Nimit Somboonwit

#เรื่องเล่าร้านกาแฟ (2)

#StayHome..รัฐต่อ พรก.อีก 30 วัน

                                                        ..จิ๊กโก๋ กับ .บันไดเลื่อน..ตัวแรกในไทย...

                                           ..... ย้อนเล่าไปถึง สมัยเรียน มัธยมฯ....

ถึงวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกทะลุ 3 ล้านหมาด ๆ อเมริกานำโด่ง เป็นแชมป์ ติดเชื้อ กว่า 2 แสนคน ตายไปเกือบ 5 หมื่นคน ขณะที่ยุโรป ก็วุ่นวาย ทั้งติดเชื้อ ทั้งประท้วงคลายล็อก #StayHome ซึ่งถึงกับมีหมอพยาบาลไปยืนประจัญหน้ากับไอ้พวกคลั่ง"เสรีภาพ" จนถึง หมอในเยอรมันออกมาแก้ผ้าประท้วงถึงการขาดแคลน เครื่องมือ เครื่องใช้ ในโรงพยาบาล ฯลฯ

ส่วนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ยอดติดเชื้อสิงค์โปร นำชาติอื่น ๆ แต่ ยอดตายสูงอันดับหนึ่งไปตกแก่อินโดเนเซีย..ไทยเราสถานการณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ้ทั้งตัวเลขพบผู้ติดเชื้อ เลขหลักเดียว และผลการรักษาหายของผู้ติดเชื้อคิดแล้วเป็นร้อยละแปดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็น"ความทึ่ง" ของนานาชาติถึงขั้นชื่นชมประเทศไทย ตั้งกะ ลุงตู่ และ จนท.สาธาณสุข และราชการส่วนต่าง ๆ เอาง่าย ๆ เรียกว่ายอดเยี่ยมขนาดองค์การอนามัยโลกยังชื่นชมก็แล้วกัน คิดดู!

.................แต่ บ้ามั้ยล่ะ..พวกพรรคฝ่ายค้านกับสาวก ส้ม แดง นักวิชาการพวกที่ไม่ชอบรัฐต่างออกมาตำหนิ โวยวายว่า "ลุงตู่ ล้มเหลวสู้โควิด" ถ้าต่างชาติไม่ชื่นชมป่านนี้ ชาวบ้านถูกเป่าหู ล้างสมอง ให้เชื่อกันไปตามนั้นไปแล้ว! ทั้งบางคนยัง ตีปี๊บ ปรักปรำว่า "ตัวเลขผู้ตายมีเลศนัย" ว่ารัฐหมกเม็ด..จะหมกเม็ดยังไง? ยุคนี้ ขนาดคนขายเฉาก๊วย อยู่ไหนไม่รู้ เรายังรู้เลยว่ามีไอ้หนุ่มไปฉ้อฉล ช่วยลงทะเบียน แต่แอบกดเอาเงินเยียวยาแกไป4.000 บาท เลย คิดดู!
ยุคข่าวสารข้อมูลอะไรที่ลับ ๆ มันปิดไม่ค่อยมิดหรอกครับ! ไม่งั้นเราจะไปรู้เรื่อง Care Set แพงโหดของ อบจ.ลำพูนเรอะ? เราจะได้กลิ่นตุ ๆ อะไรจาก อบจ.สระบุรี เรอะ?

ย้อนไปคราวที่แล้วผมเกริ่นไปว่าเข้าเรียน ป. 1 ยังทันได้ใช้"กระดานชนวน" (ราวปี 2500) ก็คงต้องพูดถึงระบบการศึกษายุตนั้น ประถมศึกษา มีชั้นป1-ป.4 แล้วก็ต่อไปขึ้นชั้น มัธยม 1 -ม.8 (ต่างกับปัจจุบัน) พวกที่เรียนป. 1 รุ่นนั้น อยู่ระหว่างความผันผวนในการเปลี่ยนระบบ กศ.จบ ป.4 ก็ไปต่อ ป.5-ป.7 แล้วก็มาเป็น ม.ศ. 1 -ม.ศ. 5 เล่นเอาอลเวงอยู่พักหนึ่งเชียวล่ะ!

ผมน่ะพอจบ ป. 4 พ่อก็ส่งไปเรียนใน กรุงเทพฯ .ชื่อ ร.ร.สมบุญวิทยา แถวสำเหร่ ฝั่งธน(ปี 2505) ตั้งอยู่เลยวงเวียนใหญ่ ถนนตากสิน มาทางบุคคโล ดาวคะนอง แถว ๆนั้นแต่ละปลายซอยยังเป็นสวนหมาก สวนมะพร้าว ปากซอยจะมี ป้ายรถเมล์ ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ (75 ส.ต.) ผมนะ่เดินทางจากสุพรรณ มากรุงเทพน นั่ง บขส.สีส้มบนถนนลูกรังครึ่งวันเชียวล่ะ ในสมัยนั้น ลงที่สถานีขนส่งสายใต้ ที่ สามแยกไฟฉาย พอลงรถก็แทบจะเป็นฝรั่ง เพราะหัวแดงโพลนไปด้วยฝุ่นลูกรังที่รถส้มลุยมาตลอดทาง

...จาก ร.ร.ราษฎร์ฝั่งธน ผมก็ดิ้นรน(ไว้จะเล่าคราวหน้า) ไปเข้าเรียนที่โรงเรียนรัฐบาล ที่ ร.ร.วัดมกุฎกษัตริย์ จบ ม.ศ. 3 ที่นั่น จากนั้นก็ไปต่อ ม.ศ. 4 ที่ ร.ร.สันติราษฎร์บำรุง (ปีนั้นน่าจะ 2509 มีข่าวใหญ่ที่ นร.อำนวยศิลป์ กับสันติราษฎร์ฯตีกันด้วยเรื่องแข่งฟุตบอล ที่สนามศุภฯ นั่นแหละ!) ยามนั้นไป ร.ร.( เราในสายตาผู้ใหญ่ เรียกว่า "พวกจิกโก๋ ") จะหนีบสมุดเล่มยาวปกสีน้ำเงินข้างในน่ะเสียบทะแยง "ฟุตเหล็ก" ไว้เป็นอาวุธป้องกันตัว..เผื่อเจอพวก "อริ" เรียกว่า ทั้งเราและเพื่อน ๆ น่ะ กำลังห้าวเป็นกระทิงเปลี่ยวเชียวล่ะ! เวลาจะหนีเรียนก็นัดกันปีนรั้วหลัง ร.ร. ติดอยู่กับทางรถไฟ ก่อนถึงแยกน้ำพุราชเทวี..(ยังมีความลับที่ไม่เปิดเผยเกี่ยวกับการหนีโรงเรียน วันหลังจะเล่าให้ฟัง)

สมัยนั้นก็หนีไปแอบเล่นสนุกเกอร์บ้าง ไปดูหนังที่ โรงหนังมูนไลท์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (หนังฉายวน ครั้งละ 3 เรื่อง ค่าตั๋วน่าจะ 3.50 บาท) เด็กเกโรงเรียนทั่วกรุงเทพ-ธนบุรี จะมาสุม ๆ วนเวียนกันแถวนั้น แถมสูบบุหรี่ กันปุ๋ย ๆ เท่มาก ๆ เท่ขึ้นอีกหน่อยก็ตรงไปเตร่ ๆ แถวหลังวังบูรพา เดินห้างเซ็นทรัล ดูหนังฝรั่ง ที่ โรงหนัง คิงส์ ควีนส์ หรือ แกรนด์ (ค่าตั๋วถูกสุด 7.50 บาท)..ฮา..

อะไรไม่อะไร? จำได้ว่าตรั้งหนึ่งที่นัดกันหนีโรงเรียน ปีนรั้วเสร็จ ก็เดินตามทางรถไฟ ไปทะลุมักกะสันราชปรารภ แล้ว มุ่งไปประตูน้ำ ข้ามไปฝั่งที่เป็น ราขดำริ แยกราขประสงค์...เป้าหมายคือ "ห้างไทยไดมารู"

ไปทำไมรู้มั้ย?
...เพื่อไป ดูให้เห็นกับตา ...และเพื่อไป ขึ้น
....... #บันไดเลื่อน ตัวแรก ของประเทศไทย!!! อยากรู้ว่ามันเป็นไงวะ ไอ้บันไดเลื่อน เนี่ยะ!

...มันโคตรจะแปลกใหม่ จนคนไทย ตื่นตาตื่นใจ กันยิ่งนัก!

.......................

นิมิตร สมบูรณ์วิทย์
29 เมษายน 2563/15.08 น.
......
#เรื่องเล่าร้านกาแฟ # 1
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3828938660509841&set=a.249684838435259&type=3&theater
........
.....ยังมีต่อ โปรดรออ่าน #เรื่องเล่าร้านกาแฟ #3...
>>>
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.bloggang.com/viewdiary.php…