ผักสวยๆ ที่คนไทยซื้อกินไม่ว่าจะเป็นในซูเปอร์มาร์เก็ตห้างหรู หรือแผงตลาดสด ล้วนแล้วแต่เจือปนด้วยสารเคมีร้ายแรง ล่าสุดตรวจพบผักบางชนิดมีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานถึง 202 เท่า!!
หลังจากเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ สำรวจผัก 7 ชนิดได้แก่ กะหล่ำปลี คะน้า ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ผักชี และพริกจินดา ใช้วิธีสุ่มซื้อจากตลาดสดและซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นทีมงานส่งผักเหล่านี้ไปตรวจหาสารพิษที่ห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ผลปรากฏว่าพบสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหรือยาฆ่าแมลงตกค้างเกินมาตรฐาน 8 ตัวอย่างจาก 21 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 38 แม้กระทั่งผักในถุงประทับตราปลอดสารพิษ "คิว" (Q) ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตตามห้างสรรพสินค้า ก็ยังตรวจพบสารพิษตกค้างเกินถึงร้อยละ 43 ทั้งที่มีราคาขายแพงกว่าตลาดสด 2-10 เท่า โดยระบุถึงผักอันตรายที่ผู้บริโภคควรระวัง 4 ชนิดคือ
คะน้า ผักชี ถั่วฝักยาว และพริกจินดา โดยเฉพาะผักในตลาดย่านห้วยขวางนั้นพบ "ผักคะน้า" มีสารเคมีไดโครโทฟอส (Dicrotophos) ตกค้างสูงถึง 202 เท่า ส่วน "ผักชี" พบสารพิษ "อีพีเอ็น" (EPN) เกินถึง 102 เท่า (รายละเอียดในตาราง)
"ป้าพวง" แม่บ้านวัย 53 ปี บอกกับ "คม ชัด ลึก" ขณะกำลังเลือกซื้อผักสดในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวันว่า ปกติชอบซื้อผักในซูเปอร์มาร์เก็ตเพราะสะดวก และคิดว่าสะอาดกว่า ส่วนเรื่องผักปลอดสารพิษที่ขายแพงกว่าผักทั่วไปนั้น ไม่เคยเชื่อว่าปลอดสารเคมีจริง เช่น ถั่วฝักยาวคงมียาฆ่าแมลงเยอะเพราะแมลงชอบ วิธีกินอย่างปลอดภัยคือก่อนทำอาหารจะล้างผักทุกชนิดในน้ำให้สะอาด บางครั้งแช่ด่างทับทิมหรือน้ำเกลือด้วย
ขณะที่ "วริษฐา" สาวทำงานวัย 28 ปี เชื่อว่าผักในห้างปลอดภัยกว่าตลาดสด เพราะมีการตรวจสอบคุณภาพมาแล้วระดับหนึ่ง และบางคนก็เชื่อว่า ผักในห้างไม่มีสารพิษตกค้างอยู่เลย จึงขายราคาแพงกว่า แต่ปกติไม่ค่อยซื้อผักชีและผักคะน้ากิน เพราะเคยได้ยินมาว่าเกษตรกรฉีดยาฆ่าแมลงเยอะ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา กรมวิชาการเกษตรจัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นหัวข้อ "การจัดทำหลักเกณฑ์ประเมินความเป็นอันตรายและผลกระทบภายหลังการใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตร" โดยเชิญตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม เช่น เครือข่ายผู้บริโภค ตัวแทนบริษัทขายยาฆ่าแมลง แพทย์ นักวิชาการเกษตร ฯลฯ รวมแล้วกว่า 100 คน นายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร สรุปผลการประชุมว่า ที่ผ่านมาเกณฑ์ควบคุมวัตถุอันตรายทางการเกษตรยังไม่ค่อยชัดเจนนัก ทั้งยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ฯลฯ ผู้เข้าร่วมประชุมจึงเสนอให้กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาเบื้องต้น คือ
1.สารที่มีพิษเฉียบพลันสูง หมายถึง เมื่อรับเข้าร่างกายแล้วส่งผลทันที เช่น มึนเวียนหน้ามืด อาเจียน เกิดผดผื่นคัน ฯลฯ 2.สารที่มีพิษเรื้อรัง หมายถึงมีผลต่อระบบประสาท สารก่อมะเร็ง พิษต่อระบบสืบพันธุ์ ฯลฯ 3.สารที่มีพิษตกค้างสะสมในสิ่งแวดล้อม ห่วงโซ่อาหาร และสิ่งมีชีวิต 4.สารที่พบพิษตกค้างในผลิตผลเกษตรเกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย 5.สารทีมีการใช้ผิดหรือใช้ไม่ตรงตามคำแนะนำในฉลาก (MISUSE) 6.สารที่ประกาศห้ามใช้ในบางประเทศ 7.สารเคมีเฝ้าระวังตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ 2 ฉบับ ได้แก่ "อนุสัญญารอตเตอร์ดัมส์" ว่าด้วยการควบคุมนำเข้าและส่งออกสารเคมีอันตรายต้องห้าม และ "อนุสัญญาสตอกโฮล์ม" ว่าด้วยสารมลพิษตกค้างยาวนาน
ด้านตัวแทนเครือข่ายเฝ้าระวังสารเคมีเกษตร "วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ" ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ยืนยันว่า ในวันนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องห้ามไม่ให้ขึ้นทะเบียนยาฆ่าแมลงอันตรายที่หลายประเทศทั่วโลกห้ามใช้แล้ว 4 ชนิดคือ 1.คาร์โบฟูราน 2.เมโทมิล 3.ไดโครโตฟอส และ 4.อีพีเอ็น เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรหลงเป็นเหยื่อบริษัทสารเคมียักษ์ข้ามชาติ ซึ่งใช้โฆษณาล่อหลอกให้ซื้อสารพิษทั้ง 4 ชนิดมาใช้ในแปลงพืชผักอย่างแพร่หลาย ทั้งที่บางตัวเป็นสารที่ให้ใช้ในดอกไม้ไม่ใช่ในผัก
"ไพรัช จงแก้ว" อายุ 50 ปี ตัวแทนชาวนานครสวรรค์ ที่เข้ามาร่วมประชุม เล่าจากประสบการณ์จริงให้ฟังว่า เคยลองใช้สารเคมีมาหลายชนิด รวมถึงคาร์โบฟูรานด้วย แต่ใช้ครั้งเดียวก็เลิกเพราะส่งผลรุนแรงต่อร่างกาย ทำให้มึนหัวและหนังตากระตุก จากนั้นเปลี่ยนมาใช้เกษตรอินทรีย์แทน ชีวิตดีขึ้นไม่ห่วงเรื่องสารพิษตกค้าง แต่ชาวนาเพื่อนบ้านอาศัยอยู่พื้นที่เดียวกันยังคงใช้ยาฆ่าแมลงจำนวนมาก ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ปลาตายลอยขึ้นมาเป็นระยะๆ กบเขียดเคยพบเห็นตามนาข้าวหายไปหมด จึงเข้าร่วมประท้วงไม่อยากให้มีการใช้ยาฆ่าแมลงพิษร้ายเหล่านี้อีกต่อไป!! รายงานพิเศษ คมชัดลึก 14/08/2555 +++++++++++++
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กันยายน 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 |