เวิ้งวิภาษ หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2555 อติภพ ภัทรเดชไพศาล คลองมะขามเฒ่า คือคลองเล็กที่แยกสายออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำใหญ่สายเดียวที่มีชื่อเรียกต่างๆ กันไปว่า แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำสุพรรณบุรี และแม่น้ำนครชัยศรี ชื่อคลองมะขามเฒ่า เล่ากันว่าเป็นเพราะบริเวณปากคลองเคยมีต้นมะขามเก่าแก่ขนาดสามคนโอบยืนต้นอยู่ แต่ปัจจุบันถูกน้ำเซาะล้มหายไปแล้ว วัดปากคลองมะขามเฒ่าเป็นวัดสำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในบริเวณนั้น ผมและเพื่อนๆ ที่เติบโตมาด้วยกันในอำเภอวัดสิงห์เรียกเกจิอาจารย์ที่เก่งกาจแห่งวัดนั้นในสมัยก่อนว่า หลวงปู่ศุข หลวงปู่ศุข หลวงพ่อศุข หรือพระครูวิมลคุณากร เกิดเมื่อปี 2390 และมรณภาพเมื่อปี 2466 ท่านบวชที่จังหวัดนนทบุรีเมื่ออายุได้ยี่สิบห้า ออกธุดงค์เป็นเวลานานถึงสิบห้าปี (บางคนบอกเก้าปี) ก่อนกลับมาสร้างวัดปากคลองฯ บนพื้นที่ใกล้ๆ กับบ้านโยมบิดามารดา ตามประวัติ วัดนี้แต่เดิมตั้งใช้ชื่อว่าวัดอู่ทอง เพิ่งมาเปลี่ยนและใช้ชื่อวัดปากคลองมะขามเฒ่าอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2474 หลวงปู่ศุขชื่อเสียงโด่งดังและมีตำนานซึ่งทุกคนในจังหวัดชัยนาทต้องรู้ดี ท่านมีชื่อเสียงในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ คาถาอาคม และการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เช่นเสื้อยันต์ ตะกรุด มีคำบอกเล่าว่าหลวงปู่สามารถเสกใบไม้ให้เป็นต่อแตน เสกหัวปลีเป็นกระต่าย แปลงร่างเป็นจระเข้ เดินบนหลังจระเข้ข้ามแม่น้ำ หรือกระทั่งระเบิดน้ำลงไปดูจระเข้ที่วังน้ำหน้าวัด ยิ่งเครื่องรางอย่างตะกรุดนั้นพิเศษกว่าใครอื่น เพราะเป็นตะกรุดที่ทำขึ้นใต้น้ำ เรียกว่า ตะกรุดใต้น้ำ ถือกันว่าขลังนัก หลวงปู่ศุขเป็นพระอาจารย์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นายทัพเรือคนสำคัญในช่วงนั้น มีเรื่องเล่าของชาวบ้านมากมายเกี่ยวกับการฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ มีผู้บอกเล่าว่า กรมหลวงชุมพรฯ คงฝากตัวเป็นลูกศิษย์ในราวๆ ปี 2443 ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ศุขอายุได้ 53 ปี กรมหลวงชุมพรฯ อายุได้ 20 ปี (แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้ยังน่าสงสัยอยู่ เพราะปีนั้นกรมหลวงชุมพรฯ เพิ่งจบการศึกษามาจากต่างประเทศใหม่ๆ และน่าจะวุ่นวายอยู่กับการจัดต้ังโรงเรียนนายเรือและกิจการต่างๆ มาก ที่จริงการฝากตัวนี้ ถ้าจะให้ผมเดา น่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่พระองค์ออกจากราชการชั่วคราวคือระหว่างปี 2454-2460 มากกว่า) ผมชอบเรื่องเล่าของชาวบ้าน ที่นายแพทย์สำนวน ปาลวัฒน์วิไชย บันทึกและจัดพิมพ์ไว้ในหนังสือ ประวัติพระครูวิมลคุณากร เพราะแสดงให้เห็นแง่มุมต่างๆ เบ็ดเตล็ด ที่บ่งบอกถึงบุคลิกของหลวงปู่ศุขและกรมหลวงชุมพรฯ ได้เป็นอย่างดี เช่นเรื่องหลวงปู่ศุขไม่ถือโทษโกรธเด็กซนๆ ที่มาถลกจีวรดูก้น เรื่องความนิยมของหลวงปู่ในการเล่นดอกไม้ไฟ ยิ่งในกรณีของกรมหลวงชุมพรฯ นอกจากเรื่องเล่าถึงการฝึกวิชาระเบิดน้ำกับหลวงปู่ ที่ต้องดำอยู่ใต้น้ำเป็นชั่วโมงๆ อย่างน่าอัศจรรย์ใจแล้ว ยังมีเรื่องของความเป็น หมอพร ที่ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านผู้เดือดร้อนด้วย กรมหลวงชุมพรฯ มักนิมนต์หลวงปู่ศุขไปยังวังของพระองค์ปีละครั้ง เพื่อประกอบพิธีไหว้ครู ในวังมี บ้านเหลือง ซึ่งทาด้วยสีเหลืองทั้งหมด ใช้สำหรับให้หลวงปู่พักขณะมาเยี่ยมหลายๆ วัน นายผล แก้วนพรัตน์ เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุขซึ่งเคยติดตามไปยังวังกรมหลวงชุมพรฯ เล่าไว้ว่า คราวหนึ่งเคยติดตามกรมหลวงชุมพรฯ ไปเที่ยวสำเพ็ง กรมหลวงชุมพรฯ นุ่งกางเกงถลกขาข้างหนึ่ง มือถืออ้อย เคี้ยวอ้อยไปเดินไป ความทรงพระ นักเลง ยังเห็นได้จากขณะที่พระองค์พักอยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีทั้งเรื่องราวการเสด็จไปยิงจระเข้และหาปลาละแวกวัด ขณะที่ชาวบ้านฝั่งวัดธรรมามูลตรงข้ามกับวัดปากคลองก็เล่าว่าเคยเสด็จมายิงนกและหาเหล้าป่าอยู่บ่อยครั้ง เหล้าป่าที่ว่านี้เรียกว่า อ้ายเป้ เป็นน้ำตาลเมาหมักโดยไม้มะเกลือ กรมหลวงชุมพรฯ โปรดอ้ายเป้มาก จนถึงขนาดสั่งนายยอด ชาวบ้านละแวกนั้น ให้หาใส่กาต้มน้ำมาวางไว้ให้ทุกวันที่โคนต้นกะจะในบริเวณวัด จนกระทั่งวันหนึ่งไม่มีอ้ายเป้วางที่โคนไม้ และได้ทราบจากนายยอดว่าคนทำคือตาปั่นถูกตำรวจจับเสียแล้ว กรมหลวงชุมพรฯ จึงรับสั่งให้เอาเงินไปเสียค่าปรับและรับตัวกลับมา แล้วยังเขียนหนังสือบอกให้ตาปั่นทำอ้ายเป้ให้ตลอดชีวิต ไม่ให้ตำรวจจับอีก นอกจากนั้น ในโบสถ์วัดปากคลองฯ ยังมีภาพเขียนพุทธประวัติตอนมารผจญ ที่เล่ากันว่ากรมหลวงชุมพรฯ เป็นผู้เขียน ภาพนี้อยู่บนผนังด้านในระหว่างประตูทางเข้า ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ขันของพระองค์ได้เป็นอย่างดี เพราะกล่าวกันว่าทรงล้อเลียนหญิงคนครัวโดยการเขียนภาพลงไปด้วย แล้วยังมีภาพของชายผิวขาวคนหนึ่งถือขวดเหล้านอนลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าเป็นภาพของตาบุญ ชาวบ้านละแวกนั้นที่ทรงเขียนล้อเพราะเป็นคนติดเหล้า ภาพเขียนที่ผมนำมาลงนี้สแกนจากหนังสือ ประวัติพระครูวิมลคุณากร ของนายแพทย์สำนวน ปาลวัฒน์วิไชย ที่คงถ่ายไว้ตั้งแต่ก่อนการตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ (2528) หลังจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่ทราบว่าสภาพของภาพเขียนชิ้นนี้เป็นอย่างไร เพราะครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเมื่อกว่าสิบปีก่อนก็ย่ำแย่อยู่เต็มที ภาพเขียนฝีมือกรมหลวงชุมพรฯ ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
กาลเมื่อก่อนนั้นก็เป็นดินเป็นหญ้าเป็นฟ้าเป็นแถน ผีแลคนเที่ยวไปมาหากันบ่ขาด... | ||
![]() |
||
Thailand Philharmonic Orchestra 10 November 2007 |
||
View All ![]() |
<< | พฤษภาคม 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |