*/
<< | เมษายน 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
![]() นี้เป็นหลักสำคัญของมนุษย์, ถ้าไม่มีสมมติแล้ววาจา หรือภาษาที่จะพูดกันก็ไม่มี ทั้งใครอยากจะทำอย่างไรอันเป็นไปเพื่อเบียดเบียนกันคือฆ่ากันบ้าง ถือเอาของ ๆ กัน ที่เจ้าของไม่ยินยอมให้บ้าง ประพฤติผิดประเพณี ในทางกามของกันบ้าง หลอกลวงกันบ้าง ก็ทำไปอย่างนั้น ถ้าเป็นเช่นนี้ในหมู่มนุษย์จะเป็นอย่างไร แต่เพราะอาศัยสมมติคำพูดขึ้น จึงมีภาษาใช้พูดรู้จักได้ตามชาติตามถิ่น และสมมมติเป็นผู้นั้นเป็นผู้นี้ ของคนนั้นของคนนี้ และ สมมติให้ผู้นั้นเป็นชั้นนั้น ผู้นี้เป็นชั้นนี้ผู้นั้นมีหน้าที่อย่างนั้น ผู้นี้มีหน้าที่อย่างนี้ คนนั้นควรทำอย่างนั้น คนนี้ควรทำอย่างนี้เป็นต้นเมื่อใครได้รับสมมติอย่างไรก็ปฏิบัติไปตามสมมติอย่างนั้น สิ่งใดสมมติว่าเป็นของใครโดยชอบธรรม ก็ยอมรับและถือว่าเป็นของผู้นั้น,ไม่เบียดเบียนกาย และชีวิตของกันและกันตลอดถึงด่าว่าด้วยใจร้ายไม่ถือเอาของ ๆ กันที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ ไม่ประพฤติผิดประเพณีในทางกาม ไม่หลอกลวงกันดังนี้เป็นต้น หมู่คนก็จะอยู่กันด้วยความสงบและเป็นสุขตามชั้นตามภูมิ ศีล ๕ที่ท่านบัญญัติไว้ เมื่อพิจารณาดู น่าจะเห็นว่า ๔ ข้อข้างต้นก็เพื่อไม่ให้ประพฤติผิดสมมติต่อกันและกัน ส่วนข้อ ๕ ก็เพื่อไม่ให้มึนเมาเสียสติ และประพฤติล่วง ๔ ข้อข้างต้นนั้น และท่านบัญญัติไว้เป็นสาธารณะทั่วกันทุกชั้นทุกชาติทั่วโลกผู้ได้รับสมมติอย่างไร รู้สมมติแล้วรักษาสมมติประพฤติตามสมมตินั้น ๆ ย่อมมีความละอายใจ ยับยั้ง ไม่ประพฤติกรรมที่ไม่สมควรตามอำนาจของความอยากอันเป็นไปเพียงตามความยึดถือกายเท่านั้น ผู้เช่นนี้ชื่อว่า เป็นผู้ดีโดยสมมติ ผู้ประพฤติตรงกันข้าม ก็ชื่อว่าเป็นผู้ชั่วโดยสมมติ ถ้าใครประพฤติชั่วผิดจากสมมติย่อมทำความเป็นไปของมนุษย์ ให้ไม่มีระเบียบเรียบร้อยอากูลยุ่งเหยิง และเดือดร้อนต่าง ๆ มากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่ความประพฤติผิดสมมติจะมีขึ้นแต่ความดีตามสมมตินั้น ถ้าถือสมมติไม่ลงกันก็ก่อความเดือดร้อนแก่กันและอาจแก้แค้นตอบแทนกัน ไม่อยู่ด้วยความสงบสุขได้เช่นคนบางพวกรวบรวมกำลังได้มากแล้ว แย่งอำนาจจากอีกฝ่ายหนึ่งได้ ก็สมมติว่าดีกันในพวก ส่วนพวกที่ไม่เห็นด้วยก็ว่าไม่ดี พวกที่มีกำลังและอำนาจมากรุกรานพวกที่มีกำลังและอำนาจน้อยได้ ก็สมมติว่าดีในพวก ส่วนพวกที่ถูกรุกรานก็ว่าไม่ดี คนที่ฆ่าและทำร้ายเขาได้มาก ก็ว่าเป็นคนเก่งในพวกที่เห็นเช่นนั้น ส่วนพวกที่มีเมตตากรุณาก็เห็นว่าเป็นคนใจร้าย ไม่มีธรรมของมนุษย์เป็นต้น สมมตินั้นก็ไม่ได้สมมติที่อื่น ย่อมสมมติที่กายคือปัญจขันธ์นี้เอง กายนี้เองเป็นที่ตั้งรับสมมติ เมื่อกายนี้จำต้องตาย ผู้ยึดสมมติอันมีกายเป็นที่รับ ก็ต้องตายด้วย จึงไม่พ้นมัจจุราชไปได้. ( วชิร. ๓๔๕-๓๔๖ ).สมมติสัจจะ จริงตามสมมติก็คือ คนที่เกิดมาตั้งต้นแต่เป็นผู้หญิง เป็นผู้ชายเป็นเด็กเล็ก เด็กใหญ่ เป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นผู้ใหญ่ เป็นคนแก่ หรือเป็นคนสามัญ เป็นคนชั้นกลาง เป็นคนชั้นสูง เป็นเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ เป็นเสมียนเป็นพนักงาน เป็นปลัดกรม เป็นเจ้ากรม เป็นรัฐมนตรี เป็นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สำเร็จราชการ เป็นผู้อยู่ในปกครองเขา เป็นผู้ปกครองเขาต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสมมติสัจจะ สภาพที่เป็นจริงโดยสมมติ เพราะเขาสมมติให้เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นจนถึงผู้ที่บวชเป็นภิกษุ สามเณร นี่ก็เป็นสมมติสัจจะ เพราะอะไร ? เพราะแต่ก่อนเราเป็นคนที่ยังไม่ได้บวช ครั้นมาขอบวชแล้ว แสดงคำขอแล้ว สงฆ์ประกาศกันยอมยกให้เป็นผู้บวช ก็เป็นภิกษุหรือเป็นอุปสัมบันขึ้น นี่เป็นสมมติสัจจะจริงโดยสมมติเหมือนกัน เป็นชาติกษัตริย์ ชาติพราหมณ์ เป็นชาติเวศย์ เป็นชาติปุกกุสะ เป็นชาติจัณฑาล ก็เป็นสมมติสัจจะ แต่สมมติสัจจะ สภาพที่จริงโดยสมมติ จะไม่ถือก็ไม่ได้ เพราะถ้าไม่ถือก็ยุ่งกันหมด คนขอทานหรือคนยากจนขัดสน คนโง่มีอายตนะภายในภายนอกเป็นต้น เหมือนกันก็จริง แต่ถ้าจะไปเป็นพระเจ้าแผ่นดินหรือนายกรัฐมนตรี ก็ทำไม่ได้ พระเจ้าแผ่นดิน หรือนายกรัฐมนตรีจะไปเป็นขอทาน ก็ผิดสมมติสัจจะเป็นไปไม่ได้ พวกโจร พวกขโมย พวกปล้น พวกฉ้อฉลต่าง ๆ โดยปรมัตถสัจจะ จริงโดยปรมัตถ์ก็มีขันธ์ ธาตุ อายตนะ เหมือนกันกับคนซื่อสัตย์สุจริต คนซื่อสัตย์สุจริตก็มี ขันธ์ ธาตุ อายตนะ เหมือนกันกับคนขโมย ปล้น ฉ้อฉลเบียดบังอะไรต่าง ๆ แต่โดยสมมติแล้วไม่เหมือนกันเพราะพวกขโมยเป็นพวกผู้ร้าย พวกที่ทำหน้าที่ปกครองเขาสมมติกันว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรี เป็นอธิบดีหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่เป็นผู้ร้ายมีขโมยเป็นต้น จะควรเป็นผู้ร้ายเสมอไป หรือต่อไป เพราะคนเป็นผู้ร้ายนั้น ทำผิดหน้าที่ของมนุษย์ผิดสมมติสัจจะมาแล้ว ถ้ายังขืนทำอยู่ ก็ทำผิดสมมติสัจจะอยู่นั่นเอง ถ้าต่างฝ่ายต่างทำถูกตามสมมติแล้ว การงานของโลกหรือความเป็นไปของโลก ก็จะไม่ยุ่งเหยิง จะเรียบร้อย แต่ถ้าทำผิดสมมติแล้ว มันก็ยุ่งเช่นคนเป็นข้าราชการมีหน้าที่ ที่ปกครองตามหน้าที่ตามสมมติสัจจะ แต่ถ้าไม่ทำตามหน้าที่ ไปเป็นขโมย ปล้น ฉ้อฉล แย่งชิง หรือเบียดบัง ฉ้อราษร์ บังหลวงนี่ผิดสมมติสัจจะ และผิด ๒ ประการ คือผิดหน้าที่ของมนุษย์ด้วย ผิดหน้าที่ที่เขาแต่งตั้งด้วย การงานก็ยุ่งเหยิง ดังที่เห็นกันอยู่ เพราะฉะนั้น สัจจะท่านจึงแยกออกเป็น ๒ คือ สมมติสัจจะ และปรมัตถสัจจะ ท่านให้รู้จักไว้ ใครมีหน้าที่ที่ได้สมมติเป็นอะไรก็ประพฤติให้ถูกตามสมมติอย่างนั้นถ้าประพฤติผิดไปจากสมมติสัจจะก็จะเกิดการยุ่งยากการงานก็จะดำเนินไม่ได้เรียบร้อย ประเทศหนึ่งก็เป็นสมมติของคนชาติหนึ่ง อีกประเทศหนึ่งก็สมมติว่าเป็นของคนอีกชาติหนึ่ง แต่ถ้าคนในประเทศนั้น ๆ ไม่ถือสมมติสัจจะไปรุกรานอีกประการหนึ่ง ไปแย่งเขา ฝ่ายเจ้าของก็ไม่ยอม ก็เกิดสู้กัน นี่ผิดสมมติสัจจะ ถ้าสมมติกันไว้อย่างไรแล้ว รักษากันอยู่อย่างนั้น ด้วยความยินยอมพร้อมใจกัน ก็เรียบร้อย ศีล ๕ ที่ท่านบัญญัติไว้ก็เพื่อให้รักษาสมมติสัจจะ เช่น : เว้น ฆ่าสัตว์ เพราะสัตว์คนหนึ่ง ตัวหนึ่ง เขาก็รักชีวิต และได้ชื่อว่าเป็นผู้หนึ่ง ๆ อยู่ด้วยกัน เมื่อคนไม่ถือสมมติสัจจะไปฆ่าเขา เขาก็เป็นคนหนึ่งเราก็เป็นคนหนึ่ง เราไปฆ่าเขา หรือเขาฆ่าเรานี่ทำผิดสมติสัจจะ ก็จะเกิดการเดือดร้อนยุ่งเหยิง แต่ความจริงตามปรมัตถสัจจะร่างกายก็มีธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ และอาการเหมือนกันนั่นเอง ร่างกายเราร่างกายเขาก็เป็นธาตุอันเดียวกัน เป็นแต่แยกออกไปเป็นส่วนในคราวหนึ่งเท่านั้น แล้วก็จะรวมกันเข้าอีก แล้วก็จะแยกออกไปอีกทรัพย์สิน ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในโลก ความจริงแต่เดิมไม่ใช่เป็นของใคร เป็นของประจำโลก ของสำหรับโลก แต่เมื่อใครได้ไว้อยู่ในปกครองของตัว ก็สมมติว่าเป็นของผู้นั้น นี่เป็นสมมติสัจจะ เมื่อผู้อื่นต้องการมาแย่งชิงปล้นสดมภ์ ยักยอกหลอกลวงอะไรต่าง ๆ เอาไป นี่ทำผิดสมมติสัจจะก็ยุ่ง.กามสมาจาร ความประพฤติในทางกาม ตามธรรมดาก็เป็นของประจำโลกไม่ใช่ของใคร แต่เมื่อสมมติว่า คนนั้นเป็นผัวคนนี้ คนนี้เป็นเมียคนนั้น คนนั้นเป็นลูกคนโน้น นี่เป็นสมติสัจจะ เมื่อใครประพฤติทางกาม ล่วงละเมิดของกันและกัน เป็น กามมิจฉาจาร คือประพฤติผิดทางกามจึงเกิดยุ่งเหยิงกันขึ้น.การหลอกลวงกันก็เหมือนกัน ตามความเป็นจริง โลกทั้งหมดแสดงความจริงอยู่เสมอ แสดงอยู่ในตัว แม้คนเราที่เกิดมาแล้วจะเป็นไปอย่างไร ในที่สุดตายก็เป็นไปตามเรื่องราว แต่เพราะคนนั้นแหละ มีธาตุรู้ และรู้ผิดจากความเป็นจริงก็เกิดหลอกลวงกันขึ้น จริงอย่างหนึ่งบอกไปเสียอีกอย่างหนึ่ง ให้ผิดจากความจริง ไป หรือไม่เป็นจริงอย่างนั้นแต่ไปบอกว่าเป็นความจริง นี่ผิดสมมติสัจจะ ก็ทำให้เข้าใจผิด ทำให้ยุ่ง.....................ดู สัจจธรรม(ธรรมที่เป็นจริง) ด้วย |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |