ปัญหาของสินเชื่อที่มีความเสี่ยง ได้นำไปสู่วิกฤติการเงินระดับโลก แต่ประเด็นที่ใหญ่กว่านั้นคือ ผู้เชี่ยวชาญยังไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดเมื่อไร โดย Tami Luhby CNNMoney.com senior writer เมืองนิวยอร์ค (CNNmoney.com) มันเริ่มต้นเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว เมื่อผู้กู้ยืมเริ่มผิดนัดชำระหนี้ จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 มีค.) มันได้ทำให้เสาหลักที่มีอายุ 85 ปีล้มลง เหตุการณ์ก้าวมาสู่จุดนี้ได้อย่างไร ทำไมยอดยึดบ้านที่พุ่งสูงขึ้น จึงทำให้บริษัทแบร์ สเติร์น วาณิชธนกิจอันดับ 5 ของสหรัฐ ต้องบอกขายหุ้นในราคาถูกเพียง 2 เหรียญต่อหุ้น คำตอบเริ่มที่ Investment bank; พวกเขาขายหลักทรัพย์ที่ซับซ้อน ที่มีสินเชื่อรองรับ แต่มีความเสี่ยงสูงกว่าที่เขาคาดมาก เมื่อนักลงทุนตระหนักว่าธนาคารเหล่านี้ล้มเหลวในการจัดการความเสี่ยง จนเขาไม่สามารถตีราคาในหลักทรัพย์ที่ธนาคารเหล่านี้ขายได้ ทำให้ตลาดกู้ยืมชะงักงัน เพราะผู้คนกลัวว่าเขาจะไม่ได้เงินต้นคืน เรามาถึงจุดที่ ฝ่ายต่างๆในระบบการเงินเริ่มไม่ไว้ใจกันและกัน ลอเรนซ์ ไวท์ ศาสตราจารย์ทางเศรษฐศาสตร์ แห่ง ม. นิวยอร์ค กล่าว สิ่งเลวร้ายที่สุดคือ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง ทุกสัปดาห์ ดูเหมือนว่ามีสถาบันการเงินสะดุด และทางธนาคารกลางของสหรัฐ( FED) จะออกมาพร้อมแผนช่วยเหลือใหม่ๆ แต่ขนาดของปัญหาที่ทยอยเกิดขึ้น ทางFEDจะรับมือได้หรือไม่ เพราะปัญหาทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับธนาคารทั่วไป แต่ยังลามไปถึงสถาบันการลงทุน, เฮดจ์ฟันด์, บริษัทประกัน และผู้ให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน ต้นเหตุของปัญหามาจากความหลงใหลในความรุ่งเรืองของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อราคาบ้านพุ่ง และประเทศมีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง สถาบันการเงินต่างมุ่งไปในตลาดสินเชื่อ และเพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อรองรับ บริษัทต่างๆก็เริ่มลดมาตรฐานในการกู้ยืม พร้อมกับขยายเครดิตให้คนที่มีความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ต่ำ แต่ผู้ให้สินเชื่อกลับไม่ได้มีระบบในการดูแลความเสี่ยงในตลาดขาลงที่ดีพอ สัญญาณที่ชี้ชัดคือ อัตราที่ต้องจ่ายสำหรับหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น จังค์บอนด์ กลับอยู่ใกล้เคียงกับ หลักทรัพย์ที่มั่นคงสูง ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ มักมีใครบางคนไปทำให้ระบบจัดการความเสี่ยงยุ่งเหยิง อมิยาโตร พอร์นานานดาม ผู้ช่วยศาสตราจารย์จาก ม. มิชิแกน ให้ความเห็น แรกๆ บางคนคิดว่าปัญหาจะจำกัดอยู่แต่ในธุรกิจสินเชื่อ แต่ภายในไม่กี่เดือนมันแพร่ออกไปเหมือนไฟป่า เพราะผู้คนไม่เชื่อมั่นใน Investment bank ในการจัดการความเสี่ยง นักลงทุนเริ่มลังเลใจที่จะลงเงินในหลักทรัพย์ ที่รองรับด้วยหุ้นกู้ของเทศบาลนคร, เงินกู้นักศึกษา, บัตรเครดิต หรือ แม้แต่สินเชื่อที่รัฐบาลให้การรับประกันด้วยเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินคืน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เรารู้สึกว่าแผนกู้วิกฤติทั้งหมดของรัฐไม่ได้ผล จอร์จ เซลูโกซ์ คณบดีของคณะบริหารที่ ม. เดซเซล มันเป็นประเด็นของความเชื่อมั่นในตลาด เรื่องความสามารถของสถาบันที่จะได้รับเงินคืนจากที่ปล่อยกู้ไป สถาบันการเงินตอนนี้ ต่างก็กลัวการปล่อยเครดิตให้สถาบันอื่นๆ ด้วยกลัวว่าหลักทรัพย์ค้ำประกันของเงินกู้จะด้อยค่าลง ศรัทธาที่เสื่อมถอยของเงินดอลลาร์ เงินดอลลาร์ทำให้ปัญหาซับซ้อนขึ้น ค่าเงินที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ทำให้ความน่าสนใจลดลง สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่จะลงทุนในสินทรัพย์ของสหรัฐ และนั่นทำให้มันยากยิ่งขึ้นในการระดมทุนจากระบบ เมื่อปราศจากสภาพคล่อง ตลาดการเงินทั่วโลกกำลังพังทลาย ทำให้ FEDต้องอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยได้รับหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อด้อยค่าเป็นหลักประกัน วิกฤติได้ก้าวสู่จุดสูงใหม่อีกครั้ง เมื่อพฤหัสที่แล้วบริษัท แบร์ สเติร์น ต้องขาดทุนจากธุรกิจ Investment bank ในฐานะรายใหญ่ของผู้รับประกันการจำหน่ายหุ้นกู้ที่มีสินเชื่อค้ำประกัน และ ได้รับความเสียหายอย่างมากจากธุรกิจ ขณะที่ไม่ได้มีรายได้จากธุรกิจอื่นที่หลากหลายมารองรับ ลูกค้าเริ่มถอนเงิน หรือต้องการหลักทรัพย์ค้ำประกันมากขึ้นจาก แบร์ สเติร์น ทำให้บริษัทต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ในวันศุกร์ เจพี มอร์แกน เชส พร้อมธนาคารกลาง สาขานิวยอร์ค ก็ประกาศให้เงินทุนช่วยเหลือ สองวันต่อมา เจพี มอร์แกน ก็ประกาศว่าจะซื้อบริษัท แบร์ สเติร์น ซึ่งเคยรู้จักในฐานะบริษัทที่มีการบริหารความเสี่ยงได้อย่างยอดเยี่ยม ในราคาช็อกตลาด เพียง 2 เหรียญต่อหุ้น มีส่วนลดถึง 93% จากราคาปิดตลาด ณ วันศุกร์ สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้ทำให้ทุกคนอุ่นใจขึ้น ตรงกันข้าม นักลงทุนบางส่วนได้มองหาสถาบันต่อไปที่จะล้ม โดยเล็งไปที่บริษัทเลย์แมน บาร์เดอร์ ซึ่งราคาหุ้นได้ลดลงกว่า 32% ในการซื้อขายวันจันทร์ เมื่อไรที่คุณเห็นธนาคารหนึ่งล้มลง ผู้ฝากเงินก็เริ่มกังวลว่า บางทีธนาคารฝั่งตรงข้ามของถนน ก็น่าสงสัยเช่นกัน ว่าจะล้มลงหรือไม่ ไวท์พูด แน่นอน นั่นคือสิ่งที่ FED กังวลอยู่ตอนนี้ หมายเหตุ Investment bank ( IB ) หมายถึง บริษัทหรือหน่วยงาน ที่ทำหน้าที่รับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์(หุ้น,หุ้นกู้) เป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการ ,จักองค์กรใหม่ รวมทั้งเป็นโบร์กเกอร์ให้นักลงทุนสถาบัน A financial intermediary that performs a variety of services. This includes underwriting, acting as an intermediary between an issuer of securities and the investing public, facilitating mergers and other corporate reorganizations, and also acting as a broker for institutional clients.
หุ้นของบริษัทแบร์ สเติร์น ( BSC ) ร่วงลงจาก 159 เหรียญในปีที่แล้ว เหลือเพียง 2.84 เหรียญในวันที่มีข่าวเทคโอเวอร์ ล่าสุดวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2008 หุ้น BSC ปิดที่ราคา 5.91 เหรียญ บทความข้างบน แปลและเรียบเรียงโดยเจ้าของบล็อก ถ้าอ่านแล้วเข้าใจยาก ขออภัยครับ
|