(ตีพิมพ์ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 14 มี.ค.51 ) กอด เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความงุนงงในพล็อตเรื่องกับผมเป็นอย่างมาก ด้วยความที่อยากจะทำตัวประหนึ่งว่าจะกลายร่างมาเป็นนักตีความสัญญะสัญลักษณ์อะไรสักอย่างหนึ่ง ภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้เลยเสมือนมีโจทย์ท้าประลองเชิญชวนให้ขบคิดต่อถึงสิ่งที่หนังต้องการจะบอก กับความหมายของ แขนที่สามของ ขวาน(ตุ้ย-เกียรติกมล ล่าทา) พระเอกของเรื่อง หรือมนุษย์ผู้มีแขนซ้ายงอกออกมาอีกหนึ่งข้าง ที่กลายเป็นส่วนเกินซึ่งเจ้าตัวอยากจะกำจัดให้สิ้นซาก ด้วยการออกเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อไปผ่าตัดเอาออกเสีย ผิดกับนมโตๆของนา(กระแต-ศุภักษร ไชยมงคล)นางเอก ในบทสาวเหนือผู้บังเอินหนีการถูกไล่ปล้ำได้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ไอ้หนุ่มสามแขน กับอีสาวทรงโต ที่ชวนให้ใครต่อใครมองตรงสิ่งที่เจ้าตัวรู้สึกเองว่า มันคือส่วนเกิน ที่เบื้องบนประทานให้มาผิดที่ผิดทางจนนำมาซึ่งเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ แขนที่สาม ทำให้ขวานรู้สึกกลายเป็นตัวประหลาดในทัศนคติของเขา ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก สาวคนรักก็ตีจาก เสื้อที่หาใส่ก็ไม่มี ความอับอายในสิ่งนี้ทำให้เขาไม่ค่อยอยากออกจากบ้านเกิดไปไหนๆ ความใฝ่ผันจะกลายเป็นคนธรรมดาสองแขนเหมือนคนปกติทั่วไป น่าจะทำให้ชีวิตเขาปกติสุขขึ้น ส่วน นมโต แสนแทงตาของนาทำให้กลายเป็นสิ่งแรกที่ผู้ชายทั้งหลายมองเธอเป็นอันดับแรก สร้างความอึดอัดกับเจ้าของว่าผู้คนเหล่านั้นได้ละเลยการมองที่ตัวตนอันแท้จริงของเธอจริงๆเสียก่อน ปัญหาการถูกปลุกปล้ำลวนลามอยู่บ่อยครั้งทำให้เธอสุดเอือมระอากับส่วนเกินที่แม่ให้มานี้ แต่ก็ไม่อาการหนักถึงขนาดหนุ่มขวานที่อยากจะตัดมันออก การเดินทางครั้งนี้จุดประสงค์ของเธอคือการออกเดินทางตามหาสามีที่ขาดการติดต่อมาเป็นปีแล้ว ส่วนเกินเลย กึ่งแปลกประหลาดของพระเอกขวาน โดดเด่นมากในหนังทำให้บังเกิดเรื่องราว road movie การเดินทางผจญภัยอย่างมีเป้าหมายของตัวละคร ชวนให้นักดูหนังอยากตีความถึงความหมายที่แท้จริงของ สัญลักษณ์แขนที่สาม หรือมือที่ใครๆก็มองเห็นนี้ แม้ในบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี จะเคยขยายความว่า แขนที่สาม เป็นเสมือนสิ่งที่เขาไม่พอใจในตัวเองเมื่อส่องกระจกดู เปรียบเปรยเหมือนสิวที่อยากบีบให้ออกทิ้งๆไปเสีย ประเด็นนี้ชวนให้ผมเลยขอตีความต่อถึง แขนที่สาม มันน่าจะมีความอย่างอื่นด้วยมากกว่าเรื่องแฟนตาซีหรือความพิกลพิการนั้นๆ กรณีในหนังฉากหนึ่งได้ชูประเด็นถึงความเป็น special ที่แม่ของขวานให้คำนิยามกับแขนส่วนเกินว่า พิเศษกว่าใครๆอย่างไรรึ? อาทิ การงานคัดแยกไปรษณียบัตรทายผลบอลโลกที่ต้องการความรวดเร็วก็ลุล่วงไปอย่างน่าพอใจสำหรับบิ๊กบอส หรือกีฬาวอลเล่ย์บอลที่ขวานมีแขนไว้ตบหลอกคู่ต่อสู้จนกลายเป็นดาวเด่นนักกีฬาขวัญใจสาวๆประจำโรงเรียน ก็อีกหนึ่งข้อดีของการมีสามแขน ระหว่างความ special ของแม่ และความแปลกประหลาดที่หลายคนยัดเยียดให้ตัวเขาถูกนำมาชั่งน้ำหนักหาข้อดีข้อเสีย หลังจากแม่จากเขาไป จนกระทั้งการถูกแฟนทิ้งหนีไปแต่งงานและสุดท้ายช่างตัดเสื้อประจำตัวตายลงกลายเป็นตัวเร่งที่ทำให้ขวานตัดสิ้นใจต้องการตัดมันออกเสียเพื่อจะได้กลายร่างเป็นคนธรรมดาสามัญเหมือนๆคนปกติทั่วไป ดูจะเป็นเหตุผลไร้น้ำหนักสิ้นดีหากว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นกับใครตรงๆ สิ่งที่สะดุดใจผมเรื่องนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่หรือวิธีที่คนมองต่างกัน คนหนึ่งว่า พิเศษ ส่วนอีกคนว่าแปลกประหลาด ในสิ่งเดียวกัน หรือกรณีคนหนึ่งว่าโดดเด่นเกินไป อีกความคิดหนึ่งว่าขอเป็นแบบคนธรรมดาทั่วไปดีกว่า เสมือนมีการเคลื่อนย้ายของคำว่า Somebody ที่ใครๆก็อยากเป็น กับ Nobody สามัญชนที่ไม่มีอะไรแตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งหลายคนถือว่าคำหลังนี้จืดชืดทำให้ชีวิตไร้สีสันจนอยากจะก้าวข้ามคำนี้ไปให้พ้นๆ ในหนังมีฉากการเป็นนักกีฬาโรงเรียนของขวาน แวบหนึ่งทำให้ผมย้อนภาพไปตอนเด็ก ไม่ว่าระดับประถมหรือมัธยม จะมีภาพเพื่อนๆในวัยเดียวกันที่เล่นกีฬาอย่างโดดเด่น จนถึงขั้นเป็นนักกีฬาดังประจำโรงเรียน หลายคนคงพอนึกออกถึงความทรงจำที่เพื่อนคนใดคนหนึ่งนั่งเรียนอยู่โต๊ะข้างๆ ห้องเรียนเดียวกันแท้ๆ ผันตัวเป็นคนโด่งดังคับห้องเรียนทะลุไปไกลถึงกลายเป็นตัวแทน ขยายต่อเป็นตัวแทนโรงเรียน ไปแข่งกับโรงเรียนในตำบล ถึงอำเภออื่น ซึ่งดูยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินในขณะนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือเชียร์สุดขีดยามเพื่อนขึ้นเวทีชก อีกใจหนึ่งก็แอบขบคิดเล็กๆว่าเอ..เราพอทำได้บ้างรึเปล่าหว่า... สมัยนั้นผมมีเพื่อนเป็นนักมวยรุ่นเล็กครับ ต่อยเตะเก่ง ครบเครื่อง เนื่องจากเขามีพี่ชายเป็นนักมวย ศิษย์คนหนึ่งของครูมวยประจำตำบล (ครูมวยผู้นี้เป็นครูมวยคนแรกๆที่สอนแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยคนหนึ่งในอดีต ด้วยครับ) บ้านก็อยู่ไม่ไกลจากผมนัก จากเด็กข้างบ้านที่เคยไปเชียร์ขณะมีงานประจำปีของตำบลก็จะมีเวทีล้อมผ้าชกมวยแบบงานวัด เพื่อนผมคนนี้หาลำไพ่พิเศษตั้งแต่เด็กๆหลังจากตามติดพี่ชายไปดูมวย ก็เลยขึ้นชกเป็นมวยเด็กคู่ก่อนเวลาอยู่เรื่อย ด้วยค่าตัว 50 บาทเป็นอย่างน้อยสำหรับผู้แพ้ ดังนั้นเวทีงานวัดกลายเป็นการปูพื้นฐานด้านเชิงมวยให้เพื่อนโดยไม่รู้ตัว การพัฒนาตัวตนจนกลายเป็นตัวแทนตำบล อำเภอ สร้างชื่อเสียงให้เพื่อนผู้นี้เป็นอย่างมาก ผมจำช่วงที่เหล่านักมวยมาเข้าค่ายเก็บตัวได้ ขณะนั่งเรียนอยู่ เห็นเหล่านักมวยสมัครเล่นวิ่งออกกำลังกายเป็นแถวข้างสนาม แถมตอนเย็นยังมีการซ้อมมวยโชว์ให้ดูก่อนกลับบ้านอีก นักเรียนทั้งโรงเรียนแห่ไปดูการซ้อมเสียยกใหญ่ เพื่อนผมกลายเป็นคนดังไปแล้วครับ นั้นเป็นการเคลื่อนย้ายของคำว่า Somebody- Nobody ใช่รึเปล่าล่ะ? อย่างที่มีคำว่า กบในกะลา ถูกบัญญัติไว้ในโลกใบนี้ เช่นเดียวกับเรื่องเพื่อนนักมวยคนนี้ หลังจากเป็นตัวแทนได้ไกลถึงระดับจังหวัด แต่พอขึ้นสู้ระดับภาคเหนือตอนล่างเส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอีกต่อไป เพื่อนกลายเป็นอดีตคนเคยดังเสียแล้ว ครั้นโตขึ้นหน่อย พอเรียนจบแยกย้ายกันไปเพื่อนผมไปเรียนสายช่างพอจบมาก็เดินทางไปซาอุฯซึ่งฮิตมากตอนนั้นไปอยู่เสียหลายปี แล้วกลับมาแต่งงานเปิดร้านอาหารเล็กๆ ท้ายสุดไม่กี่ปีมานี้ผมได้ข่าวแว่วๆว่าเพื่อนไปไม่ค่อยได้ดีนักทั้งในการใช้ชีวิตครอบครัว การงานก็ไม่ดีมีปัญหาชีวิตรุมเล้า เสียศูนย์ไปเลย คำว่า Somebody ของเขาจบสิ้นลงไปกับอดีตวัยเยาว์ แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามันยังดำรงอยู่ บางทีการย้ายคำว่า Somebody- Nobody ในความหมายของผมดูจะไม่ยิ่งใหญ่เท่ายุคสมัยปัจจุบันที่การสื่อสารกว้างไกลที่ต้องมาโชว์ตัวเป็นคนดัง แบบดารานักร้องภายใต้คำว่า ความฝันของคนรุ่นใหม่ แต่สมัยก่อนดังแค่ในระดับโรงเรียนหรือแค่ประจำกลุ่มเพื่อนฝูงก็ไม่ใช่เล่นแล้ว สำหรับช่วงวัย และสถานที่อันห่างไกลความศิวิไลท์นั้นก็ถือเป็นปัจจัยที่เพียงพอแล้วสำหรับสนามเล็กๆในอดีต ทำให้คำถามที่ตามมาคือ ทุกอย่างย่อมมีการแปรผันเปลี่ยนไปเมื่อสนามถูกเปลี่ยนเคลื่อนย้าย เวลาที่วิ่งเลยผันผ่าน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ ความทรงจำที่มากระทบตัวเราแล้วยังฝังแนบแน่นจนมิอาจลืมเลือนยามมีเรื่องอะไรทำนองนี้มากระตุ้นกระทบย้ำเตือน อาทิ ตัวอย่างที่พบบ่อยการกล่าวอ้างถึงของบุคคลทั่วไป ว่าเคยรู้จักคนดังคนโน่นคนนี่ ที่ไม่รู้ว่าเป็นราคาคุยกันรึเปล่า? แม้บทสรุปตอนท้ายของหนัง กอด จะออกมาประมาณว่าให้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เรื่องราวทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องของแขน แต่เป็นเรื่องความคิดของคน หรือให้มองในมุมที่ว่า หากมือที่สามของขวานนั้นถือเป็นความ special แล้วกับใครล่ะที่จะถือว่ามัน special คำเฉลยว่าจะมีผลโดยเฉพาะพิเศษอย่างมากสำหรับบุคคลพิเศษอย่าง แม่ของเขาและนางเอกนา ที่เห็นคุณค่าในตัวเขา นับเป็นการคิดของผู้ซึ่งรู้จักมองโลกอย่างที่เป็น มองอย่างเข้าอกเข้าใจ ประหนึ่งได้ตกผลึกทางความคิดในการเฝ้ามองเอาใจใส่คนใกล้ชิดใกล้ตัว ถึงอาจจะดูน้อยนิดเพียงเศษเสี้ยวเรื่องราวสำหรับบุคคลทั่วไป แต่มันดูยิ่งใหญ่เต็มสี่ห้องหัวใจของบุคคลที่ข้องแวะโดยตรง นั่นทำให้วาบความคิดหนึ่งของผมบังเกิดความสว่างโพล่งขึ้นว่า การที่ผมจดจำเรื่องราวของเพื่อนคนหนึ่งจนถึงขนาดนำมาเล่าต่อได้ มันคงเป็นความประทับฝังใจจากประสบการณ์หนึ่งที่อยู่ๆก็ผุดโผล่ขึ้นมา ทำให้พลอยมีเรื่องราวเพื่อนคนอื่นๆอีกหลายแว๊บๆผุดพรายตามขึ้นมาในความคิดอีกตามลำดับ หรืออย่างน้อยสำหรับผู้ที่อ่านบทความนี้ คงพอถูกกระตุกเตือนให้นึกไปถึงเรื่องราวทำนองนี้ของใครคนหนึ่งในอดีตที่คุณเคยรู้จัก แค่นี้ผมคิดเอาเองว่า เพียงเท่านี้คุณก็กลายเป็นคนพิเศษในเชิงอุดมคติแห่งเรื่องราวอดีตกาลของเขาๆเหล่านั้น ถึงจะมีคุณค่าเพียงแค่การระลึกถึง ก็ทำให้อิ่มเอมใจ ไม่ว่าปัจจุบันเรื่องราวชีวิตจริงจะเป็นอย่างไร อดีตอันหอมหวานก็ยังตกอยู่ในอ้อมกอดแห่งความคิดแสนงดงามของเราท่านอยู่เสมอกันอยู่แล้ว |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
STILLWATER | ||
![]() |
||
ที่มา...ชื่อวงดนตรี(สมมุติ) STILLWATER จากภาพยนตร์เรื่อง Almost Famous |
||
View All ![]() |
<< | มีนาคม 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |