บทความ โดย วัชรพล แดงสุภา - ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านอาหารและเกษตรกรรมเชิงนิเวศ และนักดำน้ำอาชีพตั้งแต่ปี 2544
ผมยืนมองท้องทะเลจากหาดทรายที่ อ.เทพา แสงแดดยามเย็นแยงสายตาของผมที่จ้องมองชาวประมงขณะกำลังทยอยกลับบ้านพร้อมกับรอยยิ้มที่เปื้อนหน้า อีกไม่นานภาพเบื้องหน้านี้อาจจะถูกแทนด้วยท่าเรือขนส่งถ่านหิน พวกเราได้ยินมาว่ารายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพากำลังผลิต 2,200 เมกะวัตต์ จังหวัดสงขลานั้นละเลยที่จะระบุถึงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติหลายอย่างโดยเฉพาะพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจ พวกเราจึงต้องพิสูจน์ความอุดมสมบูรณ์นั้นด้วยตาตัวเอง “ที่นี่สมบูรณ์มากจนคนสามารถจับปลาด้วยมือเปล่าได้เลยนะ” เพื่อนร่วมทางเล่าถึงความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่อย่างภูมิใจ “จับด้วยมือก็ปกตินี่พี่ ถ้าจับด้วยเท้าสิแปลก” ชาวบ้านกำลังใช้เท้าเขี่ยทรายเพื่อหาหอย พูดไม่ทันขาดคำ “บัง” ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ก็ใช้เท้าปาดทรายเป็นเส้นโค้ง เพียงช่วงเวลาต้มบะหมี่เดือดบังก็ได้หอยมาเต็มมือ บังบอกว่าในนี้มีหอยหลายชนิดแต่ถ้าอยากจะดูตัวใหญ่หน่อยเดี๋ยวจะใช้คราดมาหาให้ดู แน่นอนพวกเราย่อมอยากเห็น บังจึงเดินไปเอาคราดที่บ้าน คราวนี้บังเดินลงไปในน้ำที่ลึกกว่าเมื่อครู่เล็กน้อยปักคราดลงบนพื้นทรายแล้วเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ ไม่นานนักก็ได้หอยมา หอยที่จับได้จากการใช้เท้าเขี่ยทราย การหาหอยด้วยคราด ชายทะเลริมหาดนอกจากหอยแล้วที่นี่ก็มีปลาอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ในตอนกลางคืนที่นี่จะกลายเป็นแหล่งตกปลาของชาวบ้านในพื้นที่และคนจากภายนอกเข้ามาไม่เว้นวัน ภาพบรรยากาศการตกปลายามค่ำคืนริมหาดเทพา เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเรากลับมาที่ชายหาดอีกครั้ง เราเห็นชาวประมงกำลังยืนทอดแหอยู่ริมทะเล แม้จะเป็นทะเลตื้น ๆ แต่ก็หาปลาได้ไม่น้อย ภาพความอุดมสมบูรณ์แบบนี้ไม่พบได้บ่อยนักในปัจจุบัน และหากออกเรือไปอีกเล็กน้อยก็หาปลาได้มากขึ้นอีก แม้ว่าอากาศไม่ค่อยดีแต่วันนั้นบังก็จับปลาได้มาก บังสาวอวนอยู่นานจนถึงกับบ่นว่าปวดแขน นอกจากปลาและหอยแล้ว ทีเด็ดอีกอย่างของทะเลเทพาก็คือกุ้งเคย ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของกะปิเทพาสินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ เราได้เห็นชาวประมงที่กำลังรุนกุ้งเคยอยู่ริมทะเล ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตัวเองก็คงยากที่จะเชื่อว่าทะเลเทพามีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรอย่างมากมายถึงเพียงนี้ บรรยากาศการจับปลาในตอนเช้า การรุนเคยตอนเช้ามืด จะว่าไปก็อิจฉาคนที่นี่ที่มีอาหารทะเลดี ๆ สด ๆ กินกันทุกวัน ต่างจากคนเมืองอย่างพวกเราที่เรากินแต่อาหารสำเร็จรูป และถ้ายิ่งเป็นอาหารทะเลที่สดและปลอดภัยนั้นมันแทบจะหาไม่ได้ ช่วงสายพวกเราออกเรือสำรวจทรัพยากรใต้น้ำในพื้นที่ที่กำลังจะเป็นเส้นทางการเดินเรือขนถ่ายถ่านหิน แม้ว่าน้ำจะขุ่นมากเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนและเป็นทะเลน้ำตื้น แต่เราได้พบฝูงปลาหลากหลายชนิด ทั้งปลาสลิดหิน ปลาสาก หรือแม้แต่ปลากระพง นอกจากนั้น บนแนวปะการังเทียมที่เราได้ไปดำน้ำยังเต็มไปด้วยหอยแครง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของชุมชน แผนที่แสดงเส้นทางการการเดินเรือและขนส่งถ่านหิน ฝูงปลากระพงข้างเหลืองในบริเวณใกล้เส้นทางการเดินเรือ หนึ่งในฝูงปลาสลิดที่กำลังหาอาหารในแนวปะการังเทียม กลับมาถึงชายฝั่งที่ระบุว่าจะเป็นที่ตั้งของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน เราเข้าไปสำรวจป่าชายเลนบริเวณคลองตูหยงซึ่งเป็นอีกหนึ่งในทรัพยากรอันทรงคุณค่าของที่นี่ เนื่องจากคลองในป่าชายเลนนั้นเป็นคลองที่ค่อนข้างตื้น เราจึงต้องเปลี่ยนมาเดินทางด้วยเรือขนาดเล็กและลงมาลากเรือบ้างในบางครั้ง เราพบว่ามีการโค่นต้นไม้ป่าชายเลนที่อยู่ริมคลอง ชาวบ้านบอกว่าเป็นการกระทำโดยหน่วยงานรัฐเพื่อขยายพื้นที่คลอง ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่รู้จะขยายไปทำไม เพราะเรือที่ชาวบ้านใช้กันนั้นกว้างแค่เมตรกว่า ๆ เท่านั้น หรือมีคนจะพยายามทำให้ป่าชายเลนดูเสื่อมสภาพลง ใบไม้แห้งลอยผ่านป่าชายเลนที่เพิ่งจะถูกโค่น อย่างไรก็ตาม ป่าชายเลนที่นี่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก พรรณไม้ป่าชายเลนหลากหลายชนิดขึ้นกันอยู่อย่างหนาแน่นเป็นร่มเงาให้กับผู้สัญจรอย่างพวกเราและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิดไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา รวมถึงนกที่พวกเราพบเห็นอยู่ตลอดทาง สภาพป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ริมคลองตูหยง ในที่สุด เราก็ได้พบเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของคลองตูหยงแห่งนี้ นั่นก็คือการจับปลาด้วยมือเปล่าที่เรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ชาวประมงเพียงเดินลุยน้ำพร้อมนำ อวนยาว ๆ ไปล้อมเป็นครึ่งวงกลมใกล้ ๆ โคนไม้โกงกาง จากนั้นก็นำตะกร้าหรือถุงตาข่ายเล็ก ๆ สำหรับใส่ปลาติดตัวแล้วเดินข้ามไปในแนวอวนที่ล้อมไว้แล้วจึงเริ่มจับปลากันด้วยมือเปล่า ครู่เดียวปลาก็เกือบจะเต็มถุงตาข่าย ชาวประมงทำอย่างง่ายดายจนพวกเราสงสัยว่ามันเป็นไปได้อย่างไรจึงลองเข้าไปจับปลาในแนวอวนบ้าง แต่ก็จับไม่ได้เพราะว่าปลาหลุดมือไปทุกครั้ง ชาวประมงกำลังรวบถุงตาข่ายสำหรับใส่ปลาที่จับได้จากคลองตูหยง “ช่วยหน่อยตัวใหญ่” เสียงชาวประมงคนหนึ่งตะโกนเรียกเพื่อนให้มาช่วยจับปลาตัวใหญ่ ไม่ทันจะขาดคำเพื่อนที่อยู่บนเรือก็ต้องกระโดดลงน้ำเพื่อมาช่วยกันจับปลาตัวนี้ ผมเองซึ่งไม่รู้จะช่วยอย่างไรก็ได้เอาใจช่วยและเฝ้าดูด้วยความสงสัยว่ามันคือปลาอะไรกันแน่จึงต้องใช้คนถึงสามคนในการนำปลาตัวนี้ขึ้นมา ยื้อกันอยู่สักพักความสงสัยของผมก็หมดไปเมื่อปลากระพงขาวตัวใหญ่ราว ๆ 70 เซนติเมตร ถูกดึงขึ้นเรือ ปลากระพงขาวขนาดใหญ่ขณะถูกนำขึ้นเรือ ชาวประมงกำลังจับปลากระพงขาวด้วยมือเปล่า นี่ไม่ใช่ปลากระพงตัวเดียวที่เราเจอในวันนี้ แต่ทำไมปลาเศรษฐกิจอย่างเช่นปลากระพงจึงไม่ถูกกล่าวถึงใน “รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม” ในรายงานกล่าวถึงปลาเพียงห้าชนิดในคลองช่วงฤดูฝนซึ่งก็คือ ปลาหมอ ปลานิล ปลาช่อน ปลาเข็ม และปลากระดี่หม้อ! เพราะเหตุใดรายงานจึงมองข้ามความอุดมสมบูรณ์อันมากมายที่พวกเราได้พบเห็นระหว่างการสำรวจเพียงไม่กี่วัน พวกเขาแค่ไม่เห็นหรือพวกเขาเลือกที่จะไม่เห็น หากรายงานยังมีความบกพร่องมากถึงเพียงนี้ แล้วจะให้ชุมชนเชื่อได้อย่างไรว่าโครงการนี้จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติเช่นนี้ ผลการสำรวจปลาและสัตว์น้ำบริเวณคลองเทพา คลองตูหยง และคลองเกาะแลหนัง ช่วงฤดูฝนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ผมกลับมายืนบนชายหาดอีกครั้ง ภาพเบื้องหน้าในวันนี้ไม่ได้มีเพียงท้องทะเลที่ตัดกับเส้นขอบฟ้า แต่มันคือท้องทะเลและป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ น่าเสียดายที่คนไทยส่วนมากอาจไม่รู้ถึงสิ่งนี้ และอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทรัพยากรธรรมชาติและชุมชนที่นี่กำลังจะถูกคุกคามจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ความสมบูรณ์ของที่นี่กำลังจะถูกแทนที่ด้วยมลพิษทางอากาศ มลพิษในแหล่งน้ำ สิ่งปนเปื้อนในอาหารทะเล จนถึงวิกฤติสภาพภูมิอากาศ เทพาไม่ได้เป็นแค่ทรัพยากรของคนในพื้นที่แต่เป็นสมบัติของคนทั้งประเทศที่คนเป็นเจ้าของและมีสิทธิที่จะร่วมกันปกป้อง โปรดช่วยกันแชร์เรื่องราวนี้ออกไปเพื่อปกป้องชุมชน ธรรมชาติ และตัวคุณเอง อ่านเพิ่มเติม:
ที่มา : www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/-ehia/blog/60129 ติดตามกรีนพีซเพิ่มเติมที่ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | สิงหาคม 2017 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |