อ่างเก็บน้ำกระเสียวหรือเขื่อนกระเสียวที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นทั้งแหล่งเพาะพันธุ์ปลาธรรมชาติและแหล่งเลี้ยงปลาในกระชังแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของบ้านเรา นอกจากปลาแล้วก็ยังเป็นแหล่งกุ้งก้ามกรามหรือถ้าตัวใหญ่หน่อยก็เรียกขยับชั้นชื่อไปว่าเป็นกุ้งแม่น้ำ ไปเข้าร้านกินแถว ๆ นั้นก็ต้องเน้นหนักไปทางอาหารที่กินแล้วได้รสชาติความสดของเนื้อปลา ที่ขึ้นชื่อมากหน่อยก็คงเป็นปลาม้าที่เดี๋ยวนี้แทบจะหาจับตามแหล่งแม่น้ำธรรมชาติกันได้ยากเต็มที ถัดรองลงมาก็คงเป็นพวกปลานิลและปลาทับทิม ซึ่งปลานิลแถว ๆ ด่านช้างนี้ก็ขึ้นชื่อว่าตัวโตจนเรียกกันว่าเป็นปลานิลล้นจาน ไปด่านช้างครั้งหลังนี้ไม่ได้มีจุดหมายของการไปอยู่ที่เขื่อนกระเสียวเพื่อไปเที่ยวและหากินปลาที่ร้านแถว ๆ ริมเขื่อน แต่ไปทำงานตามหน้าที่ที่นายจ้างมอบหมายและจ่ายเงินเดือนให้ ปลายทางของการไปถึงจะอยู่ที่ด่านช้างแต่ก็ต้องขับรถเลยออกไปอีกตามถนนทางหลวงหมายเลข 333 จากตัวอำเภอด่านช้างมุ่งหน้าออกไปทางอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี อีกหลายสิบกิโล ออกจากกรุงเทพฯ ไปด่านช้างแต่เช้า ตั้งหน้าตั้งตาทำงานแบบต่อหน้าเจ้านายทำตัวอย่างไรลับหลังก็ยังทำแบบนั้น กว่างานจะเสร็จย้อนกลับเข้ามาทางตัวอำเภอด่านช้างก็ปาเข้าไปจนเกือบบ่ายสอง แขวนท้องหิวเอาไว้ยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน เจอร้านกินอยู่ทางฝั่งขวามือชื่อร้านปลาบู่โภชนา 2 เห็นถนนโล่งปลอดภัยก็เลี้ยวขับรถข้ามฝั่งมาเสียบจอดที่หน้าร้าน ถึงจะไม่เคยเข้ามากินที่ร้านนี้มาก่อน แต่ก็พอจะขับไปขับมาแถว ๆ ด่านช้างนี้อยู่บ้างหลายครั้ง ก็เลยพอจะได้เคยเห็นร้านให้คุ้น ๆ ตาอยู่บ้าง เพราะพอผ่านมาเห็นชื่อร้านทุกครั้ง ก็มักจะนึกไปถึงละครโทรทัศน์วันหยุดเช้า ๆ ทางช่องเจ็ดสีเรื่องปลาบู่ทองที่ต้องตื่นขึ้นมาดูเมื่อนานมากแล้ว ยังจำเนื้อเพลงขึ้นต้นมาร้องเล่นระหว่างขับรถอยู่เลยว่า ..สงสารแต่แม่ปลาบู่ อาศัยอยู่ในฝั่งคงคา นางเอื้อยเป็นลูกกำพร้า ถึงเวลามาร่อนรำ.. ร้านตั้งชื่อว่าปลาบู่ 2 บอกให้รู้ว่าน่าจะมีร้านปลาบู่ 1 อยู่ด้วย ซึ่งเคยผ่านไปเห็นอยู่ในตลาดด่านช้างแถว ๆ หัวมุมถนนด่านช้าง 3 ตัดกับถนนเทศบาล 2 ซึ่งก็ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปยังไม่เคยแวะกินเหมือนกัน เห็นมอตโต้บนปกเมนูของร้านที่ว่า ..ปลาสด รสจัด ราคาเป็นกันเอง.. แล้วก็ค่อยอุ่นใจหน่อยว่าจะได้กินของกินรสชาติถูกปากในราคาที่ไม่เหนื่อยกระเป๋า เป็นมื้อที่นึกอยากกินข้าวก็เลยเลือกหากับข้าวที่จะเอามาใช้กินกับข้าวสวย สั่งผัดผักรวมมิตรที่ได้ผักผัดรวม ๆ กันมาจานโต มีทั้งดอกกะหล่ำ บรอกโคลี กะหล่ำปลี ถั่วหวาน เห็ดหอม แครอท แล้วก็ใส่กุ้งสดมาด้วย เป็นของกินที่ทำง่ายอร่อยได้แบบไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ยกเว้นเวลาที่มักจะหมดไปกับการเตรียมของที่จะใช้ผัดมากกว่าเวลาที่ลงมือผัดนานหลายเท่า เคยผัดแล้วก็ได้หน้าตาผักที่ผัดออกมาไม่ค่อยสดสวยเหมือนที่ไปกินอยู่หลายร้าน มารู้ทีหลังว่าเขาเอาผักไปลวกน้ำเดือดใส่เกลือก่อนยกเว้นเห็ดหอม ลองเอามาทำดูบ้างก็ได้ออกมาดูดี รสชาติปรุงง่ายก็แค่น้ำปลา น้ำตาล น้ำมันหอย ตามแต่ลิ้นจะชอบรส หลายร้านรวบรัดตักผงปรุงรสใส่แทน อยากกินผักแบบที่มีน้ำให้ซดรสจัด ๆ หน่อย สั่งแกงส้มชะอมกุ้งที่ยกมาให้กินแบบหม้อไฟ นอกจากจะได้น้ำแกงส้ม ไข่ทอดชะอม และกุ้งสดแล้ว ยังได้กินผักอย่างอื่นทั้งผักกระเฉด กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว และแครอท ที่ใส่รวม ๆ กันมาด้วย ให้มาเยอะก็ยอมกินเยอะเรื่องอย่างนี้ไม่มีถอย แกงไทยไม่ใส่กะทิแถมยังมีผักเยอะ ๆ อย่างนี้กินแล้วไม่น่าจะเพิ่มความอ้วน น้ำแกงซดรสจัดจ้านเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ นำเค็ม ได้ความเผ็ดร้อนจากเครื่องแกง น้ำแกงข้นใสกำลังเหมาะซดไม่ถึงกับข้นคลั่ก ทำกินเองเคยลองใช้ผงปรุงแกงส้มแบบสำเร็จ กินอย่างไรก็ว่าความเฉียบขาดของรสชาติสู้เครื่องแกงตำไม่ได้ ชื่อเรียกแกงส้มน่าจะมาจากสีของน้ำแกงนี่แหละ ดูอย่างแกงส้มทางใต้สีออกเหลืองขมิ้นก็ยังเรียกว่าแกงเหลือง ชอบผักในแกงส้มแบบที่นุ่มชุ่มน้ำ ยกเว้นผักกระเฉดถ้าต้มสุกนานกลับจะยิ่งเคี้ยวเหนียวไม่กรอบอร่อย ส่วนกุ้งนั้นขอให้สดหวานเป็นใช้ได้ จะเอาไปใช้ใส่อะไรก็กินอร่อยทั้งนั้น นึกอยากกินกุ้งก้ามกรามแต่ขี้เกียจแกะเปลือก สั่งกุ้งทอดเกลือที่ใช้กุ้งก้ามกรามแกะเปลือกแล้วทอดปรุงรสเค็ม ๆ เบ็ดเสร็จพร้อมกินมาให้เลย ไม่รู้ว่าจะเป็นกุ้งที่เลี้ยงอยู่แถว ๆ นี้เองหรือเปล่า ไปไหนมาไหนก็อยากได้กินของกินที่เป็นของท้องถิ่นนั้น ๆ แต่กุ้งจะมาจากที่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับว่ากุ้งนั้นเนื้อสดหวานกินอร่อยหรือเปล่า กุ้งสดเนื้อจะเคี้ยวหนึบหนับเด้ง ๆ ซี่ฟันหน่อย ช่วงสักสิบปีก่อนบ้านเราเลี้ยงกุ้งก้ามกรามขายกันปีละ 30 กว่าล้านตัน เดี๋ยวนี้ดูเหมือนจะลดลงเกือบครึ่งเหลืออยู่แค่ 17-18 ล้านตัน เกือบทั้งหมดก็ใช้กินกันเองอยู่ในบ้านเรานี่แหละ สุพรรณบุรีเป็นอีกหนึ่งแหล่งใหญ่ของกุ้งก้ามกรามมานานแล้ว หลายร้านกุ้งเผาในจังหวัดใกล้ ๆ นี้ก็รับกุ้งจากสุพรรณบุรีไปขาย เปลี่ยนอารมณ์ปากมากินกุ้งทอดเกลือดูบ้าง อยากได้น้ำมันผัดกุ้งหอม ๆ เค็ม ๆ เอามาคลุกกินกับข้าวสวย มาเฉียดถิ่นเขื่อนกระเสียวแล้วไม่กินปลาม้าก็จะกระไรอยู่ ปลาม้าเป็นปลาที่ขึ้นชื่อของสุพรรณบุรีอยู่แล้ว แต่ก่อนก็คงจะชุกชุมอยู่ในแม่น้ำท่าจีนจนถึงกับมีอำเภอที่ชื่อบางปลาม้า ชื่อเรียกปลาม้าก็คงมาจากครีบแผงหลังที่ดูคล้าย ๆ ขนแผงหลังคอม้าอยู่เหมือนกัน ส่วนเรื่องเสียงร้องนั้นเคยไปอดทนรอเงี่ยหูฟังเสียงปลาม้าร้องจนค่ำมืด แต่ฟังอย่างไรก็ยังไม่รู้สึกว่าจะเหมือนเสียงม้าร้องที่ตรงไหน มื้อนี้สั่งต้มยำปลาม้าแบบน้ำใสมาลองโซ้ยและซดดูว่าปลาจะสดรสจะจัดหรือเปล่า ปลาม้าได้ชื่อว่าเป็นปลาเนื้อแน่นอร่อย จะเอาไปทำอะไรก็กินได้อร่อยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนึ่งมะนาว นึ่งบ๊วย นึ่งซีอิ๊ว ผัดพริกสด ผัดขึ้นฉ่าย ทอดกระเทียม ทอดน้ำปลา ทอดสามรส หรือทอดแดดเดียว แต่ถ้าเอามาทำต้มยำกินแบบน้ำใสดูจะอร่อยเข้ากันกว่าน้ำข้น ราคาของปลาม้าขึ้นอยู่กับขนาดตัว เคยเห็นขายกันถึง กก.ละ 300 กว่าบาท ทำให้ต้มยำที่ใส่เนื้อปลาม้าแบ่งตัวหั่นชิ้นมาให้กินนั้นราคาก็เลยต้องสูงตามไปด้วย รสชาติน้ำซดต้มยำในหม้อไฟจัดจ้านแบบจี๊ดถึงใจ เปรี้ยวนำเค็มบวกเข้ากับความร้อนแรงของผักสมุนไพรไทยที่ใช้เป็นเครื่องต้มยำซึมซาบเซาะแทรกเข้าไปในเนื้อปลาม้าสดแน่นหวาน ๆ จบอาหารบนโต๊ะแล้วก็พอจะรับรู้ได้ถึงมอตโต้ของร้านที่ว่า ..ปลาสด รสจัด.. ส่วนที่ว่า ..ราคาเป็นกันเอง..นั้น ถ้าอยากจะรู้ก็ต้องเป็นคนเรียกเช็คบิลจ่ายเงิน !!! ชาร |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
Keukenhof 10 | ||
![]() |
||
ทิวลิปที่สวนเกอเก็นฮอฟ |
||
View All ![]() |
<< | กันยายน 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |