ดูดู้ยิงประตูแรกของเขาในฤดูกาลนี้ในเกมกับเอพเวอตัน

12 ประตูจากชัยชนะ 3 นัดรวด ผมคงไม่สามารถขออะไรได้มากกว่านี้จากทีมอาร์เซนอล เพราะใครจะคิดมาก่อนว่าทีมทีมนี้จะออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ โดยที่นักเตะที่หลายคนที่ไม่ได้ฝากความหวังมาก่อน ต่างเรียงหน้าโชว์ฟอร์มแบบโดดเด้ง ไม่ว่าจะเป็น ซง เดนิลสัน ดิอาบี้ เบนเนอร์ หรือแม้แต่"แรมโบ้"อาร์รอน แรมซี่ ที่ได้โอกาสลงสนามแทนเชส ก็ทำได้ดีเกินคาด

แต่มีหนึ่งคนที่ผมหวังกับเขามาตลอด แต่ก็ยังไม่สมหวังสักที จนมาปีนี้ผมก็ยังคงหวังกับเขาเช่นเดิม กับศูนย์หน้าหมายเลข 9 ของเรา "ดูดู้"เอดูอโด้ ดาซิลวา...

ดูดู้ ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลเมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ จากทีมดินาโม ซาเกร็บ ยอดทีมแห่งโครเอเชีย เป็นปีเดียวกับที่เราเสียยอดนักเตะอย่าง เธียรี่ อองรี ไปให้กับบาเซโลนา เขาได้รับหมายเลข 9 หมายเลขที่เป็นอาถรรพ์ของอาร์เซนอล เพราะหลังๆแต่ละคนที่มาสวมเสื้อตัวนี้ ล้วนแต่มีอันเป็นไป ต่างๆกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟรานซิส เจพเฟอร์ โฆเซ่ อันโตนิโอเรเยส และชูลิโอ บัปติสต้า จนมาถึงดูดู้...

ในตอนแรกที่เขามาร่วมทีมนั้น เขาต้องใช้เวลาปรับพอสมควร กว่าที่เขาจะสามารถเล่นเข้ากับระบบของทีมได้ แต่หลังจากปรับตัวตัวได้เขาก็ซัดประตูเป็นว่าเล่น มีส่วนร่วมในเกมรุก และอันตรายในทุกจังหวะที่เขาเล่นบอล

แต่ในตอนที่อะไรๆ กำลังจะไปด้วยดี เขาต้องพบกับประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตในเกมกับเบอรมิงแฮม ซิตี้ ดูดู้ถูกเสียบจนขาหัก เป็นภาพที่สะเทือนอารมณ์กับทุกคนในสโมสร ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ ผู้จัดการทีม หรือแฟนบอล อาร์เซนอลที่ตอนนั้นกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม นำเป็นจ่าฝูงของตาราง ต้องพบกับจุดเปลี่ยนจากเกมนี้ ทีมเล่นออกทะเล ได้เห็นภาพกัปตันทีมอย่างกัลลาสเสียสติ ดูเหมือนทุกคนจะอยู่ในอาการทุกข์ระทม และในที่สุดทีมก็จบเพียงอันดับ 3 ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีแววที่จะเป็นแชมป์

ดูดู้ ต้องพักนานกว่า 14 เดือน...

หลังหายเจ็บกลับมาก็ซัดประตูสุดสวยในเกม FA Cup ที่พบคาร์ดิฟ เมื่อฤดูกาลก่อน

เมื่อช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว ดูดู้สามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้งหลังจากที่ต้องพักไปนาน และทันทีที่กลับมา เขาก็ซัดประตูสวยๆได้หลายลูก แต่ธรรมชาติของคนที่เจ็บไปนานๆ เมื่อมาเจอกับเกมหนักๆ ร่างกายยังปรับตัวไม่เต็มที่ ดูดู้ ก็เจ็บซ้ำอีกครั้ง และไม่สมบูรณ์พอที่จะช่วยอะไรอาร์เซนอลได้หลังจากนั้นจนจบฤดูกาล อาร์เซนอลมือเปล่าอีกครั้ง และได้อันดับ 4 แบบเต็มกลืน

มาฤดูกาลนี้ ดูดู้กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และลงสนามให้กับอาร์เซนอลทั้ง 3 นัดที่ผ่านมา โดยที่เมื่อวันเสาร์ในเกมเจอกับพอร์ทมัส ดูดู้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีมในพรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เจ็บหนักไป และเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่ไม่รู้สึกเลยว่า เขาคือคนที่เคยเจ็บหนักมาก่อน นั่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในจิตใจดูดู้เป็นอย่างดี

"เอดูอาโด้ เป็นนักเตะที่เราคิดถึงอย่างมาก เพราะนอกจากจะสามารถทำประตูได้แล้ว เขายังสามารถจ่ายบอลให้เพื่อนยิงได้อีกด้วย ปีนี้มันเป็นฤดูกาลที่สำคัญสำหรับเขา เพราะเขาหายหน้าไปจากทีมนานเหลือเกิน เขาหายจากทีมไปก่อนที่เขาจะสามารถจะโชว์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าเขานั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน" เวนเกอร์ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมกับเซลติก

"ในซีซั่นแรกที่เขามาร่วมทีม ในช่วง 6 เดือนแรก เขาไม่ได้ลงสนามมากนัก แต่หลังจากที่ได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น เขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาเยี่ยมขนาดไหน แต่หลังจากนั้นเขากลับบาดเจ็บและต้องพักไปทั้งฤดูกาล...ตอนนี้เป็นฤดูกาลที่สามของเขาแล้ว โดยที่เขาไม่ได้มีโอกาสที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นเลยว่า จริงๆแล้วเขาน่ะเก่งแค่ไหน"

ประตูที่เอดูอาโด้ยิงเบิร์นลี่ในเกมคาลิ่งคัพ ถูกจัดให้เป็นลูกยิงที่สวยที่สุดอันดับ 7 ของสโมสร

ดูเหมือนว่าว่าเวนเกอร์จะตั้งความหวังไว้มากกับดูดู้ เพราะที่เวนเกอร์ตัดสินใจขายอเดบาร์ยอออกจากทีมไป โดยที่จนถึงตอนนี้อีก 1 สัปดาห์ตลาดนักเตะก็จะปิดแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะเซ็นสัญญาเอาใครมาแทนที่ นั่นแสดงว่าเวนเกอร์เห็นว่าดูดู้นี่ล่ะ คือคนที่จะมาเติมเต็มในส่วนนั้นได้

"ผมเคยสงสัยเกี่ยวกับการบาดเจ็บของเขา คงมีแต่คนโง่เท่านั้นล่ะ ที่จะไม่สงสัยเลย เมื่อคุณเห็นการบาดเจ็บครั้งนั้นของเขา แต่ที่สุดแล้วเขาก็แสดงให้เห็นว่าเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนนี้...ผมไม่เหลือสิ่งคลางแคลงใจอีกแล้ว เพราะสำหรับผมตอนนี้ เอดูอาโด้คือคนคนเดิม คนที่ผมเซ็นสัญญามาร่วมทีม" เวนเกอร์กล่าวถึงนักเตะคนสำคัญของเขา

จากที่เห็นการเล่นของดูดู้ใน 3 นัดที่ผ่านมา ผมต้องบอกว่าประทับใจมาก จังหวะการแตะแล้ววิ่งไปเอาบอล ก่อนที่จะตบกลับมาให้ดิอาบี้ยิงในนัดเจอกับพอร์ทมัธนั้นมันสุดยอดจริงๆ ไม่มีทางที่คนยังแหยงๆ กลัวอาการบาดเจ็บอยู่ จะสามารถทำได้แบบนั้น จังหวะการวิ่ง การเข้าปะทะ ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เรานั้นได้เอดูอาโด้คนเดิมกลับมาแล้ว และบางที...อาจจะเป็นคนที่ดีกว่าเดิมก็ได้

สิ่งที่ภาวนาอย่างเดียวตอนนี้ คืออย่าให้เขาโชคร้ายอีกเลย มันควรจะถึงเวลาเสียทีสำหรับนักสู้ที่หัวใจแข็งแกร่งเช่นเขา จะได้รับโอกาสที่จะได้แสดงให้โลกได้เห็นว่าเขานั้นสุดยอดแค่ไหน

และมันถึงเวลาแล้วที่"นักล่า"อย่างเอดูอาโด้ ดาซิลวาจะ"คืนชีพ"เสียที...

เชียร์!!!

สำหรับคืนนี้ที่จะเจอกับเซลติกเป็นนัดที่ 2 ทีมจะไม่มีกัปตันเชสแน่นอน ซึ่งเป็นผลมาจากการบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกหลังจบครึ่งแรกในเกมกับพอร์ทมัธ แต่ดูเหมือนว่าเวนเกอร์จะไม่ได้เป็นกังวลอะไรมาก โดยที่มีสิทธิ์ว่าจะเป็นโอกาสของ อาร์รอน แรมซี่ มิดฟิลด์หนุ่มวัย 18 ปีจากแคว้นเวลล์ จะได้รับโอกาสในตำแหน่งของเชส

ส่วนซงที่ได้พักมากจากเกมก่อนหน้านี้ก็น่าจะได้ลงทำหน้าที่ โดยที่มีดิอาบี้ที่กำลังร้อนแรงได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง นั่นคือความเปลี่ยนแปลงในแดนกลาง ส่วนในตำแหน่งอื่นๆ คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะเวนเกอร์เองก็ออกมาย้ำแล้วว่า เกมกับเซลติกยังไม่จบ และมันสำคัญมากกว่าเกมกับที่จะแมนยูในสุดสัปดาห์นี้เสียอีก ฉะนั้นรับรองว่าเราได้เห็นทีมชุดใหญ่ลงสนามพร้อมหน้าแน่นอนในคืนนี้ และถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็เป็นเพียงบางตำแหน่งเท่านั้น

คืนนี้ก็อย่าลืมตามให้กำลังใจทีมรักของเช่นเดิมนะครับ โดยที่ช่องไทยทีวีสีช่อง 3 จะถ่ายทอดสดให้แฟนๆชาวไทยได้ชมกัน เวลา ตี 1.45 เช่นเคย

จนกว่าจะพบกันใหม่

Gooners till I die
fat_kj
//