*/
<< | มิถุนายน 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |
ทุเรียนไทย...ว่ากันว่าคือสุดยอดแห่งผลไม้ไทย มังคุด...ก็คือยอดผลไม้ของไทยที่คู่กันมากับทุเรียน สองอย่างนี่เขาต้องคู่กันนะ กินทุเรียนแล้วร้อนใน ก็ต้องกินมังคุดแก้ให้เย็นลดร้อนใน หน้าผลไม้ทีไรต้องมีพระเอกและนางเอกแห่งผลไม้มาให้กล่าวถึงทุกฤดูปี พูดถึงทุเรียน...ผมกินมาเยอะเหมือนกัน หลากหลายตั้งแต่ภาคใต้ยันภาคเหนือ
ทุเรียนใต้...ต้นสูงมากมองไม่เห็นยอด(สมัยผมเด็กๆ) ยากที่จะปีนไปเก็บผลลงมากิน ต้องรอให้สุกเอง หล่นตุ๊บลงมาให้เด็กและผู้ใหญ่ได้เก็บกิน แย่งหมาไม่ค่อยทัน...ทุเรียนหล่นตุ๊บหมามันรู้นำไปก่อนคาบหนีไปทุกที สมัยนั้นเด็กๆมักแย่งหมาไม่ทัน...แพ้หมาตรงที่หมามันแทะทุเรียนกินเนื้อได้เก่งกว่า เกมส์แย่งทุเรียนกับหมานี่เป็นสิ่งที่สนุกสนานสำหรับเด็กบ้านไร่เมืองคอน รสชาติหวานอร่อย กลิ่นแรง เนื้อน้อยเมล็ดโต ได้แค่เอาลิ้นดุนๆให้หลุดจากเม็ด ที่อร่อยสำหรับทุเรียนใต้(นครฯที่เคยอยู่) คือน้ำทิ...เรียน ก็น้ำกะทิทุเรียนนั่นแหละ
เคยกินทุเรียนเกาะช้าง จ.ตราด หน้าตาเหมือนทุเรียนผสมระหว่างหมอนทองกับชะนี เนื้อมากขึ้นนิดกว่าทางใต้ รสชาติก็หวานอร่อยกว่าหน่อย กลิ่นไม่ค่อยแรง ทุเรียนเมืองนนทบุรี เคยกินเหมือนกันหลายหน มีน้องที่ทำงานเคยเอามาฝาก ทั้งหมอนทอง ก้านยาว สมัยก่อนยังพอหากินได้(ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว) ทุเรียนนนทฯ รสชาติหวาน หอม มันอร่อย กว่าทุเรียนทางระยอง จันทร์ แต่ตอนนี้คงได้แต่มอง...ทุเรียนนนทบุรีเขาขายเป็นลูกหลักหลายพันไปยันหมื่น ซื้อเองคงไม่มีทางหรอก...แพงขนาดนั้นคงให้ผู้มีอันจะเหลือกินเขาได้กินจะดีกว่า
ทุเรียน...สมัยก่อนตอนอยู่เกาะสีชัง พอลุงกินเสร็จยกที่เหลือๆมาให้แม่ เราก็จะได้แทะกินแต่เฉพาะเนื้อนิดๆที่ติดเปลือก แม่ได้มาก็จะทำน้ำกะทิทุเรียน เนื้อน้อยก็ต้องทำให้หนักปริมาณ ลูกๆหลายคนที่ล้วนยากจักกินได้ทั่วถึง เปลือกที่เลาะเนื้อหมดแล้วก็ไม่ทิ้ง แยกออกเป็นชิ้นๆวางไว้ทั่วบ้านใต้เตียง ไม่ใช่อะไรหรอก...ไล่ตัวเรือดที่ซ่อนตัวในร่องกระดาน หรือแมลงต่างๆ แต่มันก็ได้ผลดีนะ ทั้งเรือดและแมลงหายไปยาวนานนับหลายเดือน
บ่นเรื่องทุเรียนมาก็ยาวมากแล้ว มาเข้าเรื่องสักที วันก่อนมีคนให้ทุเรียนมาสองลูก...เขาว่ามันคือ ทุเรียนพันธุ์ หลงลับแลและหลินลับแล
ไปนั่งค้นว่าทุเรียน พันธุ์ หลงลับแล กับหลินลับแล มันเป็นอย่างไร มาบางอ้อ...ที่กระดานที่มีรายละเอียดผมตัดมาให้อ่านกัน ได้รู้เรื่องทุเรียนมาอีกนิด
ย้อนตุ๊บมาที่ทุเรียนที่เขาให้มา...สองลูกเล็กๆคะเนว่าลูกละน่าจะประมาณ6-7ขีด ว่ากันว่าตอนนี้กิโลกรัมละหลายร้อย สองลูกนี่มูลค่าคงนับพันบาท มองอยู่พักนึง...ข้าจะแกะยังไงดี ส่วนใหญ่ก็ซื้อกินให้แม่ค้าพ่อค้าเขาแกะให้เท่านั้น เจอแกะเองนี่ต้องวางแผนให้ดีกระดาษหนังสือพิมพ์รองเก้าอี้ทุเรียนวาง… ปล้ำให้เป็นเมีย...ไม่ใช่เตรียมปลุกปล้ำเอาเนื้อออกมาโซ้ยให้ได้ หมามันยังแกะแทะเอาเนื้อทุเรียนออกมากินได้...เราจะเอาออกมากินให้ได้เหมือนกัน ไม่งั้นอายหมาแน่ๆถ้าแกะออกมากินไม่ได้
ปลุก...ปล้ำ (เอาทำเมียไม่ได้เพราะหนามแหลม)จนได้เนื้อทุเรียนสุดสวยออกมา ทุเรียนหลงลับแล กับหลินลับแล เอกลักษณ์อย่างที่คนไม่ค่อยพูดถึง หนามของทุเรียนสองพันธุ์นี่มันแหลมคมมาก...ผมว่ามากกว่าทุเรียนพันธุ์อื่น การแกะโดยใช้มีดเสียบจากใต้ผลแล้วกรีดแยกเป็นพูๆ...ทำได้ง่ายดี แต่ของอร่อย...ก็ต้องแลกกับการได้มาของแผลที่มือแบบนี้
มาดูสองลูก(น่าจะราคาพันกว่าบาท)ได้เนื้อมาเท่านี้ หยิบทุเรียนมา...หลับตา(ข้าจะกินให้หายแค้นที่ฝากรอยรักเอาไว้)ยัดใส่ปาก กลิ่น...แทบจะไม่มีกลิ่นเลย หวานมันนิ่มจนแทบละลายในปากที่เคี้ยว รสชาติอร่อยสมคำร่ำลือ...ข้ารู้...ข้าเห็น...ข้าลอง(กิน)แล้ว แพงแบบนี้...วาสนาก็คงได้กินทุเรียน หลงลับแล...หลินลับแล ก็แค่สองลูกนี้ ฤดูกาลนี้ก็คงกินทุเรียนได้น้อยลง หมอนทองที่ตลาดวัดตะก่ำใกล้บ้านยังโลละร้อย ทั้งที่ปีที่แล้วโลละสามสี่สิบบาทเท่านั้น
จินตนาการผมไปต่อเนื่องจากเรื่องทุเรียน ยังดีนะที่ทุเรียนปีนี้น่าจะออกมาล่าช้าไปนิดละคร สุดแค้นแสนรัก เพิ่งจบอวสานไป นังแย้มตัวเอกที่ชาวบ้านกล่าวถึง คนสร้างเขาให้รีบตายจบไปก่อนหน้าทุเรียนเยอะๆ ชาวตลาดที่เกลียดนังแย้มเตรียมทุเรียนไว้ให้...เจิมกับหน้าถ้ามาตลาด ถ้าเป็นหมอนหรือชะนี...หนามมันแหลมน้อย เจอทุเรียน หลงลับแล...หลินลับแล ที่หนามแหลมคมกว่า...ผลมันจะเป็นอย่างไร
บ่นเปะปะไปเรื่อย...เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เขียนให้เป็นเรื่องได้...ลาแล้วครับเอนทรี่นี้
ปัจฉิมลิขิต ทุเรียนเขามีไว้กินเนื้อ มิใช่เอาเปลือกมาทำร้ายกันยามเกลียดชัง
ขอขอบคุณ ภาพและเรื่องจากไทยรัฐออนไลน์ “ทุเรียนหลงลับแล...หลินลับแล” เนื้ออร่อยราคาดี http://www.thairath.co.th/content/425249
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |