ก่อนที่ผมจะออกเดินทางต่อไป บนเส้นทางอันยาวไกลไปมากกว่านี้ ผมมีสิ่งหนึ่งที่จะต้องบันทึกไว้เพื่อเป็นหลักอ้างอิงและเตือนใจตนเอง ถึงเจตนารมณ์และแรงผลักดันเริ่มแรก ก่อนที่จะมีวันนี้ วันที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่บน "เส้นทางสู่เอกภาพแห่งตัวตน" สายนี้ครับ... ย้อนไปเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วตอนที่ผมอายุ25ปี ขณะนั้นผมทำงานอยู่ในกรุงเทพ เป็นพนักงานในองค์กรเอกชนแห่งหนึ่ง และเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆท่านๆนี่แหละครับ.. จำได้ว่าวิถีชีวิตเช้าจนค่ำต้องคร่ำเคร่งอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงานสี่เหลี่ยมแคบๆ (ผมทำอาชีฟกราฟิกดีไซน์) เป็นหนึ่งในฟันเฟืองของจักกลแห่งทุนนิยมขนาดใหญ่ ท่ามกลางวิถีชีวิตที่รีบเร่ง แข่งกับเวลา ซึ่งไม่ว่าจะเร่งเท่าไหร่ก็ไม่เคยทันเสียที.. เวลาในชีวิต สุขภาพ และความฝัน ถูกดูดกลืนไปจนเกือบหมด เพียงเพื่อไขว่คว้าตามล่าหา "ความสำเร็จ" ในนามของ "เงิน" "อำนาจ" และ"ชื่อเสียงเกียรติยศ"... ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินคล้ายดังหุ่นยนต์ พอวันหนึ่งเงยหน้าขึ้นมา จึงรู้ว่า หน้าแก่ลง หลังงอค่อม และสายตาสั้นจนโบกรถเมล์ไม่ทัน เพราะมองเลขสายไกลๆไม่ชัด.. กี่เดือนกี่ปี่ผ่านไป ไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหน.. ด้วยถูกขังไว้ด้วยลูกกรงแห่งงาน งาน งาน และก็งาน อีกทั้งภาระทางบ้านที่ต้องทำงานส่งเสียเลี้ยงดูแม่ และน้อง กับพ่อที่กำลังป่วย.. ด้วยความจำเป็นเช่นนี้ ชีวิตอันเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟในวัยเบญจเพศของผม จึงยอมจำนน จำทน และจำใจก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป.. ผมมาอนาถใจตัวเอง ก็ตอนที่อยากไปเที่ยวภูกระดึงอย่างมาก ซึ่งเป็นความตั้งใจมาหลายปีแล้วก่อนหน้านั้น.. แต่สิ่งที่ผมทำได้คือ "เที่ยวทางเน็ท" เท่านั้น.. เชื่อหรือไม่! ว่าผมพิชิตภูกระดึง และขึ้นไปยืนดูตะวันตกดินที่ผาหล่มสักด้วยปลายนิ้วมาแล้วครับ 55?!.. ไม่อยากจะคุย!.. (อนาถหนอชีวิตชีวิตหน้าจอสี่เหลี่ยม) ตกลงชีวิตนี้ผมไม่สามารถไปไหนได้ไกลกว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือ?!.. ผมรักธรรมชาติ ผมอยากเห็นป่าเขา สายน้ำลำธาร แสงแดด ท้องฟ้าใส โลกกว้าง ผู้คน และอีกมากมาย... แล้วอะไรที่จองจำและพันธนาการผมไว้..อะไรกันหรือ??.. เพื่อปากท้อง, ความมั่นคงของชีวิต, ความสำเร็จ, ฯลฯ... ไม่ว่าจะในนามของอะไร แต่สิ่งที่เป็นตัวแทนความหมายของทั้งหมดก็คือ เงิน เงิน แล้วก็เงินครับ!?.. ในรอบหลายร้อยปีมานี้ คำๆนี้มีอิทธิพลอย่างหนักหน่วงต่อมวลมนุษย์อย่างมาก มันคือความหมายของพระเจ้าที่บันดาลทุกสิ่ง งานคือเงิน เงินคืองานบันดาลสุข เงินซื้อได้แม้กระทั่งจิตวิญญาณ และอื่นๆอีกมากมาย..ซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ผมจะกล่าวในที่นี้ แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผมอย่างมากในช่วงเวลานั้น นั่นก็คือ..คำถามทีว่า.. เพื่อเงินแล้ว..เราต้องทำงานกันขนาดนี้เลยหรือ??.. เพื่อเงินแล้ว..เราต้องทิ้งความฝันและตัวตนขนาดนี้เลยหรือ?? เป็นไปได้ไหมที่ "เงิน" "งาน" และ "ความฝัน" จะไปด้วยกันได้โดยไม่ต้องละทิ่งอย่างใดอย่างหนึ่ง??.. ช่วงเวลานั้นผมได้แต่ตั้งคำถาม แต่ยังไม่กล้าคิดกล้าที่จะปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการ และการจองจำ ไปสู่อิสระภาพ เพราะ... ..ผมยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะตัดสินใจ และขาดแรงบันดาลใจที่จะเริ่มต้น.. ........................... หากTime & Spaceคือโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอกภพที่ทุกสรรพสิ่งจะดำรงอยู่ได้ ก็โดยภายใต้กฏเกณฑ์พื้นฐานแห่ง "กาล" และ "อวกาศ" นี้เท่านั้น บนความแตกต่างหลากหลาย.. ทุกชีวิตจึงต้องการTime & Spaceที่เฉพาะ และเหมาะสมกับการดำรงอยู่ของแต่ละตัวตนนั้นๆ.. ดังนั้น "Time & Space ของคนเราจึงไม่เท่ากัน.." ต้นไม้ต่างชนิดยังต้องการแสงแดด และน้ำไม่เท่ากัน.. ฉันใดก็ฉันนั้นครับ.. นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนจึงมีความสุขที่ใด้ทำงานอยู่ในพื้นที่แคบๆ และเร่งรีบวุ่นวายโดยไม่อึดอัดขัดแย้งกับตัวตน.. แต่ก็มีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเป็นเช่นนี้ แต่สำหรับผมแล้ว.. การถูกจำกัด Time & Space ให้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่แคบๆ เดิมๆ ภายใต้เงื่อนไขทางเวลาที่เร่งรีบ และแข่งขัน.. จึงเป็นสิ่งที่อึดอันและทรมานอย่างยิ่งสำหรับผม..และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนี้.. .."ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผมจะต้องปลดปล่อยตัวเองไปสู่ Time & Space ที่เหมาะสมแก่การดำรงอยู่และพัฒนาตัวตนของผม เสมือนพืชต้องการดินและภูมิอากาศที่เหมาะสมแก่การงอกงามและเติบโต.." ....และนี่คือข้อมูล และความเข้าใจที่มากขึ้นของผม...คำถามต่อไปก็คือว่า.. แล้วแรงบัลดาลใจล่ะผมจะหาจากที่ไหน??.. .......................................... "มันมากเกินไปแล้ว" ผมคิด.. แล้วความรู้สึกอึดอัดอัดอั้นทั้งหมดในช่วงวัยเบญจเพศของผมมารวมอยู่ปลายนิ้ว.. ซึ่งวางจ่อพร้อมอยู่ที่คีย์บอร์ดหน้าจอคอมพิวเตอร์.. เสี้ยวเดียวแค่พรมนิ้ว.. คำว่า "เสรีภาพ" ถูกป้อนเข้าสู่สารระบบของ google.. และแล้วประตูแห่งเสรีภาพก็เปิดออกครับ...โดยผ่าน "กู(เกิล)"นี่เอง.. .....เราสามารถแสวงหาเสรีภาพใน google ได้หรืนี่??!!.. บทความมากมาย และคลังข้อมูลอันเกี่ยวเนื่องกับเสรีภาพ ได้หลังไหลเข้ามาสู่หัวสมองอันกระหายใคร่รู้ของผม ผมได้รู้จักโจน จันได/ม.ล. ปริญญากร วรวรรณ / หนังสือ "ถนนไปสู่ก้อนเมฆ" ของ ธัญญา ผลอนันต์/ ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน The Alchemist /หนีไปจากเสรีภาพ : อีริค ฟอร์ม /เสกสรร ประเสริฐกุล/กฤษณะ มูรติ/ท่านติช นัท ฮันห์ และเรื่อยมาจนถึง เดินสู่..เสรีภาพ ของ อ.ประมวล เพ็งจันทร์ก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจล่าสุดของผมเช่นกันครับ..และที่ผมจำไม่ได้อีกมากมาย ทั้งหมดนี้จึงเป็นดั่งฟืนไฟแห่งแรงบันดาลใจ ที่สุมเติมลงในกองไฟแห่งการแสวงหาของผม ให้ลุกโชนอยู่เสมอ.. และgoogle ได้ช่วยย่อTime & Space ในการเรียนรู้ของผมให้สั้นขึ้นอย่างมหาศาล เราไม่ต้องเดินทางรอบโลก และใช้เวลาทั้งชีวิต หรือมากกว่านั้นเพื่อที่จะเรียนรู้...แต่ทั้งหมดนี้มันได้ถูกย่อมาไว้ที่ปลายนิ้วแล้ว... เทคโนโลยีที่ดูเหมือนไร้จิตวิญญาณนี้ แต่กลับเอื้อต่อการแสวงหาทางจิตวิญญาณได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว.. google นายแน่มาก!.. แน่นอนว่าเทคโนโลยีนั้น เปรียบเสมือนดาบสองคมที่ให้คุณหรือโทษย่อมขึ้นอยู่กับผู้ใช้ เมื่อมีคุณอนันต์ โทษย่อมมหันต์ตามไป.. ยุคแห่งเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารจึงมาพร้อมกับอิสระภาพในการใช้ชีวิตที่กว้างมากขึ้น ไม่จำกัด..แต่เพียงในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ และแน่นอนมันมาพร้อมกับ "การจองจำอย่างใหม่" ด้วยเช่นเดียวกัน..สิ่งนั้นคืออะไรหรือ?..ตอนท้ายมีคำตอบครับ.. .................... ...แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่พร้อมทั้งแรงบันดาลใจ และความมั่นใจในสิ่งที่เชื่อ ผมจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีก้าวเดินออกไปชิมลางอิสระภาพเป็นครั้งแรก..นั่นคือ.. ผมหยิบกีต้าร์สะพายขึ้นบนบ่า แล้วขึ้นรถเมล์ ออกไปยืนเปิดหมวกร้องเพลงอยู่ข้างถนนครับ... ภาพชีวิต่เช่นนี้มันตรงข้ามกับคำว่า "ความสำเร็จ" ที่ผู้คนส่วนใหญ่ไขว่คว้า และช่างต้อยต่ำคล้ายดัง "ขอทาน" ในความคิดของคนทั่วไป..แต่หากผมเป็นขอทาน "ผมคือขอทานที่มีความสุขที่สุดในโลก" ผมบอกกับตัวเองเช่นนี้ในเวลานั้น..จะเป็นไรไป เมื่อความต้อยต่ำและความสูงส่งสำหรับผมแล้ว..มันคือเหรียญเดียวกัน.. และนั้นเป็นภาวะที่ผมรู้สึกถึงความกลมกลืนกันเป็นครั้งแรก ระหว่าง "เงิน" "งาน" และ "ความฝันส่วนตัว" จริงๆครับ.. โดยผมให้ความสำคัญกับ"ความฝันส่วนตัว" เป็นสิ่งแรก และสามารถทำให้ "เงิน" กลายเป็นสิ่งสำคัญลำดับสุดท้ายได้สำเร็จ.. และที่สำคัญ "ความนับถือตัวเอง" คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองอย่างไม่ตั้งใจ แต่มันได้ติดตัวผมมานับตั้งแต่บัดนั้นตราบจนถึงทุกวันนี้... เวลานั้นคล้ายผมจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งเสรีภาพที่โชยมาจากดินแดนอันห่างไกล.. ถึงแม้จะเป็นเพียงการเริ่มต้น...แต่ก็เป็นก้าแรกที่สำคัญ ซึ่งต่อมาหลังจากนั้นไม่นานนัก ผมก็ได้ลาออกจากงานประจำตามที่ได้ตั้งใจไว้ครับ.. ............................ และเรื่องราวทั้งหมดนี้ คือบันทึกก้าวแรกแห่งฟืนไฟและแรงบันดาลใจของผม ที่สะสมบ่มเพาะ และเติมเชื้อให้ลุกโชนมาตลอดเกือบสิบปีครับ.. ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่ผมกำลังก้าวเดินบนเส้นทาง "สู่เอกภาพแห่งตัวตน" อยู่ในขณะนี้.. วันที่ผมมี "เสรีภาพ" อย่างเต็มเปี่ยม บน"Time & Space" ที่เลือกแล้ว และไม่ว่าผมจะไปแห่งไหนบนโลกใบนี้ "google earth" ก็บอกใบ้ให้เสมอ.. .......................... แต่ก็อีกนั่นแหละ!.. ไม่ว่าผมจะไปถึงไหนต่อไหนบนโลกใบนี้แล้วก็ตาม.. ถึงอย่างไรผมก็หนีเจ้าหน้าจอสี่เหลี่ยมเหล่านี้ไม่พ้นเสียที... เฮ้ออ!... "ให้ตายสิโน๊ตบุค, อินเตอร์เน็ท,เว็บบล๊อค,โมบาย,ไอพอท ฯลฯ" .....และนี่คือ "การจองจำอันใหม่" ที่ว่าครับ..... ................................ สรุป ในวัย25 ปี "เสรีภาพ"ของผม คือการปลดปล่อยตัวเองจากการจองจำไปสู่อิสรภาพอันหอมหวาน.. แต่เมื่อถึงวัยนี้แล้ว "เสรีภาพ" ในความหมายของผมคือการออกจากกรอบเดิม ไปสู่กรอบใหม่ที่ใหญ่กว่า ใหญ่กว่า และใหญ่กว่าไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด.. พูดแบบทีเล่นทีจริงได้ว่า..เสรีภาพสำหรับผมแล้ว..คล้ายดัง "กบที่ออกจากกะลา ไปสู่ฝาชี" ยังไงยังงั้น.. แล้วคุณค่าอันเป็นแก่นแท้และสาระสำคัญของ "เสรีภาพ" มันอยู่ตรงไหนหรือ?.. มันไม่คู่ควรต่อการอุทิศตนเพื่อแสวงหาให้ได้มาอย่างนั้นหรือ?.. ถ้าเช่นนั้นการตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตในวัย25ของผมก็คือความเหลวไหลไร้สาระอย่างที่สุดอย่างนั้นหรือ??!.. ........................ หากเสรีภาพที่แท้.. มิได้มาด้วยการ "หยิบยื่น".. แต่ได้มาดัวยการ "เลือก" แล้วซึ่งวิถีแห่งตนแล้วละก็.. "การเลือก" จึงเป็น "สารัตถะ" อันทรงคุณค่า และยิ่งใหญ่แห่ง "เสรีภาพ" หาใช่ "เสรีภาพ" โดยตัวมันเองไม่.. ....แล้วพบกันใหม่ครับ....
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
การเดินทางสู่เอกภาพแห่งตัวตน | ||
![]() |
||
เดินทาง บันทึก ตกผลึก และแบ่งปัน |
||
View All ![]() |
<< | มิถุนายน 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |