การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น เป็นส่วนหนึ่งในการยกกระชับถุงน้ำตาของเราให้ดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่าความสวยนั้นก็ต้องแลกกับอาการบวมที่เราได้มากจากฟิลเลอร์ ถึงแม้ว่าจะเป็นการศัลยกรรมที่ไม่ได้เสี่ยงมาก และไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่อาการบวมก็ทำให้ใครหลายคนไม่สามารถออกนอกบ้านได้ ความสวยนั้นต้องมาพร้อมกับความอดทนจริงๆ ตามปกติแล้วหลังจากที่เราเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมที่เกิด จะค่อยๆยุบหายไปเองใช้เวลาในการรักษาตัวประมาณ ระยะ 2-3 วันหลังเข้ารับการรักษา อย่างไรก็ตามเมื่อเราเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สิ่งที่คุณหมอสั่งห้ามไว้ตั้งแต่ก่อนเข้ารับการฉีดควรงดอย่างเด็ดขาดประมาณ 1-2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นตัวยา แก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส ที่มีสารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ และที่สำคัญควรงดดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้ารับการรักษาประมาณ 2-3 วัน ส่วนหลังจากฉีดเสร็จ ก็งดรับประทานอาหารหมักดอง เนื่องจากมมีโซเดียมเยอะเกินไป ซึ่งเสี่ยงต่อการบวม สำหรับใครที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้ว แต่รู้สึกว่ามีอาการแปลกๆ ไม่ว่าจะมีอาการบวดแดงมากผิดปกติจนสังเกตเห็นได้ หรือมีอาการเจ็บบริเวณที่ฉีดผิดปกติ ต้องรีบกลับไปพบแพทย์ที่ทำการรักษาทันที เพื่อตรวจสอบความผิดปกติต่างๆ เป็นการเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีอาการติดเชื้อเพิ่มเติม ส่วนมากแล้วอาการติดเชื้อนั้นมักจะเกิดหลังจากที่เข้ารับการรักษาไปแล้ว เนื่องจากการดูแลรักษาหลังฉีดฟิลเลอร์แบบไม่ถูกวิธี พยายามหลีกเลี่ยงของมักดองและงดดื่มแอลกอฮอร์ให้ได้มากที่สุดเมื่อพบอาการผิดปกติ รีเข้าไปพบแพทย์ทันที การติดเชื่อนั้นสามารถรักษาให้หายได้โดยการรับประทานยา หรือ เพิ่มสารสลายฟิลเลอร์ฉีดเข้าไปเมื่อเกิดเหตุการที่จำเป็น |
<< | ตุลาคม 2020 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |