ร้อยลึก ร่ำไป ในบทกวี
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั่วไปในปัจจุบัน กับผู้คน ชีวิต สังคม ปรัชญา
Permalink :
http://www.oknation.net/blog/Present-life
วันอังคาร ที่ 12 มีนาคม 2556
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1513
, 05:38:14 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 5 คน
 "กระผมว่า"...............กระผมว่า พณฯท่านนั้นฝันเฟื่องอายุนั้นมิสืบเนื่องถึงโลกหน้าอำนาจ สีควันฝุ่น,สุญตาท่านมิอาจนำพาคราสิ้นลมจะจารึกเกียรติยศปรากฏไกลฤๅแข่งขันความจัญไรจนโลกขมมองบ้านเมืองเหมือนสมบัติผลัดกันชมปล่อยล่มจมเมื่อหมดทอง,ไม่ต้องการกระผมว่า พณฯท่านนั้นโรคจิตแค่เพียงพลาดผิดก็พลุ่งพล่านใครตำหนิติเตือนเหมือนประจานท่านลนลาน ด่าทอ,ไม่พอใจไยท่านสุมซัดความขัดแย้งเสแสร้งต่อความจริงว่ายิ่งใหญ่แท้มิต่....
|
วันอังคาร ที่ 15 มกราคม 2556
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2498
, 05:47:16 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
 "คลื่นชีวิต"............คลื่นทะเล แม่น้ำ ความรู้สึก
ถั่งโถมโครมครึก ระทึกสั่น
เข้ากระแทกกระเทือนเคลื่อนกระทั้น
โครมครามครื้นครั่นกระชั้นทรวง
หวาดกลัวรักจะหักหาญจนรานร้าว
คลื่นลมหนาวจะไล้วนทุกหนห้วง
กว้างและลึกสุดซึ้งใจหนึ่งดวง
เงียบเหงาเปล่ากลวงผ่านช่วงวัน
คลื่นทะเล แม่น้ำแห่งความรัก
ต่างว่ายวัก ตักตวงปวงความฝัน
หลั่งไหล จนไหวหวามอยู่ครามครัน
เกินจะกั้น อุทกภัยจากนัยน์ตา
เปลือยปล่อยใจเข้า....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤศจิกายน 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1444
, 23:53:36 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 4 คน
 อาลัยยอดหญ้า
มีนิยามบางอย่างอยู่ข้างหน้า
ผันผ่านกาลเวลาใต้ฟ้าใส
เสียดสายลมพรมพลิ้วเรียวริ้วใบ
ระนาบเอนระเนนไหวในแววตา
แลลิบลับวับวามเหมือนความหลัง
คล้ายคงยังความรื่นรมย์และขมปร่า
คงวาบหวังครั้งสรวลเสวันเวลา
ตรึงตระการในตะกร้าความทรงจำ
มีริ้วรอยความรักคอยทักทาย
กระจัดกระจายเรื่องเล่าอันเก่าคร่ำ
หกคะเมนลื่นล้มจมคะมำ
จากการกระทำของความรัก
มีความหลังบางอย่างบนยอดหญ้า
เปรียบกาส....
|
วันอาทิตย์ ที่ 24 มิถุนายน 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1996
, 20:40:52 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 13 คน

สุขเช้า
ผ่านสายทางทึมเทาเงาชีวิต
แสงอาทิตย์ทาบทอพอมองเห็น
ไถ่ถามทุกเช้าค่ำความลำเค็ญ
สิ่งที่เห็นคือสุขเช้าที่เรามี
เก็บไข่เป็ดเจ็ดแปดใบเอาไปขาย
ตลาดน้ำ,ติดตามยายไปทุกที่
ปลูกผักกาด บวบ ฟักและผักชี
อีกหัวปลีเก็บไปขายได้ราคา
เป็ดมันมีเก้าตัว,แม่หัวเราะ
อีกตัวเลาะไปแอบไข่ตรงชายป่า
มันไม่ยอมมาวางไข่ใต้โรงนา
ไข่ของมันอาจมีค่ากว่าขายไป
พ่อยืน-นั่ง....
|
วันจันทร์ ที่ 4 มิถุนายน 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1763
, 19:53:02 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 2 คน
 นักวิชาการ(เมือง)/ปัญญาชน/มลพิษ๑จะยิ่งใหญ่ถึงไหนกันเล่าท่านเอ๋ย? มิงอกเงยง่ายงามตามวิถีถูก-ผิด อ้างนิยามในคัมภีร์ทั้งเล่มนั้น,เล่มนี้ อ้างที่มา๒ยกตามหลักทฤษฎีไร้ที่ติว่าตำรานี่สินั้นดีกว่าหักล้าง-เกลื่อนกลบ-ตบตาตามประสีประสาวิชาการ๓ยกตนข่มท่าน,ตระบันรู้ยิ่งกว่าสัพพัญญูผู้เก่ง,กร้านโต้วาที ตีหน้าซื่อ นั้นคืองานวิพากษ์วิจารณ์กันจนซ่านเซ็น ๔เปิดประเด็นประดังมาตั้งโจทย์อุโฆษอัจฉริยะกระจะเห็นโจมตียุทธศาสต....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 31 พฤษภาคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1769
, 17:52:31 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 6 คน
 บันไดของชีวิต บัณฑิตแห่งชีวา๑เธอจะเรียนต่อไหม...ชไมพร?เมื่อถึงตอนฝันวัยเยาว์รุกเร้าหนักเมื่อเส้นทาง กว้าง-ไกล มาทายทักโลกที่เราเคยรู้จักมักลาร้าง๒ฉันก้าวเท้าราวปุยนุ่นมาหนุนเท้าบางเบาแต่เย็นเฉียบเมื่อเหยียบย่างเข้าเรียนต่อโรงเรียนรัฐเหมือนจัดวางเริ่มก้าวห่างระหว่างเรา...กี่ก้าวแล้ว?๓เธอยังอยู่ในขอบโค้งความทรงจำไร้ถ้อยคำอำลามาหวานแว่วมีเพียงตาสีน้ำตาลประสานแววแน่แน่วแต่อ้างว้างและหมางเมิน๔เมื่อเธอหัดซ....
|
วันจันทร์ ที่ 21 พฤษภาคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1610
, 19:59:23 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 3 คน
 ความงามกับการมองห็น๑พลิกพลิ้วปลิวไหวไล้ลมเล่น เกาะกิ่งใหญ่ไหวเอนระเนนลู่ ส่ำเสียงเพลงลมพร่างพรมพรู หลากสีสันนั่นอณูแห่งใบไม้๒ รับหยาดน้ำค้างกลางหาว หมอกขาวเย้าหยอกสายหมอกใส อาบไล้แดดอุ่นละมุนละไม ผลิใบใหม่แรกแย้มมาแต้มวัน๓ กระรอกทะโมนกระโจนเล่น กระแตเต้นหางฟูดูน่าขัน ขบวนมดเข้าแถวตั้งแนวกัน ในแนวนั้นมีหนอนด้วงล่วงความตาย๔ นกน้อยสร้างรังด้วยซังข้าว นำมาสาวถักสอยนับร้อยสาย สอดโค้งเป็นก้อนปมให้กลมลาย อำ....
|
วันเสาร์ ที่ 21 เมษายน 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1697
, 16:43:42 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 4 คน
 ถามหานิรันดร์๑เรากำลังตั้งคำถามกับความฝันเราจะไปถึงที่นั่นด้วยกันไหม?ตรงโค้งฟ้าตัดขอบเขาฟากเงาไกลเชื่อมบันไดความฝันฉันและเธอ๒ในความว่างระหว่างคำคล้ายพร่ำเรียกความเงียบงำในสำเหนียกเพรียกเสมอบนอัลบั้มภาพเก่าเป็นเงาเบลอไร้รูปเธอและรูปฉันในวันคืน๓มากน้อยเพียงใดในสัดส่วนที่สมควรจะยืนหยัดและขัดขืนทั้งหมดของพื้นที่ที่เรายืนหรือครึ่งผืนของความรักที่ถักทอ๔เรากลับแยบคายในยลยินทั้งที่เคยแลกลิ้นน้ำลายสอเคยสัมผัส....
|
วันเสาร์ ที่ 17 มีนาคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1718
, 16:41:09 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 5 คน
 สิ่งดีดีในชีวิต๑อยากได้สิ่งดีดีไหมที่รัก?นอนหลับพักสักวันนะขวัญเจ้าอีกอาหารห้าหมู่อย่าดูเบายิ่งตอนเช้ามื้อสำคัญต้องหมั่นทาน๒อยากได้สิ่งดีดีไหมที่รัก?ให้ผ่อนพักหักลบกลบคูณหารเรื่องรายรับหายวับไปกับงานประมาณการกำไรและขาดทุน๓อยากได้สิ่งดีดีไหมที่รัก?จงตระหนักการแผ่เผื่อและเกื้อหนุนจงให้-ในรู้สึกนึกการุณย์และแทนคุณแก่ผู้กรุณา๔อยากได้สิ่งดีดีไหมที่รัก?จงแน่นหนักหัวใจในปรารถนาในเรือนแห่งยินดีและปรีดาใช่เรื....
|
วันจันทร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1500
, 17:41:28 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 5 คน
 อารยธรรมยังอำไพ(ในศตวรรษที่ ๒๑)๑ปฐวีแว่นแคว้นแดนอารยะประวัติศาสตร์ธงริ้วปลิวสะบัดรวมราษฎร์ประกาศอำนาจรัฐป้องขจัดศรัตรูผู้แย่งชิง๒ปลดเปลื้องความแปลกแยกและแตกต่างสร้างรากฐานรองรับสรรพสิ่งวาดระเบียบระบิลวางเพื่ออ้างอิงละทิ้งความลึกเร้นเห็นแก่ตน๓คือครรลองขัตติยวงศ์อันทรงศักดิ์ทุกแหล่งหล้าสวามิภักดิ์ประจักษ์หนสมมุติเทพประทานบันดาลดลบรรพชนผู้สรรค์สร้างมลังเมลือง๔สืบเนื่องนครามาท้าสมัยโลกย์วิสัยอุกอาจอ้างปร....
|
วันอังคาร ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1351
, 23:11:50 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 5 คน
 วันแห่งความรักษ์๑ชีวิต...ผ่านใครก็หลายคนเพียงผ่าน พ้นไปไร้ความหมายทั้งเย้ายั่วเย้ายวนชวนกรีดกรายแต่มิเคยเสียดายใครสักคน๒ วันหนึ่ง..ราวอัศจรรย์สวรรค์บันดาลใจให้สับสนเมื่อความห่วงทวงถามความทุกข์ทนเธอทุรนทุรายโศกจากโรคร้าย๓กลับห่วงใยแม้ไกลคนละฟ้าหวังให้วันข้างหน้าโรคาหายแบ่งเบาความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายมีเพียงเสียงตามสายให้จินตนา๔ร้องไห้เป็นเพื่อนเหมือนรับรู้รู้ถึงความหดหู่ใจไร้กังขาไถ่ถามถึงทุกข์เข็ญความ....
|
วันศุกร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1599
, 19:24:01 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
 เศษแก้วในกองทราย๑จักเขียนใดให้ลุแจ้งแสวงหาอนรรฆอักษราแห่งฟ้าสมัยลิขิตอิสระมโนทัยตรากตรำในเนื้อหาอันตราตรึง๒ตระกองกอดพู่กันตระบันหล้าเอื้อมมือแหวกฟ้าว่าคว้าถึงรำพันจันทร์เปลี่ยวเสี้ยวรำพึงห้อตะบึงอักษรจนอ่อนใจ๓แสนล้านบากบั่นกลั่นสาระต่างวิริยะต่างดำริต่างวิสัยต่างประสบทบทางต่างวัยโลดเต้นสู่เส้นชัยลายปากกา๔ผลึกแก้วผ่องใสลงลายลึกเป็นผนึกปึกแผ่นแก่นปรารถนาลายริ้วพลิ้วไหวในวิญญาน์รอสลักเป็นอักษราภาษาใจ๕จั....
|
วันจันทร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1834
, 17:45:15 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
 บันทึกชีวิต : สัมพันธ์อันทับถม............๑ปฏิสัมพันธ์อันปวดร้าวชู้สาว มิตร ศัตรู ผู้อาศัยล้วนเกิดจากกิเลสเหตุแห่งใจคาดหวังในให้และรับสลับกัน๒ชายหญิงชิงรักหักสวาทหมายมาดชื่นชูประตูสวรรค์หวานชื่น รื่นรมย์ ก็ขมพลันหฤหรรษ์ตัณหาแล้วลาไกล๓แม้แต่มิ่งมิตรอันชิดเชื้อมิตรแท้ย่อมแผ่เผื่อเมื่อยากไร้เจอมิตรจอมปลอมก็ตรอมใจจะหาใครที่ห่วงหาเอื้ออาทร๔อีกศรัตรูคู่อาฆาตมาดร้ายแค้นจนตายก็มิวายจะคลายร้อนเผาไหม้ไฟชีวันให....
|
วันจันทร์ ที่ 30 มกราคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1576
, 02:53:34 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 3 คน
ง้อ...................................ปลายทางบนทางเท้า ทิ้งเท้าเปล่าให้ก้าวเดิน ย่ำไกลในลึก-เขิน ก็เกินหยั่งไปทั้งใจ ดารามิทาบทอ จึ่งไร้แสงไว้แบ่งใครดั้นเดินสู่แดนไกล กี่เวหนจักทนทานร่านรนเพราะทนพิษ กุมชีวิตจนร้าวรานใครช่วยคงป่วยการ กว่าพลัดพรากจากชีวัน หกคะเมนตีลังกา ใกล้ป่าช้า ณ โดยพลันมาตรแม้นแผ่นฟ้ากั้น....
|
วันพุธ ที่ 25 มกราคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1424
, 17:16:29 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 3 คน
ปัจเจกปณิธาน๑ข้าฯ ปรารถนา ก่อกองไฟ..โดยไร้ฟืนท่ามความเปียกชื้นของคืนหนาวไร้แสงไฟสลับวับวาวยังมีดาววิบวับระยับนาน๒ข้าฯ เลิกบุหรี่มาปีกว่าเลิกหลงผิดคิดว่าสุราคืออาหารประพฤติดีอย่างที่ข้าเคยสาบานจึ่งลุกาลจนร้างหายอบายมุข๓น้ำตาแห้งหมดทุกหยดหยาดปรารถนาคราภิรมย์สมสุขทิ้งซากเสื่อมถอยจากรอยทุกข์ความเศร้ากลับเร้ารุกทุกข์ทวี๔ข้าฯดื่มด่ำในเหตุผลกลับไร้ใครยินยลบนวิถีไร้ปากกา ไร้สุนทรพจน์ ไร้บทกวีไร้ความสุนทรี....
|
วันจันทร์ ที่ 23 มกราคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1403
, 18:37:41 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 5 คน
 กตัญญุตาแห่งกวี...............ฤากวี..ไร้หนทางสร้างอักษรไร้วิจิตรประดิษฐ์กลอนร้อนวิถีฤามโนธรรมในฤทัยไม่ต้องมีจึงจะอิสระทุกวิธีวิพากวิจารณ์๒ฤาร้อนวิชาจะจารึกว่าคราหนึ่งความรู้สึกได้สืบสานแต่กวีมิใช่มีแค่จินตนาการอีกสำนึกในสันดานอย่าผ่านเลย๓กวี...ฤาจำเป็นต้องเห็นต่างอคติต่อบางอย่างทั้งเหยียดเย้ยต้องปั่นปลุกรุกเร้าก็เปล่าเลยเพียงกวีมิอาจเฉยเมยความจริง๔แล้วท่านมองความจริงจากสิ่งไหน??จึงลุกร้อนเป็นไฟคล้ายถ....
|
วันเสาร์ ที่ 21 มกราคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1487
, 17:43:05 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 4 คน
"เมื่อถูกใส่ร้าย"๑ปล่อยเขาพูดเป็นตูดเน่าช่างเขาเถอะ!คำย่อมเลอะเปรอะเหม็นเป็นขี้หมาแค่คำมืดดำธรรมดาไม่เพิ่มพูนคุณค่าให้กับใคร๒เพียงอย่าหูเบาเพราะเขาบอกแค่กลับกลอกคงไม่แย่เกินแก้ไขหากใจเราตื้นเขินจนเกินไปการอภัยคงไม่เกิดเลิศฤดี๓แค่ความขุ่นเคืองเรื่องเล็กน้อยปล่อยเวลานานไปก็หายหนีเรื่องเก่าเก็บก็เจ็บผ่านไปนานปีไม่มีใครพลีหัวใจไว้เพื่อจำ๔ธรรมดาเราถามหาอนาคตจึงไม่จดจำอดีตอันกรีดช้ำปล่อยให้เขาด่าพ่นบ่นพึมพ....
|
วันอังคาร ที่ 17 มกราคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1788
, 20:37:56 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
วาระอัปรีย์๑ขุดคุ้ยหาเรื่องมาเขื่องคุยเรื่องเจ้าทุยลุยสวนกวนพืชผลเรื่องฝนฟ้าพาย่อยยับอับจนแลหลุกหลิกลุกลนปนกัน๒ ตั้งกระทู้กู่ถามถึงความหมายทฤษฎีมีหลากหลายมาขายฝันแก้ไขอยู่ร่ำไปเป็นรายวันไม่ประสาจรรยาบรรณบูรณา๓ อ้างประโยชน์มากเหลือคณานับไม่ปรับก็เปลี่ยนจนเจียนบ้าแอบแฝงแย่งกินชิ้นมันปลาชาวประชาฯกินก้างประทังกาย๔วาระใดสำคัญมันนกรู้ปิดห้องคล้องประตูดูนัดหมายหาฤกษ์เบิกความตามสบายเงินภาษีมีเบิกจ่ายให้โจรทร....
|
วันเสาร์ ที่ 14 มกราคม 2555
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1394
, 18:08:30 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
สังวรณ์มนุษย์...............๑แค่เนื้อหนังในสังสารวัฏสืบสายพันธุ์จากสัตว์ดิรัจฉานประหนึ่งจริง ว่ายิ่งใหญ่กว่าสายกาลก่อสันดานร่านรนล้นโลกีย์๒สังขารร่วงโรยระโหยอ่อนย่อมจำพรากจากจรกร่อนวิถีสิ้นแล้วเกียรติแก้วกระฎุมพีแม้อำนาจมิอาจชี้ช่วยชีวิต๓ครอบครองกองมูลว่าพูนสุขสาระใดในกองทุกข์ว่าถูก-ผิดแท้หม่นไหม้ในมายาสารทิศตรากตรำ กรรมตามติดประชิดตัว๔เพียงก้อนโลหิตสถิตครรภ์สนธิสืบพันธุ์คืนสลัวเกิดแต่เม็ดเหงื่อคาวเม....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 29 ธันวาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 3144
, 21:02:43 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
อาราธนาพระเดชพระคุณหลวงปู่พิบูลย์๑ปีใหม่...ใครใครก็ยินดีแม้ไม่รู้ปีนี้..จะมีอะไรใหม่แต่ต้องการคำอวยพรก่อนใครใครพร้อมอวยชัยให้โชคช่วยผู้อวยพร๒เมื่อกลางปีที่แล้วมีแววรุ่งได้หมายมุ่งคู่ร่วมเรียงมาเคียงหมอนหวังมีคู่ปิดประตูลงกลอนสุดท้าย...ได้ก่ายนอนตอนปลายปี๓ปีใหม่...มีเรื่องอะไรที่ใครหวัง ?จนพะว้าพะวังทั้งปีนี้เรื่องธรรมะ เรื่องความงาม เรื่องความดีมีบ้างไหมแบบนี้? ที่ตั้งใจ๔หวังให้โลกสงบสุขคนยากจนยังทนท....
|
วันจันทร์ ที่ 26 ธันวาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1526
, 20:30:16 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
คำนั้น...ฉันรับผิดชอบ................................๑มาตรแม้นเจ้าแค้นเคืองเรื่องสาหัสจะจับพลัดจับผลูสู่หนไหน?จะจำพรากจากกันนิรันดร์ไปอาจวิโยคโศกใดให้อาวรณ์๒เจ้าอาจเร้นสู่เส้นทางต่างระยะบางขณะอาจปล่อยใจจนถ่ายถอนความรักเคยคงมั่นอาจสั่นคลอนอาจจากจรด้วยคำหวานมาดาลดล๓ข้า...ดั่งชายชราล้าสังขารมอซอดั่งขอทานข้างถนนแต่ใจสิกว้างใหญ่กว่าสายชลไหลล้นจนเนืองนองท่วมห้องใจ๔มาตรแม้นคำเหยียดหยามติดตามข้าไปจนกว่าชีวาจ....
|
วันอาทิตย์ ที่ 6 พฤศจิกายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1793
, 03:50:51 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
เรา จะกลับมาเกิดใหม่ในแผ่นดิน.........................๑เรา...จากไป จนสิ้นแผ่นดินนี้เมื่อถึงครา กาลกิณี...มีอำนาจจะถามถึงความเป็นเราก็เขลาขลาดแสนรันทด ไร้บทบาท ขาดความสำคัญ๒เราจากบ้าน ไปนานแล้วนานจนไร้วี่แวว จากแนวฝันนั่น! เหลือเพียงแนวรบราและฆ่าฟันมีลวดหนามล้อมกั้น...ไร้จรรยา๓เราถูกเขา กล่าวโทษอย่างโกรธเกรี้ยวว่าเพราะเราฝ่ายเดียวเที่ยว มุสาเปิดเผย ความเหม็นคาวต่อชาวประชาแล้วความจริงใดหนา...ที่....
|
วันอาทิตย์ ที่ 30 ตุลาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2247
, 05:52:24 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
(เรือกูอยู่ไหน?)ไกลเกินจะกู่เรียก...มโนธรรม............................... ๑ว่ายวักกวักกระสินธุ์เกือบสิ้นชีพดั่งซอยตันมันสั้นตีบต้องรีบหนีดั่งผู้ร้ายมันเผ่นโผนโจนทวีทุกพื้นที่ดูลุกลนทุรนทุราย๒มือเท้าเน่าเปื่อยและเมื่อยน่องเทียวประคองท้องปากไม่อยากถ่ายเปียกเลอะเฉอะแฉะแหยะระคายเคราะห์หามยามร้ายเพราะสายชล๓สินทรัพย์จมหายอยู่ใต้น้ำสุดระกำคำสั่งสั้นไม่ทันขนเพราะอะไร? ไม่รู้กูอับจนเป็นเพราะคนหรือเพราะน้ำท....
|
วันอังคาร ที่ 25 ตุลาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1829
, 21:22:02 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 6 คน
ผู้เข้าใจในสายน้ำ...............................๑เย็นฉ่ำชื้นชื่นนทีทั่วทิศาผูกเพิงเริงนาวาแลล้าสมัยวาดวิถีริมวารีชีวาวัยผู้ผูกติดชีวิตไว้กับสายน้ำ๒แม่มาจากเทือกภูและหมู่ไม้แม่ระบายรินสายมิให้ช้ำให้ลูกผูกแพน้อยลงลอยลำลูกน้อมนำทั้งชีวิตมาชิดเชย๓ลูกหาปลามาแลกข้าวทุกเช้าค่ำเห็นภาพฉายซ้ำครั้งแม่ยังเฉยมิเห็นแม่ขุ่นเคืองสักเรื่องเลยแพลำน้อยยังลอยเกยเช่นเคยมา๔ผิวแม่ลึกล้ำแต่ฉ่ำชื่นพลิ้วแผ่นผืนล่องละหานผ่านพฤ....
|
วันพุธ ที่ 19 ตุลาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1496
, 01:18:57 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 8 คน
อยากจะหวานผ่านม่านน้ำตา........................๑แลผู้คนรอนราญผ่านยุคสมัยล้วนลำบากยากอาศัยไร้ที่อยู่เสียทั้งทรัพย์ทั้งเรือนชานรานฤดูอุทกท่วมอู่ข้าว-อกร้าวราน๒ต่างสิ้นเนื้อประดาตัวครอบครัวแตกแถวละแวก-วายสิ้นทั้งถิ่นฐานเคยอยู่อย่างธรรมดามาช้านานมาถึงกาลหมกไหม้ในชีวัน๓ทุจริตรุกชุกโชนกว่าโจรร้ายอดีตโจรปล้นวัวควายไปแบ่งสรรมายุคนี้กลับผู้นำเขาทำกันแปลงกฎหมายเป็นกฎมันมาปันเมือง๔หลอกคน-จนเป็นควายเพื่อขายฝันวา....
|
วันศุกร์ ที่ 7 ตุลาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2258
, 19:39:08 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
เวียนแหวกว่ายในสำนึก๑ผีเสื้อสาวสะคราญเริงร่านรัก คล้ายบินหลีกจนปีกหักลงปลักขุ่นกรรมซ้ำซัดกระหวัดกามตามการุณย์เบ่งบานการอุดหนุนคุณราคะ๒ ง่ายหรืองาม...ตามแต่ใจใครจะคิดจะถูกผิด จะสวรรค์หรือชั้นสวะเรียกกะหรี่หรือกีฬาแห่งราคะแค่ปะทะประทับร่างประทังชีวิต๓ ใช่ไม่คิด ไม่เห็น ความเป็นอยู่แค่รับความอดสู รู้ดัดจริตเคยกระดากกลับช่ำชองคะนองฤทธิ์รู้ประดิษฐ์เล่มเกวียนเปลี่ยนวิชา๔สำนึก...ลาร้างจนจางหายเปื้อนปนวนว่าย....
|
วันอังคาร ที่ 27 กันยายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1501
, 05:54:38 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
ชีวิตกับ เวลา...ที่ผ่านเราไปอย่างไม่ไยดี..................๑ข้าล่วงผ่านกาลเวลามาทวงถามถึงนิยามความเป็นคนบนวิถีค้นความหมายไขว่คว้าประดามีแม้พันพัวชั่วชีวี...มิอาจพบ๒ความฝัน ความจริงใดข้าใคร่รู้?หรือแค่ความหดหู่มิรู้จบหมายเวลาแห่งชีวิตมาปิดภพเพื่อตายกลบลบร่างลงกลางทราย๓กรำกร้าน ผ่านสุขแล้ว มิแคล้วโศกอาจเพราะโลกระอุร้อนจนกร่อนหายวันเวลาก็เวียนวนไปจนตายทรมานร่างกาย...ไปอย่างนั้น๔เคยเชยชื่นรื่นเริงจนเหลิ....
|
วันศุกร์ ที่ 9 กันยายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1681
, 05:55:45 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
ชีวิต...ล้วนถูกลิขิตด้วยน้ำลาย(บทเรียนจากคำคน)๑ยังย่ำเดินลึก-เขิน-ล้ำ ยามค่ำ-เช้า บนเส้นทางอันบางเบา สู่เงาฝัน อันมองเห็น เพียงเลือนลางในบางวันพลิ้วระริกและพลิกผันผ่านวันคืน๒ย่อมไหวหวามสู่ความจริงสิ่งรอบข้างทุกข์รันทดยอมปลดวางไปทั้งฝืนยิ้มรับความขื่นขมอย่างกลมกลืนคล้ายเหยียบยืนในความช้ำ-น้ำคำคน๓ นี่แหละหนา...สามัญมนุษย์ยังแล่นรุดยุดแย่งในแห่งหนดั่งมัจฉาดำแหวกว่ายในสายชลตะเกียกว่ายตะกายวนท้นนที๔กอบเก็....
|
วันอาทิตย์ ที่ 4 กันยายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2038
, 19:51:48 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 8 คน
คู่ผัวตัวเมีย(ความรัก...ไม่เคยมักง่าย)๑หากจะเขียน ถ้อยคำรักอย่างมักง่ายคำเลี่ยนเลี่ยน เขียนระบาย ให้ใครหลงหากหัวใจไม่ทวนทบจนจบปลงถ้อยคำคงพลิ้วไหวไปสามภพ๒หากไร้รักประจักษ์ใจในรักเจ้าดาวและเดือนคงเคลื่อนเหงาเข้ามากลบจักเวียนว่ายมาตายช้ำกี่คำรบจึงจะพบสบสมัครในรักแท้๓คือ คุณงามความดีที่ข้าเห็นฤาจะเป็นเวรกรรมมาตามแก้จึ่งมีเจ้ามาเคียงคู่คอยดูแลคงเพราะใจเคยพ่ายแพ้ให้แก่กัน๔อยากเขียน ถ้อยมธุรส หวานหยดย้อยคงแ....
|
วันอังคาร ที่ 30 สิงหาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1873
, 06:24:03 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
ซับซ้อนจนอ่อนแอ๑โพระดกโปกเสียงสำเนียงแจ้วพร้อมเสียงแก้วก้องไกลในไพรสณฑ์ข้างขาบแก้วแต้วแล้วอีแซวซนแลเหยี่ยวยลเค้าแมวมิแคล้วคลา๒วิหคขยับปรับป่ายสยายปีกบินหลบหลีกเอียงอาย ณ ชายป่าพลิ้วโผผินบินร่ายไพรพนาคล้ายปันรักแห่งปักษามาประโลม๓บ้างออดอ้อนออเซาะฉอเลาะเล่นเย้าหมอกเย็นเร้นสายระบายโฉมบ้างโฉบบินซบซับพยับพโยมบ้างประโคมเพลงป่าเพลาเย็น๔เช้าแล้วค่ำย่ำเย็นเช่นชีวิตคล้ายพินิจปลิดวางห่างทุกข์เข็ญเช่นนกน้อยใช้ชี....
|
วันพุธ ที่ 24 สิงหาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1811
, 17:37:22 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
ที่อยู่เดิมของจิต (ในภวังค์)๑เย็นคืนค่ำฉ่ำภาพวะวาบไหวเสียงรินไหลล้นหลากจากหยาดฝนเปาะแปะเปาะเหยาะเย้าเคล้ากมลเยียบเย็นจนอยากหลับพริ้มยิ้มนิทรา๒เสียงฝนหลั่งรินนองตามร่องน้ำพรมฝนพรำคระครื้นทั่วผืนฟ้าฉ่าฉ่าข้างสังกะสีที่ชายคา ไหลลงมาตกตุ่มใหญ่ได้ดื่มกิน๓เถาตำลึง บวบ ผักและฟักเลื้อยยอดยาวเฟื้อยป่ายประก้านกระถินสรรพสิ่งเคลื่อนไหวในสีนิลคล้ายชีวินจะปิดเร้นความเป็นไป๔ผ่านทิวาล่วงลับสลับแล้วคงไม่แคล้วราตรีตื่....
|
วันศุกร์ ที่ 12 สิงหาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2123
, 15:23:19 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
สดุดีมหาราชินี พระแม่ฟ้าหลวง แห่งปวงชนชาวไทย๑ศุภวาระมหาฤกษ์เกียรติเกริกหล้าเฉลิมพระชันษามหาราชินีศรีสยามสิบสองสิงหา ฟ้าจรดความงดงามแสงอร่ามพราวกระจ่างพร่างนภา๒พระเคียงคู่ภูวเนตรเหนือเกศเกล้าพระเพียรเฝ้าทรงห่วงใยในไพร่ฟ้าชะโลมทิพย์หยาดเย็นเป็นพระกรุณาปวงประชาคลายทุกข์โศกวิโยคภัย๓ ทรงส่งเสริมศิลปาชีพประทีปส่องเป็นครรลองรักษ์รุ่งเรืองประเทืองไว้สร้างโอกาสแก่ราษฎรขจรไกลต่างเทิดไท้พระเมตตามหาราชินี๔ พระเส....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 4 สิงหาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2239
, 20:28:55 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 8 คน
การเดินทางของดอกไม้( ความหมายของการมีชีวิต )...........................๑บุปผาบาน...หน้าบ้านฉันเมื่อวันก่อนอรชรอ่อนหวานกิ่งก้านไหวเห็นกลีบบางหลบห่มใต้ร่มใบสายลมไล้โลมลูบแล้วจูบลา๒หมู่ภมรร่อนบินดมกลิ่นเจ้าปีกคลอเคล้าโปรยรักเร่เสน่หาขยับร่ายรำฟ้อนฉะอ้อนมาปรารถนาจะลองลิ้มความพริ้มเพรา๓หลบเร้นกายไปไยภายใต้ฟ้าฤาอ่อนล้าเพราะไอแดดที่แผดเผาฤารอคอยคล้อยราตรีที่คลุมเงาเพื่อโอบล้อมกล่อมเจ้าให้เศร้าคลาย๔แรกผลิบาน....
|
วันจันทร์ ที่ 1 สิงหาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1728
, 18:53:41 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
บทสัมภาษน์สุดท้าย...ผู้ก่อการร้ายระดับโลก...............................๑เหนื่อยบ้างไหม? ที่หนีห่างร้างบ้านเกิดต้องเตลิดเร้นกายในต่างถิ่นมีบ้างไหม? เสี้ยวคำนึงถึงแผ่นดินครั้งก่อร่างสร้างชีวิน เคยกินนอน๒ เมื่อไหร่หนอ? จะเพียงพอต่อสินทรัพย์ คณานับมหาศาลปานสิงขรเก็บไว้เผาร่างเจ้าของบนกองฟอนฤาไว้นอนหนุนกายา เมื่อคราตาย !๓กลัวบ้างไหม? บาปบุญและคุณโทษ แอบเอมโอษฐ์โกงกินชาติไม่ขาดสายยังสร้างเรื่องเนรคุณจนวุ่....
|
วันศุกร์ ที่ 29 กรกฎาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1581
, 17:49:06 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 4 คน
เพราะใจนั่นแหละหนา...ที่พาทุกข์( คราบน้ำตาใต้แสงเทียน ) ..........................๑ปาดน้ำตาข้างแก้มมาแกล้มเหล้าวันนี้เมาเมื่อเขาลาครารักร้างหยาดน้ำตาปนเหล้าไหลลงปลายคางคล้ายรักจางไปจากใจของใครแล้ว๒นั่งใต้แสงใสเนียนเล่มเทียนน้อยสะท้อนรอยคราบน้ำตารักมาแคล้วแสงมืดมัวสลัวร้างไม่พร่างแพรวกลับเห็นแววหน้าหม่นหมองนองน้ำตา๓เอียงขวดเหล้ารินเอื่อยลงเรื่อยแก้วมากินแห้วแกล้มเมรัยโหยไห้หาเทียนก็ดับวับวูบดั่งจูบลา....
|
วันอังคาร ที่ 26 กรกฎาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1946
, 19:28:53 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 12 คน
คำเตือนจากเพื่อนบล็อกเกอร์บางอย่าง ต้องค่อยๆ คิด เพราะหากคิดมาก ใจเราจะเครียด ไร้ความสุข ...เมื่อใจไม่พร้อม จ่อมจมในความเครียด ตัวเราก็ไม่พร้อมที่จะต่อสู้ เพื่อความยุติธรรมอันใด....................................๑อาจครุ่นเครียดในความคิดอิสระแล้วปล่อยปละตัวเองจนเคว้งคว้างหลากเรื่องราว ล่องลอย ไม่ปล่อยวางไม่รักษาระยะห่างระหว่างคิด๒บางความเห็นแค่ส่วนตัวกลับมัวเชื่อไม่คิดเผื่อเหลือไว้ให้ถูก-ผิดบางความ....
|
วันศุกร์ ที่ 22 กรกฎาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1930
, 16:05:56 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
สักวันเราอาจเดียวดาย...กับการค้นหาความหมายในชีวิต.........................................๑อาจอ้างว้างเดียวดาย ที่ปลายฝันอาจสัมพันธ์สายสวาท สิ้นขาดหายคำสัญญา อาจกลอกกลิ้งทิ้งกระจายเมื่อวางวาย ละทิ้งโศก จากโลกแล้ว๒เสาะแสวงแหล่งใจในใต้หล้าปรารถนาผ่านความฝันอันผะแผ่วขาดเรือจ้าง แล้วคงเหลือ เพียงเรือแจวไร้วี่แวว ผู้แผ้วถาง นำทางเรือ๓ จะหยิบจับ ขยับใจ ไปไกล้ฝันเร่งคืนวันอันหมายมาด เผื่อขาดเหลือหากไถ่ถามคว....
|
วันเสาร์ ที่ 16 กรกฎาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1840
, 16:00:27 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
พ่อของฉัน...พ่อของแผ่นดิน........................................๑ภาพของพ่อ...เมื่อคราหลัง ในครั้งนั้น...ครั้งตัวฉันเป็นเด็กน้อยด้อยประสาตัวพ่อกร้าน ด้านดำ ด้วยทำนาเหงื่อไหลโทรม ลงโลมหล้า หน้าติดดิน ๒พ่อคือสัญญลักษณ์ของนักสู้พ่อเรียนรู้ พระราชดำริเพื่อผลิสินใช้หลักการพอเพียงเลี้ยงชีวินเลี้ยงสัตว์ ปลูกผักกิน ไม่สิ้นเปลือง๓เลี้ยงเป็ดไก่ เลี้ยงปลา เหลือมาขายลงแรงกาย น้อมโอวาทพระบาทเบื้องไม่เป็นหนี้นายท....
|
วันพุธ ที่ 6 กรกฎาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1500
, 21:03:03 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 8 คน
ดอกไม้แห่งอุดมการณ์.......................................๑เมื่อดอกไม้เบ่งบาน ล่วงผ่านสมัย กลีบช้ำชอกดอกใด ชุ่มไอฝนสีดอกคล้ำ คล้ายความช้ำ ระกำทน เพียงผ่านพ้น ความอดสูแห่งฤดูกาล๒ดอกไม้ ดอกเอย เจ้าเคยหอมเคยเย้าหยอก แม่ดอกพยอม อันหอมหวานกลีบดอกเจ้า ชูช่อขาว มายาวนานพลิ้วเบ่งบาน ล้อไหวกับสายลม๓มรสุม มาหักราญสะท้านสะทกหวาดวิตก เมื่อดอกหวาน มาพาลขมเคยสัมผัสละมุนละไมแห่งสายลมกลับร้อนแล้งแห้งห่ม ระบมใบ ๔จักย....
|
วันเสาร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1447
, 18:41:36 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
กวี..ในสายตาของข้าพเจ้า........................................๑คือผู้ฝึกปรือ ฝีมือเพื่อสื่อสารคือผู้ลิขิตงาน...กวีศิลป์คือผู้ขับขานละลานจินต์โดยอักษรศิลป์ ด้วยวิญญาน์๒ใครบอก...กวีควรมีสำนึกควรจะฝึกอย่างไร...ฤาใฝ่หาจักปลูกฝังจากใครจึ่งได้มาสำนึกดังที่ว่า...มาอย่างไร?๓ฤาสักแต่จะเขียนไม่เพียรอ่านไม่กล่อมเกลาสันดานด้วยงานไหนงานอาจารย์ งานธรรม น้อมนำใจหล่อหลอมไว้สั่งสม อุดมการณ์๔กวี คือผู้ใช้คำด้วยสำนึกพ....
|
วันจันทร์ ที่ 27 มิถุนายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1496
, 02:15:57 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 6 คน
"ปาท่องโก๋"ก่อนหน้านั้น ถูกเขารีด กรีดเป็นแผ่นตัดเป็นแว่นเรียงรายคล้ายผืนผ้าเป็นชิ้นเล็กชิ้นบางแป้งวางทาก่อนจับเราเข้าขา มาคู่กันน้ำมัน-เดือดเพียงใดไม่ยี่หระถูกหย่อนลงทอดกระทะ ระยะสั้นเราทั้งสองตัวเริ่มพองประคองกันเริ่มสุกเหลืองหอมมัน ฉันกับเธอถูกตะแกรงช้อนเสร็จสะเด็ดไว้ยังติดกันทั้งกายใจมิไผลเผลอก่อนใส่ถุงให้หลายคนไปปนเปรอกินแก้เก้อ แกล้มน้ำชาและกาแฟเราทั้งสอง...คือปาท่องโก๋ที่โก้เก๋แม้ซวนเซเรื่องหล....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 23 มิถุนายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1724
, 18:07:28 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้...มีแต่คนช่างเลือก............................................๑เจ็ดสิบแปดปี ผันผ่านการเลือกตั้งเลือกอีกครั้ง ยังแข่งขันกันไม่เลิกเตะก้านคอ เข่าศอก ถลอกปอกเปิกคล้ายถึงฤกษ์ห้ำหั่น ให้บรรลัย๒นโยบาย หวานล้ำ เล่นจำอวดอ้างเอาความเจ็บปวดมาอวดใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงร้อยเรียงใจสร้างพลังความหวังใหม่ให้ดูดี๓ยังร้างไร้ความคิด และจิตสำนึกคิดตกผลึก แต่ใส่ร้ายและป้ายสีวาทกรรมพร่ำรองรับค....
|
วันศุกร์ ที่ 10 มิถุนายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1452
, 15:21:44 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 8 คน
ประกอบกิจการ ผลาญชีวิตธุรกิจ ขายชีวิต ผลิตภัณฑ์ด้วยหมายมั่นสร้างสินค้าเอามาขายพ่อและแม่ลงทุนสร้างมอบร่างกายพร้อมขึ้นป้ายกิจการ ร้านชีวิต๒ทั้งกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงกายให้อาหารเพื่อสร้างงานสร้างคน ผลผลิตเปลืองสมองเปลืองปัญญามาขบคิดหวังชีวิตเจริญวัยได้ราคา๓บ้างอัฐเบี้ยเล็กน้อยค่อยเลี้ยงชีพบ้างคร่ำเคร่ง เร่งรีบ อนาถาเตรียมทักษะ แคล่วคล่อง ท่องตำราหมายจะสร้าง สินค้าดี มีกำไร๔ส่งออกขาย ป่าวร้อง ตามท้องตล....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 26 พฤษภาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1551
, 16:59:33 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
เราหลงลืมความสำคัญการ มีอยู่....................................๑หลับลงแล้วแก้วใจในปรโลกเหลือเพียงเงาเศร้าโศกดั่งโลกร้างเสียงร่ำไห้โหยหวนปนครวญครางประหนึ่งจิต ปิดเส้นทางปล่อยวางใจ๒ เมื่อยังอยู่...ไม่ยอมรับสดับรู้ความสำคัญการมีอยู่ ดูตรงไหน?ต่างหลงลืม ห่างเหิน หมางเมินไกลเพียงเศษใจ เอื้ออาทรเอาตอนตาย๓จะดี-เลวล้นเหลือเมื่ออาสัญเพียงสำคัญ จัดงานศพเคารพไหว้เพียงสวดพระอภิธรรมส่งนำกายเพียง เสียดาย ในใ....
|
วันอังคาร ที่ 17 พฤษภาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1706
, 05:51:30 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
ชีวิต ความรัก...ธรรมดาสามัญ..............................๑กินข้าว-นอนหลับ-ระงับจิตเพ่งพินิจมิไหวจร ก่อนหลับใหล ก่อนหลับ ยังฝึกยิ้ม พริ้มละไมเผื่อรอยยิ้มจะพิมพ์ใจใครบางคน๒ร้องไห้บางครั้ง-ยั้งไม่อยู่ตระหนักรู้ขอบเขตของเหตุผลแต่บางครั้งต้องทำใจทุรายทนร้องไป...ก็ไม่พ้นใจตนเอง๓บ้างมองข้ามความหมายในความคิดแค่ถูก-ผิดเล็กน้อยที่ลอยเคว้งแค่สุ้มเสียงของซากฝันเคยบรรเลงแค่บทเพลงเคยฟังเพียงครั้งคราว๔หัวเราะ...เพร....
|
วันอาทิตย์ ที่ 8 พฤษภาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2218
, 10:33:21 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 13 คน
ความรักในโลกออนไลน์...หรือแค่กดไลค์ก็ได้ใจไปทั้งดวง...............................................๑เมื่อมีการสื่อสารผ่านฟากฟ้ามิใช่จากเทวดา-นางฟ้าสวรรค์แท้มนุษย์...ออนไลน์ส่งให้กันมีแบ่งปันและถูกใจในถ้อยคำ๒แม้มิอาจพบหน้าเวลานี้ถ้อยวลียังอ้อนออดมาพลอดพร่ำฝากให้อ่านหน้ากระดานขานลำนำเขียนถ้อยคำจำนรรจาโต้วาที(แชท) ๓ เขียนกลอนส่งไกลมาให้อ่านแรกสื่อสารทำนองเพียงน้อง-พี่จนเกิดรักสลักใจในวลีเพียงวจี...มิเคย....
|
วันพุธ ที่ 27 เมษายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1786
, 05:49:06 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
เราอยู่กับความหวัง หรือแค่ความผุพังทางความคิด๑กี่รัฐบุรุษหายวับไปกับอดีตกี่จารีตที่เสื่อมทรามตามสมัยวีรกรรมกระทำมาแต่คราใดกลับร้างไร้ผู้รักษาบูรณาการ๒พัฒนามากี่ชาติกลับขาดห้วงถ้อยคำลวงยังมีไว้ใช้สื่อสารยังสืบทอดทายาทอำนาจมารกลุ่มสีสัน-ดานการเมืองยังเรืองรอง๓วาทะกรรมยังนำพาประชาราษฎร์ ให้หมายมาดเชื่อคนชั่วจนมัวหมองหวังฝากผีฝากไข้ได้อิ่มท้องแต่ความหวังยังถูกดองกองพะเนิน๔ฤาเราอยู่กับความหวังอย่างสิ้นคิด....
|
วันอังคาร ที่ 12 เมษายน 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1675
, 23:22:58 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 18 คน
คำมั่นสัญญา๑เส้นอักษรอ่อนช้อยนับร้อยเส้นประกอบเป็นถ้อยคำแทนน้ำเสียงดื่มด่ำกับความเงียบเพื่อเรียบเรียงไร้สำเนียงแต่อุ่นเอื้อเจือแววตา๒เขียนไว้หวานล้ำเป็นคำมั่นยามจากกันยังหวานซึ้งคำนึงหาครั้นห่างไกลให้จดจำคำสัญญา เขียนไว้ว่า... ข้าจะรักและภักดี๓ข้าจะไม่ทำร้าย...น้ำใจเจ้าจะคอยเฝ้าดูแลต่อแต่นี้ไม่หลงล้ำคำใครให้พาทีตราบชีพนี้ขอคู่เคียงแม้เพียงเงา๔ไม่ตัดพ้อต่อเรื่องให้เคืองขุ่นไม่หมกมุ่นขุ่นเคืองในเร....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 24 มีนาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1374
, 19:28:53 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 13 คน
กว่าจะครบกำหนดชะตากรรม...จงน้อมนำสมาธิ.................................ปิดหัวใจและนัยน์ตาที่ล้าหนักให้หยุดพักจากไขว่คว้าลงมาบ้างเหลือเวลากว่าสายตาจะฝ้าฟางกว่าฝังร่างสลายสิ้นทั้งอินทรีย์อีกหลายปีอาจมีสุขปนทุกข์โศกกลางกระแสวิปโยคกร่อนโลกนี้ทั้งไหลหลั่งดั่งเวลาและวารีแต่ชีวีมิต้องตามผลีผลามใจ..............ชายคนหนึ่งนั่งทานข้าวเมื่อเช้านี้สิ้นชีวีด้วยโลกแล่นแผ่นดินไหวทั้งที่กลัวพลาดพลั้งระวังระไวแต่กลับไ....
|
วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1514
, 03:51:50 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 17 คน
หากไม่มีอะไรเปลี่ยน.................................หากโลกนี้ไร้ทิวาและราตรีคงไร้รอบเวียนรวีเป็นสีสันสภาวะสรรพสิ่งคงนิ่งงันไม่แปรผัน หมุนเวียนหรือเปลี่ยนแปลงหากตอนเช้าเราหยุดอยู่ประตูบ้านคงไร้งานรายวันให้ขันแข่งไร้คนอิจฉา บาดหมางและคลางแคลงเรี่ยวแรงคงเสถียรไม่เปลี่ยนไปหากหญิงชายไม่สมสู่เป็นคู่รักมิต้องอกหักระกำร้องร่ำไห้หากความรักมิคาดหวังไปทั้งใจคงรู้ใช้ครองสติพิจารณาหากเงินทองที่ใช้สอยไม่ร่อยหรอคงเ....
|
วันศุกร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2011
, 05:35:36 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 16 คน
ความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผล........................บอกข้ามาเสียทีสิ...ความรักหากข้าพักใจลงบ้างจะจางไหม?ฤาต้องดิ้นรนเพื่อรักมิพักใจจนสิ้นไร้เรี่ยวแรงแสวงรัก......................บอกอารมณ์ให้ข่มใจข้าไว้บ้างหากคิดสร้างเรือนใจให้ประจักษ์จะสร้างเรือนอย่างไรไว้พิงพักสร้างด้วยรักและเหตุผลฤากลใด.......................ในบางคราข้ารักจนหนักอกในดวงใจไหวสะทกแทบหมกไหม้ในอารมณ์ระหกเหิรเกินห้ามใจดั่งมีไฟกองสุมมารุมรอน....
|
วันศุกร์ ที่ 21 มกราคม 2554
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1476
, 04:43:16 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
 ข่าวว่าข้า...อาสัญเมื่อวันก่อน............................................ ข่าวว่า...ข้าปรากฏกายเป็นชายแก่ติดตามหารักแท้จนแก่กร้านข่าวคราวก็ล่วงหายคล้ายตำนานไร้วิญญานมาเรียงร้อยถ้อยกวี ข้าคงแก่ก่อนวัยในความคิดนิ่งสนิทเลือนลบดั่งหลบหนีทั้งร้างไร้อักษรามาพาทีอาจครานี้คงชื่อไว้แค่ในนาม ยังแปรปรวนเพื่อทวนทบประสบการณ์เพียงผันผ่านให้ดวงใจได้ไถ่ถามท่ามรันทดมิลดละพยายามค่อยก้าวข้ามความเปราะบางขวางวิญญาน เพ....
|
วันจันทร์ ที่ 20 ธันวาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2100
, 13:10:09 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 18 คน
ในช่องว่างระหว่างใจ...มีอะไรซ่อนอยู่?(คนละเรื่องเดียวกัน)
๑...คงไม่รู้สินะ...ว่าฉันงอนคงมัวนอนสบายใจไม่แยแสฉันสิ! ห่วงหวงทั้งดวงแดแต่แก กลับเฉยเมย มองเลยไกล ๒...ยืมเงินไป จนล่วงเลย ไม่เคยคืนทนกล้ำกลืน ไม่กล้าทวง จนล่วงหายคำว่าเพื่อน ไม่แปรผันจนวันตายช่างละม้ายคล้ายกับหนี้ที่แกค้าง ๓...ทำ ทำ ทำ ทนทำย่ำกับที่ตำแหน่งดี เลิศลอย ยิ่งถอยห่างงานยิ่งมาก เงินกลับน้อย อยากปล่อยวางเดี๋ยวปล่อยร้าง ให้งา....
|
วันอาทิตย์ ที่ 12 ธันวาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1743
, 15:11:33 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 14 คน

เมื่อบล็อกเกอร์ห่างหายไปจากบล็อก
............................................
เงียบหายห่างเม้นท์เหมือนเร้นหาย
ฤาเป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหน?
จึงห่างบล็อกห่างเพื่อนบ้านจนนานไป
ฤากลับใจไปเขียนกระดาษเพราะขาดเงิน
งานคงยุ่งจึงมุ่งมั่นทำงานหนัก
มิหยุดพักเวลางานช่างนานเนิ่น
ฤาหน้าที่พาเตลิดจนเพลิดเพลิน
จึ่งห่างเหินไกลห่างบางโอเค
บ้างไฟไหม้ น้ำท่วม จนอ่วมทรัพย์
บ้างไฟ....
|
วันพุธ ที่ 8 ธันวาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1751
, 22:23:13 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 12 คน
แม้วาจาจะว่าไพร่ แต่ดวงใจนั้นสูงศักดิ์
..................................................
ก็เกิดมาตามป่าเขาลูกชาวบ้าน
การศึกษายังลางเลือนทั้งเถื่อนเถา
พกถ้อยคำเถื่อนแท้มาแต่เยาว์
แล้วไยเขามาใส่ใจในภาษา
พูดเสียงดังอื้ออึงขึ้นมึงกู
ใครไม่รู้คงคิดมากว่าปากหมา
เพียงสืบทอดจากแม่พ่อต่อกันมา
ถ้อยวาจาจึ่งดูไพร่ใช่ผู้ดี
ยังโผงผางขวานผ่าซากไม่มากเรื่อง
ไม่ประเทืองแก้....
|
วันอังคาร ที่ 7 ธันวาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1499
, 10:44:17 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 14 คน
เมื่อผมเป็นคนรัก...............................จะหมอบตัวสะบัดหางเมื่อย่างใกล้เมื่อดีใจจะป่ายห่างมิว่างเว้นกระดิกหาง-หูตั้งอย่างชัดเจนส่งแววตาให้เห็นแววเอ็นดู จะคอยเฝ้าเจ้านายมาทายทักจะเฝ้ารักให้เจ้านายได้รับรู้จะคลอเคลียเลียแต้มแก้มพธูจะเฝ้าอยู่หน้าบ้านป้องพาลภัย จะกระโดดกอดขาทุกคราครั้งจะหน้าตั้งตามติดคอยชิดใกล้ทำตาแป๋วทอดแววตาความอาลัยเมื่อเจ้านายต้องไกลบ้านไปนานวัน เมื่อกลับมาจะรีบร้อนไปต้อนรับเมื....
|
วันเสาร์ ที่ 4 ธันวาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1856
, 19:50:09 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 14 คน
ในหลวง ในดวงใจ...ไทยทั่วหล้า
.................................................
มหาฤกษ์เบิกฟ้าพระมิ่งขวัญ
ครบรอบวันเฉลิมพระชนมพรรษา
แห่งพระภูมีขัตติยะกษัตรา
ทุกแหล่งหล้าร่วมใจถวายพระพร
หกทศวรรษเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ
ทรงร้อยรัดพระหฤทัยมิถ่ายถอน
พระปณิธานอันสูงล้ำทิฆัมพร
คลายทุกข์ร้อนปวงประชาทั่วธานินทร์
ทรงพระปรีชาชาญบริบาลรัฐ
ทรงขจัดทุพภิกขภัยให้หายสิ้น
....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 2 ธันวาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1642
, 00:29:16 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
กี่คำถาม...ที่ยังตอบไม่ได้ในชีวิต
.........................................
(แหงนคอขึ้นมองฟ้า แม้จะถูกคลุมหัวด้วยปัญหา)(แล้วตั้งคำถาม พร้อมหาคำตอบให้ตัวเอง)......................................ปล่อยร่างกายลอยไกลไปตามน้ำ
จนดำดิ่งลิ่วลู่สู่กระแส
บ้างเปลี่ยนท่าว่ายทวนจนปรวนแปร
จนร่างแหกระแสนิยมทับถมใจ
บางครั้งหลงลอยไกลในความร่าน
คืบคลานตามไคล้คลั่งอันหลั่งไหล
หมกมุ่นซุนซุกจ....
|
วันอังคาร ที่ 30 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1467
, 22:12:02 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 13 คน
ความเจ็บปวดแค่ทดสอบรอบดวงใจ.......................................แม้ห่างไกลแต่ใจพี่นี้อยู่ใกล้น้องเจ็บปวดคราใดยิ่งใกล้พี่เพราะสัมผัสเราสองคล้องฤดีหากน้องเจ็บพี่ยิ่งปวดจนรวดร้าว น้องเคยบอกกลัวพี่นี้เจ็บด้วยยามน้องป่วยลำพังทั้งเหน็บหนาวยังแสร้งทำให้เห็นสุขในทุกคราวแท้ปวดร้าวมิเอ่ยวจีให้พี่ฟัง แม้ดวงตาไม่เห็นความเป็นอยู่แต่ใจรู้แทนดวงตาทุกคราครั้งแม้สุ้มเสียงจะห่างไกลไร้ยินฟังสัมผัสรักยังคล้องใจให้สอง....
|
วันจันทร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1583
, 14:10:10 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 8 คน
เมื่อข้าระลึกชาติ...อย่างพอเพียง
............................
ครั้งกระนั้น...ข้าคือทหารหาญผู้ชาญรบ
ได้พานพบดวงสุดาเพลานั้น
จึ่งภิรมย์รักรื่นผ่านคืนวัน
หวังปักปันดวงใจด้วยหมายปอง
เจ้าเป็นเพียงหญิงสาวลูกชาวบ้าน
ทรงสะคราญผิวขาวแลพราวผ่อง
ลำเค็ญแค้นแสนเข็ญเป็นครรลอง
เทียวเก็บผักตามคลองมาดองกิน
ปลูกพริก แตง
มะเขือ เพื่อแลกข้าว
ชีวิตราวจักยากไร้ไปเสียสิ้น
ข้....
|
วันศุกร์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1611
, 13:28:39 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 15 คน
"เมื่อกวี...มิสุขสม..อารมณ์รัก"......................................จะรักเจ้าตลอดไปแม้ดวงใจจักปวดร้าวและเศร้าโศกเพียงพรุ่งนี้เปิดดวงตามาลืมโลกลดทอนโศกให้เจือจางในบางวัน เมื่อชาตินี้แคล้วคลาด...มิอาจสมหวังชาติหน้ายังจักหมายมาดมิหวาดหวั่นจักไขว่คว้าร่ำไปในนิรันดร์อาจบางฝันจักปราณีให้พี่รัก ยังคงครองดวงใจท้าทายโลกความเศร้าโศกหลอนลวงจนหน่วงหนักดั่งดวงใจถูกลมแล้งมาแกล้งรักเพียงทายทักแล้วห่างหายในชั่วคืน ....
|
วันพุธ ที่ 24 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1609
, 15:31:09 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
ไยนำผ้าไม่นุ่มมาคลุมใจ?...........................................................................เมื่อสายใยแห่งรักถัก-ทอ-สานใช้เวลาเนิ่นนานกว่าสานเสร็จบ้างถักร้อยใยลออแทบคอเคล็ดน้ำตาเล็ดกว่าผ้านุ่มได้คลุมรัก กว่ารักกว่าสวาทกว่ามาดหมายกว่าทลายกำแพงใหญ่ให้แตกหักกว่าหอบห่มเสพสมอารมณ์รักกว่าพิงพักอิงแอบแนบดวงใจ เจียนฤดีจักวางวายมลายสิ้นเจียนราคินคั่นความหวังอันหลั่งไหลเจียนรักแท้ระหกเหิรจนเมินไกลเจียนร้....
|
วันจันทร์ ที่ 22 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2293
, 22:06:28 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 19 คน
ในความว่างเปล่า
...............................
.........................................เกิดมายืนบนผืนโศกของโลกหล้า
มีกายามาหยัดร่างกลางสมัย
มีสมองไว้ขานรับกับดวงใจ
มีสองเท้าก้าวไกลในเส้นทาง
บัญญัติคำกำหนดค่าว่า
มนุษย์
ผู้เร่งรุดการถั่งโถมระดมสร้าง
นวัตกรรมสร้างไว้ตามรายทาง
ผุดมาเพื่อลาร้างใช่พร่างพราย
ด้วยสมองบรรเจิดวิเลิศล้ำ
นำประดิษฐ์วิทยาการอันหลากหล....
|
วันอาทิตย์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1544
, 17:22:38 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
ในความเป็นจริงคนไทย...ไม่มีสี
....................................
...................จักแบ่งแยกสีใดในสภาวะ
ย่อมเคล้าคละหลากสีการตีค่า
พื้นฐานภาพสีย่อมคละปะปนมา
ฤาจินตนาศิลปิน-นั้นสิ้นคิด
ธรรมชาติสิ่งที่เห็นมักเป็นขั้ว
ทั้งดี-ชั่ว
ดำ-ขาวและถูก-ผิด
แต่ตั้งขั้วเป็นเหลือง-แดง
ตะแบงคิด
จึงเบือนบิดธรรมชาติวินาศไกล
เพราะเหลืองแดงมิใช่สีที่ตรงข้าม
ใยนิยามให้ย่ำแย่เกิ....
|
วันศุกร์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2339
, 20:58:33 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 13 คน
การทำลายกำแพงเพื่อนำมาสร้างบ้าน..............................(บ้านกับกำแพง).....................................เจ้าวาดหวังจักสร้างบ้านในกาลก่อนใช้อิฐมอญก้อนแดงแต่งเติมสีทางเดินใช้ศิลาแลงแข็งแกร่งดีปลูกดอกไม้หลากหลายสีไว้ที่ใจ บ้านเจ้ากลับเงียบเหงาเศร้าหดหู่บานประตูเปิดกว้างจนร้างไร้เมื่อคนรักที่หมายมาดนิราศไกลบ้านแห่งใจเคยวาดหวังพังทลาย เจ้าจึงก่อกำแพงไว้แบ่งกั้นด้วยจาบัลย์จนใจแหลกแตกสลาย บ้านเคยสร้....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1889
, 14:18:15 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 12 คน
จงมาขึ้นเรือใจไปกับพี่.............................เปลี่ยวเอกามาเคว้งค้างกลางสมุทรเวียนดำผุดดำว่ายกลางสายน้ำเรือแห่งใจไหวระริกจนพลิกคว่ำลึกถลำในนทีวารีรัก.............จึงลอยคอรอใครมาหมายมาดต่อเติมวาดเรือใจใคร่สมัครเพราะสายชลวนสวาทมิอาจพักรอสมอมาทอดรักพำนักใจ.............เคยเกี่ยวเกยเรือใหญ่ในอดีตกลับถูกกรีดใบบางให้ร้างไร้ปล่อยเรือล่องใบขาดนิราศไกลห่มลมแดดที่แผดไหม้กลางสายชลเทียวเหม่อมองทะเลรอบตัดขอบฟ....
|
วันพุธ ที่ 17 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2643
, 16:17:10 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 14 คน
ปรัชญาของนักการเมืองที่ดี...ที่นักการเมืองไทยไม่เคยอ่าน
................................................................
คือปรัชญาสำคัญอันส่งเสริม
เพิ่มคุณธรรมนำการเมืองให้เฟื่องฟุ้ง
เฟื่องการนำแนวทางสร้างบำรุง
มิใช่มุ่งฟุ้งเฟ้อบำเรอตน
นักการเมืองต้องมีดีที่ศรีศักดิ์
มิใช่ยักษ์กินกระจายกำไรผล
มิใช่เหลือบริ้นไรประปรายปน
แอบเอมโอษฐ์ประโยชน์ตนจนพอกพูน
ข้อที่หนึ่ง ....
|
วันจันทร์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1532
, 23:02:35 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 15 คน
แท้จริงข้าฯ ก่อกำเนิดเกิดมาเพื่ออาสัญ
..............................ดั่งสายกรรมนำกายให้ก่อเกิด
เพื่อละเมิดกรรมใหม่ในวิถี
ก่อร่างกลางความเกษมแลเปรมปรีดิ์
ดั่งชีวีจักหลุดพ้นหนทางทุกข์
ฤามองเห็นเพียงกายาทารกน้อย
ตัวจ้อยร่อยน่ารักล้นระคนสุข
ย่อมพรางตาเงากรรมอันนำทุกข์
ต้องล้ม-ลุกกี่พันครั้งในวังวน
ต้องเติบใหญ่ในโลกหล้าอันสามานย์
ต้องคืบคลานแข่งแย่งทุกแห่งหน
....
|
วันอาทิตย์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1673
, 17:57:22 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 14 คน
 อองซาน ซูจี
กับแนวทางแห่ง..."สาธารณรัฐแห่งชาติพม่า"
.
เมื่อนกน้อยแห่งเสรีมีอิสรภาพ
ยังกระหนาบความมืดมัวสลัวร้าง
เอกภาพยังมืดมนในหนทาง
ความแตกต่างยังเกลื่อนกล่น...ชนกลุ่มน้อย
ยังไม่ถึงเวลา..ประชาธิปไตย
เพราะขัดแย้งยังโหมไฟไม่ถดถอย
ความปรองดองต่างชาติพันธุ์อันเลื่อนลอย
เจ้านกน้อยจงค่อยบินในถิ่นทาง
ด้วยเครือข่ายประชาชนทุกหนแห่ง
คือเรี่ยวแรงจักถั่งโ....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 11 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1914
, 21:58:13 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
เรื่องสั้น"ความสุข ที่จะจดจำไปจนตาย" ผมจำได้...มันเป็นช่วงต้นๆของวัยทำงาน กับอายุย่างเบญจเพศอย่างผม งานนักเดินตลาดที่ต้องอาศัยทั้งหน้าตาและวาจาเป็นอาวุธ บวกกับบุคคลิกภาพที่่น่าเชื่อถือ ประกอบกับการแต่งกาย ต้องดูดี ยิ่งถ้าดูดีกว่าผู้บริหารได้ ความน่าเชื่อถือก็ยิ่งมากตาม ผมมักแอบภูมิใจในบุคคลิกตัวเองอยู่เสมอ อย่างน้อยวันละสองครั้ง ก่อนออกมาทำงาน และหลังพักรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ต้องเข้าห้องน้ำ ตร....
|
วันพุธ ที่ 10 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1862
, 19:51:22 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 10 คน
เหตุใดเมื่อมีรัก...มักทำร้าย
???
.
สำเหนียกแล้วแก้วใจถึงไฟรัก
อันมักเหยียบย่ำใจให้แปรผัน
อันจักร้างดิ่งลงเหวโดยเร็ววัน
เกินจักกั้นดวงใจให้ธรรมดา
ความรักมักทวนทิศไกลจิตว่าง
เคว้งคว้างล่องไปในปรารถนา
ลิ่วลู่แลพรูพรั่งทั้งวิญญาน์
ไขว่คว้าเพื่อครอบครองสนองใจ
ฤาสิ้นแล้วรักใสใสในวันเก่า
ฤาแผดเผาจนทุกข์ทนหม่นไหม้
เก็บซากเหลือเพื่อหวังประทังใจ
เหลื....
|
วันอังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1822
, 19:00:04 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน

ภาพสะท้อนใกล้บ้าน
ที่ทุกท่านควรเก็บไปคิด
...................................
...............................................เป็นเวรกรรมทำสร้างแต่ปางไหน?
จึงหนีตายทั้งหอบลูกแลจูงหลาน
เพราะบ้านเมืองเข่นฆ่ากันมานาน
โดยสันดานการแก่งแย่งแบ่งอำนาจ
จะวาดหวังสิ่งใดในใต้หล้า
เมื่อชีวาหนีซุกซุนกระสุนสาด
ดั่งกำเนิดชีวิตมาผิดพลาด
ท่ามดินแดนที่ขาดไร้ในศีลธรรม
หรือชีวิตเข....
|
วันจันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1484
, 13:49:19 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 11 คน
มนุษย์หนึ่ง...ควรเท่าเทียมในสิทธิและเสรีภาพ
(แม้ร่างกายถูกกักขัง แต่หัวใจยังโบยบิน)
.
พระเจ้าสร้างมนุษย์เรามาเท่ากัน
กลับต่างชั้นศักดินาอยู่อาศัย
ใครครอบงำด้วยเหตุผล...ฤากลใด
จึงอยู่ใต้การประทุษ-อยุติธรรม
มนุษย์หนึ่งจึงหักเหเสรีภาพ
ถูกขนาบด้วยความเสื่อมการเหลื่อมล้ำ
ถูกกักขังในกรงกรอบความชอบธรรม
สร้างสูงต่ำปั่นปลุกจนลุกลาม
จึงถูกเขาเอาเปรียบเหยีย....
|
วันเสาร์ ที่ 6 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2355
, 13:18:20 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 19 คน
ทางสายกลาง...เพื่อสร้างไทย
..................................
เพราะเราเปราะบาง...กลางความรู้สึก
ทั้งเข้าข้างและเหยียดลึกในใจเขลา
ริษยารุม-ห่อหุ้มกุมใจเรา
ให้ขลาดเขลาและแบ่งแยก...จนแตกกลาง
ในโปร่งใสย่อมมีหม่นปะปนเปื้อน
ในความเหมือนอาจมีสีที่แตกต่าง
ในความชั่วย่อมดีเหลือแค่เจือจาง
ในก้าวย่างย่อมราคิน...คำนินทา
เพราะเราต่างเอาแต่ใจในความคิด
บ้างยึดติดภาพเสมือนอ....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 4 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2876
, 18:32:18 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 17 คน
ภาวะผู้นำ
กับการต่อสู้กับกลุ่มผลประโยชน์
..............................................
...........................................เมื่อผู้นำกร้านกรำนำประเทศ
ทุกขอบเขตย่อมตามติดวินิจฉัย
ปะปนทั้งหวังดีและหวังร้าย
กลางเภทภัยย่อมเปื้อนเปรอะเลอะคำคน
อย่าวาดหวังวาสนาจะมาช่วย
หากทวยราษฎร์ยังไร้สุขทุกแห่งหน
ผู้หวังร้ายยังเกลื่อนลอยคอยผจญ
อยากผ่านพ้นต้องเจนจัดและชัดเจน
....
|
วันอังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1398
, 20:48:46 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 12 คน
ปลอบขวัญ...ผู้ประสบภัยฟื้นดวงใจไทยทุกดวง...........................................................................เมื่อโลกกร่อนทั้งร้อน-เย็นเห็นกันทั่ว
เงาหวาดกลัวครอบงำระส่ำระสาย
ทั้งพายุโหมกระหน่ำเข้าทำลาย
พี่น้องไทยต่างทุกข์เข็ญเป็นรายทาง
บ้างท่วมน้ำระกำใจในทรัพย์สิน
บ้างสูญสิ้นผลิตผลที่ทนสร้าง
บ้างท้อทดทุกข์ทนหมดหนทาง
"ดั่งโลกร้างเพื่อสร้างใหม่ให้เทียมกัน"
อย่าเ....
|
วันจันทร์ ที่ 1 พฤศจิกายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1724
, 16:30:12 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 21 คน
มิใช่เพียงแค่น้ำท่วม ปัญหารวมยังท่วมท้น.................................................................................ขอวิสัชนาไปตามคำปุจฉา
ใยธาราจึ่งท่วมทั่วทุกหัวระแหง?
เพราะเขื่อนปล่อยน้ำหนุนจนรุนแรง
มิพร่องน้ำไหลตามแอ่งเพื่อแบ่งเบา
แล้วใยเขื่อนไม่คำนวณถึงมวลน้ำ?
มัวงุ่มง่ามผิดพลาดเพราะขลาดเขลา
ลืมหน้าที่สอดประสานการบรรเทา
จนทุกข์เร้าดาษดื่นค่อยตื่นตัว
ย้อนตำร....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 28 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 2637
, 19:12:38 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 19 คน
เปลี่ยน! โลโก้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
..........................................ฤาเป็นค่านิยมความตรมยาก
ฤาลำบากยากจนข้นแค้น
ท่ามรันทด-อดสูคนดูแคลน
ท่องเมืองแมนเพื่อขุดทองล่องราตรี
เป็นสาวสวยรูปงามตามบาร์
ย่างเยื้องเปลื้องผ้าน่าบัดสี
ณ
โมงยามอย่าถามถึง กุลสตรี
เพ-ลานี้คือเพ-ลาการหากิน
คบลูกค้าไทยทั้ง
ฝรั่ง แขก
มิผิดแปลกในกลกามยามถวิล
จากเริ่มต้นจนชิน....
|
วันอังคาร ที่ 26 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1293
, 11:43:48 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 14 คน
ไถ่ถาม
ความเป็นไป คณะกรรมการ สมัชชา ปฏิรูปประเทศไทย ??
..............................................
จากสามเดือนถึงสามปีชี้จุดหมาย
ปฏิรูปประเทศไทยให้ผ่านพ้น
กระบวนการวาทะยังปะปน
เกลื่อนกล่นหล่นกระจายในน้ำคำ
ฤาเป็นเพียงองค์กรมานอนคิด
สถิตย์กายกลาดเกลื่อนในเถื่อนถ้ำ
อภิปรายพ่นน้ำลาย-ออกร่ายรำ
รอเวรกรรมซ้ำซัดค่อยจัดทำ
ฤาเป็นเพียงองค์กรขย้อนเขมือบ
เพียงเหลือ....
|
วันอาทิตย์ ที่ 24 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1738
, 13:49:41 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
เมื่อผมรักสมัครใจในภาพวาดเมื่อคุณรักใคร...แม้เขาจะผ่านอะไรมา เหมือนภาพวาดที่ถูกแต่งแต้มหลากสีสันแต่เมื่อเรารักกัน ภาพนั้นย่อมสามารถเสกสรรค์ขึ้นใหม่ได้โดยคนสองคน.............................๑เธอเคยผ่านอะไรมา?...คราแรกแย้มใยถูกแต้มภาพชีวีหลากสีสันผืนผ้าขาวเบาบางในครั้งนั้นปลิวล่องฝันฝากไว้ให้...ใครดูแล?๒หวังชนะใจใครในหลายครั้งต้องพ่ายพังกลับมานั่งหาทางแก้เส้นสายร่างถูกเขียนทวนจนปรวนแปรมิอาจแลเป็นรูปลัก....
|
วันพุธ ที่ 20 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1848
, 17:38:26 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 16 คน
ท่านมองเห็นอะไร?...ในความต่าง..................................................๑ด้วยยากจนข้นแค้นจากแดนเกิดต้องเตลิดเร้นกายในลมหนาวจากดินแดนแร้นแค้นสู่แดนดาวลักลอบเข้ามาผิดแผกแปลกสังคม๒ด้วยค่าเงินแตกต่างระหว่างชาติจึงหมายมาดนิราศไกลได้สุขสมมีฐานะทัดเทียมใครในสังคมกลับสร้างปมในใจให้ตัวเอง๓เป็นคนแปลกมาแลกแรงเป็นแบงค์นอกกลับถูกหลอกโกงค่าแรงแกล้งข่มเหงเป็นต่างด้าวต่างพันธุ์ใช่กันเองฝึกร้องเพลงชาติได้...แต....
|
วันจันทร์ ที่ 18 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1369
, 01:46:39 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 13 คน
สักวัน...ธรรมะจักชนะใจ...ใครสักคน(ฆราวาสธรรม 4 : ธรรมของผู้ครองเรือน).............................................................................................หากวิวาห์ที่เร้นกาลไปนานแล้ว
ไม่คลาดแคล้วแนวธรรมแห่งคำสอน
เธอกับฉันคงรักกันนิรันดร
รักแรมรอนเพราะเราขาด...ฆราวาสธรรม
คือพุทธะธรรมครรลองการครองคู่
ตระหนักรู้ทั้งในนอกเพื่อบอกย้ำ
เป็นแนวทางสร้างสรรค์การกระทำ
เพื่อโ....
|
วันเสาร์ ที่ 16 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1806
, 16:40:04 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 12 คน
ปรารถนาสุดท้าย ของชายชรา...ผู้รักสันโดษ(รถไฟด่วน...ขบวนสุดท้าย)................................................ครองตัวตนคนเปลี่ยวในเสี้ยวรักหวังเก็บกักดวงใจแก่ไว้แก้ไขยิ่งนานวันช้ะเง้อแง้ยิ่งแก่ไกลเกินเปิดใจจักเคลียคลอช่อผกาเพียงข้ออ้างว่าความรักมักทำร้ายแท้ดวงใจร้างเร่เสน่หาเพราะความรักผกผินจนชินชาปรารถนาเคลื่อนคล้อยรอยอารมณ์เมื่อใคร่ครวญมวลรักที่ปักจิตเพียงความคิดเคลื่อนไหวใช่สุขสมเพียงรู้สึกสุขเศร....
|
วันพฤหัสบดี ที่ 14 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1706
, 22:08:15 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 14 คน
มูลนิธิคุ้มครอง...ปรารถนาในสตรีที่ตั้งสำนักงาน โอลิมปัส.OK Nationหยาดน้ำตาดั่งยารักษาแผลเมื่อดวงใจโดนรังแกสุดแก้ไขเพิ่งพบรักผ่านภพบรรจบวัยแต่แผลใจกลับแก่ยิ่ง..กว่าหญิงชราเพียงผู้ชายบัดซบที่พบพานสร้างวิมานร้อยเล่ห์เสน่หาแสร้งคนดีมีรักมั่นจำนรรจาเพียงเพ-ลาก็หลงล้ำคำคารมเืมื่อแรกรักน้ำต้มผักก็มักหวานพอเนิ่นนานต้มน้ำตาลกลับพาลขมใช่ฝืนใจเมื่อแรกรักมักจ่อมจมดั่งอาคมบังดวงตาให้บ้าบอตัวตนจริงของเขาไม่เฝ้าค....
|
วันอังคาร ที่ 12 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1544
, 23:56:59 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 12 คน
เชื่อมั่นประเทศไทยกับนาย...โอลิมปัส..........................................................ตระกูลไทย...ใครเลยจะเคยรู้?
คงอยู่-ล้มตายมาแต่คราไหน?
บรรพบุรุษยุดแย่งจากแหล่งใด?
ถือครองไว้จึ่งเป็นเขต...ประเทศไทย
คงเผ่าพันธุ์ผ่านพ้นเพราะทนสู้
อาศัยอยู่ย้ายแดนจากแคว้นไหน?
ทฤษฎีไม่ชี้ชัดเป็นรัฐใด
ปัจจุบัน-ไทยเป็นรัฐที่ชัดเจน
ผู้มาก่อนมองการณ์ไกลวิสัยทัศน์
เปลี่ยนประวัติ....
|
วันอาทิตย์ ที่ 10 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1386
, 02:45:41 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 9 คน
บทเรียนจาก....คนแก้เหงา.......................................ทอดสายตานอกหน้าต่างทุกอย่างผ่านความพลุกพล่านตามตรอกภายนอกตึกดวงอาทิตย์ลาลับเริ่มดับลึกสู่ค่ำคืนดื่นดึกผลึกราตรี................................................................ตั้งคำถามจนติดตามในความฝัน ว่าตัวฉันเป็นใครในโลกนี้ปรารถนาสิ่งใดในปฐพีความมั่งมีหรือสุขใจอย่างไรกัน?รอนแรมวันแรมเดือนดั่งเรือนร้าง เดียวดายอ้างว้างด้วยช่างฝัน ภาพ....
|
วันศุกร์ ที่ 8 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 4045
, 13:10:38 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 7 คน
เรือกระดาษ...เร่รักจากต้นน้ำบ้างโคลงคว่ำเปียกช้ำระกำฝนเทียบฝั่งรักกี่คราวครั้งยังจำทนเพียงไขว่ค้นท่าเรือจอดที่ทอดยาวปลายน้ำสิ้นสุดที่ใดไม่เคยรู้กางใบกู่ก้องร่ำระบำสาวหารู้ไม่มวลแมลงภู่-รู้ความคาวโพนทะนาเรื่องราวของสาวเรือรักครั้งแรกสอนศาสตร์สารการเทียบท่ามอบกายาเสพเสร็จด้วยเม็ดเหงื่อเพียงคิดว่ารักแท้จะแพ้เรือจึงจานเจือแลกรักด้วยพักตร์พราวลอยลำผ่านทิวาราตรีโศกกร้านกรำโลกกายช้ำระกำหนาวทิวธงรักโบกสะบั....
|
วันอังคาร ที่ 5 ตุลาคม 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1701
, 12:05:37 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 3 คน

สายลมหนาว...พราวเหงาจนเปล่าว้างทุกที่ทางห้องหับดูอับเฉาผ่านเงาแดดแผดไกลจนไร้เงาหมองเศร้ามัวหม่น-อนธกาลหนาวนี้-หนาว-กว่าหนาวที่คราวทุกข์ความเคยสุขเอิบล้นจนพ้นผ่านเหลือลำพังทนหนาวแทบร้าวรานเป็นปราการหมอกม่านผลาญวิญญูเตียงเดี่ยว...เปลี่ยวร้างดูว่างเปล่าเตียงเก่าแต่ก่อนนอนเตียงคู่ใบหมอนลายบุปผาและผ้าปูนุ่มเนียนเนื้อพธูอยู่นานวันเตียงเคยคู่เตียงเก่าเจ้ามาหักจากเตียงรักร้อยลีลาหฤหรรษ์เตียงกลับแยกแตกกระจา....
|
วันอังคาร ที่ 28 กันยายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1076
, 11:33:25 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้
โหวต 1 คน
 ๑ขอให้...วันนี้จงยินดีที่หายใจ ความสุขนั้นหาได้ในทุกที่ แม้นร่างกายจะปวดร้าวหนาวฤดี มวลชีวีต้องหยัดยืนและฝืนทน๒ ดั่งดอกไม้พรายพร่างกลางลมหนาว รอแดดพราวอันอุ่นไอในเวหน สายลมหนาวอาจมีสุขในทุกข์ทน เมื่อล่วงพ้นสู่นิทราในราตรี๓ คือความหมายถ้อยวจี "การมีชีวิต" บางสิ่งผิดแผกไปในครานี้ มีดำ-ขาว สว่าง-มัว และชั่วดี ชีวิตนี้ย่อมมีสุขและทุกข์ทน๔ ความสุขอาจน้อยกว่าเมื่อคราทุกข์ แต่ก็สุขเมื่อทุกข์ร้ายได้ผ่านพ้น ค....
|
วันพุธ ที่ 22 กันยายน 2553
Posted by
โอลิมปัส
,
ผู้อ่าน : 1769
, 18:11:07 น.
หมวด : ดารา/นักร้อง/คนดัง
พิมพ์หน้านี้
โหวต
0 คน
 ถ้าพูดถึง วงการบันเทิง ใครๆก็อยากเข้าไป บางคนขอแค่ยกกล้อง จัดไฟ ซับเหงื่อซูเปอร์สตาร์ ก็มีความสุขแล้ว แม้ไม่ได้เป็นพระเอกนางเอก แต่ก็เหมือนสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของชื่อเสียงและเงินทอง เป็นวงการที่เกี่ยวข้องกับ มวลชน เป็นหลัก โดยอาศัยสื่องานด้านวิทยุและโทรทัศน์รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆที่เกี่ยวพันกันตามเส้นสายธุรกิจ เป็นตัวผลักดันธุรกิจ วงการบันเทิงเหล่านี้ ประกอบไปด้วย สายงานที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อ....
|