วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม 2551
Posted by
บรรยง
,
ผู้อ่าน : 1662
, 10:31:21 น.
หมวด : เศรษฐกิจ
พิมพ์หน้านี้
โหวต
0 คน
4-5 สัดาห์ก่อน ราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดที่ 147.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ในวันที่ 11 กค.) ลงมาแถว 115 เหรียญ จากตัวเลขเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ยุโรปและญี่ปุ่นกำลังก้าวสู่ภาวะถดถอย ทำให้คนละทิ้งสินค้าโภคภัณฑ์กลับมาซื้อเงินดอลลาร์ เพราะเชื่อว่า ดีมานด์ที่มีต่อสินค้าเหล่านี้จะลดลง มาวานนี้ ( พฤหัสที่ 21 ) ข่าวราคาหุ้น เฟนนี เม และเฟรดดี้ เมค ที่ลดต่ำเป็นประวัติการณ์ ทำให้คนเชื่อว่ารัฐคงต้องเข้ามาควบคุมกิจการทั้งสอง แสดงถึงภาวะที่ยังง่อนแง่นในกลุ่มธุรกิจการเงินสหรัฐ ประกอบกับมีข่าว Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐร่วงลง 0.7 % อยู่ที่ 101.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ระดับ 100.7 ในเดือนต.ค. 2004 สองข่าวนี้ ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่ากว่า 1% ในวันเดียว เมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินเยน เป็นที่ทราบกันดีว่าเวลาเงินดอลลาร์มีปัญหา นักลงทุนจะย้ายเงินมาลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะทองและน้ำมัน หรือที่สำนวนนักลงทุนเรียกสินค้าเหล่านี้ว่า a hedge against inflation ขณะเดียวกัน ข่าวรัสเซียบุกจอร์เจียเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศตะวันตกและรัสเซีย จนรัสเซียต้องประกาศยุติความสัมพันธ์ทางทหารกับกลุ่มนาโตชั่วคราว จึงมีความกังวลถึงอุปทานน้ำมันจากประเทศรัสเซีย ซึ่งรัสเซียเป็นแหล่งน้ำมันหลักนอกกลุ่มโอเปค นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ลดลงมากว่า 20%ในรอบหนึ่งเดือนเศษ ทำให้คนกล้ากลับเข้ามาเก็งกำไรอีกครั้ง 
วานนี้ราคาน้ำมันพุ่ง 5.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการพุ่งสูงสุดอันดับสองในหนึ่งวัน รองจาก วันที่ 6 มิถุนายน ที่ราคาพุ่งถึง 10.75 ดอลลาร์ ในวันเดียว ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ต่างมีราคาพุ่งจนน่ากลัว ราคาทองขึ้น 22.70 ดอลลาร์ เป็นราคา 839.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแดง ราคาเพิ่มขึ้น 4.43% อลูมิเนียมราคาขยับ 2.99% ขณะที่ราคาข้าวโพดทะยาน 3.78% ในวันเดียว เศรษฐกิจที่ผันผวนทุกวันนี้ นำไปสู่การเก็งกำไรที่หวือหวา จนตามแทบไม่ทัน ใครตกข่าวเพียงแค่ 2-3 วัน อาจจะวิเคราะห์ไปคนละทาง ถ้าเป็นหนังก็คนละม้วนเลยทีเดียว
|
เรื่องวันนี้ปิดแสดงความคิดเห็น