนโลก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ทว่าความรักของพระเจ้า แม้จะจำกัดอยู่แค่หมู่มวลมนุษยชาติ แต่พวกเราได้สร้างโบสถ์ สร้างโรงพยาบาลรวมถึงดูแลสถานสงเคราะห์คนชรา ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมนานัปการ แล้วพุทธศาสนาเล่า ได้อุทิศสิ่งใดเพื่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรมบ้าง” ท่านธรรมาจารย์ฟังแล้วรู้สึกอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะตอบประการใด นั่นเพราะพุทธศาสนิกชนส่วนมาก มักจะปิดทองหลังพระ ต่างคนต่างทำบุญ เมื่อทำบุญก็ไม่ต้องการออกนาม เป็นที่น่าเสียดาย ที่ไม่มีใครรวบรวมความรักอันยิ่งใหญ่นี้ ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนจึงตัดสินใจทุ่มเทแรงกายแรงใจ จัดตั้งองค์กรการกุศลขึ้น โดยเริ่มต้นจากการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ( ข้อมูลจาก www.tzuchithailand.org ) สำนักงานมูลนิธิพุทธฉือจี้ บานประตูสวยงาม
ภายในสำนักงานที่เงียบสงบ แปลงปลูกผักของสมาชิกพึ่งพาตนเอง ดอกบัว ดอกไม้แห่งพระพุทธศาสนา อูไหล(Wulai)เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศ ชนบทเล็กๆ ห่างจากตัวเมืองไทเป(Taipei)ไปทางตอนใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร มีชื่อเสียงด้านแหล่งแช่น้ำแร่, วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม, ถนนคนเดินที่ขายของชาวเผ่าพื้นที่เมืองของไต้หวัน, น้ำตก Wulai ที่สวยงาม, แม่น้ำสีเขียวใสสะอาด และจุดชมซากุระ(เดือน มก.-กพ.)ของเกาะไต้หวัน(www.talontiew.com) สายน้ำที่หลั่งไหลมาจากน้ำตก Wulai เส้นทางเดินดูนกสะอาดสงบไร้ผู้คน จุดนั่งพักรอรถโดยสาร คู่ขนานไปกับทางรถไฟสายท่องเที่ยว จอดแวะรับเธอตรงทางโค้ง น้ำตกอูไหล(Wulai Falls) น้ำตกอูไหล(Wulai Falls) เป็นหนึ่งในไฮไลท์หลักของการมาเที่ยวเมืองอูไหล เป็นน้ำตกที่สูงถึง 85 เมตร สามารถชมได้จากบริเวณ Warrior Square ซึ่งจะมีร้านขายเครื่องดื่มพร้อมที่นั่งให้บริการด้วย สายน้ำท่ามกลางแมกไม้ เขียวเทอร์คอยซ์ สายน้ำถาโถมกระโจนลงหาที่ต่ำ ลาก่อนไต้หวันแล้วจะกลับมาเยือนใหม่ แล้วพบกันใหม่ ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาชม __________________________________________ เรื่องย้อนหลัง>>>>>>>> Taiwan in Love I เรื่องย้อนหลัง>>>>>>>>Taiwan in Love II |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |