*/
<< | พฤศจิกายน 2018 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
ได้ดู “ตับอ่อนเธอนั้น” ขอฉันเถอะนะ” คือชื่อภาพยนตร์ในภาษาไทย ดัดแปลงจากนิยายญี่ปุ่น 君の膵臓をたべたい น่าจะอ่านว่า Kimi no Suizo wo Tabetai นิยายญี่ปุ่นของนักเขียนชื่อ Yoru Sumino (โยรุ ซุมิโนะ) เอาเป็นว่าคนเขียน Blog อ่านไม่ออกแล้วกัน แค่ค้นมาจากทางอินเตอร์เน็ต 555 ไม่รู้คนญี่ปุ่นไปเก็บกดมาจากไหนไม่รู้นะครับ ทำหนังโรแมนติกดราม่า ออกมาขยี้ได้สุดๆจริงๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ ถ้าบอกว่า สำหรับคนที่ชอบหนังซึ้งๆ น้ำตาท่วมๆนี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ไม่สมควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวง หนังนั้นว่าด้วยนางเอกนำแสดงโดยนักแสดงหน้าใหม่ Minami Hamabe นำแสดงเป็น ซากุระ สาวผู้เป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อน(คาดว่าเป็นมะเร็งแต่ก็ไม่ได้บ่งชัดนะ เพราะตอนดูซับไม่ได้ใช้คำว่ามะเร็ง) แอบหลงรักนักเรียนชายผู้เงียบขรีมมานาน แล้วบังเอิ๊ญ บังเอิญ ว่า หนุ่มผู้นั้นได้มารู้เรื่องเกี่ยวกับตับอ่อนของเธอ และรู้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หนุ่มคนนั้นในเรื่องจะใช้เป็นคนดำเนินเรื่องโดยตลอดนำแสดงโดย Takumi Kitamura สาวเจ้าผู้เป็นโรคตับอ่อนมีความเชื่ออยู่ 2 อย่าง การเป็นโรคเกี่ยวกับอะไร การได้กินอวัยวะนั้นก็จะทำให้โรคนั้นดีขึ้น กับ การได้กินตับอ่อนของใครสักคนหนึ่ง หรือ ถูกกินตับอ่อนโดยใครสักคนหนึ่ง จะทำให้เราได้อยู่กับคนๆนั้นตลอดไป เหอๆๆ คิดได้นะครับ โรแมนติกแปลกๆ อันนี้ผมชม เอาเป็นว่าในฐานะ คนสายสุขภาพ ปกติตับอ่อนจะเป็นตัวหลั่งสารที่ชื่อว่าอินซูลินออกมาครับ ซึ่ง อินซูลินจะทำหน้าที่ในควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติโดยการดึงน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลง เช่น เวลาเรากินข้าวลงไปร่างกายจะเริ่มย่อยข้าวที่เป็นแป้งให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวแล้วดูดซึมเข้ากระแสเลือด คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อนนั้นโดยเฉพาะเบาหวาน ตับอ่อนนั้นจะทำงานได้ไม่ปกติ ไม่สามารถหลั่งอินซูลินออกมาเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งการปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงเกินไปก็เป็นอันตรายครับ กับ ไต กับ ตา และ เส้นเลือดฝอยอื่นๆ ครับ(ขณะเดียวกันน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปก็ไม่ดีนะครับ) คิดแบบบ้าๆบอๆนะครับ นางเอกในเรื่องนี้ป่วยใช่ไหมครับเกี่ยวกับตับอ่อน ท่าทางเธอจะป่วยหนักมาก (เพราะอินซูลินจากตับอ่อนเธอนั้นมันหลั่งออกมาไม่ได้ครับ) นี่จะทำให้เบาหวานขึ้นตาจนออกเป็นน้ำตากันหมดแล้วนะครับ ฮารื้นๆครับ ผมว่า นะ เรื่องนี้ ก็ขยี้ได้เหมือนหนังญี่ปุ่นที่จะค่อยๆปูเรื่องเนิบๆให้ออกน่าเบื่อช้าๆ แล้วค่อยๆขยี้ ค่อยๆคลี่ปมออกมาทีละน้อย ระหว่างที่คลี่ปมชีวิต คลี่พล็อตของเรื่องออกก็เล่นทุบต่อมน้ำตาคนออกมาเรื่อยๆ เอาให้ไหลไม่หยุดกันเลยทีเดียว ความรู้สึกที่ เกิดขึ้นหลังผมดูหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้จบนั้น คือ การเห็นคุณค่าของชีวิตครับ เราไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไร และ ตายอย่างไร (บอกตรงๆ ตอนแรกที่ดูหนังเรื่องนี้ ก็คิดว่า จะต้องมีฉากตายที่พระเอกจับมือนางเอกแน่ๆที่เตียงของโรงพยาบาล หรือ ไม่ก็นางเอกตายในอ้อมกอดพระเอกใต้ดอกซากุระที่ได้ไปดูกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่ใช่เลยไปดูเอาเองก็แล้วกันมันแสดงถึงปัญหาเชิงจิตใจและเชิงสังคมของคนญี่ปุ่นได้บางส่วนครับ) ใช่ครับ ขนาดเราคิดไว้แล้วว่าเราจะตายอย่างไร สิ่งที่ไม่คาดฝันยังเกิดขึ้นได้เลยครับ ดังนั้น การได้มีชีวิต การได้รักและถูกรัก การได้ชอบและเกลียด การได้รำคาญหรือได้ดั่งใจ ให้รู้ว่า มันทำให้ชีวิตเรามีความหมาย ทำดีกับคนที่เรารักไว้มากๆนะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น สำหรับฉากเรียกน้ำตาที่ผมชอบนะครับ(สงสัยจะมีความเป็นโรคจิตหน่อยๆ ชอบอะไรเศร้าๆ ความคิดเห็นส่วนตัวการหลั่งน้ำตาจากการดูหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้เห็นคุณค่าของชีวิต ก็ให้ความรู้สึกว่าการหลั่งน้ำตานั้นกลับมีความปีติ มีแรงใจและมองโลกบวกมากขึ้นปะปนอยู่ในนั้น) คือ ตอนที่พระเอกไปเคารพศพนางเอกเป็นครั้งสุดท้ายและได้ไปขอ “บันทึกร่วมโรค” จากแม่ของนางเอก...หูย ร้องไห้ตามพระเอกไปเลยครับ ในเรื่องแนวคิดและไอเดีย ผมชอบ ไอเดียใน ฉากเปิดไพ่เล่นเกม “ซื่อหรือเสี่ยง” มันทำให้หนังมีความน่าสนใจและสามารถใช้ซ่อนพล็อต หรือ ใช้เปิดเผยความรู้สึกได้หรือไม่ได้ด้วยนะครับ ผมชอบจริงๆ ในหลายๆฉากหนังฉลาดที่จะใช้เกมนี้ในการเปิดเผยความรู้สึกของทั้งพระเอกและนางเอก ผมคิดว่าในโลกยุคปัจจุบัน การอ่านหนังสือเป็นเล่มและการเขียนจดหมายด้วยลายมือ นั้นคงจะน้อยลงไปเยอะ เพราะเราอ่านผ่าน แอพ ซอฟแวร์ และเราเขียนแต่ e-mail แต่ สิ่งที่ผมเฝ้าถามมาว่า ทำไมการอ่านหนังสือเล่มหรือการเขียนจดหมายด้วยลายมือ จึงยังเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ เพราะการอ่านหนังสือเป็นเล่มนั้น เราได้สัมผัสกับเนื้อหนังสือ ความขุ่นเหลืองของกระดาษที่น่าจะเหลืองไปตามกาลเวลา และแม้กระทั่งซ่อนคั่น เก็บ เหมือนรอวันจะเปิดเผยความลับอะไรสักอย่าง เช่น จดหมาย ที่คั่นหนังสือ ดอกไม้แห้ง ส่วนการเขียนหนังสือนั้น ด้วยปากกาดินสอ กับกระดาษ มันคลาสสิกกว่าการพิมพ์หรือการเขียนอีเมล์เยอะครับ เพราะเราได้รับรู้ถึงความรู้สึกของผู้ที่ต้องการส่งสารให้เราเพราะมันจะออกมาในลายมือ ลูกเล่น ความเบาหนัก สีสันของเส้น ความหนา เราสามารถส่งผ่าน ข้อความหรือคำสำคัญผ่านไปยังผู้อ่านของเราได้มากกว่าสิ่งที่เขาเห็นครับ (ผมจะใช้ว่า invisible message) ครับเรื่องนี้การสื่อสารเป็นแบบที่ว่าแหละ ลองดูครับ ผมว่าเป็นหนังญี่ปุ่นที่ผู้ที่โหยหา ความน้ำตาท่วมลองไปดูกันเลย อีกเรื่อง เรื่องนี้พูดเรื่องความตายกันเยอะนะครับ ณ ขณะที่เรายังเป็น เราควรจะดีกับตัวเองและดีกับคนอื่น เพราะเมื่อเราต้องจากกันแล้ว เราก็คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว ดังนั้นการได้มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเป็นของขวัญชิ้นเลิศแล้ว เป็นเรื่องแปลกอยู่อย่างนะครับ จดหมายก็ต้องมีวันจบหนังสือก็ต้องมีวันจบ หนังก็ต้องมีวันจบ ชีวิตก็ต้องมีวันจบ แต่สิ่งที่ไม่จบคือ สิ่งที่เราเก็บมันไว้ในใจและความทรงจำของเราครับ(ความรักที่มีการให้อภัยความเข้าใจอยู่ในนั้น) แม้ว่า ตับอ่อนเก็บความรักไม่ได้ แต่ ตับอ่อนมีผลทำให้น้ำตาลในเลือดเราสูงขึ้นได้ หลังจากดูจบนอกจากน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น น้ำในตาก็ยังมากจนล้นออกมาด้วยนะครับ ในฐานะคนสายสุขภาพ “I would like to digest your pancreas with mine” ไม่รู้ว่าจะเหมือนคำว่า ”あなたがすきです”อ่านว่า (อะนะตะงะซุคิเดส) อันนี้ก็เอามาจาก อินเตอร์เน็ตอีกแล้ว ก็บอกแล้วคนเขียน Blog ไม่เป็นภาษาญี่ปุ่น ไปหาคำแปลเอาแล้วกันนะครับ แต่ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น เรื่องนี้ บอกผมว่า ถ้ามีใครมาขอกินตับอ่อน(ไม่ใช่กินตับเฉยๆนะจะฮาไปไหน) แสดงว่า เขาน่าจะรู้สึกพิเศษที่เรืยกว่า “…” กับคุณแล้วละครับ... กรุณาเติมคำในช่องว่าง บอกตรงๆคงไม่โรแมนติกครับ แต่หนังมันโรแมนติกนะครับผมว่า แม้จะไม่มีการบอกคำหวานๆที่เรานิยมใช้กันออกมาในภาพยนตร์เลย จะเรียกว่า Invisible message ไม่ใช่สิ น่าจะใช้ว่า Unspoken message ถึงจะถูก กาแฟรสจืด ขอบคุณภาพจาก สหมงคลฟิล์ม |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |