การเขียนแผนการเงิน หลังจากที่ได้วางเป้าหมายและรวบรวมข้อมูลต่างๆจนครบถ้วนแล้ว เราจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และเขียนแผนให้เป็นรูปธรรม โดยมีขั้นตอนง่ายๆดังนี้
1. ระบุเป้าหมายให้เป็นตัวเลข เราควรกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เป็นตัวเลขที่วัดค่าได้ เช่น เราอยากเกษียณที่อายุเท่าไร มีเวลาอีกกี่ปี ถึงเวลานั้นต้องมีเงินเก็บคิดเป็นยอดเงินเท่าไร และจะใช้เงินหลังเกษียณเดือนละเท่าไร ใช้ได้ไปอีกกี่ปี สูตรง่ายๆในการคำนวนวงเงินเกษียณอายุ คือ เงินที่ต้องการใช้ในแต่ละเดือน X 12 X 20 เท่า เช่น หลังเกษียณอยากมีเงินใช้เดือนละ 20,000 บาท วงเงินที่ต้องเก็บออม คือ 20,000 X 12 X 20 = 4,800,000 บาท
2. หาสถานะการเงินปัจจุบัน การจะบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ เราต้องรู้สถานะที่แท้จริงก่อน ว่าตอนนี้เรามีเงินเก็บอยู่เท่าไรแล้ว เพื่อจะได้รู้ว่าใกล้ถึงเป้าหมายแล้วหรือยัง และต้องทำอีกเท่าไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น สถานะการเงินปัจจุบันนั้น ภาษาชาวบ้านเราเรียกว่า เงินเหลือเก็บสุทธิ คือเงินเก็บที่หักหนี้สินออกหมดแล้วแต่ภาษาการเงินเขาเรียกว่า ความมั่งคั่งสุทธิ หรือ Net Worth ซึ่งหาได้ง่ายๆด้วยสมการดังนี้ ความมั่งคั่งสุทธิ = สินทรัพย์รวม - หนี้สินรวม โดยมูลค่าของสินทรัพย์ต่างๆต้องเป็นราคาปัจจุบัน หรือเป็นราคาตลาด( market price )ไม่ใช่ราคาต้นทุนตอนที่ซื้อมา และหากราคาตลาดมีหลายราคา ให้ใช้ราคาที่ต่ำเป็นเกณฑ์ เพื่อจะได้ไม่หลอกตัวเองว่ามีเงินเหลือเก็บเยอะ ตามทฤษฎี ความมั่งคั่งสุทธิที่เราควรมี = อายุ X รายได้ต่อปี ÷ 10 เช่น ปัจจุบันอายุ 40 ปี มีรายได้ปีละ 500,000 บาท ควรมีเงินเก็บสุทธิ เท่ากับ 40 x 500,000 ÷ 10 = 2 ล้านบาท เป็นต้น
3. ดูการใช้จ่ายในอดีต การจะเก็บเงินให้บรรลุเป้าหมาย เราต้องรู้รายรับรายจ่ายที่แท้จริงของเราในแต่ละปี ว่าที่ผ่านมา มีเหลือเก็บหรือไม่ เหลือจริงๆปีละเท่าไร หรือใช้จ่ายมากกว่ารายได้หรือไม่ และจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย หรือหารายได้เพิ่มขึ้นได้อีกหรือไม่ งบรายรับรายจ่ายนี้ ทางการเงินเขาเรียก งบกระแสเงินสดส่วนบุคคล ( Personal Cash Statement ) รายรับ เรียก กระแสเงินสดรับ ( Cash Inflow ), รายจ่าย เรียก กระแสเงินสดจ่าย ( Cash Outflow ) เงินเหลือเก็บ เรียก กระแสเงินสดสุทธิ ( Net Cash Flow ) ซึ่งอาจเป็นบวก หรือเป็นลบก็ได้ ตามทฤษฎี เราควรมีเงินเก็บที่มีสภาพคล่องสูงหรือสินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที อย่างน้อย 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อเป็นเงินสำรองฉุกเฉินเวลาเจ็บป่วย หรือ ต้องออกจากงานกระทันหัน จะได้มีเวลาตั้งหลักได้อย่างน้อย 3-6 เดือน
4. วางงบประมาณในอนาคต หลังจากที่เราได้รู้สถานะปัจจุบัน รู้กระแสเงินสดเข้าออกว่า เหลือสุทธิในแต่ละปีเท่าไรแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ จัดทำงบประมาณในอนาคตว่า ถ้ามีรายได้ขนาดนี้ เราควรจะต้องใช้จ่ายเท่าไร เพื่อให้มีเงินเหลือที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้ การทำงบประมาณรายรับรายจ่ายส่วนบุคคลนี้ ภาษาทางการเงินเขาเรียกว่า Personal Budgeting สำหรับคนที่มีความรู้เรื่องค่าของเงินตามเวลา ( Time Value Of Money ) ย่อมสามารถคำนวนได้ว่า จากเงินต้นจำนวนหนึ่งมีเงินออมเข้ามาทุกปี ด้วยอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจำนวนหนึ่ง ภายในระยะเวลาที่กำหนด เงินจะงอกเงยขึ้นมาเป็นเท่าไร แต่ถ้าเรายังไม่ได้เรียนเรื่องนี้ ก็สามารถคิดแบบคร่าวๆได้ โดยคำนวณแบบไม่คิดดอกเบี้ย ว่ามีเงินต้นเท่านี้ ได้เงินออมเพิ่มขึ้นทุกปีๆละเท่านี้ มีเวลาเหลืออีกกี่ปี สุดท้ายจะได้เงินออมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไร ใกล้เคียงหรือขาดเหลือจากเป้าหมายเพียงไร ถ้ายังไม่ถึงเป้าหมายอีก ก็สามารถปรับงบประมาณได้ ตามแนวทางใดแนวทางหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 1. ใช้จ่ายน้อยลง เพื่อให้มีเงินออมมากขึ้น 2. เพิ่มรายได้ ด้วยการหางานพิเศษทำ 3. ทำงานนานขึ้น เกษียณอายุช้าลง 4. บริหารเงินออมให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้น 5. ลดเป้าหมายลง โดยยอมรับที่จะใช้จ่ายน้อยลงยามเกษียณ การจัดทำงบประมาณที่ดี เรามีเทคนิคง่ายๆที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย คือ ให้กันเงินออมออกมาจากรายได้ก่อน ที่เหลือจึงนำไปใช้จ่าย ถ้าทำได้แบบนี้ ก็จะมีเงินเหลือทุกเดือนแน่นอน
5. การพัฒนาแผนให้มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น หลังจากเขียนแผนการเงินอย่างย่อขึ้นมาแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือการพัฒนาแผนให้บรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น มีประสิทธิผลมากขึ้น ด้วยการวางแผนลงทุนที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มผลตอบแทนบนความเสี่ยงที่เรารับได้ ตรวจสอบความพอเพียงของวงเงินประกันที่เปลี่ยนไปตามความจำเป็น พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากสิทธิลดหย่อนทางภาษี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงิน ทั้งหมดนี้สามารถศึกษาหาความรู้จากตำราต่างๆ หรือ ขอคำแนะนำจากผู้รู้เพิ่มเติมได้ จากนั้นก็คอยติดตามผลการลงทุน การงอกเงยของเงินออม และรอให้ภาพฝันกลายเป็นความจริง อนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการวิธีคำนวนที่ละเอียดยิ่งขึ้น ท่านสามารถใช้เครื่องคำนวนการสะสมเงินเพื่อการเกษียณได้ที่ เวบไซด์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต. ) โดยพิมพ์ http://capital.sec.or.th/webapp/feedback/section2.php หรือ เปิดหน้าเวบไซด์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( www.sec.or.th ) แล้ว คลิกหัวข้อ ความรู้ผู้ลงทุน ต่อด้วย Investment Tips And Warning และ วางแผนทางการเงิน ตามลำดับ
บทสรุป ในแต่ละวัน มีคนนับล้านคนตื่นขึ้นมา พร้อมกับพบความจริงว่า วันเกษียณอายุของตนใกล้เข้ามาทุกที และไม่รู้จะทำอย่างไรดี แล้วตัวคุณละ ! ถ้าวันนี้คุณยังไม่ได้เตรียมแผนการเงินเฉพาะของตนเอง รีบวางแผนเสียตั้งแต่วันนี้ มิฉะนั้นวันเกษียณอายุที่จะมาถึง แทนที่จะเป็นวันคืนอันแสนสุข อาจจะกลายเป็นวันแห่งฝันร้ายก็เป็นได้ ขอให้มีความสุขตอนเกษียณครับ
|