*/
เกาะเต่า-เกาะนางยวน | ||
![]() |
||
ไปเที่ยวมาเมื่อวันที่ 21 - 24 สิงหาคม 2550 มีแต่ฝรั่งเต็มเกาะเลยครับ...... |
||
View All ![]() |
<< | ธันวาคม 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |
...เอาบุญมาฝาก...ผู้ใหญ่ใจดี... ...การส่งมอบเรือนนอนของเด็กนักเรียนชาวเขาสามเผ่ากระเหรี่ยง ลีซอและมูเซอ ให้กับโรงเรียนญาณวิศิษฏ์ก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยลงเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 อันถือได้ว่าเป็นฤกษ์งามยามดี เพราะเป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ครบรอบ 81 พรรษาพอดี... ...การก่อสร้างเรือนนอนให้กับโรงเรียนญาณวิศิษฎ์ในครั้งนี้ทุลักทุเลทรหดอดทนมานานพอสมควร ด้วยเหตุที่โรงเรียนอยู่ในที่ทุรกันดารสุดๆแห่งหนึ่ง ไปมาเข้าออกค่อนข้างจะลำบาก รถโดยสารประจำทางไม่มี ถนนหนทางที่จะเข้าไปก็ยังไม่มีสภาพเป็นถนนที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะในหน้าฝนนั้น ระยะทางเพียง 25 กม.จากบ้านปูแป้ ไปยังดอยเลโคะนั้น ต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง รถที่จะเข้าไปได้นอกจากจะต้องเป็นรถโฟว์วีลไดรฟ์แล้ว ยังจะต้องมีโซ่พันล้อด้วย แม้กระทั่งในหน้าแล้งอย่างที่เราเข้าไป ก็ยังต้องใช้เวลาถึง 1.5 ชั่วโมง แถมก่อนหน้านั้นสองวัน ทางโรงเรียนได้ประสานไปยังทาง อบต.พะวอ เพื่อจัดหาดินหินมาถมทาง เพื่อต้อนรับคณะของเราให้เข้าไปอย่างสะดวกแล้ว ถือได้ว่าการเดินทางของคณะเราในครั้งนี้เป็นการเดินทางอย่างเร็วที่สุดแล้ว เท่าที่มีการเดินทางมายังโรงเรียนญาณวิศิษฎ์ ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก...!!! ...เพราะเหตุที่การเดินทางลำบากเช่นนี้เอง การที่จะหาผู้รับเหมามาเพื่อสร้างอาคารจึงเป็นเรื่องยาก และงบประมาณก็จะบานปลายไปทุกครั้งเพราะค่าขนส่งที่จะมีราคามากกว่าค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงานมากมาย ยกตัวอย่างว่าแม้เพียงการนำหินและทรายขึ้นไป ก็ต้องจ้างแรงงานขนหินและทรายใส่กระสอบมัดปากกระสอบให้แน่นก่อน จากนั้นก็ถึงจะต้องจ้างรถปิคอัพโฟว์วีลไดรฟ์บรรทุกขนไป ซึ่งก็จะได้ทีละไม่กี่กระสอบ ค่าหินค่าทรายแค่ 2,000 บาท แต่จะต้องจ่างค่าขนส่งถึง 4,000 บาท การก่อสร้างจึงทุกลักทุเลหยุดบ้างสร้างบ้างเรื่อยมา... ....แต่เพราะความมุมานะของเหล่าคุณครูโรงเรียนญาณวิศิษฎ์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิญญาณแห่งความเป็นครูที่รักเด็กอย่างแท้จริง แม้ ผอ.สมยศ ซึ่งเป็น ผอ.ที่ริเริ่มที่จะสร้างเรือนนอนแห่งนี้ จะต้องโยกย้ายไปประจำ ณ โรงเรียนแห่งอื่นไปแล้ว แต่ ผอ.นงนุช ผอ.ผู้หญิงใจเด็ดเดี่ยวก็พร้อมจะตะลุยงานนี้ให้สำเร็จให้จงได้ ท่าน ผอ.ทั้งสองได้เล่าให้ผมฟังว่า งบประมาณที่ได้จากคุณตาเหลือง รัศมีเจริญจำนวน 270,000 บาท นั้นเป็นแรงกระตุ้นให้ คิดที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จให้จงได้ แม้จะเห็นแล้วว่า งบประมาณเพียงเท่านี้ไม่สามารถจะสร้างให้เสร็จได้แน่ ท่าน ผอ.ทั้งสองได้วิ่งหาผู้บริจาคจากแหล่งอื่นๆอีกมากมายมาช่วยเหลือ และสุดท้ายก็ได้กลุ่มพนักงานจากบริษัทเชฟรอนประเทศไทย นำโดยคุณวรพัฒน์ที่เข้ามาช่วยเหลือ และลงทุนสร้างเรือนนอนอีกหนึ่งหลัง เพื่อที่จะแบ่งแยกเป็นอาคารเรือนนอนหญิงและเรือนนอนชาย ให้ถูกต้องเหมาะสม จากงบเดิมเพียง 270,000 บาท แต่เมื่อสร้างเสร็จสองหลัง กลับต้องใช้เงินไปถึง 1,700,000 บาท...!!! ...ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน และขอสาธุอนุโมทนาบุญกุศลที่ทุกท่านทำในครั้งนี้ด้วย...!!! ...คำว่า "ผู้ใหญ่ใจดี" เป็นคำที่ ผอ.นงนุช เรียกพวกเราทุกคน รวมทั้งผู้ที่บริจาคเงินผ่านบล็อกแห่งนี้ด้วย เป็นคำที่ผมฟังแล้วก็รู้สึกชื่นใจอย่างยิ่ง ฟังสบายๆง่ายๆแต่ลึกซึ้งกินใจยิ่งนัก... ...น้องเจมส์ ธีรภัทร ลูกชายของคุณภัทรพงศ์ สมาชิก อบต.พะวอ ผู้เป็นคนเอารถมารับเราในวันนั้น น่ารักอย่างยิ่ง น้องเจมส์เป็นคนติดพ่อ คุณภัทรพงศ์ไปไหนจะต้องร้องไปด้วย ความน่ารักและช่างพูดของน้องเจมส์ ทำให้คณะของเรามีความสุขไปตามๆกัน ดูเพียงรูปก็น่าจะทราบได้ ถึงความสุขที่เราได้รับ... ...อ้อ...เห็นหน้าตาอย่างนี้ น้องเจมส์ก็เป็นลูกครึ่งเหมือนกันนะครับ ก็ลูกครึ่งกระเหรี่ยง-ลีซอ ก็พ่อมีสายเลือดกระเหรี่ยงแม่มีสายเลือดลีซอ น้องเจมส์ก็เลยกลายเป็นลูกครึ่ง ด้วยประการฉะนี้...!!! ...ท่ามกลางการเดินทางที่ คุณภัทรพงศ์ อบต.พะวอ ผู้นำพาคณะเราไปดอยเลโคะ ได้ภูมิใจนำเสนอแล้วว่า ได้เป็นผู้เอาหินและทรายมาถมกับมือตัวเอง ทำให้ถนนหนทางดีได้ขนาดนี้ เราก็ยังว่ามันยังลำบาก...!!! ...กว่าจะถึงโรงเรียนญาณวิศิษฎ์บนดอยเลโคะ ก็กินเวลาชั่วโมงกว่าๆ หันไปมองผู้ขออาศัยขึ้นหลังรถกระบะมา ก็ล้วนแต่แปลงโฉมไปเป็นฝรั่งมังค่าหัวแดงไปทั้งสิ้น เพราะเหตุที่ ที่นี่ไม่มีรถประจำทางการเดินทางขึ้นดอยเลโคะ ก็เลยต้องอาศัยน้ำใจไมตรีของรถที่จะขึ้นมา ด้วยการแบ่งปันกันอาศัยขึ้นมา โดยจุดนัดพบจะอยู่ที่บ้านคุณบุญล้อมหรือบ้านพ่อหลวงวง ซึ่งอยู่ติดกับสหกรณ์การเกษตรพะวอ... ...โรงเรียนญาณวิศิษฏ์ มีอาคารเรียนหลักเพียงสองหลัง คืออาคารไม้สีแดงแห่งแรก และอาคารคอนกรีตฉาบปูนอีกหนึ่งหลัง ซึ่งล้วนแต่สร้างด้วยงบประมาณที่บานปลายทั้งสิ้น ทั้งนี้เป็นเพราะงบประมาณของทางราชการ มักจะไม่ได้รวมค่าขนส่งเอาไว้ อย่างอาคารคอนกรีตถือปูนหลังนี้ ที่เห็นเป็นสองชั้น ชั้นล่างนั้นก็ได้ "ผู้ใหญ่ใจดี" เป็นชาวพุทธจากสิงคโปร์ ช่วยบริจาคสร้างให้ มิฉะนั้นก็จะไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดของทางราชการ... ...ที่ผมถึงกับประทับใจและปลื้มใจ ก็คือป้ายบนอาคารเรียนแห่งนี้แหละครับ ที่บอกไว้ว่า "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา" ได้ทรงมาเปิดอาคารเรียนแห่งนี้เมื่อ 30 ธันวาคม 2540 แม้ในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้ พระองค์ก็จะอุตส่าห์ดั้นด้นมา ทรงเป็นแม่พระในดวงใจของเหล่าพสกนิกรไทยจริง...ขอพระองค์จงทรงพระเจริญเถิดพระพุทธจ้าข้า...!!! ...ก่อนหน้านี้เด็กจะต้องนอนอยู่ใต้ถุนหอพักครูแห่งนี้ โดยใช้ไม้กั้นเป็นสองห้องแบ่งเป็นห้องเด็กหญิงและเด็กชาย อยู่กันอย่างแออัด ผอ.บอกว่า ปีที่แล้วมีเด็กต้องนอนค้างที่โรงเรียนถึงหนึ่งร้อยกว่าคน แต่ปีนี้ดีหน่อยที่เหลือเพียง 75 คน.... ...ท่านผู้ชมลองคิดดูว่าจะนอนกันอยู่ได้อย่างไร...??? ...โรงอาหารของเด็กๆ นักเรียนชาวกระเหรี่ยงเหล่านี้กำลังรับประทานอาหารกันอยู่พอดี เราก็เลยถือโอกาสพูดคุยและถ่ายรูปด้วย... ...ห้องสมุด...ห้องพักของพวกเราในคืนนั้น อาคารนี้ก็ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของ "ผู้ใหญ่ใจดี" ชมรมกลุ่มรักนกเงือก...มาช่วยสร้างให้... ...คนหนึ่งที่ผมจะต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี่ก็คือ "คุณนายหมู" ของผมนี้แหละครับ เธอไม่มีอาการบ่นว่ากับความลำบากลำบน เลยแถมยังช่วยรวบรวมจัดแจงข้าวของสัมภาระหลายอย่าง ช่วยผมได้เป็นอย่างดี ขอผลบุญผลกุศลในครั้งนี้จงช่วยให้เธอได้ผอมลงตามใจปรารถนาเธอด้วยเถิดครับ...!!! ...อาหารมื้อเย็นวันนั้น แม้จะได้รับประทานล่าไปสักหน่อย เพราะกว่าเหล่าคุณครูจะช่วยกันทำกับข้าวเสร็จ ก็เข้าไปทุ่มกว่าๆ ทำให้ท้องร้องจ๊อกๆไปตามๆกัน แต่เมื่อได้รับประทานก็อิ่มหมีพีมัน อร่อยไปตามๆกันเช่นกัน... ...รูปบนคือน้องตาหวานกับน้องต้นน้ำ ลูกสาวและลูกชายของ ผอ.นงนุช ชมพูเทพ ผมเอาความน่ารักมาเปรียบเทียบกับ "ครูทิพย์" และ "ญาใจ" ดูว่าใครจะน่ารักกว่ากัน...!!! ...หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย ก็มีพิธีการเล็กน้อย โดยมีท่าน ผอ.นงนุช ผอ.โรงเรียนญาณวิศิษฎ์ ได้กล่าวนำถึงความเป็นมาของโครงการนี้ ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ในสมัยของ ผอ.สมยศ ยิ่งยงเมธี แล้วก็มาแล้วเสร็จเอาใน พ.ศ.2551 ในสมัยของ ผอ.นงนุช... ...หลังจากนั้น ก็ถือโอกาสเชื้อเชิญผมให้ขึ้นไปพูดในฐานะผู้ประสานงานจัดสร้างอาคารเรือนนอนหญิง "เพ็ชรี รัศมีเจริญ"และคุณวรพัฒน์พนักงานบริษัทเชฟรอนประเทศไทย บริษัทผู้ได้รับสัมปทานขุดเจาะน้ำมันอยู่กลางอ่าวไทย ได้ขึ้นไปพูดในฐานะผู้บริจาคและผู้สนับสนุนรายใหญ่... ...จากนั้นก็มีการแสดงของเด็กนักเรียนชาวเขาของสามเผ่ากระเหรี่ยง มูเซอและลีซอ ชุดนี้เป็นการแสดงชุดที่เรียกว่า "ระบำสามเผ่า" ครับ เห็นแล้วอายชาวเขาไหมครับ ที่ของเขาต่างเผ่าต่างพันธุ์ยังรวมกันได้ ของเราเผ่าไทยด้วยกันแท้ๆ กลับแตกแยก แตกต่างไม่ยอมกัน จนแทบจะพูดคุยกันไม่ได้... ...ชุดนี้สิครับเป็นชุดที่ทำให้ผมทึ่งและปลื้มในความคิด ของผู้ที่ออกแบบท่าเต้น และปลื้มในความสามารถของน้องๆที่มาเต้น ชุดนี้เป็นชื่อชุด "ระบำเกลียวเชือก" ผู้เต้นเป็นนักเรียนชาวกระเหรี่ยง จากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 61 ซึ่งเป็นโรงเรียนของท่าน ผอ.สมยศ ซึ่งท่านเป็นอดีต ผอ.โรงเรียนญาณวิศิษฎ์ ท่านจึงนำนักเรียนจากโรงเรียนของท่านมาช่วยเหลือ ... ..."ระบำเกลียวเชือก" เป็นการเต้นที่ต้องใช้ความสามัคคีกันในการเต้น และต้องรู้จักรักษากติกากัน ไม่เดินล้ำเส้นกัน ไม่ก้าวแซงเพื่อนกัน มิฉะนั้นเกลียวเชือกที่ม้วนพันเข้าหากันจะติดขัด เป็นการสอนเด็กนักเรียนไปในตัวได้อย่างน่าทึ่งยิ่ง... ...เหลียวมองดูการเมืองไทยในสยามประเทศตอนนี้แล้ว น่าจะจับมาเต้นระบำเกลียวเชือกยิ่งนัก จะได้รู้จักรักสามัคคีและเคารพกฏกติกากัน ไม่ล้ำเส้นล้ำสิทธิกัน...เห็นแล้วน่าอายกระเหรี่ยงนะครับ...!!! ...ส่วนชุดที่สามเป็นการแสดงของชาวเขาเผ่ามูเซอ เป็นการเต้น "จะคึ" ที่สนุกสนาน การเต้น "จะคึ" นี้ปกติจะเป็นการเต้นในเทศกาลที่สำคัญๆ เช่น วันปีใหม่เท่านั้น เห็นเขาบอกกันว่า ชาวมูเซอจะเต้นกันทั้งคืน มีการเชิญชวนให้แขกอย่างผมลองไปเต้นกันชาวเขาด้วย แต่ผมไม่กล้าเพราะดูแล้ว ขืนลงไปเต้นเป็นได้เหยียบเท้าเขาแน่ เพราะการขยับเท้าแต่ละจังหวะ พาลให้งงๆว่าจะไปทางไหน... ...เต้นระบำเสร็จก็ต้องขอถ่ายรูปกันตามธรรมเนียม ดูคุณนายหมูของผม เธอจะชอบชุดนี้อย่างยิ่ง นี่ถ้ามีให้เธอสวมถ่ายรูปเป็นได้เห็น "มูเซอหมูอ้วน" เป็นแน่... ...พลังงานถือเป็นเรื่องสำคัญของโรงเรียนกลางป่ากลางเขาอย่างนี้...กรมพัฒนาพลังงานทดแทน ได้มาติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านทางระบบโซลาร์เซล ทำให้โรงเรียนแห่งนี้สามารถติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลายอย่าง รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ท่าน ผอ.บอกว่า ที่จริงยังมีพลังงานน้ำอีกหนึ่งแห่ง ที่ส่งมาช่วยพลังงานไฟฟ้าที่นี่ เพียงแต่ช่วงนี้เกิดเหตุขัดข้องต้นไม้ล้มทับท่อน้ำหัก ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้... ...ในช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม 2551 หลังจากอาบน้ำอาบท่าฝ่าลมหนาวเรียบร้อย อ้อขอฟ้องท่านผู้ชมด้วยว่า คณะเราผู้ชายหนึ่ง ผู้หญิงสาม มีแต่ผมเท่านั้นที่อาบน้ำทั้งเย็นและเช้า ส่วนท่านผู้หญิงทั้งสามไม่ได้อาบเลยสักคน...!!! ...มีพิธีสงฆ์ในช่วงเช้า ก่อนการถวายภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ ถือเป็นประเพณีที่น่าประทับใจทีเดียวครับ... ...ทีแรกผมก็ยังงงว่า ตักบาตรข้าวสุกแล้ว ไม่ต้องใส่กับข้าวหรือ มาถึงบางอ้อก็ต่อเมื่อถวายภัตตาหารพระ ซึ่งเขาจะมีหม้อแกงและถาดอาหารวางไว้ให้เราถวาย แก่พระภิกษุที่อยู่หัวแถว ซึ่งจะต้องเป็นพระที่มีพรรษามากที่สุด ตักอาหารใส่บาตรก่อนที่จะเวียน ไปให้รูปอื่นตัก ดูไปก็คล้ายกับที่วัดที่ผมบวช เพียงแต่ของผมไม่ต้องตักบตรก่อนเท่านั้น... ...คุณนายหมูของผมเธอก็ตักบาตรด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบยิ่ง ซึ่งปกติใบหน้าของเธอก็อิ่มเอิบอยู่แล้ว เมื่อได้บุญเพิ่มมากขึ้นใบหน้าก็เลยบานมากขึ้น...!!! ...นี่แหละครับ การถวายถัตตาหารแก่พระภิกษุสงฆ์... ...หลังจากนั้นก็เป็นพิธีการกล่าวนำถึงโครงการมอบอาคารเรือนนอนทั้งสองหลัง โดยท่าน ผอ.ทั้งสองท่าน ขึ้นกล่าวนำก่อน ก่อนที่จะให้ผมและคุณวรพัฒน์ขึ้นกล่าวถึง ความเป็นมาและความตั้งใจที่จะช่วยเหลือโรงเรียนแห่งนี้ ผมขอบอกตามตรงว่า แม้จะเคยขึ้นกล่าวในที่ประชุมมามากมาย แต่คราวนี้รู้สึกประหม่าเป็นที่สุด เพราะไม่เคยต้องนั่งพับเพียบกล่าว แถมยังต้องนั่งอยู่ด้านหน้าหมู่สงฆ์ผู้ทรงศีลเสียอีก...พูดปดไม่ได้เลยนะเนี่ย...!!! ...จากนั้นก็เป็นการมอบกันไปมอบกันมา ของผมก็มอบเช็คเงินสดส่วนที่เหลือ 70,000 บาท ของงบประมาณการสร้างเรือนนอน "เพ็ชรี รัศมีเจริญ"และมอบเงินผ้าป่าเพื่อการศึกษา ที่พวกเราชาวโอเคเนชั่นช่วยกันบริจาคมา โดยมียอดเมื่อบริจาคจำนวน 45,100 บาท แต่หลังจากเมื่อลงมาจากดอยแล้ว ยังคงมียอดแจ้งมาอีก 1,000 บาท จากคุณเต็งพ้ง 500 และคุณคนสวยอีก 500 บาท รวมเป็นยอดเงินบริจาคทั้งหมด 46,100 บาท ซึ่งจะได้โอนเงินไปให้ทางโรงเรียนเพิ่มเติมต่อไป ส่วนหนังสือรับบริจาคจากทางโรงเรียน ท่าน ผอ.จะจัดส่งมาให้ผมภายหลัง กรุณารอคอยกันสักครู่นะครับ... ...นอกจากเงินผ้าป่าเพื่อการศึกษาแล้ว ก็ยังมีสิ่งของจำนวนหนึ่ง ที่คุณครูทิพย์นำไปบริจาคให้โรงเรียน รวมทั้งแชมพูอีกสองโหลจากคุณเฟิงสุ่ยที่ร่วมบริจาคมา ซึ่งท่าน ผอ.บอกว่ากำลังจะต้องจัดซื้อแชมพูมาให้นักเรียนสระผมกันอยู่พอดี ท่าน ผอ.บอกว่า นักเรียนที่นี่จะต้องสระผมสัปดาห์ละสองครั้งเป็นกฎเลย เพราะเป็นห่วงเรื่องเหาเรื่องเชื้อราบนหนังศีรษะ... ...ผู้ร่วมบริจาคเงินผ้าป่าเพื่อการศึกษา นอกจากชาวโอเคเนชั่นแล้ว ก็ยังมี ข้าราชการและลูกจ้างด่านศุลกากรแม่สอด นำโดยนายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ร่วมบริจาคมาเป็นเงินถึง 7,100 บาท... ....นี่แหละครับโฉมหน้าข้าราชการและลูกจ้างจากด่านศุลกากรแม่สอด เหล่า "ผู้ใหญ่ใจดี" กลุ่มหนึ่งที่มีให้แก่ "โรงเรียนญาณวิศิษฎ์" ซึ่งก่อนหน้านี้ โดยการประสานงานของคุณศุจิรัตน์ เมืองแก้ว ก็ได้มอบข้าวสารจำนวน 10 กระสอบให้กับโรงเรียนมาแล้ว... ...นอกจากนี้ก็ยังมีคุณรจนา ตรีรัตน์วัฒนาหรือน้องหญิงผู้น่ารัก ก็ร่วมบริจาคมาให้ด้วยอีก 1,000 บาท ถ้าท่านผู้ชมได้อ่านเรื่อง"งานวิวาห์ดีเจนภาพรกับนักร้องนวพล" ก็คงจะจำเธอได้... http://www.oknation.net/blog/Pepsi8/2008/04/13/entry-1 ....และนี่ก็อีกท่านหนึ่งที่ช่วยบริจาคมาในนามของบริษัท เอกนิธิศ จำกัด จำนวน 2,000 บาท สองสามีภรรยาคุณหล้าและน้องหญิง คนสวย... ...จากนั้นก็มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งคุณครูและผู้มาร่วมงาน อร่อยกันไปอีกมื้อหนึ่ง... ...อร่อยไม่อร่อยผมก็เคี้ยวตุ้ยๆอย่างนี้แหละครับ... ...หลังจากเสร็จสรรพจากพิธีการทั้งปวง ก็ถึงเวลาต้องอำลากลับ มีการขอบพระคุณกันอีกหลายเที่ยว จนตื้นตันใจไปหมด... ...ขากลับเราสวนทางกันกับขบวนรถแรลลี่ ซึ่งขนที่นอนกันมาเพื่อบริจาคให้กับโรงเรียนญาณวิศิษฏ์นี้ จำนวน 30 คัน บางคันขึ้นเขาไม่ไหวก็ต้องจอดรอลากรอซ่อมกันไป และเนื่องจากทางนั้นคับแคบก็เลยต้องจอดรอให้รถที่เสียนั้น ซ่อมแซมได้เรียบร้อยเสียก่อน... ....นี่ก็อีกคันหนึ่งครับ ต้องใช้ลวดสลิงกว้านช่วยดึงขึ้นเขา ไม่พอยังต้องใช้คนขึ้นเขย่า...!!! ...สุดท้ายขอจบลงด้วย คำคมที่ซึ้งใจ เบื้องหลังเสื้อแจ๊คเก็ตของท่าน อบต.ภัทรพงศ์ พ่อน้องเจมส์ว่า "ณ สถานทุรกันดารอันดับหนึ่งแห่งนี้ มีน้ำตา มีน้ำใจ อยู่ภายใต้เปลวเทียนที่ต้านลม Yanvisit School Maesot"...!!! ...จากดอยเลโคะ ขอฝาก "เกลียวเชือก" เส้นนี้ให้เป็นที่ระลึกแก่พ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคน ได้ระลึกนึกคิดถึงความรัก ความสามัคคี ความเคารพในเกียรติ ในกติกา อย่าให้อายชาวกระเหรี่ยงแห่งดอยเลโคะเลย...!!! ...ขออนุโมทนาส่วนบุญส่วนกุศลในครั้งนี้ ให้กับทุกท่านที่เข้ามาอ่านเอนทรีแห่งนี้ และขอจบด้วยคำกลอน แห่งผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งการศึกษาสมัยใหม่ "มล.ปิ่น มาลากุล" ...และขอเอารายชื่อผู้บริจาคผ้าป่าเพื่อการศึกษาครั้งนี้ลงให้ชมกันอีกครั้ง...
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |