@ สีสัน...ปีศาจนามาฮาเกะ

 ด้านหน้าของ พิพิธภัณฑ์ นามาฮาเกะ 

"นามาฮาเกะ" เป็นปีศาจไม่ธรรมดา เพราะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอกะ ในอาคิตะ
เปรียบเมืองไทยเรา ก็คงประมาณ "ผีตาโขน" ของจังหวัดเลยทางภาคอิสานนั่นเอง

นามาฮาเกะคือ วัฒนธรรมโบราณที่ชายหนุ่มสวมหน้ากากปีศาจสีเขียว-สีแดง ใส่วิกผมดำยาวรกรุงรัง
และคลุมตัวด้วยเสื้อฟางข้าว มือถือมีดคล้ายอีโต้ไซส์ใหญ่ บนหัวมีเขาคู่เล็กๆ เสียด้วย

ตำนานเล่าว่า ใช่วงฤดูหนาว มีปีศาจลงจากหุบเขาสู่หมู่บ้าน เพื่อลักตัวเด็กๆกินเป็นอาหาร
เมื่อกินจนอิ่มหนำแล้ว พวกปีศาจก็จะเดินทางกลับไปยังหุบเขาตามเดิมปีแล้วปีเล่า

เมื่อลูกหลานถูกปีศาจจับไปกินนานๆเข้า ชาวเมืองโอกะจึงคิดอุบายชวนทึ่งขึ้นมา
หนุ่มๆจึงวางแผนแต่งตัวปลอมเป็นปีศาจ มาจับจองเด็กๆในหมู่บ้านเอาไว้แล้ว
พวกปีศาจ(แท้ๆ)ที่ลงจากเขามาทีหลัง ก็ไม่อยากมีเรื่องด้วย จึงยอมกลับหุบเขาไปแต่โดยดี

Bluehill ในชุดปีศาจนามาฮาเกะ ดุดังจนช่างภาพมือสั่น ถ่ายภาพออกมาไหวๆ(ฮา)

พิพิธภัณฑ์ นามาฮาเกะ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ Namahagekan
และ Oga Shinzan Folklore Museum ซึ่งอยู่ติดกัน ไม่ต้องเดินไกล

ไฮไลท์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ ที่ Oga Shinzan Folklore Museum
เพราะจะมีการแสดงโชว์จำลองเหตุการณ์ปีศาจนามาฮาเกะ บุกบ้านด้วย

โซนพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงชุดปีศาจ หน้ากาก รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น มีดปลอม ไม้กระบอง
นอกจากนั้น ก็รวบรวมอุปกรณ์ทำประมง รวมทั้งเรือของชาวโอกะในอดีตเอาไว้ด้วย
นักท่องเที่ยว(รวมถึงผมด้วย) นิยมสวมชุดปีศาจนามาฮาเกะถ่ายรูป เป็นที่ระทึกกัน

มีโรงหนังขนาดเล็ก เก้าอี้นั่งสบายๆ ไว้ฉายหนังสั้นว่าด้วยตำนานปีศาจนามาฮาเกะ
มีหูฟัง 2 ภาษาคือญี่ปุ่นกับจีน ผมเชี่ยวเชิงแต่ภาษาถิ่นไทย เลยได้แต่ชมดูตาปริบๆ

เคซัง ไกด์หนุ่มหน้าคล้ายแฮรี่ พ็อตเตอร์ บอกว่า ในวันส่งท้ายปีใหม่ของทุกๆปี 31 ธ.ค.
ชายหนุ่มในหมู่บ้านจะสวมหน้ากากและแต่งตัวเป็นปัศาจหน้าแดง-หน้าเขียว ถือมีดกับกระบอง
แล้ววิ่งไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อไปหลอกเด็กที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ หวังให้เด็กกลัวและเลิกดื้อ

พอไปถึงบ้านที่มีเด็ก ปีศาจ 2 ตนนี้ก็จะพูดเสียงห้าวๆดังๆดุๆ ถามว่า มีเด็กคนไหนร้องไหม
มีเด็กนิสัยไม่ดีไหม มีเด็กขี้เกียจไหม มีเด็กไม่เชื่อฟังพ่อแม่ไหม ไม่ช่วยงานบ้านไหม ฯลฯ

พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยายเด็กก็กุลีกุจอเปิดประตูรับโดยเร็ว แถมเชิญให้เข้ามาอีกต่างหาก
ก่อนปีศาจเข้าบ้าน เด็กก็รีบหาที่ซ่อนตัว(ตู้เสื้อผ้าเป็นส่วนใหญ่)เพราะกลัวปีศาจจะมาจับไป

โซน Oga Shinzan Folklore Museum

พอปีศาจก็ค้นโน่นนี่นั่น จนหาตัวเด็กเจอ ก็ขู่คำราม จับเด็กบ้าง ขู่เด็กบ้าง จะจับตัวไปหากดื้อ
เด็กโดนไม้นี้ ก็ร้องไห้กันกระจองอแงแทบทุกราย (ผู้ใหญในบ้านแอบยิ้มกันทุกราย(ฮา))

พอขู่ขวัญเด็ก(ดื้อ)ในบ้านเสร็จสรรพ ผู้ใหญ่ในบ้านก็ต้องตอบแทนบุญคุณครั้งนี้เป็นธรรมดา
มีการจัดอาหาร ขนมท้องถิ่น พร้อมเหล้าสาเกมาต้อนรับ พร้อมขอร้องว่าอย่าได้เอาตัวเด็กในบ้านไปเลย
ปีศาจก็ชิมโน่นจิบนี่พอเป็นพิธี ก็หัวเราะฮาๆๆๆ อารมณ์ดีขึ้น ก่อนอำลาจากไปเคาะประตูบ้านอื่นต่อ

ก่อนจากไป ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ปีศาจก็ต้องอวยพรให้สมาชิกในครอบครัว
มีสุขภาพแข็งแรง มั่งคั่ง ในเทศกาลปีใหม่ พร้อมบอกว่าปีหน้าจะกลับมาอีก(นะจ๊ะ)

ชาวเมืองโอกะ เชื่อกันว่าปีศาจดุร้ายพวกนี้ถูกส่งมาจากเทพเจ้าแห่งป่าเขา
เพื่อให้มาปัดเป่าและกำจัดสิ่งชั่วร้ายให้กับคนในหมู่บ้าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดปี
นำพามาซึ่งความเป็นมงคล ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและผืนน้ำ
อ้อ...ลืมบอกไปครับว่า หน้ากากสีแดงหมายถึงปึศาจชาย สีน้ำเงินคือปีศาจหญิง

เรืองนี้เข้าข่ายเป็นกุศโลบาย คนเฒ่าคนแก่ต้องการดัดนิสัยที่ไม่ดีของเด็กในบ้านนั่นเอง!

ตามธรรมเนียมอีกเหมือนกัน ตามจุดท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ต้องมีร้านขายสินค้าที่ระลึกและขนมท้องถิ่น

ไปเที่ยวกันต่อที่...หอดูดาวฮาชิโบได (Hachibodai Observatory) ในเมืองโอกะ
ตั้งชื่อในปี 1952 โดย เจ้าชายทากามัตซึโนมิยะ ใครขึ้นมาอยู่บนจุดนี้
จะมองเห็นวิวทิวทัศน์บริเวณโดยรอบกว้างไกลชนิด 360 องศาเลยทีเดียว
สามารถมองเห็นภูเขา Honzan,Shinzan และ Kanpuzan

ชื่อฮาชิโบได แปลเป็นภาษาไทยได้ความประมาณว่า "มองเห็นได้รอบทิศทาง"

ด้านหน้าของหอดูดาว ก็คืออ่าวโตกะ ถัดเข้ามาเป็นทะเลสาบชื่อ Ninome Gata
บางทีก็เรียกกันอย่างเต็มยศว่า Oga Ninomegata Lake Japan

ทะเลสาบนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำ เกิดเป็นปรากฎการณ์"ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ"
ผมไม่มีข้อมูลว่าปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่คงนานมากแล้วทีเดียว

ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ (Crater lake) เป็นทะเลสาบที่เกิดขึ้นภายในปล่องภูเขาไฟ
อย่างเช่น Maar หรือแคลดีรา บางก็เรียกว่า ทะเลสาบแคลดีรา แต่ชื่อหลังไม่ค่อยเรียกกัน
ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ มีพลังอาจเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า Volcanic lakes

น้ำในทะเลสาบลักษณะนี้มักจะมีสภาพเป็นกรด เต็มไปด้วยแก๊สภูเขาไฟ และมีสีเขียวเข้ม
ขณะที่ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในปล่องภูเขาไฟสงบหรือภูเขาไฟดับสนิทมักจะมีน้ำที่ใส
และจะยิ่งใสมากเป็นพิเศษถ้าไม่มีธารน้ำและตะกอนไหลเข้ามา

เสียดายมากขอบอกตามตรง การชมวิวหอดูดาวฮาชิโบไดแบบพาโนรามาในวันนี้
ด้วยเหมาะอย่างยิ่งในช่วงเช้า เพราะแสงแดดอยู่ข้างหลังเรา รับรองว่าในวันที่ปลอดโปร่ง
จะได้ภาพที่ฟ้าเป็นฟ้าตัดกับประกายน้ำทะเล มีป่าสีเขียวขจีเป็นองค์ประกอบ สวยงามทีเดียว

ย้ำว่าเสียดายครับคณะเราไปถึงในเวลาเกือบเย็น อาทิตย์โคจรไปอยู่ด้านหน้าเรา
ภาพที่ออกมาจึงย้อนแสงเห็นๆ แต่โชคก็เข้าข้างผมอยู่บ้าง บริเวณโดยรอบหอดูดาว
มีเหยี่ยวดำหูดำ (Black-eared Kite)หลายสิบตัวบินหาอาหารอยู่ไปมา
เลยได้โอกาสเก็บภาพเจ้าเหยี่ยวแห่งโอกะมาฝากเพื่อนๆ กันหลายภาพ

เหยี่ยวชนิดนี้สามารถพบเห็นได้ในประเทศไทยช่วงฤดูอพยพของนกด้วย

เอ็นทรีนี้เล่าถึงตำนานปีศาจพื้นบ้าน "นามาฮาเกะ" ของเมืองโอกะ ในอาคิตะ
ตอนต่อไปรับรองว่าสนุกแน่นอน หาชมกันไม่ได้ง่ายๆเสียด้วย

ใครชอบท่องเที่ยวแบบวัฒนธรรมโบราณ ห้ามพลาดเด็ดขาด!

  Yuki Matsui Friend PV

เสน่หา...อาคิตะ ชมวิว Mt.Kampu ชิมไอศครีมบาบาเฮ #Nationtv https://t.co/kHAeU3kCoS pic.twitter.com/vhyhlo6QF3

— oknation (@blogOKnation) 1 กันยายน 2559