หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ของสหรัฐ พุ่งพรวดแตะระดับ 14,200 จุด สวนทางกับปัจจัยพื้นฐานของประเทศที่ย่ำแย่ลง ไม่ว่าสถาบันการเงินอ่อนแอจากปัญหาซับไพร์ม , คนตกงานเพิ่มขึ้น , ประเทศขาดดุลการค้ามโหฬาร และราคาน้ำมันพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเริ่มตั้งคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฟองสบู่อเมริกาแตก บทความนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์และความรับรู้ของผู้เขียนซึ่งอาจจะคาดการณ์ถูกหรือผิดก็ได้ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน อย่างน้อยหากมันเกิดขึ้นมาจริงๆ เราจะได้เตรียมใจรองรับไว้ สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอเมริกา 1. ดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ร่วงกว่า 30% คำว่า ฟองสบู่แตก หมายความว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ถูกเร่งขึ้นเกินพื้นฐานจากการเก็งกำไร เมื่อความเชื่อมั่นสั่นคลอนและปะทุจนถึงขั้นแตกตื่น ทุกคนจะชิงขายหุ้นเพื่อเอาตัวรอดก่อนที่ตลาดจะถล่มทลาย โดยทั่วไประดับที่จะเรียกว่า ฟองสบู่แตก ดัชนีหุ้นควรจะร่วง 30% ขึ้นไป จากระดับสูงสุด แต่ถ้าลดลงเพียง 10-15% จะถือเป็นการปรับฐานธรรมดา 2. GDP ถดถอยหรือต่ำเรี่ยดิน เมื่อฟองสบู่แตก จะเกิดภาวะ เครดิต ช็อค ความเชื่อมั่นจะถดถอย ผู้คนจะขาดความเชื่อมั่นในอนาคต ขาดความเชื่อมั่นในเครดิตของคู่ค้า การค้าจะหดตัว ภาวะซบเซานี้อาจดำรงอยู่เป็นเวลา 3-5 ปี กว่าจะค่อยๆฟื้นต้วขึ้นมา 3. หุ้นเอเซีย กอดคอกันร่วง เศรษฐกิจประเทศย่านเอเซีย พึ่งพาการส่งออกเป็นกำลังขับเคลื่อนหลัก เมื่อสหรัฐซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ชลอการใช้จ่าย ประเทศที่พึ่งพาการส่งออกมากๆ เช่น ไต้หวัน เกาหลี หรือสิงคโปร์ จะได้รับผลกระทบทันที แต่เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงมากในขณะนี้ ไม่ว่า ทุนสำรอง , กำลังซื้อในประเทศ ทำให้เขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วใน 1-2 ปี แต่แน่นอนว่า ก่อนจะฟื้นตัว ตลาดหุ้นย่านนี้ก็คงกอดคอกันร่วง 15-20% เป็นอย่างน้อย 4. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอีก ก่อนกลับมาแข็งค่า เมื่อเศรษฐกิจประเทศทรุด ค่าเงินควรจะอ่อนค่าลงอีก แต่เศรษฐกิจอเมริกาก็แสดงอาการมาหลายปีแล้ว ค่าเงินดอลลาร์ได้ทยอยอ่อนค่ารับข่าวไปมากแล้ว จึงคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าไปอีกไม่มาก และอาจฟื้นตัวในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเงินที่ถูกส่งออกไปลงทุนต่างประเทศก่อนหน้า เมื่อเห็นค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาก ก็จะมีการแลกเปลี่ยนกลับมา เพื่อซื้อทรัพย์สินราคาถูกกลับคืน ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าในเวลาไม่ช้า 5. ดอกเบี้ยจะลดฮวบในระยะยาว ตามปกติ เมื่อประเทศเล็กๆอย่างเม็กซิโก หรือ ไทย ประสบปัญหาฟองสบู่แตก เงินทุนจะไหลออก ทำให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง ดอกเบี้ยในประเทศจะพุ่งสูงในระยะสั้น ตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยาวนาน ดอกเบี้ยก็จะตกต่ำตาม แต่ สหรัฐมีเงินลงทุนในต่างประเทศจำนวนมหาศาล เงินลงทุนน่าจะไหลกลับเพื่อชดเชยการลงทุนที่ขาดทุนในประเทศ ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐสามารถพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ออกสู่ตลาดได้ไม่จำกัด โดยไม่มีใครตรวจสอบได้ ทำให้ไม่เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่อาจทำให้เงินล้นระบบ ขณะที่คนไม่กล้าลงทุน ทำให้ดอกเบี้ยอยู่ระดับเรี่ยดินไปอีกหลายปี 6. ราคาน้ำมันลด ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงในตอนนี้ ใครๆก็รู้ว่าเป็นการเก็งกำไรของกลุ่มเฮดฟันด์ พยายามหาข่าวมาปั่นราคา เมื่อเศรษฐกิจอเมริกามีปัญหา เศรษฐกิจจีน และ เอเซียจะชลอตัวตาม การใช้น้ำมันจะลดน้อยลง ประกอบกับปัจจัยทางด้านจิตวิทยา ราคาน้ำมันจะลดตามมา เหมือนเหตุการณ์สมัยฟองสบู่ต้มยำกุ้ง แต่ราคาคงจะไม่ลดลงมาถึง 18-20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเหมือนสมัยนั้น แต่อาจจะลงมา 30-40% อยู่แถวๆ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งก็พอจะลดภาระของผู้ใช้น้ำมันได้พอสมควร 7. ราคาทองร่วง ปัจจุบัน ถือว่าหมดยุคของการใช้ทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศต่างๆแล้ว แต่ที่ราคาทองพุ่งสูง เพราะนักลงทุนใช้ทองเป็นตัวปกป้องความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ ( inflation hedge ) เมื่อน้ำมันมีราคาสูงขึ้น ทองก็ขยับราคาตาม หากราคาน้ำมันลง ทองคำก็พร้อมจะร่วงตามมา ผลกระทบที่จะเกิดในไทย 1. ค่าเงินบาทอ่อนลง เรื่องนี้อาจจะขัดกับความรู้สึกของเรา แต่ด้วยความที่สภาพคล่องของตลาดหุ้นไทยที่มีค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคนี้ อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ก็มีนโยบายควบคุมเงินทุนระยะสั้น จึงเป็นไปได้มากว่า เมื่อฟองสบู่สหรัฐแตก เงินบางส่วนจะเลือกเคลื่อนย้ายไปประเทศเอเซียอื่นๆแทน ขณะที่เงินทุนสหรัฐที่เคลื่อนย้ายเข้าไทยก่อนหน้านี้ อาจจะไหลกลับประเทศ ตามคำสั่งไถ่ถอนหน่วยลงทุนของนักลงทุนสหรัฐ เมื่อเงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า ย่อมทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง 2. ดอกเบี้ยลด เมื่อสหรัฐซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดทรุดตัวลง ดอกเบี้ยที่ตกต่ำในสหรัฐจะกดดันให้ดอกเบี้ยทั่วโลกลดลงด้วย หากดอกเบี้ยไทยขึ้นสูงเกินไป นักธุรกิจก็พร้อมจะกู้เงินจากสหรัฐเข้ามาลงทุนในไทย และเป็นไปได้ว่าจากบทเรียนที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่จะประกันความเสี่ยงค่าเงินเข้าไปด้วย 3. เศรษฐกิจชลอตัว หลายปีที่ผ่านมา ไทยอาศัยการส่งออกเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ ถึงแม้หลายปีที่ผ่านมา เราจะลดการส่งออกไปอเมริกามากพอสมควร แต่ก็เพิ่มการส่งออกไปจีน อินเดีย และประเทศในกลุ่มอาเซียน ที่ซื้อวัตถุดิบต้นน้ำเพื่อผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐอีกต่อ หากเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำเราย่อมรับผลกระทบไปด้วย และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น กำลังซื้อในประเทศหรือการลงทุนในประเทศ จะยังไม่มีแรงขับเคลื่อนมากพอที่จะทดแทนการส่งออก ทำให้ GDP ของไทยอาจลดลง 1-1.5% จากปัจจุบัน 4. หุ้นร่วง 20% 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีสัดส่วนถึง 40% ของมูลค่ารวมของตลาดทุนไทย หากฟองสบู่อเมริกาแตก ราคาน้ำมันที่ลดฮวบจะส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานทั้งหมดลดลง 30-40% ไปด้วย ทำให้ตลาดหุ้นรวมร่วงตามอย่างน้อยๆก็ 20 %-30 % จากจุดสูงสุดปัจจุบัน แล้วเราจะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร 1. ถ้าดอกเบี้ยขึ้นสูงในช่วงแรก ซื้อกองทุนตราสารหนี้ อาจเป็นไปได้ว่า ช่วงแรกของการทรุดตัว ถ้าเกิดภาวะ เครดิต ช็อค เงินตึงตัว ดอกเบี้ยอาจปรับสูงขึ้น ให้รีบซื้อกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว เพราะเมื่อดอกเบี้ยอ่อนตัว ตราสารหนี้เหล่านี้มักจะมีราคาสูงขึ้นสวนทางดอกเบี้ยที่ลดลง 2. รอซื้อหุ้นสหรัฐ คงจำกันได้ว่าหลังฟองสบู่ไทยแตก ราคาหุ้นของไทยลดลงกว่า 70% แต่เมื่อตลาดฟื้นตัว ราคาหุ้นพื้นฐานดีก็ตีกลับ นี่อาจเป็นโอกาสทองในการซื้อหุ้นสหรัฐผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ ( FIF ) แล้วรอเวลาเก็บเกี่ยว 3. ขายทองแท่ง สำหรับใครที่ซื้อทองแท่งไว้เก็งกำไร เมื่อฟองสบู่แตกคนจะตกใจขายดอลลาร์ออกมา แล้วไปซื้อทองเพิ่มอีกเป็นรอบสุดท้าย ถ้าคุณไม่ขายตอนนั้น คุณจะขายตอนไหน เพราะนั่นคือโอกาสสุดท้ายของการขายในราคาสูง 4. ประหยัด ถ้าคุณไม่พร้อมลงทุน หรือเป็นคนไม่ชอบความเสี่ยง สิ่งที่คุณทำได้ คือ ประหยัด ดำรงชีวิตด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ถึงแม้ราคาน้ำมันจะลดลง เงินเฟ้อต่ำลง แต่ การทำมาหากินอาจฝืดเคืองลง เงินอาจจะไม่สะพัดเหมือนเดิม การประหยัดไม่เคยฆ่าใคร เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ค่อยนำเงินมาใช้ เงินไม่บูดหรอกครับ ที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าฟองสบู่สหรัฐจะแตก 100% เพียงแต่สภาพแวดล้อมโน้มนำให้เชื่อไปอย่างนั้น แล้วถ้าถามว่า ผู้เขียนเชื่อหรือไม่ว่ามันจะเกิดขึ้น ก็ขอตอบอย่างจริงใจว่า เชื่อครับ แต่เวลาถาม รมต.คลังสหรัฐและประธานธนาคารกลางสหรัฐ ( FED ) ต่างก็ออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เกิดแน่นอน ตรงนี้ผู้เขียนไม่มีความเห็น เพราะเท่าที่เห็นมา ก่อนที่ฟองสบู่ของแต่ละประเทศจะแตกนั้น ผู้รับผิดชอบทุกคนก็มักจะออกมายืนยันนั่งยันเสมอว่าไม่เกิด ไม่เกิด สุดท้ายก็เกิดเหตุจนได้ทุกทีไป แล้วอย่างนี้คุณจะเชื่อใคร สิทธินี้เป็นของคุณครับ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | ตุลาคม 2007 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |