เดินดูกองขยะแบบเพลินคิดอยู่ที่วงษ์พาณิชย์อยู่เกือบชั่วโมง เถลไถลอยู่จนถึงสิบโมงครึ่งยังไปได้ไม่ถึงไหน ออกเดินทางต่อตามที่คิดวางจุดหมายไว้ว่าน่าจะไปหาดูอะไรสวย ๆ บ้างแถว ๆ เขาค้อที่เพชรบูรณ์ จากวงษ์พาณิชย์ที่ท่าทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 1063 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 126 ผ่านที่พักนอนชื่อทามันซึ่งนอนค้างไปแล้วคืนหนึ่ง ยังทิ้งของจองห้องเอาไว้เพื่อจะกลับมานอนที่นี่อีก ผ่านไปจนถึงสี่แยกอินโดจีนเลี้ยวขวาเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 12 คราวนี้ก็วิ่งตรงไปอย่างเดียว ใช้เวลาไปอีกเฉียดชั่วโมงกับระยะทางประมาณ 60 กม. วิ่งรถผ่านตลาดวังทองไปจนถึงประมาณหลัก กม.ที่ 46 ก่อนจะถึงตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ นึกขึ้นได้ถึงรีสอร์ทชื่อวนธาราที่เคยมาค้างนอนเมื่อประมาณสัก 5 ปีก่อน นึกถึงแล้วก็ไม่ได้นิ่งเฉยแต่เลี้ยวรถเข้าไปจอดแวะเถลไถลตามนิสัยอีกตามเคย

ผ่านมาเมื่อคราวที่แล้วเมื่อหลายปีก่อนนั้น มาจอดแวะกินข้าวมื้อกลางวันที่ห้องอาหารบ้านระรินของรีสอร์ท นึกย้อนวันวานไปแล้วปากก็ยังรู้สึกเหมือนติดในรสชาติของลาบปลาช่อนโบราณอยู่เลย

กินอิ่มแล้วก็เดินดูรอบ ๆ ต่อ ดูแล้วก็เกิดความชมชอบกับความร่มรื่นของสถานที่ สุดท้ายก็เลยต้องหาห้องค้างนอนสักคืนในราคาที่พอเพียงกับเงินที่พกติดอยู่ในกระเป๋า เป็นห้องพักที่น่าจะมีชื่อเรียกว่าแบบแมกไม้

มาคราวนี้ไม่ได้ทั้งแวะกินข้าวและพักค้างนอน แต่แวะมาเข้าห้องน้ำและเดินดูความร่มรื่นของธรรมชาติสีเขียว ๆ นาน ๆ จะได้ผ่านมาสักทีก็เลยแวะหาอากาศดี ๆ ดูดใส่ปอดบ้าง

นอกจากจะมีธรรมชาติที่ร่มรื่นแล้ว ที่นี่ยังอยู่ติดกับลำน้ำเข็ก ลำน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ซึ่งมีชื่อเสียงเป็น 1 ใน 5 ลำน้ำของบ้านเราที่มีผู้คนนิยมไปล่องแก่งกันมากที่สุด นอกเหนือไปจากแก่งหินเพิงที่ปราจีนบุรี แก่งโป่งน้ำร้อนที่จันทบุรี แก่งแม่กลองที่อุ้มผาง จังหวัดตาก และแก่งน้ำว้าที่น่าน ดูเหมือนที่รีสอร์ทนี้ก็มีจัดทริปแบบรวมที่พักกับกิจกรรมล่องแก่งน้ำเข็กด้วย

พอจะได้ยินข่าวอยู่บ้างว่าสำหรับปี 2559 นี้ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่นี่ได้ผนึกพลังประจำปีกันเหมือนเคย พร้อมที่จะจัดงานเปิดเทศกาล “ชิมกาแฟแก่งซอง ล่องแก่งลำน้ำเข็ก” แล้วในวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2559 พรุ่งนี้ งานนี้จะจัดกันที่โรงแรมทรัพย์ไพรวัลย์ซึ่งอยู่เลยจากวนธารารีสอร์ทไปอีกประมาณเกือบ 7 กม. โรงแรมที่ว่านี้เคยไปนอนและได้หยิบเอามาเล่าถึงไปแล้วเมื่อปลายปี 2552 (คลิกอ่าน เจ็ดโมงเช้ากับยี่สิบเอ็ดองศาที่วังทอง พิษณุโลก ไม่มีแม้แต่หมอกมาเยีย)

เป็นประจำของทุกปีที่ผู้คนจะไปท้าทายด้วยการล่องแกงระยะทางประมาณ 8 กม. ในเวลาประมาณ 2 ชม.ครึ่งกันในช่วงเดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ได้ไปล่องแก่งกันแล้วคอกาแฟก็ควรจะได้ดื่มชิมกาแฟสดแก่งซองที่ว่ากันว่ามีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมลิ้นกันด้วย กาแฟแก่งซองเป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าที่ปลูกกันอยู่ในพื้นที่แถว ๆ ตำบลวังโสภา แต่ร้านขายมาเปิดกันอยู่ในละแวกน้ำตกแก่งซอง ก็เลยเรียกชื่อกันว่ากาแฟแก่งซอง ต้นตำรับที่เริ่มต้นเอากาแฟมาปลูกตั้งแต่เมื่อสักประมาณ 40 ปีก่อนก็คือ “จ่าทวี” จากนั้นก็เปิดร้านคั่วกาแฟและชงขายเองอยู่แถว ๆ น้ำตกแก่งซอง และน่าจะเป็นร้านแรกและคนแรกที่เอาคำว่ากาแฟสดมาใช้เรียกให้ต่างกับกาแฟแบบอินสแตนท์และกาแฟแบบโบราณ ทุกวันนี้แม้ตัวจ่าทวีจะจากไปนานหลายปีแล้ว แต่ร้านกาแฟสดจ่าทวีก็ยังอยู่ และเรื่องราวของกาแฟจ่าทวีก็ยังอยู่เป็นอีกหนึ่งตำนานกาแฟสดของเมืองไทย

เดินผ่านกระโจมนวดไทยที่อยู่ในวงล้อมของธรรมชาติ นึกอยากจะคลายเส้นที่ยึดตึงและขยายเปิดประตูเลือดลมให้เดินหมุนเวียนได้สะดวก แต่ขืนนอนนวดใต้ต้นไม้ที่ร่มรื่นแล้วฟังเสียงสายน้ำไหลกล่อมไปด้วยอย่างนี้

ก็คงจะหลุดผลอยหลับไปตั้งแต่คนนวดยังไม่ทันได้ขยับมือ !!!

ชาร
8 สิงหาคม 2559