กาแฟ... เป็นมากกว่าเครื่องดื่มที่เห็นแพร่หลายกันตามท้องตลาด การชงกาแฟเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง เป็นศาสตร์แห่งสุนทรียะ จะรักกาแฟชนิดไหน ชอบดื่มกาแฟเมนูใด ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน

Drip Coffee ... เป็นวิธีชงกาแฟอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ใช้หลักการไหลของน้ำร้อน ผ่านผงกาแฟคั่วบด และแยกน้ำกาแฟสีดำบริสุทธิ์ ออกจากผงกาแฟด้วยกระดาษกรอง ได้รสชาติกาแฟที่นุ่มแบบ natural อย่างแท้จริง

ทว่าในเมืองไทยเรา การชงกาแฟรูปแบบนี้นิยมกันมานานพอควรในหมู่นักนิยมไพร เพราะทั้งสด ทั้งหอม ทั้งอร่อย อีกทั้งอุปกรณ์เครื่องเคราพวก Coffee Dripper ก็พกพาหิ้วขึ้นรถลงเรือไปเหนือลงใต้ได้สะดวกมาก และที่สำคัญทำได้ไม่ยาก สามารถชงดื่มเองได้ที่บ้าน ที่ออฟฟิศ หรือที่ไหน ๆ ก็ได้

อุปกรณ์ก็น้อยชิ้นและบางเบา ได้แก่ Dripper ซึ่งมีหลายรูปทรง หลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ ,กระดาษกรอง, กาน้ำร้อน ,เมล็ดกาแฟอาราบิก้าก้าคุณภาพดี สดใหม่ (ควรเป็นแบบคั่วอ่อนถึงปานกลาง) หรือสำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องบดกาแฟ ใช้เป็นกาแฟบดแล้ว ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด , เครื่องบดเมล็ดกาแฟ

 # มาดูวิธีการทำ Drip Coffee แบบง่ายๆกันครับ

1.บดกาแฟเป็นผงหยาบปานกลาง (medium grind) หรือใช้กาแฟบดแล้ว ปริมาณขึ้นอยู่กับว่าต้องการกาแฟเข้มขึ้นหรือนุ่มนวล ปกติก็ราว 20 กรัม/หนึ่งถ้วย

2.นำกระดาษกรอง มาใส่ที่ Dripper แล้วรินน้ำร้อนใส่กระดาษเพื่อล้างกระดาษกรองและทำให้ดริปเปอร์อุ่น เพื่อที่เวลาดริปกาแฟ ดริปเปอร์จะได้ไม่ดูดความร้อนของน้ำไปหลังจากนั้นเทน้ำทิ้ง

3. เทผงกาแฟลงในอุปกรณ์ชงกาแฟแบบ Drip Coffee ใช้ช้อนสะอาดเกลี่ยเพื่อให้ได้ระดับ

4. รินน้ำร้อนอุณภูมิสูงไม่เกิน 96 องศา และไม่ต่ำกว่า 92 องศา ใส่จากตรงกลางให้พอท่วมผงกาแฟ ให้น้ำร้อนไหลผ่านเนื้อกาแฟช้าๆ แล้วปล่อยทิ้งไว้ซัก 30 วินาที เพื่อให้ผงกาแฟอมน้ำได้อย่างทั่วถึง ภาษาคอกาแฟ เรียกว่า ให้กาแฟได้"หายใจ"เสียหน่อย

(วิธีวัดความร้อนทำได้ง่ายๆ ต้มน้ำรอจนเดือดแรก แล้วรีบยกลงจากเตา ทิ้งไว้ 1 นาที จะได้ ความร้อนที่อุณหภูมิไม่เกิน 96 องศา)

5. เริ่มเทน้ำร้อนต่ออย่างช้า ๆ จากตรงกลางแล้ววนเป็นรูปก้นหอย ไม่ควรให้น้ำล้นขอบผงกาแฟ จนเนื้อกาแฟฟูฟ่องขึ้นแล้วหยุดริน จากนั้นน้ำเริ่มผ่านเนื้อกาแฟค่อยๆไหลลงสู่ถ้วยด้านล่าง ผงกาแฟจะเริ่มยุบตัว จึงเริ่มเทน้ำร้อนอีกครั้งและหยุดสลับไปมา จนได้ปริมาณน้ำกาแฟที่ต้องการ

6. นำกระดาษกรองออกจาก Dripper และรินกาแฟลงในถ้วยกาแฟ ได้น้ำกาแฟกลิ่นหอมจรุง ไม่เข้มมาก บอดี้กำลังดี ได้รสชาติกาแฟแท้ๆ หรือใครชอบหวาน ก็เติมน้ำตาลลงไปตามใจปรารถนาครับ อันว่ารสชาติกาแฟนั้น เป็นเรื่องของความถูกใจและถูกปาก... จริงแท้...แน่นอน...

หมายเหตุ : วิธีชิมกาแฟ Drip Coffee อยางถูกวิธี ต้องสูดน้ำกาแฟเข้าไปในปาก อมไว้ชั่วครู แล้วค่อยๆปล่อยลงผ่านลำคอ ซึมซับรสชาติทุกมวลอณู เปรี้ยวนิด ๆ อมหวานหน่อย ๆ ให้กลิ่นหอมของผลไม้ เป็นรสชาติของกาแฟที่มีเสน่ห์

ป.ล. : ระวังเรื่องความร้อนของน้ำกาแฟด้วยครับ ไม่ควรจิบน้ำกาแฟที่ยังร้อนมากๆ ให้คลายร้อนลงสักนิด เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริง

More Coffee Please,

หลังจากคุยโม้ไว้นาน ก็ได้ฤกษ์เปิดเพจเสียที...ออกตัวสักนิด...ไม่ได้เป็นผู้ชำนาญการพิเศษด้านกาแฟแต่ประการใด แค่เป็นนักชิมมาอย่างยาวนานเท่านั้น จึงตั้งใจเปิดไว้ตั้งวงคุยกันทุกสารพันสารพัดเรื่องกาแฟ เครื่องดื่มที่เรียกกันว่า A Drink from Paradise... Available on Earth... ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดชิม นักจิบลิ้นจระเข้ คอกาแฟชนิดที่ความขมทำอะไรไม่ได้ หรือประเภทที่ต้องปีนป่ายบันไดขึ้นไปจิบ คุยกันได้หมดเปลือก.. บางทีถ้ามีกาแฟอร่อยๆ ก็จะนำมาแบ่งปัน หรือแนะนำอุปกรณ์เสริม accessories ต่างๆ ตามสไตล์ Friends Don't Let Friends Drink Coffee Alone ...

https://www.facebook.com/CoffeeByBluehill/

สำหรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาวโอเคจะสนทนาสภากาแฟกันที่เพจหรือบล็อกนี้ก็ได้ครับ ยินดีเสมอๆ "_"

Jolie Môme - La vie en rose (Édith Piaf)
AramisEntertainment
https://www.youtube.com/watch?v=KhWvG7pBUwg

v