*/
เกาะเต่า-เกาะนางยวน | ||
![]() |
||
ไปเที่ยวมาเมื่อวันที่ 21 - 24 สิงหาคม 2550 มีแต่ฝรั่งเต็มเกาะเลยครับ...... |
||
View All ![]() |
<< | เมษายน 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
มุกคุณนายหมู...!!! ...ผมเคยอยากได้ ลูกสาว แถมอยากจะได้ลูกโทนเป็นลูกสาวคนเดียวซะด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ ผมว่าเด็กผู้หญิงนั้นน่ารักดี ยามที่เธอฉอเลาะออดอ้อนน่ารักน่าหลงจริงๆ แต่ผมว่าความอยากจะได้ลูกสาวของผม น่าจะเกิดจาก ความขาดแคลน ผู้หญิง ในตระกูลผมเสียละมากกว่า เพราะเหตุว่าคุณปู่คุณย่าผมนั้น มีลูกสามคนก็เป็นลูกชายเสียทั้งหมด คุณพ่อผมซึ่งเป็นพี่ชายคนโตมีลูกสี่คนซึ่งมีผมเป็นคนแรก ก็เป็นลูกชายเสียทั้งสี่คน อาคนที่สองมีลูกสามคนก็เป็นชายเสียสองหญิงเพียงหนึ่งคน มาถึงอาคนสุดท้องอุตส่าห์แต่งงานกับอาสะใภ้ที่มีพี่น้องทั้งหมดหกคนเป็นหญิงล้วน หวังว่าจะมาช่วยลดโครโมโซมเพศชายที่มีอยู่มากเกินไปในตระกูลของผม แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ลูกของอาคนสุดท้องสองคนก็เป็นชายอยู่ดี...!!! ...ผมจึงตั้งความหวังไว้ว่าอยากจะได้ลูกสาว และอยากจะมีลูกคนเดียว แต่แล้วลูกคนแรกที่เกิดออกมา ก็ยังคงเป็นอาถรรพ์ของตระกูลผมอยู่ดี ผมได้ลูกชายแต่ถึงจะเป็นลูกชายผมก็ยังสมหวังที่ผมมีลูกคนเดียว ท่านผู้ชมฟังแล้วอาจจะงงๆกับความคิดของผม ช่างมันเถอะครับ เอาเป็นว่าถึงจะเป็นลูกชายแต่ผมก็ดีใจแล้วก็ภูมิใจกับความสำเร็จของเขา เปล่าหรอกครับ ลูกชายของผมเขามิได้เป็นคนเก่งกาจ สอบได้เกียรตินิยมดีเด่น หรือว่าได้ทำงานในกิจการที่มั่นคงได้เงินเดือนสูงๆอะไร แต่ที่ผมดีใจและภูมิใจเพราะเขา...เป็นคนดีครับ...!!! ...มาถึงตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนว่า ผมได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณนายหมู ที่รักของผมนี่แหละครับ เธอกลายสภาพจากภรรยาสุดที่รักเป็นลูกสาวสุดที่รักไปเรียบร้อยแล้ว เธอเหมือนเด็กอายุเจ็ดแปดขวบเลยครับ ทั้งการพูดจาช่างซักช่างถาม แต่การซักการถามของเธออาจจะต่างกับเด็กๆสักเล็กน้อย เด็กๆอาจจะซักถามถึงสิ่งที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่ของคุณนายหมูเธอจะซักถามถึงใครทำอะไรที่ไหน แล้วก็จะถามซ้ำๆอยู่นั่น เพราะเธอลืม อย่างเรื่องที่ผมย้ายที่ทำงานจากด่านศุลกากรสะเดา มาอยู่ที่ สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง กว่าเธอจะจำได้ก็ใช้เวลากว่าสองเดือน แต่ถึงกระนั้นยามเธอสับสนทุกวันนี้ก็ยังมีถามผมอยู่ว่า ผมจะกลับสะเดาเมื่อไหร่ พอผมย้อนถามเธอกลับว่า กลับไปทำไม พี่ย้ายมาอยู่ที่ไหนแล้ว เธอถึงจะนึกออกว่า ลาดกระบัง หรืออย่างข่าว จ่าเพียร พอได้ยินข่าวจากทางโทรทัศน์ เธอก็ถามทุกครั้งว่า อ้าว...เขาตายแล้วหรือ เป็นอะไรตาย ทั้งๆที่ข่าวก็เก่าแล้ว เธอก็รับรู้ตั้งแต่วันแรกๆที่มีข่าวออกมาแล้ว แถมยังได้ฟังผมบ่นทุกวันถึงเรื่องนี้ เพราะความรู้สึกสะท้อนใจในระบบราชการ ที่ไม่เหลือเยื่อใยความเอื้อเฟื้อดูแลซึ่งกันและกัน แม้กระทั่งคนทำความดีและเสียสละเยี่ยงนี้ ระบบราชการก็ไม่ปกป้องอุ้มชูเอาไว้เลย นี่ยังดีว่า กรมศุลกากร ของผม ซึ่งถึงแม้จะยังเต็มไปด้วย การแก่งแย่งชิงดีกันในผลประโยชน์มากมาย แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยังมีความห่วงใยเอื้อเฟื้ออาทร แก่ข้าราชการที่เดือดร้อนทุกข์ยาก อย่างเช่นกรณีของผม ผมทำเรื่องขอย้ายเข้ากรุงเทพฯ เพื่อขอมาดูแลภรรยา คุณนายหมู ซึ่งเธอป่วยเป็น มะเร็งในสมอง จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งในเรื่องกำลังใจและการรักษาพยาบาล ผู้ใหญ่ในกรมฯท่านก็ให้ความเมตตาดูแลโดยเรียกเข้าไปพบสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งท่านก็ออกตัวว่าที่ต้องเรียกเข้ามานี้มิใช่จะไม่เชื่อในคำร้องที่ผมเขียนไป แต่เป็นเพราะว่าในอดีตมีคนเคยเขียนคำร้องเท็จในทำนองนี้มาแล้ว เมื่อกรมฯย้ายให้ก็ไปหัวเราะชอบใจทำนองว่าหลอกกรมฯได้ ก็เลยกลายเป็นกรณีที่จะต้องเข้มงวดเคร่งครัดกัน เมื่อกรมฯเห็นว่าเรื่องราวของผมเป็นความจริง คำสั่งย้ายก็ออกมาไม่นานครับ ผมต้องขอโอกาสขอบคุณท่านผู้ใหญ่ทุกท่านในกรมศุลกากร นับแต่ท่านอธิบดีลงมาจนถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ... ...คุณนายหมู ของผมยามนี้ก็น่ารักน่าหลงเหมือนเด็กกำลังเรียนรู้ยังไงยังงั้นเลยครับ อย่าว่าแต่ผมเลยแม้แต่ อ้อย พี่เลี้ยงของเธอที่ผมจ้างเธอมาคอยดูแล คุณนายหมู ก็แอบหลงไหลเธอไปด้วย เพราะผมสังเกตเห็น เวลาที่ อ้อย กลับมาจากไปบ้านต่างจังหวัดทีไร กลับมาก็จะพาลมาขลุก คอยนวดแข้งนวดขาอยู่กับคุณนายหมูอยู่เสมอ อย่างเมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมพาคุณนายหมูของผมไปเยี่ยมคุณแม่ราตรีผมที่ชุมพรสามสี่วัน พอกลับมา เธอก็เรียกหาพี่หมูทันทีว่าคิดถึงมาให้เธอนวดแข้งนวดขาหน่อย คิดดูเถอะครับว่าเสน่ห์แรงขนาดไหน คุณนายหมูของผมเนี่ย...!!! ...ท่านผู้ชมที่มีลูกสาว คงจะเคยซึมซับบรรยากาศและอารมณ์ของการมีลูกสาวมาแล้ว ว่ามันน่ารักน่าฟัดขนาดไหน แต่พอช่วงเวลาหนึ่งเมื่อลูกเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ติดเพื่อนมากขึ้นห่างพ่อแม่มากขึ้น ความน่ารักอย่างว่าก็ดูเหมือนจะพาลหายไปด้วย อันนี้ท่านผู้ชมจะต้องแอบอิจฉาผมแหละครับ เพราะว่า คุณนายหมู ลูกสาวคนใหม่ของผมนี้ เธอจะเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป...!!! ...เพราะจากการสังเกตของผม หลังจากที่เธอออกมาจากโรงพยบาลศิริราช เมื่อกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว อาการเธอดีวันดีคืนอยู่ได้พักเดียว แต่หลังจากนั้นก็ดูจะสงบนิ่งไม่คืบหน้าอีก แถมยังดูเหมือนว่ายังมีบางช่วงที่อาการหลงลืมของเธอจะเป็นมากขึ้น อย่างเช่นเรื่อง กระเป๋าสตางค์กับเรื่องสร้อยคอของเธอ ที่เธอจะถามอยู่ทุกสิบนาทีว่ามันอยู่ที่ไหน แต่ก็มีบางเรื่องที่เธอกลับจำได้ดีแม้พูดเพียงครั้งเดียว ก็คือเรื่องไปเที่ยวกับเรื่องกิน จนบางครั้งผมยังคิดว่าเธอแกล้งจำในสิ่งที่อยากจำ แล้วก็ลืมในสิ่งที่อยากจะลืมหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องกินน้ำเย็นที่คุณหมอยังห้ามอยู่ เธอก็พยายามจะกินทั้งวัน เดี๋ยวก็จะเดินไปเปิดตู้เย็น จะกินน้ำเย็นทั้งๆที่ผมไม่แช่น้ำเย็นไว้ เพราะกลัวเธอแอบกิน เธอก็จะแอบแช่ไว้เอง พอผมจับได้ว่าเธอแอบกินน้ำเย็นก็จะทำเป็นต่อว่าเธอ ว่า แน่ะ..แอบกินน้ำเย็นอีกแล้ว เธอจะเถียงทันทีว่า เธอไม่ได้แอบ เธออยากกินน้ำเย็นเธอก็จะมากิน น้าน...!!ไม่รู้จะเถียงทำไมคุณนายหมูของผม พอผมบอกว่าก็หมอไม่ให้กินจำไม่ได้หรือ เธอก็จะสะบัดหน้าพรืดแล้วก็ว่า จำไม่ได้ พี่ก็คอยห้ามหมูก็แล้วกัน แต่ช่วงนี้ยังดีนะครับที่เธอเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองได้บ้างแล้ว ไม่ร้องไห้เก่งเหมือนตอนออกมาจากโรงพยาบาลใหม่ๆ ตอนนั้นหัวใจผมแทบจะสลาย พอห้ามไม่ให้เธอกินน้ำเย็น เธอก็จะร้องไห้น้ำตาไหลพราก ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจเสียเหลือเกิน กับอีแค่เรื่อง กินน้ำเย็น...!!! ...ส่วนเรื่องตา การมองเห็นของเธอก็คงจะได้เพียงเท่านี้แหละครับ เพราะคุณหมอตาท่านบอกว่า เส้นประสาทตา ของเธอนั้นซีดเสียแล้ว ซึ่งเป็นเพราะเนื้องอกที่ไปกดทับนานเกินไป แล้วก็ยังเรื่องการฉายแสงที่ไปมีผลกระทบเข้าไปอีก ก็เลยกลายเป็นสองเด้ง คุณหมอบอกว่านัยน์ตาของเธอเข้าข่ายเป็น ผู้พิการสายตาเลือนราง แล้วก็นัดให้ไปเข้าคลินิกสายตาเลือนรางในเดือนมิถุนายน จากนั้นเขาก็จะออกบัตรประจำตัว ผู้พิการสายตาเลือนราง มาให้ เห็นคุณหมอบอกว่า จะได้รับเงินข่วยเหลือจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯ อีกเดือนละ 500 บาท แน่ะ...มีรายได้เป็นของตนเองแล้ว คุณนายหมู...!!! ...ผมว่าผมเป็นคนมุกเยอะแล้ว แม้จะเป็นรองคุณเต็งพ้งกับพี่มะอึกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเกินหนึ่งช่วงตัว เวลาใครเขาถามผมว่าทำไมผมมุกเยอะ ผมก็จะได้ทีมุกตอบไปว่า เป็นเพราะผมเคยไปรับราชการอยู่ที่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร อันเป็นถิ่นมุกแม่น้ำโขง แล้วก็ยังย้ายไปอยู่ ด่านศุลกากรแม่สอดไปเก็บเอา มุกพม่า จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ด่านศุลกากรภูเก็ตสะสม มุกอันดามัน ผมก็เลยมีมุกเยอะ แต่ถึงผมจะมีมุกเยอะปานใดก็ทำอะไรคุณนายหมูเธอไม่ได้ครับ เพราะเธอจะตามผมทันทุกมุก แถมมีมุกทีเด็ดกลับมาให้ผมขำอยู่ได้เสมอ... ...อย่างเช่นมุก ตด ของเธอ ที่เธอใช้อยู่บ่อยๆอย่างหน้าตาเฉย ท่านผู้ชมเคยถูกภรรยาหรือสามีขู่ว่าอย่างไรบ้างครับ เมื่อยามที่ไม่ได้อย่างใจหรือว่าถูกขัดใจ แต่คงจะไม่เหมือนที่คุณนายหมูเธอชอบขู่ผมแน่ๆ เธอชอบขู่ผมว่า เดี๋ยวตดให้ดม ครับ น่ากลัวน่าดูครับคำขู่นี้...!!! ...แต่ถึงเธอจะชอบเล่นมุกตดนี้ เธอก็ยังมารยาทดีนะครับ ครั้งหนึ่งเราจะเข้าไปดูของกันที่ร้าน พี่ต๋อยการบินไทย ในหมู่บ้านชลลดาที่ผมกับเธออยู่ ผมพาเธอเดินเข้าไปในร้าน ทักทายพี่ต๋อยกันยังไม่ทันจะได้พูดจาอะไรมาก เธอก็ผลุนผลันเลื่อนประตูกระจกออกมาหน้าร้าน ผมก็ตกใจรีบตามเธอออกมา ถามเธอว่าเป็นอะไร เธอกลับย้อนถามผมว่าตามมาทำไม ผมก็ถามเธออีกครั้งด้วยความห่วงใยว่า แล้วหมูเป็นอะไร เธอก็บอกผมหน้าตาเฉยว่า ออกมาตด พี่ตามมาทำไม จะดมตดหมูเหรอ อือม์ ออกมาแล้วไม่ทันแล้ว หอมไหม ดูดู๊ดูดูเธอทำ...!!! ...อีกครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ผมพาเธอเดินขึ้นบันไดบ้าน จะพาเธอไปอาบน้ำ กำลังเดินขึ้นไปดีๆเธอก็หยุดกึก ผมก็ถามทันทีว่าหยุดทำไม เธอก็บอกว่าพี่ขึ้นไปก่อน ผมก็งงยังคงถามเธออยู่นั่นว่าทำไม แล้วทำไมไม่เดินขึ้นไป แล้วเธอก็ตดปู๊ดออกมาแล้วบอกผมว่า จะตด ไม่จะแล้ว...โดนอีกเต็มๆครับท่านผู้ชม...!!! ...ช่วงเช้าๆจะเป็นช่วงที่เธอจะสับสนมากครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ผมจะตื่นตอนเช้าตั้งแต่ตีห้าเพื่อจะได้ออกไปทำงานก่อนตีห้าสี่สิบห้า ซึ่งจะได้หลีกเลี่ยงจากการจราจรที่จะเริ่มติดขัดหลังหกโมงเช้า ประหยัดค่าน้ำมันและประหยัดค่าทางด่วน 80 บาทไปในตัว ก็ที่ทำงานผมอยู่ตั้งลาดกระบัง บ้านผมอยู่บางบัวทอง ห่างกันถึง 60 กม. ขืนออกสายเสียทั้งค่าทางด่วนและค่าน้ำมัน ถ้าคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนละก็โขอยู่ เอาเป็นว่าประหยัดขาไปส่วนขากลับค่อยขึ้นทางด่วนเอา เพราะมันจำเป็น คุณนายหมูเธอจะถามผมอยู่ทุกวันครับในตอนเข้าๆ ว่าผมจะไปไหน ทำไมต้องไปแต่เช้า พอผมบอกว่าจะไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูหมูไง เธอจะบอกว่า โอ้โฮ...ถ้าหมูทำให้พี่ลำบากขนาดนี้ ให้หมูกินรำก็ได้ ผมละก็ขำในคำพูดเธอ ที่ดูเหมือนว่าไม่อยากจะให้ใครมาลำบากเพราะตัวเธอ โดยเฉพาะคนที่เธอรัก...!!! ...และในตอนเช้าๆนี้อีกเช่นกัน ที่เธอมักจะถามผมทุกเช้าว่า เธอจะต้องไปเรียนไหม จะต้องไปทำงานไหม พอบอกว่าไม่ต้องไป เธอเรียนจบแล้ว งานก็ลาออกแล้วไม่ต้องทำอะไรแล้ว เธอก็จะบอกว่า หมูไม่ต้องทำอะไรเลยเหรอ โชคดีจัง หมูโชคดีเนาะได้นอนสบายไม่ต้องทำอะไรเลย ท่านผู้ชมล่ะครับอยากโชคดีอย่าง คุณนายหมู ไหม...!!! ...เมื่อวันสงกรานต์ผมพาเธอไปชุมพร แล้วเขาก็มีพิธีรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่กัน คุณตาคุณยายท่านเห็นหมูท่านก็เอ็นดู เอามือที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำที่ถูกรด มาประพรมตามแขนตามไหล่หมูแล้วก็อวยพรให้มากมาย พอกลับมาถึงบ้านผมพาเธอไปอาบน้ำ เธอก็ทำเลียนแบบทันที เอาน้ำจากในโอ่งมาประพรมตามแขนตามไหล่ผม แล้วก็พูดว่า ขอให้อายุมั่นขวัญยืน รวยๆๆ เฮงๆๆ อย่ามีกิ๊กๆ พรสุดท้ายนี่ทำให้ผมหัวเราะก๊าก...!!!
ร่างกายคุณนายหมูนี่ เธอจะเปลี่ยนแปลงเป็นแบบ พ่อหลินปิงผัวหลินฮุ่ย ครับ คือเป็น ช่วงช่วง!! ก่อนหน้าที่จะป่วย ตอนยังไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอยู่ จำได้ว่าตอนนั้นเธอน้ำหนัก 55 กก. ผมยังล้อเธอว่า น้องอึด คืออึดอัด แต่พอป่วยน้ำหนักเธอลดอย่างรวดเร็วเหลือแค่ 50 กก. ภายใน 7 วัน ช่วงเข้าโรงพยาบาลน้ำหนักเธอก็สวิงขึ้นสวิงลงอยู่ระหว่าง 50 55 กก. นี้ แต่หลังออกจากโรงพยาบาลครั้งหลังสุดนี่ เธอกินเป็นพายุบุแคมเลยครับท่านผู้ชม ไม่รู้ว่าจะทำน้ำหนักไปชกในรุ่นเฮฟวี่เวทหรือเปล่า น้ำหนักเธอถึงได้พุ่งพรวดเกิน 60 กก. ไปภายในไม่ถึงเดือน ถึงตอนนี้จะลดลงมาบ้างแต่ก็เล็กน้อยเท่านั้นครับ ผมจึงต้องพยายามพาเธอออกไปเดินเล่นบ้าง สถานที่ที่พาไปเดินได้ง่ายที่สุดก็ทะเลสาบในหมู่บ้านนั่นแหละครับ ระยะทางหนึ่งรอบทะเลสาบประมาณ 700 เมตร ก็นับว่ากำลังดีสำหรับคนที่ต้องค่อยๆเดินอย่างเธอ แต่เธอมักจะเอาไปคุยทุกครั้งว่าเธอเดินได้สามสี่รอบ ทั้งๆที่รอบเดียวก็ร้องว่าพอแล้วทุกที วันหนึ่งผมพาเธอเดินชมนกชมไม้ เห็นนกก็บอกว่านกเห็นไม้ก็บอกว่าไม้ เหมือนกับในเพลงนกเขาคูรัก และแล้วเธอก็นึกอะไรขึ้นมาไม่รู้ เกิดชมผมขึ้นมาว่า พี่นี่ก็หล่อเหมือนกันนะ ผมโดนชมซึ่งๆหน้าก็ออกอาการเขิน ก็เลยพาลถ่อมตัวไปว่า หล่อแต่หัวล้านนะ เธอก็ตอบกลับว่า หัวล้านก็ไม่เป็นไร ให้นิสัยดีก็แล้วกัน ผมได้ทีก็ว่าไปว่า อ้าว..!!แล้วตอนนี้ยังไม่ดีอีกหรือ ก็ดี...แต่อย่าดีแตกก็แล้วกัน เธอว่า ผมก็เลยต่อความยาวไปอีกว่า ดีแตก...แล้วเป็นยังไง? เธอสวนทันควัน ดีแตกก็..ขม..นะสิ อือม์...จริงของเธอครับท่านผู้ชม...ดีแตกก็ ขม...!!! ...สถานที่อีกที่หนึ่งที่ผมชอบพาเธอไปเดินก็คือ ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เพราะมันยังใหม่ กว้างขวาง แล้วก็สะดวกในการเดินทางของผม ยิ่งอากาศร้อนๆในช่วงนี้ผมแทบพาเธอไปเดินทุกสุดสัปดาห์ ส่วนใหญ่ก็ไปทานอาหาร ไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ซึ่งที่นี่มีสาขาธนาคารแทบจะทุกธนาคาร สะดวกสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างผม ที่จะมีวันหยุดเฉพาะวันสุดสัปดาห์เท่านั้น วันนั้นหลังจากทำธุระทุกอย่างเสร็จผมก็พาเธอไปเดินเล่น เธอจะชอบดูรองเท้า เสื้อยกทรงกับพวกกระเป๋าเดินทางครับท่านผู้ชม เดินผ่านบูธสินค้าเหล่านี้ทีไร เป็นได้กระชากมือผมเดินตรงรี่เข้าไปทุกที ผมก็ให้เธอได้ชมตามอัธยาสัย แต่ก็ต้องคอยเตือนความจำของเธอว่า ของเหล่านี้นั้นเธอมีอยู่เต็มบ้าน จนต้องเอาไปบริจาคบ้างแล้ว เธอก็อือๆออๆรับทราบแต่ก็อยากได้อยู่ในที พอพ้นจากบูธเหล่านั้นไปได้ ผมก็โล่งอกขยับถามเอาใจเธอว่า จะเดินไปดูอะไรอีก พี่จะพาไป เธอบอกว่า ไม่ดูอะไรแล้ว กลับบ้านนอนกอดกันไม่เสียตังค์สักหลึง ผมขำก๊าก เออ..จริงของเธอ กลับบ้านนอนกอดกัน ไม่เสียตังค์สักหลึง ท่านผู้ชมจะเอาไปใช้บ้างก็ได้นะครับ คุณนายหมูเธอคงไม่สงวนลิขสิทธิ์...!!! ...ผมศรัทธาในเรื่องการนั่งสมาธิวิปัสสนา เพราะเชื่อว่าจะทำให้เกิดพลังที่เสมือนปาฎิหาริย์ได้หลายสิ่งอย่าง แม้แต่จะเป็นเรื่องที่เกิดเพราะ กรรม แต่ก็จะสามารถทำให้ทุเลาเบาบางลงไปได้ ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะให้ คุณนายหมู เธอนั่งสมาธิ แต่ดูว่าเธอยังไม่พร้อม และเธอก็ไม่เคยมีพื้นฐานทางนี้มาก่อนเลย ผมจึงเริ่มต้นให้เธอสวดมนต์ก่อน ซึ่งก็ดูเธอจะทำได้ดี แม้บางบทสวดที่ยากๆเธอยังสวดไม่ได้ เช่น พาหุงฯ แต่เธอก็จะว่าตามในท่อนท้ายที่ลงด้วยคำว่า ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคลานิ ทุกครั้ง โดยผมจะเริ่มสวดตั้งแต่บทบูชาพระรัตนตรัย ศีลห้า อิติปิโสฯ พาหุงฯ มหาการุณิโกฯ ชยันโตฯ แล้วก็จบลงที่มงคลจักรวาลใหญ่ จากนั้นก็อุทิศการเจริญภาวนานี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน ก่อนสวดผมจะเริ่มให้เธอกราบห้าครั้ง เพื่อรำลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดรมารดา และคุณครูบาอาจารย์ แต่เธอจะแถมให้อีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่หกโดยเธอกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า กราบครั้งที่หกรำลึกถึงสามีที่ดียิ่งของข้าพเจ้า ว่าแล้วเธอก็กราบมายังผม เล่นมุกนี้ผมแทบสวดไม่ออกเลยครับท่านผู้ชม...!!!
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |