*/
แมวดาว | ||
![]() |
||
แมวดาว |
||
View All ![]() |
กล้วยไม้กับเพลง นางฟ้าจำแลง | ||
![]() |
||
นางฟ้าจำแลง เพลงของสุนทราภรณ์ |
||
View All ![]() |
<< | เมษายน 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
25-26 ตุลาคม พ.ศ. 2505 ได้เกิดมหาวาตภัยขึ้นในภาคใต้ของประเทศไทย ที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างหนัก เมื่อคลื่นยักษ์มหึมาม้วนตัวจากทะเลขึ้นบนบกกวาดสรรพสิ่งที่กีดขวาง กลืนกินทุกชีวิตหายลงไปในทะเล จนถึงวันนี้ เป็นเวลานานเกือบ 50 ปีแล้ว ความทรงจำอันเจ็บปวดดูเหมือนยาวนานแต่ยากจะลืมเลือน ชาวแหลมตะลุมพุกยังต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ ดำรงชีวิติอยู่ด้วยความหวาดหวั่นว่า สักวันหนึ่งในอนาคต จะเกิดคลื่นยักษ์จากท้องทะเลลึกพัดเข้ามายังแหล่งพักพิงของพวกเขาอีกหรือไม่ ยามคลื่นลมสงบ ชาวแหลมตะลุมพุกได้อาศัยเรือประมงคู่ชีพอออกทะเลไปหากุ้ง หอย ปู ปลา หล่อเลี้ยงชีวิต ทั้งนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตรา ทว่าทุกครั้งยามลมพายุกรรโชกแรง ท้องทะเลปั่นป่วนโครมคราม ความหวาดผวาบังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ชาวบ้านบางส่วนที่อาศัยอยู่ริมทะเลจึงต้องการโยกย้ายที่อยู่อาศัยเข้าไปอยู่ด้านในชายฝั่งมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ทว่าการเรียกร้องผ่านตัวแทนของชาวบ้านทั้งในระดับเล็กและระดับใหญ่ ติดขัดลงตรงที่ว่า พื้นที่ซึ่งชาวบ้านต้องการเข้าไปสร้างที่ทำกินใหม่ อยู่ในเขตอนุรักษ์ของป่าชายเลน ปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 ได้เกิดวาตภัยลูกล่าสุดที่ซัดเข้าชายฝั่งแหลมตะลุมพุก ก่อเกิดกำแพงคลื่นสูง 4-5 เมตร ซัดบ้านเรือนในชุมชนบ้านแหลมตะลุมพุก หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 อันเป็นหมู่บ้านชาวประมงได้รับความเสียหายหลายร้อยหลังคาเรือน ยังไม่นับรวมถึงเรืออันเป็นเครื่องมือหล่อเลี้ยงชีวิตที่หายวับไปกับคลื่นทะเลอันบ้าคลั่งครั้งนี้ ปัญหาหนึ่งปรากฎชัดเจนยิ่งขึ้น กรณีการกัดเซาะผืนดินอย่างต่อเนื่องของคลื่นทะเล ทำให้พื้นที่ริมฝั่งทะเลของหมู่บ้านชาวประมงไม่สามารถอาศัยอยู่ต่อไปได้ น้ำทะเลได้กัดเซาะชายฝั่งเข้ามาถึงสามสิบเมตร ถนนที่เคยเป็นถนนกลางหมู่บ้าน มาบัดนี้ได้กลายเป็นถนนริมทะเลไปเสียแล้ว
เนื้อหาจดหมายเรื่อง "ราษฎรขอที่ดินเป็นที่อยู่อาศัย " สรุปใจความได้ว่า ประชาชนหมู่ที่ 1 ,2 และ 3 ตำบลแหลมตะลุมพุก ซึ่งอยู่ชายฝั่งทะเลจำนวน 510 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากกรณีเกิดวาตภัยและคลื่นลมแรง ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ราษฎรไม่สามารถอยู่อาศัยตามปกติได้ ราษฎรตำบลแหลมตะลุมพุกจึงประสงค์จะอพยพบ้านเรือนไปสร้างใหม่ในพื้นที่ป่าชายเลนเกาะไชย ตำบลแหลมตะลุมพุก จำนวนเนื้อที่ครัวเรือนละ 60 ตารางวา รวม 150 ไร่ ตามรายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีรับปากจะไปหารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะต้องผ่านการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯและต้องขอยกเว้นในการใช้พื้นที่โดยขอมติคณะรัฐมนตรี ......... จากการสนทนากับผู้เฒ่าทะเลและผองเพื่อนชาวประมงแห่งแหลมตะลุมพุกฝั่งทะเล ในวันที่ชาวคณะโอเคเนชั่นไปเยือนแหลมซึ่งเป็นที่กล่าวขานถึงแห่งนี้ ทำให้พวกเรารับทราบถึงปัญหาในการดำรงวิถีชีวิตของเพื่อนร่วมแผ่นดินไทย วงสนทนาที่ดำเนินไปนานนับชั่วโมง เริ่มขึ้นตั้งแต่ 2-3 คน จวบจนนับจำนวนได้เกือบ 20 คน กระทั่งนั่งสนทนา ยืนสนทนา เดินสนทนา หูสดับฟังเรื่องราวต่าง ๆ นานา จากเดือดที่ร้อนเปรี้ยงจนถึงแดดร่มลมตก พวกเรารับฟังชาวบ้าน ชาวบ้านรับฟังเรา ต่างบอกเล่าประสบการณ์ของแต่ละสถานการณ์ ปัญหาที่จะเกิดขึ้น แนวทางการแก้ปัญหาที่พอจะเป็นไปได้เท่าที่ความรู้จะพึงมี พื้นที่ป่าชายเลนที่ชาวบ้านต้องการเข้าไปสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ข้อเสนอของชาวบ้านแหลมตะลุมพุกริมฝั่งทะเล ที่ต้องการโยกย้ายที่อยู่อาศัยเข้าไปในพื้นที่ของป่าชายเลนเกาะไชยอันเป็นป่าอนุรักษ์นั้น แม้จะยืนอยู่บนเงื่อนไขของมนุษยธรรม แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ยากยิ่งในแง่ของตัวบทกฎหมาย การอนุญาตให้ประชาชนเข้าไปใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ต้องเข้าครม.เพื่อขอแก้ไขกฎหมาย ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะผ่านความเห็นชอบ เพราะอาจเกิดกรณีประชาชนขอใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์กันทั่วประเทศตามขึ้นมา พื้นที่ป่าซึ่งเหลือน้อยอยู่แล้วจะยิ่งลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ชาวบ้านเองก็เข้าใจในจุดนี้ได้ดี เพียงแต่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ย่อมต้องหาหนทางทุกทางเท่าที่จะเป็นไปได้ มีการพูดถึงเรื่องแนวคิดการโยกย้ายที่ทำกินไปยังพื้นที่อื่น ๆ เช่นที่เคยเกิดขึ้นกับชาวแหลมตะลุมพุกหลายครอบครัวเมื่อครั้งเกิดวาตภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2505 เรื่องนี้ ผู้เฒ่าทะเลกล่าวกับเราว่า "ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด บรรพบุรุษนั่งสำเภาจากโพ้นทะเลมาอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ลูกหลานก็เกิดที่นี่ ผมรักที่นี่ .. จะให้พวกผมไปอยู่ที่ไหนกัน" ผู้เฒ่าทะเลนำพาพวกเราไปชมศาลเจ้าข้างเรือนพัก ภายในมีรูปปั้นเทพเจ้าที่บรรพชนนำมาจากเมืองจีนตั้งอยู่เรียงราย ...เมื่อไม่กี่ปีก่อน ยังมีการจัดขบวนแห่เทศกาลกินเจบริเวณหน้าศาลเจ้า แต่เมื่อคนทรงสิ้นชีวิต พิธีกรรมจึงล้มเลิกไป บทสนทนาเริ่มตีวงแคบลงถึงทางออกของปัญหาที่มีความเป็นไปได้.. มีการพูดถึงแนวคิดสร้างเขื่อนป้องกั้นการกัดเซาะชายฝั่งทะเล เหมือนที่ชายทะเล อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ชาวแหลมตะลุมพุกหลายคนในวงสนทนาเห็นด้วยกับวิธีการนี้ หากว่าจะช่วยให้ที่อยู่อาศัยของพวกเขา รอดพ้นจากการถูกทะเลกลืนกิน ด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงดุจคลื่นทะเลยามสงบ ผู้เฒ่าทะเล เอ่ยขึ้นว่า แม้นชายฝั่งทะเลท่าศาลา สามารถสร้างเขื่อนกั้นคลื่นลมแรงได้ เหตุไฉนแหลมตะลุมพุกที่ประสบปัญหาแผ่นดินหดหายเช่นเดียวกัน จึงมิอาจดำเนินการได้เล่า เมื่อตะวันโพล้เพล้ เรากล่าวคำอำลาด้วยรอยยิ้มและความหวัง ยกมือไหว้สวัสดีกันและกัน พวกเรากลับไปใช้ชีวิตในเมืองตามปกติ ชาวแหลมตะลุมพุกริมฝั่งทะเล ยังคงเผชิญวิถีชีวิตด้วยจิตใจอันกล้าแกร่ง ทั้งยามคลื่นลมสงบและยามคลื่นลมแรง ................................................. ต้นเรื่อง ; -จากแหลมตะลุมพุกถึงหัวไทร วิกฤติที่ยังรอความหวัง... -ต้นเรื่อง คนกล้าหัวใจแกร่ง ::::: ชาวแหลมตะลุมพุก ....... -แหลมตะลุมพุก ฤาใกล้จะสูญหายจากแผนที่ประเทศไทย - ชุมชนชาวเล แหลมตะลุมพุก สภาพหลังโดนพายุถล่ม... ลูกล่าสุด . หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจดหมายของบล็อกเกอร์เณรรูน |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |