ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้สัมผัสกับคนสองรุ่น คนหนึ่งวัย 80 เป็นเจ้าสัวธุรกิจยักษ์ที่กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีมหาศาล

อีกคนอายุ 26 ทุ่มเททางด้าน Blockchain และ Bitcoin ...ทั้งสองมีความเหมือนกันตรงที่เราสื่อสารผ่าน Suthichai Live ในประเด็นที่เกี่ยวกับ disruption ของเทคโนโลยียุคดิจิตัลอย่างน่าตื่นตาคื่นใจยิ่ง

คุณบุญยสิทธิ์ โชควัฒนาเป็นประธานกรรมการของเครือสหพัฒน์ กำลังสร้างคนรุ่นใหม่ที่ต้องพร้อมจะกระโจนเข้าสู่เทคโนโลยีที่จะนำพาเครือที่มีพนักงานเกือบ 1 แสนคนยอดขายเป็นแสนล้านต่อปีผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านภายใต้หลักการของเจ้าสัวที่ยืนยันว่า

"ในยุคดิจิตัลนี้ ไม่ใช่ใหญ่กลืนเล็ก แต่เป็นเร็วกินช้าต่างหาก"

ขณะเดียวกันพีระพัฒน์ หาญคงแก้วกำลังพยายามตั้งหลักปักฐานในวิชาชีพที่เป็นยุคดิจิทัลเต็มตัวกับ Siam Blockchain ทั้งในฐานะนักลงทุนใน Bitcoin และผู้เปิดคอร์สอบรมในหัวข้อที่ผู้คนกำลังสนใจอย่างกว้างขวางและขาดความรู้ขั้นพื้นฐานให้กับคนรุ่นใหม่, รุ่นกลางและรุ่นอาวุโสที่ไม่ต้องการตกรถขบวนดิจิตัลที่กำลังแล่นผ่านมาอย่างเร็วและแรง

"ผมลงทุนในบิทคอยน์ครับ ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ราคาบิทคอยน์ตกลงอย่างน่าใจหาย แต่ผมยังเชื่อว่ามันมีอนาคต ผมขาดทุนกำไร แต่ยังไม่ขาดทุนต้นทุนครับ" พีระพัฒน์บอกผมด้วยความมั่นใจผ่านการสนทนาทาง Suthichai Live

เช้าวันนั้น ผมชวนพีระพัฒน์เข้ามาคุยใน Facebook Live เพื่อไปตรวจอาการล่าสุดของราคาบิทคอย์ทที่ร่วงลงมาอย่างแรง ภายในเพียงสัปดาห์เดียว ราคาตกฮวบถึงเกือบ 30% ทำให้เกิดความตื่นตระหนกกันพอสมควรในหมู่ผู้ลงทุนหรือผู้สนใจจะลงทุน

คุณบุญยสิทธิ์เป็น “โชควัฒนา” รุ่นที่สามที่รับช่วงธุรกิจสหพัฒน์ ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่า “รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา” และแม้ธุรกิจใหญ่ก็ต้องตระหนักว่าจะต้องปรับตัวให้ทันเพราะไม่มีกิจการใดที่จะใหญ่ถึงขั้นที่เจ๊งไม่ได้อีกต่อไป

“ทุกวันนี้เราต้องเข้าถึง Big Data เพราะนั่นคือตัวตัดสินว่าเราจะสามารถรักษาฐานลูกค้าและขยายฐานต่อไปได้หรือไม่ อีกทั้งยังจะต้องคอยเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค” เจ้าสัวบุญยสิทธิ์บอกผมระหว่างที่สนทนาผ่าน Suthichai Live เช่นกัน

คุณบุญยสิทธิ์เป็นผู้อาวุโสที่ทันสมัยมาก พอนั่งคุยกันได้สักพัก ท่านก็หยิบมือถือขึ้นมาบอกว่ามีคนส่งคลิบรายการคุยกันทาง Suthichai Live มาให้เป็นประจำ

และส่วนใหญ่ที่เจ้าสัวติดต่อชมและฟังนั้นเป็นคลิบที่ผมสนทนากับคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีใหม่, อีคอมเมิร์ซ, Blockchain ทั้งสิ้น

“เราต้องแยกพนักงานรุ่นใหม่จากรุ่นเก่าเพื่อให้สามารถวิ่งให้เร็วกับความเปลี่ยนแปลง ประเทศจีนกำลังก้าวไปทางด้านนี้อย่างรวดเร็ว ผมเห็นว่าการที่บริษัทเทคโนโลยีจีนก้าวเข้ามาทำธุรกิจในไทยเป็นเรื่องดี จะได้ช่วยเราให้ก้าวไปข้างหน้าเร็วขึ้น” เจ้าสัวบอก

ขณะที่พีระพัฒน์ในฐานะคนรุ่นใหม่มองเห็นเรื่อง Blockchain และ Bitcoin เป็นเรื่องระดับสากล ต้องติดต่อข่าวคราวและความเคลื่อนไหวในระดับสากลตลอดเวลา เพราะคนไทยวันนี้ไม่อาจจะจำกัดความสนใจแต่เฉพาะในประเทศเท่านั้นอีกต่อไป

ภาพที่ผมมองเห็นสะท้อนถึงความปรับเปลี่ยนที่หนักหน่วงและรุนแรงยิ่ง

พีระพัฒน์วัย 26 อาจต้องมีการเรียนรู้จากประสบการณ์อันยาวนานและมีคุณค่าจากเจ้าสัววัย 80

และเจ้าสัวอาจจะต้องให้พีระพัฒน์เล่าให้ฟังถึงการทำงานของ Blockchain และ Bitcoin อย่างละเอียดรอบด้านเช่นกัน

นี่คือ “โลกยุคตีลังกา” Upside Down จริง ๆ ครับ

เพราะไม่ว่าคุณจะวัยไหน ทุกคนในยุคดิจิตัลล้วนมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้ใหม่ ๆ ทั้งสิ้น!