*/
Oh What A Night | ||
![]() |
||
เพลงจาก Jersey Boys,West End, London |
||
View All ![]() |
<< | เมษายน 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 |
ลอนดอนกำลังงดงามในวันนี้ ทั้งที่มีเรื่องราวผ่านร้อนหนาว จากฤดูกาล เหตุการณ์บ้านเมืองและสังคมเสมอมา ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น เป็นที่รู้กันว่าลอนดอนเนอร์สจะมารวมพลบริเวณหลักศูนย์ไมล์ ใจกลางมหานครที่ Trafalgar Square ** ตอนเริ่มสร้างเมื่อเกือบสองร้อยปีก่อน เหมือนจะรู้ล่วงหน้า จึงกำหนดให้มีบ่อน้ำพุตรงกลางโดยไม่ได้หวังประโยชน์สวยงาม แต่เพื่อลดทอนพื้นที่กว้างขวางให้จัดการควบคุมฝูงชนได้ ยามที่มีการชุมนุมหรือลามไปถึงการจราจล 6 กรกฎาคม 2548 คนที่สนับสนุน Back the Bid โครงการช่วงชิงกีฬาโอลิมปิคสู่มหานครลอนดอน รอลุ้นการประกาศผลเจ้าภาพรายต่อไปที่จะถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ทุกช่อง แต่การร่วมลุ้นที่ทราฟัลการ์สแควร์ย่อมแตกต่าง ** บรรยากาศความยินดีของคนในชาติที่รักกีฬา ทั้งการเล่นและดู เมื่อได้ยินประกาศชื่อ London จึงเหนือคำบรรยาย ** แต่ความยินดีในชัยชนะของ LONDON 2012 เป็นอยู่ได้เพียงหนึ่งคืน เช้ารุ่งขึ้น 7 กรกฎาคม เกิดระเบิดขึ้นในเป้าหมายที่เป็น Public Transport การเดินทางสำหรับสาธารณชน สถานีรถไฟใต้ดิน รถโดยสารประจำทาง ถูกถล่มในชั่วโมงที่คนมุ่งหน้าไปทำงาน มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 52 ราย กับตัวผู้วางระเบิดอีก 4 ราย ** เป็นความสูญเสียที่น่าตระหนก แต่ไม่ทำให้ลอนดอนเสียขวัญ Queen Elizabeth II เสด็จเยี่ยมผู้บาดเจ็บ มีรับสั่งชื่นชมความสงบของประชาชน และว่าลอนดอนอาจจะโชคร้าย แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลอนดอนเผชิญวิกฤติ เราผ่านเวลาแห่งสงครามโลก ข้อขัดแย้ง การวางระเบิดมานับครั้งไม่ถ้วน สิ่งเหล่านี้ไม่อาจเปลี่ยนเราให้เป็นอื่นได้.. จึงไม่แปลกที่ตลาดหุ้นฟื้นสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว ประชาชนเดินลงสู่สถานีรถไฟใต้ดินต่อไป รัฐบาลเปรียบเทียบขวัญของประชาชนด้วยคำว่า Stoic ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งถึงความหนักแน่นที่มากกว่าหินผา ไม่ได้หลับหูหลับตากับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หมายความว่าเราจะไม่หยุดอยู่กับที่ จะก้าวต่อไปอย่างระมัดระวัง แต่มั่นคง เหมือนคำติดปากประชาชนบริทิชสมัยสงครามโลกครั้งที่สองว่า Keep calm and carry on. และทราฟัลการ์สแควร์ก็ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมของคนลอนดอนต่อไป เช่นเดียวกับการเตรียมการ LONDON 2012 เรานับเวลาถอยหลังสู่การเริ่มเหตุการณ์ ที่ทำให้ลอนดอนเป็นเมืองแรกของโลก ที่เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคถึงสามวาระ
เจ้าภาพครั้งแรกใน ค.ศ. 1908 เป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อภูเขาไฟ Mount Visuvius เกิดประทุขึ้นสองปีก่อนหน้า โรมต้องถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพ พอลอนดอนได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพตัวจริงใน ค.ศ 1944 ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ต้องเลื่อนไปจัดใน ค.ศ 1948 เมื่อยุติสงคราม แต่ก็ไม่มีนักกีฬาจากเยอรมนีและญี่ปุ่นเข้าร่วม ด้วยเหตุผลทางการรักษาความปลอดภัย LONDON 2012 จึงกลายเป็นความหวัง ว่าเวลาเตรียมการที่มีถึง 7 ปีจะสร้างความพร้อมและประโยชน์ต่อชาติและประชาชนมากที่สุด แต่เราก็นับเวลาถอยหลังไปพร้อมกับข้อขัดแย้งช่วงเตรียมการ ** ** คนลอนดอนต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีเงินพอกับค่าก่อสร้างมหาศาล เราหวังว่าจะมีสาธารณูปโภคที่ดียิ่งขึ้น ** ที่พักนักกีฬาจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยซึ่งขาดแคลนอยู่ การเดินทางด้วย Public transport เพิ่มขึ้นจากรถไฟสายใหม่ที่วิ่งสู่สนามกีฬา และของเก่าที่ปรับปรุงซ่อมแซม ** ทว่าคนลอนดอนส่วนใหญ่หาตั๋วเข้าชม LONDON 2012 ไม่ได้ ตั๋วที่มีขายทั้งหมดเป็นแค่หลักแสน แต่ความต้องการเป็นถึงหลักล้าน การท่องเที่ยวบอกว่าคนที่เคยเป็นขาประจำจะเลี่ยงการมาเยือนกรุงลอนดอนในเวลาที่จอแจ ส่วนคนที่คาดว่าจะมาในช่วงนั้นกลับเป็นอีกกลุ่มที่ใช้จ่ายต่างกัน ลอนดอนเนอร์สจึงไม่แน่ใจว่าควรจะคาดหวังอะไรจาก LONDON 2012 ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา แล้วยังเรื่องวุ่นวาย London riots ทำลายทั้งภาพพจน์ และทรัพย์สิน ส่วนที่เป็นปัญหาสังคมก็ต้องแก้กันต่อไป ส่วนที่ผิดก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย จึงมีคนนับพันถูกจับ ขึ้นศาล รับโทษ ** ชายสองคนใช้ Facebook ชักชวนคนมาร่วมชุมนุม รับโทษสี่ปีในฐานที่ยุยงให้คนทำความผิด แม้จะไม่มีใครร่วมด้วยและความผิดยังไม่เกิด ร้านเก่าแก่อายุ 140 ปี ผ่านสงครามโลกมาได้ถึงสองครั้งอย่างปลอดภัย กลับถูกเผาวอดวาย คนเผาจึงสมควรรับโทษ 11 ปีครึ่ง แล้วยัง Occupy LSX ที่ชุมนุมยึด London Stock Exchange อย่างไร้เป้าหมายชัดเจน วุ่นวายและกีดขวาง St Pauls Cathedral อยู่เป็นเดือน ** ** แต่วันนี้ St Pauls กลับมาสวยสง่า เด่นชัดในมุมจาก The Thames แล้ว ** ** Sir Winston Churchill และ David Lloyd George สองนายกรัฐมนตรีของเกรทบริเทนยังคอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของโลก พร้อมทักทายผู้มาเยือนทุกฤดูกาล ** Power Station ยังเป็น landmark สูงตระหง่านอยู่ริมน้ำด้าน Southbank ของริเวอร์เทมส์ ทุกส่วนของลอนดอนจึงยืนหยัดทักทายคนลอนดอน และรอรับผู้มาเยือนด้วยไมตรี ทราฟัลการ์สแควร์ในทุกสภาพอากาศจึงไม่เคยขาดผู้คน จะปีนป่าย นั่งพัก มองความเคลื่อนไหวในโลกที่หมุนผ่าน ** ** กระทั่งรถบัสสองชั้น สัญลักษณ์ของลอนดอน ที่ Routemaster ของแท้เหลือน้อยเต็มทน ** Routemaster เกิดช่วงหลังสงคราม ให้บริการมาตั้งแต่ พ.ศ.2499 จน พ.ศ. 2548 ก็หายไปเกือบหมด เพราะจะต้องถูกทดแทนด้วยรถรุ่นใหม่ที่มีเพียงคนขับคนเดียว และลดระดับรับผู้โดยสารที่ใช้รถเข็นได้ ในลอนดอน Routemaster วิ่งแค่สองเส้นทางและผ่านทราฟัลการ์สแควร์ คือ 9 และ 15 เรียกว่า Heritage routes
คนรุ่นหลังจึงยังได้สัมผัสบรรยากาศของการนั่งเรื่อยเปื่อยชมมหานครลอนดอน ในรถที่ยังมี กระเป๋ารถเมล์ เกาะท้าย โดยเฉพาะในปีที่กรุงลอนดอนมีแต่ความพิเศษ ที่สำคัญที่สุดกว่าโอลิมปิค คือ Diamond Jubilee ซึ่งเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ของ Queen Elizabeth II ที่ความปลาบปลื้มของประชาชนสยบเสียงส่วนน้อยที่ไม่ให้ความสำคัญกับสถาบันกษัตริย์ได้เงียบกริบ วาระเช่นนี้ เป็นเพียงครั้งที่สองของการครองราชย์ในเกรทบริเทน นับจากครั้งแรกในรัชสมัย Queen Victoria ที่ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี มีคนจากทั่วโลกยินดีเฝ้าคอยชมสิ่งเกี่ยวข้องกับราชสำนักอย่างใกล้ชิดที่หน้า Buckingham Palace อยู่ทุกวัน ** **
เวลาพิเศษอย่างนี้ ลอนดอนจึงอยู่ในอารมณ์ของการตกแต่งบ้านเมือง 4th Plint แท่นที่ตั้งประติมากรรมลำดับที่ 4 ของทราฟัลการ์สแควร์ เป็นเวทีเปิดเพื่อแสดงผลงานที่เข้ายุคสมัยและเกี่ยวข้องกับผู้คน โดยไม่จำกัดอยู่เพียงแค่บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์เช่นอีก 3 พลิ้นท์ ก็ยังร่วมเปลี่ยนโฉมจากเรือในขวดแก้ว ที่สัมพันธ์กับ Lord Nelson ผู้บังคับการกองเรือ ในการรบ Battle of Trafalgar มาเป็นรูปปั้นเด็กน้อยขี่ม้าโยก ชื่อ Powerless Structures, Fig. 101 โดย Elmgreen & Dragset
** เด็กน้อย ปรากฏบนแท่นที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของวีรบุรุษ ทั้งที่ยังเล็กเกินกว่าจะไม่มีประวัติที่มาใดให้เชิดชู เพราะเด็กน้อยคือตัวแทนของอนาคต ที่เรามุ่งหวัง สีทองแวววับ แทนการเฉลิมฉลองให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวมาแทนที่ ศิลปินผู้สร้างเพียงอยากให้ผลงาน เป็นเครื่องชูใจกับความสำเร็จเล็กน้อยในแต่ละวันของช่วงเวลาที่กว่าจะเติบโต ยังนิทรรศการภาพเขียน Lucian Freud ที่แสดงภาพ Queen Elizabeth II ในสไตล์ของ Freud ** เรื่องราวหลายมุมของ Charles Dickens ที่ครบปีเกิด 200 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ** ลอนดอนจึงไม่เคยขาดแคลนเรื่องราวดีๆ สำหรับทุกความสนใจ ** ทั้งเรื่องของ ไข่ The Fabergé Big Egg Hunt เป็นโครงการกุศลที่วางไข่ 200 กว่าฟองไว้ทั่วลอนดอน เพื่อหาเงินช่วยช้าง (Elephant Family) และช่วยเด็ก (Action for Children) ที่ต้องเป็นไข่ เพราะไข่เป็นสัญลักษณ์สากลของชีวิตใหม่ การเริ่มต้น และความหวัง ** แล้วยังเรื่องของคน ทั้งที่อพยพเข้ามาอยู่ในเกรทบริเทน Odyssey เป็น 40 หุ่นไม้สูง 2.5 เมตร ที่ Robert Koenig ใช้ตั้งคำถามกับสังคม เรื่องการอพยพของคนโปลิช ว่าคนเห็นเช่นไร ** ** กับความแตกต่างทางเชื้อชาติ ผิวพรรณ ภาษา การแต่งตัว ** ** การยอมรับ และความกลมกลืนในสังคม หรือการเห็นเป็นต่างด้าว ** Queen Elizabeth II เคยรับสั่งว่า เกรทบริเทนเป็น Multi cultural society ที่ผสมผสานหลากวัฒนธรรมไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ** แม้เราจะผ่านฟ้ามืดครึ้ม จะร้อน ฝน หนาว ลอนดอนเนอร์สยังคงดำเนินชีวิตไป ** เป็นสังคมที่ยังต้องซ่อมแซม และสร้างกันต่อ พร้อมรับสิ่งดีที่จะก้าวเข้ามา ** ทัศนคติของคน จึงเป็นสิ่งเดียวที่จะพยุงบ้านเมืองให้ก้าวต่อไป แล้วลอนดอนจึงงามสะพรั่ง... ไม่ใช่ด้วยวัตถุ แต่เป็น Spirit คือความรู้สึก และจิตใจที่แข็งแรง พร้อมรับผู้มาเยือน และมอบความทรงจำที่ดีกลับไป * * * * * * * * * Take That - Greatest Day [At Abbey Road / The Circus Live] Uploaded by TakeThatHD
หมายเหตุ ชมรูปไข่เพิ่มได้ที่ www.oknation.net/blog/sw19/gallery/50001 www.great2012offers.com/ รวมส่วนลด 20.12% สำหรับการเที่ยวเกรทบริเทนในปี 2012 |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |