*/
แมวดาว | ||
![]() |
||
แมวดาว |
||
View All ![]() |
กล้วยไม้กับเพลง นางฟ้าจำแลง | ||
![]() |
||
นางฟ้าจำแลง เพลงของสุนทราภรณ์ |
||
View All ![]() |
<< | พฤศจิกายน 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 |
ดีใจที่มีโอกาสไปเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ในช่วงรอยต่อของการเวลา ด้วยเตรียมเดินหน้าฟื้นฟูพัฒนาประเทศทุกๆด้าน หลังสหรัฐ-ยุโรเลิกคว่ำบาตรไปเมื่อต้นปี ทำให้พบว่าชาวอิหร่านเปี่ยมมิตรไมตรี ให้การต้อนรับผู้ไปเยือนด้วยรอยยิ้มศิลปะวัฒนธรรมก็งามล้ำวิจิตร มีอัตลักษณ์เก่าแก่เลอค่า เหมือนได้ย้อนเวลากลับไป 4,000 ปี ทั้งบ้านเมืองก็ดูทันสมัย สมเป็นมหานครใหญ่แห่งหนึ่ง เป็นทริปที่สุดประทับใจ ไม่มีวันลืมจริงๆ เตหะรานในภาษาเปอร์เซีย แปลว่า "อ้อมเขาอันอบอุ่น" เมืองต่างๆ ในอิหร่านเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน ไม่ใช่เพียงเพราะสถาปัตยกรรมและภูมิประเทศอันสวยงาม หากแต่ผู้มาเยือนจะประทับใจกับอัธยาศัยไมตรีของชาวอิหร่าน พร้อมรอยยิ้มที่มีให้เห็นตลอดเส้นทาง วัฒนธรรมอิหร่านมีความหลายหลากแต่ก็ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างยุคก่อนอิสลามและยุคอิสลาม มีความโดดเด่นในตะวันออกกลางและในเอเชียกลาง เจริญรุ่งเรืองมายาวนานกว่าสองพันปี โดยเฉพาะยุคแซสซานิด ช่วงปี ค.ศ. 224-651 ถือเป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ของเปอร์เซีย และเป็นจักวรรดิสุดท้ายก่อนการเข้ามาของศาสนาอิสลาม ยุคนี้นี่เองที่เกิดการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมเปอร์เซีย โรมัน อินเดีย และจีน เข้าไว้ด้วยกันมีอิทธิพลต่อทั้งยุโรปตะวันตกและแอฟริกา ก่อให้เกิดศิลปะยุคกลางทั้งในเอเชียและแอฟริกาและได้ถูกยกยอดให้เป็นวัฒนธรรมอิสลาม จุดกำเนิดแหล่งเรียนรู้แบบอิสลามที่วิทยาการมากมายหลายแขนง เช่น ภาษาศาสตร์, วรรณคดี ,นิติศาสตร์, ปรัชญา, การแพทย์ ,สถาปัตยกรรม และวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ในที่สุด ความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมอิสลามในเปอร์เซีย ได้ขยายเผยแพร่ไปสู่โลกมุสลิมทั่วไป ไฟล์ TG527 พานักท่องเที่ยวไทยและอิหร่านบางส่วน มุ่งหน้าสู่กรุงเตหะรานชนิดเต็มลำ เมื่อ 1 ต.ต. 2559 ถือเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของการบินไทยที่กลับมาเปิดอีกครั้งสำหรับ route กรุงเทพฯ-เตหะราน ขอขอบคุณการบินไทยที่กรุณาให้เกียรติ เชิญร่วมทริป สัมผัสมนตรา มหาอาณาจักรเปอร์เซีย ท่อง 2 เมืองอู่อารยธรรมของประเทศอิหร่าน ทั้งกรุงเตหะราน และเมืองอารยธรรม อิสฟาฮาน ก่อนลงเครื่องบิน สุภาพสตรีต้องนำผ้ามาคลุมผม (ฮิญาบ ) ให้เรียบร้อยตามระเบียบของอิหร่านครับ ขอให้คลุมผมจากศีรษะลงมาถึงคอเป็นใช้ได้ ใส่เสื้อแขนยาวถึงข้อมือ ไม่เปิดอก ใส่รองเท้าผ้าใบปิดเท้าไว้ การปฏิบัติตามกฎกติกาของสังคมนั้น ๆ ถือเป็นการให้เกียรติเจ้าของประเทศและคนที่นั่น น่าจะลงตัวที่สุด
@ พระราชวังโกเลสตาน The Golestan Palace กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต และความเจริญก้าวหน้าในปัจจุบัน หนึ่งในสถานที่ซึ่งคุณไม่ควรพลาดดวยประการทั้งปวงก็คือ พระราชวังโกเลสตาน หรือพระราชวังดอกไม้ เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาฟาวิด และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยราชวงศ์คาจาร์ เป็นพระราชวังมีความกว้างขวาง สวยงามตระการตา หรูหรา มลังเมลืองยิ่งนัก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2013 ภายในบริเวณพระราชวังมีอาคารทั้งสิ้น 17 แห่ง ประกอบด้วยพระราชวัง ,พิพิธภัณฑ์ และตำหนักต่างๆ สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโบราณ และคลาสสิกแบบยุโรป (เพิ่มเข้ามในภายหลัง) รายล้อมด้วยสวนดอกไม้ อาคารแต่ละแห่งนั้น ก็ประดับประดาด้วยข้าวของเครื่องใช้งามระยิบระยับ ทั้งทรงคุณค่าและมีมูลค่ามากๆ จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมาถ่ายภาพกันมาก็คือ "บัลลังก์หินอ่อน" (The Marble Throne) สร้างจากหินอ่อนสีเหลืองนวล ในปี ค.ศ.1806 ซึ่งแสดงถึงความมั่งคั่ง และความเป็นหนึ่งของอาณาจักรเปอร์เซีย
Clip : The Golestan Palace literally the Roseland Palace. ----- ปัจจุบัน พระราชวังโกเลสตาน ยังคงใช้เป็นสถานที่รับรองบุคคลสำคัญอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแขกบ้านแขกเมืองมาจากต่างประเทศ
@พิพิธภัณฑ์พระราชวัง Sa"ad Abad Palace
ในเตะหะรานเป็นสถานที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับพระราชวัง ( Sa"ad Abad Palace) ถ้ามาเที่ยวชมที่นี่ ควรเผื่อเวลาไว้สัก 3-4 ชั่วโมง เพราะเป็นพิพิธพัณฑ์ที่มีเนื้อที่ถึง 410 เฮกตาร์ ประกอบด้วยพระราชวังและที่สวยงามถึง 7 แห่งด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังขาว และพระราชวังเขียว หนึ่งในห้องเสวยของพระราชวังขาว ด้านหลังเป็นงาช้างคู่จากไทย ในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร มอบให้รัฐบาลอิหร่าน พระราชวังขาว เป็นอาคาร 2 ชั้นสไตล์ยุโรป เคยเป็นที่ประทับของชาร์ ปาห์ลาวี กษัตริย์องค์สุดท้ายของอิหร่าน เป็นที่เก็บสะสมของมีค่ามากมาย ห้องด้านบนในวังแห่งนี้ เคยเป็นสถานที่จัดประชุม เตหะราน คอนเฟอเรนซ์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1943 ส่วนพระราชวังเขียว เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปสร้างโดยใช้หินอ่อนสีเขียว เก็บรวบรวมงานแกะสลักฝาผนัง งานแก้วกระจก เครื่องประดับ พรมเปอร์เซีย ภาพจิตกรรม งานประติมากรรม เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ของฝรั่งเศส ภายในประดับด้วยสถาปัตยกรรมกระจกที่งดงามตระการตาอย่างยิ่ง (ป.ล. ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน)
@พิพิธภัณฑ์อัญมณีแห่งชาติ /National Jewelry Museum อีกหนึ่งไฮไล์ที่ต้องห้ามพลาดสำหรับคนรักเพชรพลอย คือ พิพิธภัณฑ์อัญมณีแห่งชาติ (National Jewelry Museum) ตั้งอยู่ในห้องนิรภัยของธนาคารกลางแห่งชาติอิหร่าน กลางกรุงเตหะราน ว่ากันว่ามีอัญมณีจำนวนมากที่สุดและอลังการที่สุดในโลก แน่นอนว่า อัญมณีที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันอยากชมมากที่สุด คือ "เพชรสีชมพู" ที่มีขนาดใหญ่และหายากมากที่สุดในโลก มีน้ำหนักถึง 182 กะรัต แถมตัวเรือนประดับเพชรยังห้อมล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆอีกมาก และ "บัลลังก์นกยูง" อันลือชื่อและล้ำค่า เป็นสถานที่รวบรวมอัญมณีจากทุกยุคทุกสมัยของกษัตริย์ทุกราชวงศ์ในอาณาจักรเปอร์เซีย จนกระทั่งกลายมาเป็นประเทศอิหร่านในปัจจุบัน "บัลลังก์นกยูง" ( The Peacock Throne หรือ Sun Throne) เดิมนั้นบังลังก์อันวิจิตรตระการตาบัลลังก์นี้มีชื่อว่า บัลลังก์สุริยา...ซึ่งมีเรื่องเล่าถึงความเป็นไปมาและเป็นไปของบัลลังก์ทองที่ยืดยาวมากๆ เป็นสิ่งที่มิอาจละเลยให้ผ่านไปได้ ตามประวัตินั้น บัลลังก์นกยูงสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิชาห์ จาหัน (Shah Jahan) แห่งอาณาจักรโมกุล (องค์เดียวกับที่สร้างทัช มาฮาล) ในต้นศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ในป้อมแดง กรุงเดลฮี เมืองหลวงอินเดียในสมัยนั้น เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงอำนาจปกครองอาณาจักรโมกุลอันยิ่งใหญ่ ต่อมา ชาห์ นาเดอร์ จากเปอร์เซีย ตัดสินใจบุกอินเดีย เดินทัพมาที่ลุ่มน้ำสินธุ ตีกรุงเดลฮี ภายใต้การนำของกษัตริย์ มูฮัมหมัด ชาห์ แห่งราชวงศ์โมกุล แตกพ่ายไปในปี ค.ศ.1739 ภายใต้ยุทธการ Battle of Karnal จึงขนเอาทรัพย์สมบัติมีค่าไปเป็นอันมาก รวมทั้งราชบัลลังก์นกยูงซึ่งทำด้วยทองและเพชรนิลจินดาอันหาค่ามิได้ รวมไปถึงโคตรเพชรบันลือโลกอย่าง "เพชรสีชมพู" Darya –i- Nour Diamond (ทะเลแห่งแสง) , เพชร Noor-ul-Ain (ดวงตาแห่งแสง) และ เพชร Koh-i-Noor Diamond (ขุนเขาแห่งแสง) เพื่อนำกลับไปยังอาณาจักรเปอร์เซียด้วย สาเหตุที่ได้ชื่อว่า"บัลลังก์นกยูง" นั้น เพราะการออกแบบให้มีนกยูงตัวผู้ 2 ตัวรำแพนหางอยู่ด้านบนตัวบัลลังก์ทอง ฝังด้วยไพลิน, ทับทิม, มรกต, ไข่มุกและอัญมณีอื่น ๆ เพื่อเป็นตัวแทนของสีของราชบัลลังก์โมกุล หลังจากมีชัยชนะต่ออาณาจักรโมกุลแล้ว ชาห์ นาเดอร์ แห่งเปอร์เซีย ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์นกยูงตัวนี้ ห้อมล้อมด้วยเหล่าขุนศึกและข้าราชบริหาร แสดงถึงอำนาจของอาณาจักรเปอร์เซียที่มีเหนือราชวงศ์โมกุล ภาพเขียนโบราณ แสดงชาห์ นาเดอร์ แห่งเปอร์เซีย ขึ้นนั่งบัลลังก์นกยูง (Peacock Throne) ในเดลฮี ทว่า"บัลลังก์นกยูง" จากราชวงศ์โมกุล หาได้เดินทางไปถึงอาณาจักรเปอร์เซียไม่ ตามประวัติศาสตร์บอกว่า บังลังก์เกิดสูญหายระหว่างทาง และไม่ปรากฎร่องรอยอีกเลยจนถึงทุกวันนี้ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ขณะที่ในวิกีพีเดียให้ข้อมูลว่า บังลังก์ทองถูกแยกชิ้นส่วนออกเป็นชิ้นๆ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดความเสียหายระหว่างการขนส่ง ตัวบัลลังก์ด้านล่างอาจมีการแปลงสภาพให้เป็นบัลลังก์ใหม่ของชาห์แห่งเปอร์เซีย ภายใต้ชื่อ... "บัลลังก์สุริยัน" ในหนังสือ Treasury of National Jewels ...Witnesses of History ของธนาคารแห่งชาติอิหร่าน บอกว่า บัลลังก์นกยูงของอิหร่าน สร้างในสมัย ฟาตห์ อาลี ชาห์ แห่งราชวงศ์กอญัร (ค.ศ.1772-1834) และตั้งชื่อว่า Peacock Throne ตามชื่อสนมคนโปรดของ ฟาตห์ อาลี ชาห์ ที่ชื่อ "Tavous khanoom" ที่มีการเรียกขานอีกชื่อว่า Lady Peacock (ป.ล.Tavous เป็นภาษาเปอร์เซีย แปลว่า นกยูง) ต่อมา บัลลังก์นี้ ผ่านการปรับปรุง-ตกแต่ง-เพิ่มเติม หลายครั้งในสมัยชาห์อิหร่านในยุคต่อๆมา จนกลายเป็นบัลลังก์ตามรูปแบบที่เห็นกันในปัจจุบัน และยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัลลังก์นกยูงเดิมของราชวงศ์โมกุลแต่ประการใดทั้งสิ้น Darya –i- Nour หรือเพชรสีชมพู ส่วนมวลมหาเพชรนิลจินดาที่ประดับประดาบนตัวบัลลังก์นกยูงเดิมนั้น ก็ถูกกระจายแยกย้ายกันไปตามสถานที่ต่างๆ บ้างก็เป็นยอดเพชรประดับมงกุฎของกษัตริย์เปอร์เซีย บ้างก็ตกไปอยู่ในมือของอาณาจักรอ๊อตโตมันเติร์ก บ้างก็กลับไปคืนสู่อินเดียภายใต้จักรวรรดิซิกข์ บ้างก็เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงเกาะบริเทนโน่นแน่ะครับ อยางที่ทราบกัน Darya –i- Nour หรือ เพชรสีชมพู ว่ากันว่า ตกทอดมาในราชวงศ์กษัตริย์อิหร่าน โดยกลายเป็นสมบัติในท้องพระคลังของอิหร่านยุคปัจจุบัน ในหนังสือ Treasury of National Jewels ของธนาคารแห่งชาติอิหร่าน ระบุว่า เพชรสีชมพู เป็นเพชรเม็ดหนึ่งที่ประดับอยู่ในมงกุฎของ พระเจ้าไซรัสมหาราช ( 600 หรือ 576 - 530 ก่อนคริสตกาล) ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเพชรในอดีตเชื่อว่า เพชร Darya –i- Nour กับ เพชร Noor-ul-Ain (ดวงตาแห่งแสง) น่าจะเป็นเพชรเม็ดเดียวกัน ก่อนถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน โดยเพชรดวงตาแห่งแสงนั้น ถูกนำไปประดับในมงกุฎรัดเกล้าให้กับฟาราห์ ปาห์ลาวี มเหสีของพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี แห่งอิหร่าน ปัจจุบันตั้งแสดงในห้องนิรภัยของธนาคารชาติอิหร่าน
เพชร Noor-ul-Ain (ดวงตาแห่งแสง) ประดับอยู่ในมงกุฎรัดเกล้าของฟาราห์ ปาห์ลาวี ส่วนเพชร Koh-i-Noor Diamond ตกไปอยู่ในมือของบริษัทอีสต์อินเดียของอังกฤษ หลังจากอาณาจักรซิกข์ แห่งอินเดียเหนือ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามอังกฤษ-ซิกข์ ครั้งที่สอง จนในที่สุด ยอดเพชรในตำนานเม็ดนี้ ตกอยู่ในความครอบครองของควีนวิคตอเรีย และต่อมากลายไปเป็นเพชรประดับมงกุฎราชินีแห่งราชวงศ์อังกฤษ ในปัจจุบัน ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงที่หอคอยแห่งลอนดอน (คนอินเดียทวงคืน แต่รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธที่จะส่งกลับ) เพชร Koh-i-Noor Diamond ประดับมงกุฎราชินีแห่งอังกฤษในแต่ละยุคสมัย สำหรับนักทองเที่ยวทั่วไปแล้วอาจมองว่า การรักษาความปลอดภัยห้องนิรภัยในพิพิธภัณฑ์อัญมณีแห่งชาติอิหร่าน มีความเข้มงวดและจุกจิกมากเกินไปหรือเปล่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ห้ามพกกล้องและโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องนิรภัย และมีการสแกนตรวจคนอย่างละเอียดยิบ ประตูก็หนาแน่นเหมือนประตูตู้เซฟ แต่เมื่อคิดถึงมูลค่าและคุณค่าของสิ่งของหายากมากๆแต่ละชิ้นที่อยู่ในท้องพระคลังแห่งนี้แล้ว ก็ถือว่าทางการอิหร่านดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยได้ถูกต้องแล้วครับ เทคนิคการจารกรรมของมีค่าในยุคสมัยนี้ เล่ห์เหลี่ยมมันแพรวพราวจริงๆ ป้องกันไว้ก่อนนะดีแล้ว หอคอย Milad Tower (ขอบคุณภาพจากบล็อกเกอร์ชายสามหยด) ทริปนี้เรามีโอกาสขึ้นไปชมวิวกลางคืนหอคอย Milad Tower และหอคอย Azadi Tower ด้วย โดยหอคอยมิลาด มีความสูง 435 เมตร สูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลกในขณะนี้ เป็นศูนย์กลางโทรคมนาคมต่างๆ ภายในมีร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆมากมาย เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวเมืองหลวงของอิหร่าน หอคอย Azadi Tower แลนด์มาร์กสำคัญของเตหะราน Azadi Tower เดิมชื่อ "The Gate of Cyrus" เป็นหอคอยหินอ่อนขาว สูง 45 เมตร เป็นจุดที่มีการชุมนุมของประชาชนจนนำไปสู่การปฏิวัติใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 1979 ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเตหะราน เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ จุดชมวิว แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และอารยธรรมเปอร์เซียโบราณและอิหร่าน
สกุลเงินทางการของอิหร่านเรียกว่า เงินเรียล (Iranian Rial) อิหร่านไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขาย และห้ามนำเข้าประเทศด้วย อ้อ..เกือบลืมแน่ะครับ อันนี้สำคัญมาก ใครชอบทำท่า"กดไลค์"ต้องระวังนะครับ คนไทยเราเริ่มไปเที่ยวที่อิหร่านกันมากขึ้น เพราะไม่มีความอันตรายอะไรอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ที่น่าอันตรายที่สุด ก็เห็นจะเห็นตอนข้ามถนนในเมืองใหญ่ๆเท่านั้นแหละ คนอิหร่านมักจะทักทายนักท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยรอยยิ้มและคำทักทายทั้งภาษาเปอร์เซียและอังกฤษ เดี่ยวนี้เดินทางไปอิหร่าน สะดวกสบายขึ้นมากกว่าแต่ก่อน อากาศร้อนที่นั่น ร้อนช่วงกลางปี บางวันสูงถึง 40 องศาทีเดียว อิหร่าน ยุคสมัยนี้ ไปไม่ยากอย่างที่คิดครับ ไข่คาเวียร์ หนึ่งในสินค้าส่งออกของอิหร่าน ในปัจจุบัน"การบินไทย" ได้เปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ-เตหะราน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเดินทางในวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ และอาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คนไทยได้ร่วมสัมผัสมนตราอาณาจักรเปอร์เซียของอิหร่าน ไม่ผิดนักหากจะพูดว่า....อิหร่านเป็นเสมือนมงกุฎเพชรที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผืนพรมแห่งอดีตอาณาจักรเปอร์เซีย
ขอขอบคุณการบินไทยที่กรุณาให้เกียรติเชิญร่วมทริป สัมผัสมนตราเปอร์เซีย 5 บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวจากโลกออนไลน์ ก่อนบินไปอิหร่าน ในเที่ยวบินแรกของการบินไทย 1 ต.ค. 2559 คลิกอ่านรายละเอียด..การบินไทยดีเดย์เส้นทางใหม่ 1 ตุลาคม 59! -------------
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |