*/
<< | พฤษภาคม 2020 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
หลังขึ้นเป็นรัฐบาลในปี 2557 พลเอกประยุทธ์ประกาศเสียงดังหนักแน่นว่าจะไม่ยอมให้การบินไทยล้มไปต่อหน้าต่อตา จากนั้นก็ปฏิบัติการ “อุ้ม” เงียบๆเรื่อยมา จนต้องสารภาพหลังประชุม ครม. เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ว่าอุ้มมา 5 ครั้งในรอบ 5 ปี เหลว ไม่เคยฟื้นทุกครั้ง แต่ขออีกครั้งเดียว และไม่มีวิธีอื่นนอกจากต้องให้คลังค้ำประกันเงินกู้ เชื่อว่าคราวนี้สำเร็จแน่ เพราะจะกู้ล๊อดใหญ่วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว อ้างว่าที่ต้องยื้อเพราะเป็น “สายการบินแห่งชาติ” ช้ากว่านี้คงไม่รอดเนื่องจากตอนนี้การบินไทยหมดสภาพคล่องแน่แล้ว เหลือเงินหมุนเวียนพอจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ถึงเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น ก็แต่หมื่นกว่าล้านบาท ยังไงถ้ากู้งวดแรกได้สัก 5 หมื่นล้านกว่าบาทก่อนก็จะได้จ่ายหนี้ค่าเช่าเครื่องที่พอดีถึงกำหนดด้วยได้ บลา บลา บลา เกิดกระแสไม่เห็นด้วยจากสังคมอึงมี่ เพราะเห็นชัดว่าเป็นการขายผ้าเอาหน้ารอด เพราะเมื่อดูยอดหนี้การบินไทย 2.5 แสนล้านบาท ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 9 พันล้านบาทในรอบ 6 ปี (2557-2562) มีกำไรปี 59 ปีเดียว 50 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่ 3 ปีหลังขาดทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีล่าสุด (2562) สูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท รายได้ปีละปริ่มๆปีละ 2 แสนล้านบาท ต่อให้การบินไทยต้องกู้คราวนี้ครึ่งล้านล้านบาทก็เอาไม่อยู่ มีคำถามว่าพลเอกประยุทธ์เอาอะไรคิดเพื่อจะให้เชื่อว่า การอุ้มการบินไทยครั้งที่ 6 ในวิธีเดิมๆจะไม่ต่างจากที่เคยล้มเหลวมาซ้ำซาก 5 ครั้ง จึงเป็นไปได้ว่าการอุ้มครั้งที่ 7 และอีกกี่ครั้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จะตามมาไม่รู้จักจบจักสิน สังคมมองรัฐบาลกับแนวทางแก้ปัญหาการบินไทยอย่างปลงอนิจจัง ไม่มีมติใดๆเกี่ยวกับการบินไทยในการประชุม ครม. นัดถัดมา (12 พ.ค. 63) รัฐบาลคงใช้เวลาทบทวนเรื่องนี้ จนกระทั่ง 19 พ.ค. 63 ที่ประชุมครม. เห็นชอบให้การบินไทยยื่นแผนฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลาง กระทรวงการคลังไม่ต้องค้ำประกันเงินกู้ให้ โดยคลังต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นลดลงให้เหลือต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าการบินไทยจะได้มีสิทธิ์ยื่นแผนดังกล่าวตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ การตัดสินใจ "กลับลำ" ของรัฐบาล ถือเป็นคุณูปการต่อการบินไทย ไม่เสี่ยงที่จะเสียค่าโง่ซ้ำซาก แต่หนทางยังอีกยาวไกลทั้งมิได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ อย่างไรก็ดี การบินไทยยังคงมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไข หาไม่แล้วต่อให้แผนฟื้นฟูวิเศษอย่างไรก็ไม่มีความหมาย กล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ตราบใดที่ "การบินไทย" ยังคงเป็น "สมบัติผลัดกันชม" ระหว่างผู้มีอำนาจในรัฐบาล ทหารซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจรัฐจึงย่อมได้รับสิทธิพิเศษที่จะหมุนเวียนเข้ามาเป็นแกนหลักของบอร์ดการบินไทย และตราบนั้นก็อย่าหวังที่จะเห็นความเป็นเลิศขององค์กรนี้ วาระที่ท่านนายพลทั้งหลายในบอร์ดการบินไทยจะเปิดหมวกอำลาตามครรลองฟื้นฟูองค์กรนี้น่าจะมาถึงแล้ว และโดยไม่จำเป็นต้องรอให้มี “คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ” ตามคำสั่งศาล เพราะไม่มีใครบอกได้ว่ากระบวนการในชั้นศาลที่ยังอีกหลายขั้นตอนนักจะลงเอยด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว ลำพังแผนฟื้นฟูเองวันนี้ก็ยังไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ ล่าสุดต้องปรับแก้จนเกือบจะเป็นหนังคนละม้วนหลังวัตถุประสงค์เปลี่ยนจากแผน “อุ้ม” มาเป็นแผนฟื้นฟูในศาลล้มละลายกลาง แม้ชั่วโมงนี้ก็ยังต้องเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระเมื่อ “คลัง” เริ่มขู่ “คมนาคม” ว่าหนี้การบินไทยตอนนี้พุ่งไป 3 แสนล้านบาท ไม่ใช่ 2.5 แสนล้านบาท แล้วอย่างนี้ “คมนาคม” จะเอาอยู่หรือ? หลังจาก “คมนาคม” เพิ่งขบเหลี่ยมว่าการบินไทยวันนี้ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ แล้วจะยึดไว้เป็นเจ้าของทำไม เพราะขนาดเป็นหุ้นใหญ่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ช่วยให้การบินไทยบินได้ตลอดรอดฝั่ง? แม้นายกรัฐมนตรีเองก็ยังหลงไปกับมายาคติ "สายการบินแห่งชาติ" เพราะคงไม่มีใครนำกรณีความสำเร็จของ Japan Airlines ที่อดีตเป็นรัฐวิสากิจที่ขาดทุน แต่หลังจากให้เอกชนเข้าควบรวม ขณะนี้บินมีกำไร กรณีของ British Airways ก็เช่นกัน อดีตคือ B O A C ของรัฐบาลอังกฤษที่ล้มเมื่อปี 1974 แต่สามารถกลับมาได้ในปี 1987 ที่มีหุ้นส่วนระหว่างหลายบริษัท วันนี้ CEO เป็นสเปน เอาเถอะ เมื่อวานนี้ (25 พ.ค. 63) พลเอกประยุทธ์ได้รับรายชื่อคนเก่งจากจากคลังบ้าง การบินไทยบ้าง ประมาณนั้นรวม 30 คนเพื่อ เคาะให้เหลือ 15 คน ก่อนจะไปเข้าร่วมในคณะบริหารแผนฟื้นฟูฯในชั้นศาล ซึ่งหากท่านใช้จังหวะนี้สุ่มมาสักครึ่งหนึ่งแล้วส่งไปเป็นบอร์ดการบินไทยแทนกลุ่มทหารเก่า ก็จะเป็นการยิงนัดเดียวได้นกมากกว่าสองตัว เพราะนี่คืออนาคตแกนนำของบอร์ดการบินไทยที่จะสามารถนำพาการบินไทยผงาดขึ้นเป็นสายการบินชั้นนำของโลกอย่างมั่นคง หลังได้มีประสบการณ์และคลุกคลีกับทุกมิติของปัญหากับทุกฝ่ายทั้งไทยและเทศที่เป็นเจ้าหนี้ร่วมคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูในศาลล้มละลายกลาง |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |