*/
แมวดาว | ||
![]() |
||
แมวดาว |
||
View All ![]() |
กล้วยไม้กับเพลง นางฟ้าจำแลง | ||
![]() |
||
นางฟ้าจำแลง เพลงของสุนทราภรณ์ |
||
View All ![]() |
<< | สิงหาคม 2014 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
สกู๊ปข่าวจากเนชั่น ทีวี เรื่อง หวั่นนกปรอดหัวโขน "เสี่ยงสูญพันธุ์" ในคลิปข่าวชิ้นนี้ สัมภาษณ์ผู้เลี้ยงนกปรอดหัวโขนคนหนึ่งซึ่งยอมรับเองเลยว่าครอบครองนกผิดกฎหมายอยู่เป็นจำนวนมาก เขาบอกประมาณว่า "สมัยก่อน นกเขาชวาเป็นนกหายาก ราคาแพง จนกระทั่งมีการปลดล็อกพ้นจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองแล้ว มีผลให้จำนวนนกเพิ่มขึ้น " คำพูดข้างต้นถูกหยิบยกขึ้นมาเขียนมาพูดกันบ่อยครั้งในระยะนี้ เป้าหมายไม่มีอะไรมากไปกว่าการหา "ข้ออ้าง" ต่างๆนานา มาสนับสนุนให้หน่วยงานราชการ รีบตัดสินใจ "เห็นชอบ" ให้เริ่มกระบวนการถอดถอนนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยเร็ว ในลักษณะที่เรียกว่า "ชง" แล้ว "ตบ" นั่นเอง หลายวันก่อน ผมเขียนชี้แจงเรื่องที่มีจดหมายส่งถึงคสช. เรียกร้องให้มีการอนุญาตขึ้นทะเบียนครอบครองนกปรอดหัวโขน วันนี้ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของนักเลี้ยงนก ก็มีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลและอธิบายกันอย่างตรงไปตรงมาอีกครั้ง เพื่อความเข้าใจตรงกันในบริบทแห่งปมขัดแย้งต่อทั้ง "แนวคิด" และ "แนวเคลื่อนไหว" เรื่องที่ีว่าสมควรหรือไม่ที่จะถอดถอนนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ปูพื้นฐานความรู้เพื่อเพิ่ม "ภูมิปัญญา" กันสักนิดครับ ...
นกเขาชวา (Zebra Dove) มีถิ่นเดิมอยู่ในคาบสมุทรมลายู ซึ่งก็คือภาคใต้ของไทยนั่นเอง คนใน 5 จังหวัดชายแดนทางใต้ของไทย นำมาเลี้ยงกันมาก เพราะมีเสียงร้องเป็นท่วงทำนองก้องกังวาน ต่างจากนกเขาและนกพิราบอื่นๆที่แทบไม่มีสเน่ห์ในด้านนี้ นกเขาชวาจึงเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากในยุคหนึ่ง ความเก่งกาจในการปรับตัวและการขยายพันธุ์ ทำให้ปัจจุบันพบได้ทั่วทุกภาค เบิร์ดไกด์เล่มดึกดำบรรพ์ของ หมอบุญส่ง ปี 2517 ให้ข้อมูลว่า แรกเริ่มเดิมทีนกเขาชวาเป็นนกประจำถิ่นของภาคใต้ แต่กระจายพันธุ์นอกถิ่นอาศัยธรรมชาติ ประชากรนกทางกลาง ภาคเหนือ และอีสาน ถูกนำเข้าไปเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้ว หรือราวปี 2457 โน่นแน่ะ ล่าสุดมีรายงานว่า นกเขาชวากระจายพันธุ์ไปถึงประเทศเวียดนามตั้งแต่เมื่อ 2555 ทีเดียว ปัจจัยที่ทำให้นกเขาชวากระจายพันธุ์ไปทั่วประเทศนั้น น่าจะมาจาก 2 เหตุผลหลักๆ คือ 1. เพราะเป็นนกเลี้ยงถูกซื้อนำไปเลี้ยงฟังเสียง ตามภาคต่างๆ อาจหลุด หรือถูกปล่อย 2. การกระจายพันธุ์โดยธรรมชาติจากภาคใต้สู่ตอนบนของประเทศ เนื่องจากนกชนิดนี้มีความสามารถด้านการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆได้เก่งมาก จึงเลยแพร่พันธุ์ไปทั่ว ปัจจุบัน นกเขาขวา มีสถานภาพพบเห็นได้ทั่วไป มีปริมาณมาก และไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครองของไทยแต่อย่างใด นกปรอดหัวโขน (Red-whiskered Bulbul) เป็นนกประจำถิ่น พบได้ทั่วไปตามทุ่งหญ้าติดชายป่าและสวนสาธารณะทั่วทั้งแถบเอเชียใต้ตั้งแต่ที่ราบจนถึงระดับความสูง 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในเมืองไทยเคยพบมากทั่วทุกภาค แต่ปริมาณในธรรมชาติลดลงจนเหลือน้อย ด้วยถูกลักลอบดักจับไปขายเป็นนกเลี้ยงอย่างผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ผลกระทบของการดักนกมีให้เห็นอย่างชัดเจนในภาคใต้ที่นกปรอดหัวโขนกลายเป็นนกหาดูยาก ถึงแม้นกปรอดหัวโขนจะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้าย พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ที่สามารถทำการขออนุญาตจากกรมป่าไม้เพื่อเพาะพันธุ์ได้ แต่ก็มีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มคนเลี้ยงนกจำนวนมากเพื่อเรียกร้องให้กรมอุทยานฯดำเนินการถอดนกชนิดนี้ออกจากรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยให้เหตุผลว่าเป็นอุปสรรคต่อการเลี้ยงและจัดประกวดนก ความที่เคยกระจายพันธุ์ตามแหล่งธรรมชาติทั่วทุกภาค นกปรอดหัวโขนจึงถูกเรียกขานตามชื่อพื้นถิ่นหลายชื่อด้วยกัน เป็นต้นว่า นกปรอดหัวโขนเคราแดง นกปรอดหัวจุก นกปรอดหัวโขน นกปิ๊ดจะลิว ฯลฯ แต่เมื่อถูกลักลอบจับจากป่ามาเลี้ยงในกรงหรือเข้าสู่สนามแข่งขัน มีชื่อเรียกตรงกันโดยมิได้นัดหมายในหมู่คนเลี้ยงนกทั่วทุกภาคว่า "นกกรงหัวจุก" ทราบประวัติความเป็นมาและสถานภาพของนกกันแล้วก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เบิร์ดไกด์ ฉบับ หมอบุญส่ง เลขะกุล ปี 2517 1. กรณีมีการพูดว่า นกเขาชวาเคยเป็นนกหายาก ต่อเมื่อมีการปลดล็อกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงส่งผลให้จำนวนนกเขาชวา เพิ่มขึ้น ประเด็นนี้ น่าสนใจแต่ก็น่าสงสัยในความจริงยิ่ง ผมเองอยากรู้ข้อเท็จจริงเหมือนกัน เพราะในปัจจุบัน นกเขาชวาไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครองเสียด้วย เพื่อไขข้อข้องใจ ผมจึงโทรศัพท์ไปถามยังเจ้าหน้าที่สำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่า ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า ท่านกรุณาให้ข้อมูลมาดังนี้ นกเขาชวานั้น เคยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองมาก่อนตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2503 แต่อีก 30 ปี ต่อมา ใน พ.ร.บ.สงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535 ชื่อนกเขาชวาก็ถูกเพิกถอนออกไป ไม่ได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอีก ส่วนสาเหตุการถอดถอนนกเขาชวาพ้นจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองนั้น เจ้าหน้าที่สำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่า บอกว่า เนื่องจากมีการพิจารณาแล้วเห็นว่า นกเขาชวาเป็นนกที่มีจำนวนมาก และไม่เสี่ยงต่อการถูกล่า คือ ไม่ได้ถูกล่าโดยมนุษย์จนกระทบต่อประชากรนกในธรรมชาติ และก่อนที่จะมีการเพิกถอนจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองนั้น ก็ไม่ได้เป็นนกหายากแต่ประการใด เป็นนกที่พบเห็นได้ทั่วไป และยังมีปริมาณมากด้วยซ้ำไป ประเด็นนี้ ชัดเจนนะครับ ข้อเท็จจริง คือ การเพิกถอนนกเขาชวาออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่ได้มีสาเหตุมาจากนกมีจำนวนน้อยในธรรมชาติ หรือเป็นนกหายาก ตามที่หยิบยกกันมาพูดเซ็งแซ่ในระยะนี้ แต่เป็นเพราะนกมีปริมาณมากต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญ สถานภาพของนกปรอดหัวโขนในคาบสมุทรมลายู (R) ในวงเล็บคือ regional ส่วน (G) คือ global (IUCN global conservation status) ; virtually extinct คือ ประชากรต่ำจนอยู่ในภาวะอันตราย 2. กรณีมีการเปรียบเทียบว่า หากปลดล็อกนกปรอดหัวโขนจากบัญชีคุ้มครองสัตว์ป่า จะทำให้ประชากรนกปรอดหัวโขนเพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกับนกเขาชวา ผมคิดว่าตรรกกะนี้ แค่ "คิด" ก็ "ผิด" แล้วนะครับ เพราะมันไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลยระหว่างนก 2 ชนิดที่มีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน เป็นต้นมา พฤติกรรม ถิ่นที่อยู่อาศัย การกระจายพันธุ์ ประชากรนกในธรรมชาติ ฯลฯ ผมไม่คิดว่า ถ้าปลดล็อกนกปรอดหัวโขน จากสัตว์ป่าคุ้มครองแล้ว นกจะแพร่กระจายไปทั่ว หริอพบเห็นได้ทั่วไปเหมือนเขาชวาเพราะขนาดคนทางใต้นิยมเลี้ยงกันมาอย่างแพร่หลายตั้งนาน ทั้งที่ยังไม่ปลดล็อก ก็ไม่เห็นว่านกหลุดจากกรงออกสู่ธรรมชาติที่ไหน จะตั้งประชากรได้ ผมเคยเห็นนกหลุดจากกรงแถวบ้านหลายครั้ง เมื่อหลายสิบปีก่อน ทุกวันนี้ยังไม่เห็นนกปรอดหัวโขนเพิ่มปริมาณขึ้นเลย แถมถ้านกหลุดตัวไหน มาร้องตามข้างบ้าน ตามสวน ก็เห็นแต่คนเลี้ยงพยายามจับให้ได้ทุกทีไป ขณะที่นกเขาชวากับเขาใหญ่ ออกไข่ออกลูกกันง่ายมาก ในกรงไม่ได้ใหญ่อะไรเลย จะเห็นชัดเจนว่า พฤติกรรมการขยายพันธุ์ของนกเขาชวา กับปรอดหัวโขนต่างกัน อย่างเอามาเปรียบเทียบไม่ได้เลย นกปรอดหัวโขน มีฤดูผสมพันธุ์ชัดเจน ทำรังเฉพาะช่วง ม.ค. จนถึง ส.ค. (ส่วนใหญ่ ปลาย ก.พ. - ก.ค.) ส่วนนกเขาชวา รวมไปถึงนกเขาใหญ่ทำรังตลอดทั้งปี เรียกว่าออกลูกกันครอกชนครอกเลยทีเดียวก็ว่าได้ สถานภาพปัจจุบันของนกปรอดหัวโขนหรือที่ผู้เลี้ยงนกและคนแข่งนกเรียกว่านกกรงหัวจุกนั้น นกปรอดหัวโขนในธรรมชาติมีประชากรเหลืออยู่น้อยลงมาก โดยเฉพาะทางภาคใต้แทบไม่พบเห็นในป่าแล้ว เนื่องจากมีการลักลอบจับมาเลี้ยงกันมาก ขืนปลดล็อกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ก็ไม่ต่างไปจากเป็น "ใบสั่งล่า" เปิดให้ล่า-ให้จับ-ให้เลี้ยงกันอย่างเสรี จะยิ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณนกในธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ขนาดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง กฎหมายยังคุ้มครองนกไม่ได้ แล้วหากมีการเพิกถอนฯจริง ผมว่านกต้องเผชิญกับชะตากรรมที่โหดร้ายมากๆ นั่นคือสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแน่นอน ผมไม่ใช่นักปักษาวิทยา ไม่ได้เรียนตำรับตำราเกี่ยวกับนก ความรู้เรื่องสัตว์ปีกมีอย่างจำกัด อาศัยที่เป็นนกดูนกนานหลายปี มีประสบการณ์ภาคสนามพอสมควร สอบถามจากผู้รู้มาตลอดในบริบทของนกและกิจกรรมดูนก วันนี้ขอให้ข้อมูลอีกด้านใน 2 ประเด็นดังกล่าว เพื่อความชัดเจน อ่านแล้วจะได้เข้าใจกัน ไม่หยิบยกมากล่าวอ้างแบบผิด ๆ ทั้งที่โดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ เขียนกัน อธิบายกันถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าคนเลี้ยงนกปรอดหัวโขน และคนที่สนับสนุนเรื่อง"ปลดล็อก"คงไม่ได้อ่านอีกตามเคย ก่อนจบ... ขอฝากข้อคิดไว้ให้ได้ตรึกตรองกันหนักๆ "การสนับสนุนให้เกิดการเลี้ยงนกป่าโดยเสรีไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง" ก็เท่ากับเรา "สนับสนุนให้มีการจับนกจากธรรมชาติอย่างเสรี" ผลร้ายที่ตามมาก็คือ ปริมาณนกจะลดไปเรื่อยๆ เข้าขั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในธรรมชาติ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |